ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
22 กันยายน 2024, 05:57:11
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Alternative Energy => พลังงานทางเลือก  |  หัวข้อ: สรุปให้ที......น้ำมันเครื่องเกรดไหนเหมาะกับแก๊สที่สุด?? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปให้ที......น้ำมันเครื่องเกรดไหนเหมาะกับแก๊สที่สุด??  (อ่าน 10433 ครั้ง)
s2000
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 284


« เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 12:48:54 »



ผมใช้ตัวนี้อ่ะคับ......แล้วจริงมันดีมั้ย แล้วเพื่อนๆว่าตัวไหนดี แนะนำทีจ้า ยิ้มกว้างๆ


* FD7KWVCAMJOXWCCAKB3H54CAN9EJY4CAQCWZO0CABH6HR0CAJMZKM7CAS9901ZCALZ3Y2BCA3SSZ6ICAC5526ACALZXRBCCANFRRA7CA48S3RTCAHOD93GCA1SQ9UFCARBPXXICAVTIFTLCAOQUHYH.jpg (8.67 KB, 218x231 - ดู 1548 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

จะ ECO กันทำไม.....ในเมื่อเราขับ EK
Maxpanye
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 164


CIVIC EK96 SONGKHLA


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 13:13:26 »

แนะนำ    Shell Helix HX7G     ครับ ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ผมใช้อยู่ก็โอเคดีนะ  แกลลอนประมาณ 900 บาท

ตัวนี้ทาง Shell พัฒนามาสำหรับรถใช้ก๊าซโดยเฉพาะ ทั้ง NGV และ LPG  ระยะเปลี่ยนที่ 5,000 กิโลครับ


* download.jpg (4.37 KB, 114x124 - ดู 1435 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 เมษายน 2012, 13:17:09 โดย Maxpanye » บันทึกการเข้า

Civic Exi 96  AT สงขลา เด็กใต้พลัดถิ่น
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #2 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 13:20:08 »

  
ผมใช้ตัวนี้อ่ะคับ......แล้วจริงมันดีมั้ย แล้วเพื่อนๆว่าตัวไหนดี แนะนำทีจ้า ยิ้มกว้างๆ
แนะนำ    Shell Helix HX7G     ครับ ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ผมใช้อยู่ก็โอเคดีนะ  แกลลอนประมาณ 900 บาท

ตัวนี้ทาง Shell พัฒนามาสำหรับรถใช้ก๊าซโดยเฉพาะ ทั้ง NGV และ LPG  ระยะเปลี่ยนที่ 5,000 กิโลครับ
    ขอให้มันผ่านมาตรฐาน ไม่ใช่น้ำมันเครื่องปลอมก็ดีหมดอ่ะ ขอบอก
ส่วนจะใช้ สังเคราะห์ กึ่งสังเคราะห์ หรืออะไรก็ตามงบในกระเเป๋าดีกว่า
    ส่วนตัวมองว่า อันไหนก็ปกป้องได้หมด สูตรผสมต่างกันนิดหน่อย แล้วแต่ชอบ
เพราะเราใช้งานปกติไม่ใช่ในสนาม แต่ส่วนตัว ลากรอบเล่นตลอด
    ก็ใช้ของศูนย์นี่แหละ พร้อมกรอง 750 บาท เกรดหมื่นโล ก็ไม่เห็นเครื่องมันจะพังซักที
ติดแก๊สมา 7 ปีละ เครื่องก็ยังดีแน่นปึ๊กเหยียบเกิน 180+ ลากทะลุเรดไลน์ ได้อยู่เลย อิอิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ


* DSC00594.jpg (46.22 KB, 320x240 - ดู 2075 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

khed
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,764


" รักเธอประเทศไทย"


« ตอบ #3 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 13:24:28 »

      ขอให้มันผ่านมาตรฐาน ไม่ใช่น้ำมันเครื่องปลอมก็ดีหมดอ่ะ ขอบอก
ส่วนจะใช้ สังเคราะห์ กึ่งสังเคราะห์ หรืออะไรก็ตามงบในกระเเป๋าดีกว่า
    ส่วนตัวมองว่า อันไหนก็ปกป้องได้หมด สูตรผสมต่างกันนิดหน่อย แล้วแต่ชอบ
เพราะเราใช้งานปกติไม่ใช่ในสนาม แต่ส่วนตัว ลากรอบเล่นตลอด
    ก็ใช้ของศูนย์นี่แหละ พร้อมกรอง 750 บาท เกรดหมื่นโล ก็ไม่เห็นเครื่องมันจะพังซักที
ติดแก๊สมา 7 ปีละ เครื่องก็ยังดีแน่นปึ๊กเหยียบเกิน 180+ ลากทะลุเรดไลน์ ได้อยู่เลย อิอิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

น่ากลัวจัง 180+  ลากทะลุเรดไลน์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

+++ My ways ......+++++
s2000
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 284


« ตอบ #4 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 13:25:16 »

      ขอให้มันผ่านมาตรฐาน ไม่ใช่น้ำมันเครื่องปลอมก็ดีหมดอ่ะ ขอบอก
ส่วนจะใช้ สังเคราะห์ กึ่งสังเคราะห์ หรืออะไรก็ตามงบในกระเเป๋าดีกว่า
    ส่วนตัวมองว่า อันไหนก็ปกป้องได้หมด สูตรผสมต่างกันนิดหน่อย แล้วแต่ชอบ
เพราะเราใช้งานปกติไม่ใช่ในสนาม แต่ส่วนตัว ลากรอบเล่นตลอด
    ก็ใช้ของศูนย์นี่แหละ พร้อมกรอง 750 บาท เกรดหมื่นโล ก็ไม่เห็นเครื่องมันจะพังซักที
ติดแก๊สมา 7 ปีละ เครื่องก็ยังดีแน่นปึ๊กเหยียบเกิน 180+ ลากทะลุเรดไลน์ ได้อยู่เลย อิอิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
?(ที่ผมใช้มัน 10W 40  แต่ของศูนย์มัน 5w30   มันต่างกันอย่างไรและดีด้อยยังไง...ชี้ชัดด้วยครับ    เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า

จะ ECO กันทำไม.....ในเมื่อเราขับ EK
My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #5 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 13:31:34 »

อย่างที่คุณ ham_ter ว่าครับ  ไม่ปลอมเป็นใช้ได้ ยี่ห้อเอาตามกำลังทรัพย์ ไม่จำเป็นต้องสังเคราะห์แท้ 
ไอ้ที่เค้าติดข้างแกลลอนว่าใช้สำหรับ LPG , NGV เหมาะกับเครื่องใช้แก๊สหยั่งงู้น หยั่งงี้ มันเป็นกลยุทธทางการตลาดครับ เชื่อดิ ว่าน้ำมันเครื่องธรรมดานี่แหละ ไม่ได้มีส่วนผสมเทพอะไรที่เหมาะกับเครื่องติดแก๊ส
บันทึกการเข้า

ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #6 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 13:40:39 »

น่ากลัวจัง 180+  ลากทะลุเรดไลน์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
    รถพี่เขียดไมล์มีแค่ 180 ก็วิ่งทะลุไมล์เหมือนกันนี่นา  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
?(ที่ผมใช้มัน 10W 40  แต่ของศูนย์มัน 5w30   มันต่างกันอย่างไรและดีด้อยยังไง...ชี้ชัดด้วยครับ    เศร้า เศร้า
    ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 4000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 6000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 10000 กิโลเมตร
ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเกรดความหนืดคืออัตราการไหลของปริมาณต่อขนาดและความยาวของรู ต่อหน่วยเวลา ณ อุณหภูมิหนึ่ง ยกตัวอย่าง
เช่น น้ำมัน 60 ซี.ซี ไหลผ่านรูขนาด 12.25 มิลลิเมตร ณ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ
สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
เครดิต BIRD ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

s2000
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 284


« ตอบ #7 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 14:11:24 »

    รถพี่เขียดไมล์มีแค่ 180 ก็วิ่งทะลุไมล์เหมือนกันนี่นา  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม    ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 4000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 6000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 10000 กิโลเมตร
ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเกรดความหนืดคืออัตราการไหลของปริมาณต่อขนาดและความยาวของรู ต่อหน่วยเวลา ณ อุณหภูมิหนึ่ง ยกตัวอย่าง
เช่น น้ำมัน 60 ซี.ซี ไหลผ่านรูขนาด 12.25 มิลลิเมตร ณ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ
สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
เครดิต BIRD ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
บันทึกการเข้า

จะ ECO กันทำไม.....ในเมื่อเราขับ EK
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,891


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 14:32:42 »

      ขอให้มันผ่านมาตรฐาน ไม่ใช่น้ำมันเครื่องปลอมก็ดีหมดอ่ะ ขอบอก
ส่วนจะใช้ สังเคราะห์ กึ่งสังเคราะห์ หรืออะไรก็ตามงบในกระเเป๋าดีกว่า
    ส่วนตัวมองว่า อันไหนก็ปกป้องได้หมด สูตรผสมต่างกันนิดหน่อย แล้วแต่ชอบ
เพราะเราใช้งานปกติไม่ใช่ในสนาม แต่ส่วนตัว ลากรอบเล่นตลอด
    ก็ใช้ของศูนย์นี่แหละ พร้อมกรอง 750 บาท เกรดหมื่นโล ก็ไม่เห็นเครื่องมันจะพังซักที
ติดแก๊สมา 7 ปีละ เครื่องก็ยังดีแน่นปึ๊กเหยียบเกิน 180+ ลากทะลุเรดไลน์ ได้อยู่เลย อิอิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

ขับโหดมว๊ากกกก            แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น
บันทึกการเข้า

ทอม_อีเค
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,810



« ตอบ #9 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 14:35:17 »

น้มันเครื่องแท้ดีทุตัวครับเลือกใช้ให้ถูกประเภทก็พอ
บันทึกการเข้า

PATTAYARACING CLUB
CIVICCLUB no.131
ChonburiClub no.034

ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #10 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 14:46:24 »

ขับโหดมว๊ากกกก            แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น
    ไม่เท่าพี่เบียร์หรอก เค้าเหยียบปีละสองวัน คุณพี่เหยียบทุกวัน  แลบลิ้น แลบลิ้น
บันทึกการเข้า

Notesamit
<< คริวรี่ >>
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,186


...รปภ.สมุทรปราการ...


« ตอบ #11 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 14:49:39 »

ขับโหดมว๊ากกกก            แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น
ไปว่าเขา ไม่ดูตัวเองบ้างล่ะ ขับโหดกว่าอีก ฮืม ยิ้มเท่ห์ โกรธ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

...มิตรภาพเท่านั้น ที่จะช่วยบำบัดสังคม...
ทอม_อีเค
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,810



« ตอบ #12 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 14:54:14 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

PATTAYARACING CLUB
CIVICCLUB no.131
ChonburiClub no.034

tang1931
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 672



« ตอบ #13 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 18:20:37 »

 ;)เจ๊ส้มแกนึกว่ารถแกเป็นจรวด 180 + ตลอด อิจฉารถดันเป็นEXi อยากได้ TEC ทำไงดี EXi เคยลองเหยียบ เต็มที่ก็แค่ 150 + อ่า เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า

hydromatic
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 239


๑Tottemo Daisuke EK๑


« ตอบ #14 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 18:35:27 »

;)เจ๊ส้มแกนึกว่ารถแกเป็นจรวด 180 + ตลอด อิจฉารถดันเป็นEXi อยากได้ TEC ทำไงดี EXi เคยลองเหยียบ เต็มที่ก็แค่ 150 + อ่า เศร้า เศร้า

150+ นี่บวกไปเท่าไหร่เพ่  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

------------ >>>S Y S T  E M      ALL      G R E E N !!!<<< -------------
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #15 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 21:58:32 »

;)เจ๊ส้มแกนึกว่ารถแกเป็นจรวด 180 + ตลอด อิจฉารถดันเป็นEXi อยากได้ TEC ทำไงดี EXi เคยลองเหยียบ เต็มที่ก็แค่ 150 + อ่า เศร้า เศร้า
    สนใจรถเทคไหมล่ะ ยกให้ จะได้รถใหม่แล้ว  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

tang1931
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 672



« ตอบ #16 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 22:31:16 »

 ยิ้มเท่ห์ ;)เิอาแต่เครื่องได้ป่ะเจ๊ส่วนตัวรถชอบตาโตอ่ะ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #17 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 23:10:50 »

ยิ้มเท่ห์ ;)เิอาแต่เครื่องได้ป่ะเจ๊ส่วนตัวรถชอบตาโตอ่ะ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
    ตาโตเค้าก็มีนะ มีสองคันอ่ะ แต่เน้นมีเทคทั้งคู่
อ้อ ทั้งสองคันนี้ก็ใช้ของเหลวแท้ศูนย์หมดทั้งคู่นะ แถมขับไม่ปกติด้วย
    ก็ไม่เห็นมันจะพังซักที  อายจัง อายจัง


* DSC00546.jpg (21.03 KB, 320x240 - ดู 1417 ครั้ง.)

* DSC00542.jpg (51.48 KB, 320x240 - ดู 1411 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #18 เมื่อ: 12 เมษายน 2012, 08:56:17 »



ใช้เนี่ยคับ แกลลอนละ สามร้อยกว่าบาท แล้ว แต่ร้าน กึ่งสังเคราะห์ ใช้ได้ 10000 โล
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
lucifer_ek97
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,304


+++ EK @ เขาใหญ่ +++


« ตอบ #19 เมื่อ: 12 เมษายน 2012, 17:48:36 »

แนะนำ    Shell Helix HX7G     ครับ ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ผมใช้อยู่ก็โอเคดีนะ  แกลลอนประมาณ 900 บาท

ตัวนี้ทาง Shell พัฒนามาสำหรับรถใช้ก๊าซโดยเฉพาะ ทั้ง NGV และ LPG  ระยะเปลี่ยนที่ 5,000 กิโลครับ

+1  ใช้ตัวนี้อยู่เหมือนกัน

บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ........ไม่รวย............แฟนไม่สวย............แต่ขับ civic   WLC  no. 702
BeeEK99
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


Type R


« ตอบ #20 เมื่อ: 30 เมษายน 2012, 16:27:20 »

ผมใช้เบอร์ 50 หนืดหน่อยแต่แช่ยาวๆ ได้ เครื่อง B20B ครับ
Mobil 1 Fully Synthetic 5W-50 10,000 โล
เปลี่ยนที่ B-QUIK
น่ำมันเครื่อง 2,290 บาท
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง 240 บาท
แหวนรองอ่าง 10 บาท
รวม 2,540 บาท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2012, 19:22:27 โดย BeeEK99 » บันทึกการเข้า

แอร์เย็น เพลงเพราะ โลละบาทก่าๆ
devilvistion
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 167


โอ้ว!!!!


« ตอบ #21 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2012, 21:15:29 »

PTT LPG ครับอาศัยถ่ายบ่อย4000โลก็ให้ตาหนุ่มถ่ายแล้ว ถ่าย2ครั้งเปลี่ยนกรองนำมันเครื่อง1ครั้งครับ ยิ้ม ชิวๆครับ เพราะเกรดมันตำตามราคาครับแต่ก็ใช้ได้ ของถูกและดีไมในโลกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พฤษภาคม 2012, 21:18:20 โดย devilvistion » บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ             ท่อไม่ดัง            เทคไม่เปิด          แต่แซงทางโค้ง!!!!
igas2012
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #22 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 21:11:37 »

 ::)ผมใช้ของศูนย์ตลอด (แบบธรรมดาเลย)  ติดแกสมา 30000 โลแล้ว ยังไม่เจอปัญหา (civic2007)  อตราเร่งดีกว่าน้ำมันอีก  (หัวฉีด Lovato)    ถังโดนัท 40000 
บันทึกการเข้า
chayakorn
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12


B20 - VTEC


« ตอบ #23 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2012, 21:34:39 »

    รถพี่เขียดไมล์มีแค่ 180 ก็วิ่งทะลุไมล์เหมือนกันนี่นา  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม    ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 4000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 6000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 10000 กิโลเมตร
ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเกรดความหนืดคืออัตราการไหลของปริมาณต่อขนาดและความยาวของรู ต่อหน่วยเวลา ณ อุณหภูมิหนึ่ง ยกตัวอย่าง
เช่น น้ำมัน 60 ซี.ซี ไหลผ่านรูขนาด 12.25 มิลลิเมตร ณ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ
สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
เครดิต BIRD ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
เดี๋ยวนี้น้ำมันเครื่องพัฒนาไปไกลมากแล้วครับ ลองคิดดู เริ่มต้นที่มาตรฐาน API SA จน ถึงเดี๋ยวนี้ ล่าสุด API SN ถ้าเป็นเกรดทั่วไปก็ 5,000 ก.ม. ถ้า SEMI ก็ 10,000 ก.ม.สบายๆ ครับ แต่ถ้าเป็น Fully แล้วล่ะก็ 20,000 ก.ม.เลยเชียวล่ะครับ ถ้าไม่เชื่อก็ลองศึกษาดูนะครับ อย่างน้อยก็ช่วยลดโลกร้อนได้ล่ะครับ แต่ถ้าคิดว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในการถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นเรื่องเล็กล่ะก็ ถ่ายบ่อยๆก็ได้ครับ ผลดีอย่างเดียวก็คือเครื่องยนต์ได้ใช้น้ำมันเครื่องที่ใหม่ตลอด แต่บริษัทน้ำมันรวยครับ มีข้อสังเกตุนิดนึงครับ ศูนย์บริการ BMW ใช้น้ำมันเครื่อง Castrol ที่พัฒนาร่วมกับ BMW เป็น Fully Synthetic เค้าบอกให้ถ่ายที่ระยะ 25,000 กิโลเมตร ครับ
บันทึกการเข้า
su_wit
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,055


วิทย์ ณ.โคราชา 084-5437854


« ตอบ #24 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2012, 15:33:56 »

ผมใช้เบอร์ 50 หนืดหน่อยแต่แช่ยาวๆ ได้ เครื่อง B20B ครับ
Mobil 1 Fully Synthetic 5W-50 10,000 โล
เปลี่ยนที่ B-QUIK
น่ำมันเครื่อง 2,290 บาท
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง 240 บาท
แหวนรองอ่าง 10 บาท
รวม 2,540 บาท
ใช้ตัวเดียวกันครับ ใช้ดี
แต่ทำไมราคาของคุณพี่โหดจังเลย
ของผมน้ำมันเครื่องราคา 1,550 บาท
กรองน้ำมันเครื่อง 220 บาท แหวนรองมันติดมากับกรองอยู่แล้วครับ
 อายจัง ร้องไห้
บันทึกการเข้า

แมงกะซอนบิน
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Alternative Energy => พลังงานทางเลือก  |  หัวข้อ: สรุปให้ที......น้ำมันเครื่องเกรดไหนเหมาะกับแก๊สที่สุด??
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |