ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
26 เมษายน 2025, 06:38:13
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: อยากรู้เกี่ยวกับ X1R สารเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรู้เกี่ยวกับ X1R สารเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์  (อ่าน 24321 ครั้ง)
Pum_Chero
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 264



« เมื่อ: 24 ตุลาคม 2012, 22:16:50 »



ขอสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสารเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์อย่างเจ้า X1R ครับ
เนื่องจากรถผมใช้แก๊สครับเลยอยากจะถนอมและรักษาเจ้าตาโตเอาไว้ใช้แบบยาวๆเลยมีคนแนะนำเจ้าตัวนี้อะครับเพราะผมเป็นคนที่ใช้รถบ่อยเลยเป็นคนที่เท้าค่อนข้างขับรถเร็ว ท่านใดเคยใช้รบกวนแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ แล้วซื้อมาแล้วใส่กะน้ำมันเครื่องหมดขวดเลยรึป่าวหรือว่าต้องใส่กะส่วนอื่นด้วยหรือไม่ครับ
บันทึกการเข้า
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #1 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2012, 22:27:59 »

ขอสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสารเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์อย่างเจ้า X1R ครับ
เนื่องจากรถผมใช้แก๊สครับเลยอยากจะถนอมและรักษาเจ้าตาโตเอาไว้ใช้แบบยาวๆเลยมีคนแนะนำเจ้าตัวนี้อะครับเพราะผมเป็นคนที่ใช้รถบ่อยเลยเป็นคนที่เท้าค่อนข้างขับรถเร็ว ท่านใดเคยใช้รบกวนแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ แล้วซื้อมาแล้วใส่กะน้ำมันเครื่องหมดขวดเลยรึป่าวหรือว่าต้องใส่กะส่วนอื่นด้วยหรือไม่ครับ
    ถ้าใช้งานแบบทั่วไป  เราว่าแค่น้ำมันเครื่องเกรดดีๆก็พอแล้ว
ใช้น้ำมันเครื่องดีๆ ถ่ายตรงเวลาก็น่าจะพอแล้ว

รูปเปิดฝาครอบวาล์ว (AVEO) ตอนเลขไมล์ เจ็ดหมื่นกว่าโลเท่านั้น
สังเกตเห็นอะไรมั๊ยครับ?
-เป็นรถอาวีโอ้ที่มาเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง รถไม่ได้มีปัญหาอะไร
-ช่างเห็นน้ำมันเครื่องซึมตรงรอยต่อของฝาครอบวาล์ว จึงเปิดฝาครอบวาล์วเพื่อเช็คประเก็นฝาครอบวาล์ว
-เปิดมาถึงกับอึ้ง
**สอบถามเจ้าของรถคือเติมสารเคลือบเครื่องยนต์ (ไม่ใช่ของศูนย์ขายตามบูธ) ซื้อมาจากบูธขายแว๊ก และสารเพิ่มประสิทธิภาพเครื่อง เป็น Engine Treatment ราคาสองพันกว่าบาท จำยี่ห้อไม่ได้ แต่เป็นกระปุกสีฟ้า-ขาว ฝาสีน้ำเงิน

-Oil Additive คือ หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง (ของศูนย์เป็น ACDelco) การใช้คือ ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกหมื่นโล ให้เติมหัวเชื้อเมื่อใช้น้ำมันเครื่องไปห้าพันโล เพื่อรักษาความหนืดไปจนถึงหมื่นโล ราคาที่ศูนย์ 22X บาท ถ้าตามปั๊ม ไม่ถึงร้อยบาทครับ ใช้ของศูนย์ดีกว่าครับ

-Engine Treatment คือ หัวเชื้อสารเคลือบเครื่องยนต์ เติมได้เลยไม่ต้องรอเปลี่ยน นมค. เติมแล้วไปเคลือบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ใช้ได้ประมาณแปดหมื่นถึงแสนโลถึงเติมใหม่ ราคาจะแพงกว่า Oil Additive ส่วนใหญ่หลักพัน

ปัญหาคือคราบดำๆเหนียวๆนั่น ซึ่งพบเป็นบางยี่ห้อ มักเป็นยี่ห้อที่ขายตามบูธ
ก็คือ ถ้าอยากเติม ก็เติมได้ แต่ต้องเลือกยี่ห้อนิดนึง ไม่ใช่เติมมั่วไปหมด


* IPYBSD.jpg (55.82 KB, 720x540 - ดู 13011 ครั้ง.)

* NZsXBx.jpg (46.82 KB, 720x540 - ดู 12117 ครั้ง.)

* uLhaI2.jpg (50.51 KB, 720x540 - ดู 11687 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

tdcub
Sponsor
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,605


No.767


« ตอบ #2 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2012, 01:08:33 »

    ถ้าใช้งานแบบทั่วไป  เราว่าแค่น้ำมันเครื่องเกรดดีๆก็พอแล้ว
ใช้น้ำมันเครื่องดีๆ ถ่ายตรงเวลาก็น่าจะพอแล้ว

รูปเปิดฝาครอบวาล์ว (AVEO) ตอนเลขไมล์ เจ็ดหมื่นกว่าโลเท่านั้น
สังเกตเห็นอะไรมั๊ยครับ?
-เป็นรถอาวีโอ้ที่มาเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง รถไม่ได้มีปัญหาอะไร
-ช่างเห็นน้ำมันเครื่องซึมตรงรอยต่อของฝาครอบวาล์ว จึงเปิดฝาครอบวาล์วเพื่อเช็คประเก็นฝาครอบวาล์ว
-เปิดมาถึงกับอึ้ง
**สอบถามเจ้าของรถคือเติมสารเคลือบเครื่องยนต์ (ไม่ใช่ของศูนย์ขายตามบูธ) ซื้อมาจากบูธขายแว๊ก และสารเพิ่มประสิทธิภาพเครื่อง เป็น Engine Treatment ราคาสองพันกว่าบาท จำยี่ห้อไม่ได้ แต่เป็นกระปุกสีฟ้า-ขาว ฝาสีน้ำเงิน

-Oil Additive คือ หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง (ของศูนย์เป็น ACDelco) การใช้คือ ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกหมื่นโล ให้เติมหัวเชื้อเมื่อใช้น้ำมันเครื่องไปห้าพันโล เพื่อรักษาความหนืดไปจนถึงหมื่นโล ราคาที่ศูนย์ 22X บาท ถ้าตามปั๊ม ไม่ถึงร้อยบาทครับ ใช้ของศูนย์ดีกว่าครับ

-Engine Treatment คือ หัวเชื้อสารเคลือบเครื่องยนต์ เติมได้เลยไม่ต้องรอเปลี่ยน นมค. เติมแล้วไปเคลือบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ใช้ได้ประมาณแปดหมื่นถึงแสนโลถึงเติมใหม่ ราคาจะแพงกว่า Oil Additive ส่วนใหญ่หลักพัน

ปัญหาคือคราบดำๆเหนียวๆนั่น ซึ่งพบเป็นบางยี่ห้อ มักเป็นยี่ห้อที่ขายตามบูธ
ก็คือ ถ้าอยากเติม ก็เติมได้ แต่ต้องเลือกยี่ห้อนิดนึง ไม่ใช่เติมมั่วไปหมด
ผมก็ว่างั้น
เอาเงินมาซื้อนม.เกรดดีขึ้นแล้วถ่ายตรงเวลาดีกว่าครับ
 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า


ของแต่งใหม่แท้ เทียม
คลิก>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,111129.0.html
ของแต่งมือ2 สภาพดี-มาก
คลิก>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,111327.0.html
ตี๋ tel : 089-7979-379
chira711
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,526


NO.674 อยุธยา-บางปะหัน-หนองแขม..


« ตอบ #3 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2012, 01:49:55 »

 ยิงฟันยิ้ม
ผมก็ว่างั้น
เอาเงินมาซื้อนม.เกรดดีขึ้นแล้วถ่ายตรงเวลาดีกว่าครับ
 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม. ผมก็นึกว่าสารยางมะตอย..จากรูป..เป็นสารที่ใส่แล้ว..จะได้ปลดระวางครื่องเดิมให้พัง เร็วขึ้น

บันทึกการเข้า

"ไม่สูงต้องเขย่ง  ไม่เก่ง ต้องขยัน  สักวันก็ได้ดี "
worawit charoenkan
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 275


ท่องเที่ยวด้วย Coupe


« ตอบ #4 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2012, 06:13:20 »

 :)x1r ตามที่ ซ่ารากะจอสส์ โฆษณามันรับรองโดยองค์กร อ้าซ่า เมก้าฯ
ว่าใช้กะยานอวกาศแล้วเครื่องเดินเรียบเสียงวาวล์ไม่ดังประหยัดเชื้อเพลิง
ไม่ทำให้ยานระเบิดขณะขึ้นบินแต่พอมาใช้กะรถยนต์เลยเป็นอย่าในรูป
เพราะรอบเครื่องจัดไม่พอ สรุป !มันเหมาะกะยานอวกาศไม่เหมาะกะรถยนต์
 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
nakarin
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,507


ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดารเป็นคนชอบกลนัก


« ตอบ #5 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2012, 09:03:52 »

:)x1r ตามที่ ซ่ารากะจอสส์ โฆษณามันรับรองโดยองค์กร อ้าซ่า เมก้าฯ
ว่าใช้กะยานอวกาศแล้วเครื่องเดินเรียบเสียงวาวล์ไม่ดังประหยัดเชื้อเพลิง
ไม่ทำให้ยานระเบิดขณะขึ้นบินแต่พอมาใช้กะรถยนต์เลยเป็นอย่าในรูป
เพราะรอบเครื่องจัดไม่พอ สรุป !มันเหมาะกะยานอวกาศไม่เหมาะกะรถยนต์
 ยิงฟันยิ้ม
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ดูแลรถ แล้วรถจะดูแลเรา
Pum_Chero
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 264



« ตอบ #6 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2012, 16:37:58 »

ขอบคุณส้มจี๊ด ละทุกๆคนมากนะครับที่แนะนำผมเห็นช่างเค้าบอกให้ลองใช้ดูก็เลยลองมาสอบถามดูก่อน เหอๆ
บันทึกการเข้า
uttud
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 360


USDM!!!!


« ตอบ #7 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2012, 18:23:48 »

:)x1r ตามที่ ซ่ารากะจอสส์ โฆษณามันรับรองโดยองค์กร อ้าซ่า เมก้าฯ
ว่าใช้กะยานอวกาศแล้วเครื่องเดินเรียบเสียงวาวล์ไม่ดังประหยัดเชื้อเพลิง
ไม่ทำให้ยานระเบิดขณะขึ้นบินแต่พอมาใช้กะรถยนต์เลยเป็นอย่าในรูป
เพราะรอบเครื่องจัดไม่พอ สรุป !มันเหมาะกะยานอวกาศไม่เหมาะกะรถยนต์
 ยิงฟันยิ้ม
ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
TWISTER
Verified
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2013, 10:47:52 »

เห็นกระทู้นี้แล้วผมก็อดไม่ได้ ในฐานะที่เป็นคนอยู่ในวงการสารหล่อลื่นมานาน
1.Engine Treatment ที่คุณเติมนั้นเป็นสินค้าอะไร เพราะถ้าไม่มีมาตรฐานปัญหาย่อมเกิด
2.ผู้ขายบางทียังไม่รู้เลยว่าไอ้ที่ขายมันคืออะไร
3.ปรากฏการณ์ที่เป็นสีดำๆคล้ายๆยางเหนียว ขออธิบายนะครับ Engine Treatment นั้นมี 2 ประเภทใหญ่ 1.สารเคลือบภายในเครื่องยนต์ 2.สารเคลือบโลหะทั่วไป
บางยี่ห้อมักหลอกลวงผู้บริโภคโดยการนำสารเสริมที่รองรับการเสียดสีทำให้สึกหรอน้อยลงมากใช้ภายในเครื่องยนต์หรือแบบที่ 2 มาใช้เลยเกิดปรากฏการณ์ตามรูปข้างบน เพราะไม่ทนความร้อนก็เหมือนพลาสติกที่รนไฟ
4.ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือผู้จำหน่ายมักยกสรรพคุณเกินจริง อันนี้ให้คิดตามนะครับ การกลั่นน้ำมันนั้นเราจะแบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ 1.น้ำมันเบา(กลุ่มน้ำมันก๊าด/เบนซิน) 2.น้ำมันกลาง(กลุ่มดีเซล) 3.น้ำมันหนัก(น้ำมันเครื่อง) ถ้าเราใช้สินค้าเกินความสามารถก็คือน้ำมันเครื่องเราก็จะกลายเป็นยางมะตอยดีๆนั่นเอง จะเห็นได้ว่าผู้จำหน่ายชอบบอกว่าเพิ่มอายุน้ำมันเครื่องถ้ายี่ห้อไหนแนะนำยังนั้นเลิกใช้เถอะครับ การเติม Engine Treatment ไม่สามารถยืดอายุได้แต่สามารถแบ่งเบาหน้าที่ได้บางส่วน อย่าลืมว่าในเครื่องยนต์มีปัจจัยรวม คือ 1.การเสียดสี 2.ความร้อน 3.แรงดัน น้ำมันเครื่องก็จะหมดอายุหรือประสิทธิภาพตามกรณีดังกล่าว
ขอบคุณครับ ปรึกษาได้ทุกเรื่องครับเกี่ยวกับสารหล่อลื่น สามารถ PM มาปรึกษาได้ใน INBOX ครับ
บันทึกการเข้า
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #9 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2013, 10:56:25 »

เห็นกระทู้นี้แล้วผมก็อดไม่ได้ ในฐานะที่เป็นคนอยู่ในวงการสารหล่อลื่นมานาน
1.Engine Treatment ที่คุณเติมนั้นเป็นสินค้าอะไร เพราะถ้าไม่มีมาตรฐานปัญหาย่อมเกิด
2.ผู้ขายบางทียังไม่รู้เลยว่าไอ้ที่ขายมันคืออะไร
3.ปรากฏการณ์ที่เป็นสีดำๆคล้ายๆยางเหนียว ขออธิบายนะครับ Engine Treatment นั้นมี 2 ประเภทใหญ่ 1.สารเคลือบภายในเครื่องยนต์ 2.สารเคลือบโลหะทั่วไป
บางยี่ห้อมักหลอกลวงผู้บริโภคโดยการนำสารเสริมที่รองรับการเสียดสีทำให้สึกหรอน้อยลงมากใช้ภายในเครื่องยนต์หรือแบบที่ 2 มาใช้เลยเกิดปรากฏการณ์ตามรูปข้างบน เพราะไม่ทนความร้อนก็เหมือนพลาสติกที่รนไฟ
4.ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือผู้จำหน่ายมักยกสรรพคุณเกินจริง อันนี้ให้คิดตามนะครับ การกลั่นน้ำมันนั้นเราจะแบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ 1.น้ำมันเบา(กลุ่มน้ำมันก๊าด/เบนซิน) 2.น้ำมันกลาง(กลุ่มดีเซล) 3.น้ำมันหนัก(น้ำมันเครื่อง) ถ้าเราใช้สินค้าเกินความสามารถก็คือน้ำมันเครื่องเราก็จะกลายเป็นยางมะตอยดีๆนั่นเอง จะเห็นได้ว่าผู้จำหน่ายชอบบอกว่าเพิ่มอายุน้ำมันเครื่องถ้ายี่ห้อไหนแนะนำยังนั้นเลิกใช้เถอะครับ การเติม Engine Treatment ไม่สามารถยืดอายุได้แต่สามารถแบ่งเบาหน้าที่ได้บางส่วน อย่าลืมว่าในเครื่องยนต์มีปัจจัยรวม คือ 1.การเสียดสี 2.ความร้อน 3.แรงดัน น้ำมันเครื่องก็จะหมดอายุหรือประสิทธิภาพตามกรณีดังกล่าว
ขอบคุณครับ ปรึกษาได้ทุกเรื่องครับเกี่ยวกับสารหล่อลื่น สามารถ PM มาปรึกษาได้ใน INBOX ครับ
ผม ถามสั้นๆตรงนี้เลย น้ำมัน เกรด SAE 50 ใช้กลับเครื่องยนต์แบบไหนครับ
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
TWISTER
Verified
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #10 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 16:10:45 »

ผม ถามสั้นๆตรงนี้เลย น้ำมัน เกรด SAE 50 ใช้กลับเครื่องยนต์แบบไหนครับ
-SAE 50 ใช้กับรถเครื่องยนต์ที่มีลักษณะเข้าข่ายต่อไปนี้
1.เครื่องยนต์ที่มีแรงม้าและแรงบิดสูง (ประเภทรถยุโรปหรือรถแข่ง)
2.เครื่องยนต์ที่เครื่องยนต์เริ่มจะสึกหรอหรือเครื่องยนต์มีอาการเครื่องหลวม
3.เครื่องยนต์ที่ใช้วิ่งติดต่อเป็นระยะทางยาวนานติดต่อกัน

*หมายเหตุ ยิ่งค่า SAE ยิ่งสูงมากเท่าใด ฟิมล์น้ำมันก็จะมีขนาดใหญ่และทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้นเท่านั้นแต่การประหยัดจะสวนทาง ส่วนค่า SAE เบอร์ต่ำๆจะช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะการไหลลื่นและแรงเสียดทานต่ำ SAE เบอร์สูง แต่ขนาดฟิมล์ก็จะเล็กลงไปการใช้งานในการวิ่งไม่หยุดหรือระยะยาวอาจจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า เจ๋ง
บันทึกการเข้า
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #11 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 16:41:42 »

ผม ถามสั้นๆตรงนี้เลย น้ำมัน เกรด SAE 50 ใช้กลับเครื่องยนต์แบบไหนครับ
-SAE 50 ใช้กับรถเครื่องยนต์ที่มีลักษณะเข้าข่ายต่อไปนี้
1.เครื่องยนต์ที่มีแรงม้าและแรงบิดสูง (ประเภทรถยุโรปหรือรถแข่ง)
2.เครื่องยนต์ที่เครื่องยนต์เริ่มจะสึกหรอหรือเครื่องยนต์มีอาการเครื่องหลวม
3.เครื่องยนต์ที่ใช้วิ่งติดต่อเป็นระยะทางยาวนานติดต่อกัน

*หมายเหตุ ยิ่งค่า SAE ยิ่งสูงมากเท่าใด ฟิมล์น้ำมันก็จะมีขนาดใหญ่และทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้นเท่านั้นแต่การประหยัดจะสวนทาง ส่วนค่า SAE เบอร์ต่ำๆจะช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะการไหลลื่นและแรงเสียดทานต่ำ SAE เบอร์สูง แต่ขนาดฟิมล์ก็จะเล็กลงไปการใช้งานในการวิ่งไม่หยุดหรือระยะยาวอาจจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า เจ๋ง
งั้นเครื่องยนต์ ขนาด 1600 ซีซี แรงม้า ร้อยๆกว่า อายุการใช้งานมา แสนถึงสองแสนกิโล นี่ก็ถือว่าไม่เหมาะใช่ไม๊ครับ
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
TWISTER
Verified
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #12 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 18:08:28 »

งั้นเครื่องยนต์ ขนาด 1600 ซีซี แรงม้า ร้อยๆกว่า อายุการใช้งานมา แสนถึงสองแสนกิโล นี่ก็ถือว่าไม่เหมาะใช่ไม๊ครับ

ถ้าจะให้ตอบได้ดีนะครับก็คือเราควรยึดสเปคการใช้งานจากคู่มือ ซึ่งเครื่องยนต์สเปค 1600 cc.นั้นระบุให้ใช้เบอร์ 30 และ 40 (เบอร์ปลายนะครับ) ส่วนเบอร์ต้นก็มีผลค่าสัมพันธ์แบบเชื่อมโยง ในประเทศไทยนั้นเราสามารถใช้เบอร์น้ำมันเครื่องหรือ SAE ได้ 3 เบอร์ 30 40 50 (MONO GRADE) ถ้าจะให้แนะนำสเปคการใช้งานแบ่งออกเป็นดังต่อไปนี้นะครับ
1.SAE 30 จะเน้นกับรถ cc. ต่ำๆเพราะเรื่องของกำลังเครื่องยนต์และขนาดเครื่องยนต์มีขนาดเล็กฟิมล์น้ำมันขนาดเล็กหรือ SAE ต่ำ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม (เหมาะกับเครื่องยนต์ใหม่ๆ)
2.SAE 40 จะเป็นเบอร์ครบจักรวาล ใช้ได้ทั้งรถเก่า ใหม่ กลาง และเครื่องยนต์ทุกขนาด
3.SAE 50 จะออกเป็นทางรถใหญ่กำลังเครื่องยนต์สูง และใช้งานหนัก cc สูงๆขึ้นไป
*หมายเหตุ SAE เอาเข้าใจง่ายๆ SAE สูงๆอดทน แต่เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง SAE ต่ำ ประหยัดเชื้อเพลิง แต่ฟิมล์จะไม่ทนทานเท่า SAE สูง (เปรียบเทียบคุณเอาไม้คนน้ำเชื่อมกับเอาไม้คนน้ำอันไหนใช้แรงมากกว่ากัน)
**สงสัยเรื่องใดสามารถ inbox มาสอบถามได้ครับ ยินดีให้คำแนะนำ (ออกตัวนิดนึงนะครับต้องขอโทษแอดมินด้วย ผมอยู่ในฐานะผู้ผลิตสารหล่อลื่น คือ เป็นเจ้าหน้าจากโรงงานผลิตสารหล่อลื่นโดยตรงครับ หากสงสัยเรื่องใดเกี่ยวกับสารหล่อลื่นไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ อุตสาหกรรม หรือ โรงงานขึ้นรูปหล่อรูปสามารถให้คำปรึกษาได้ครับ)
***ขอขอบคุณสำหรับคำถามครับ
บันทึกการเข้า
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #13 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 18:19:42 »

ถ้าจะให้ตอบได้ดีนะครับก็คือเราควรยึดสเปคการใช้งานจากคู่มือ ซึ่งเครื่องยนต์สเปค 1600 cc.นั้นระบุให้ใช้เบอร์ 30 และ 40 (เบอร์ปลายนะครับ) ส่วนเบอร์ต้นก็มีผลค่าสัมพันธ์แบบเชื่อมโยง ในประเทศไทยนั้นเราสามารถใช้เบอร์น้ำมันเครื่องหรือ SAE ได้ 3 เบอร์ 30 40 50 (MONO GRADE) ถ้าจะให้แนะนำสเปคการใช้งานแบ่งออกเป็นดังต่อไปนี้นะครับ
1.SAE 30 จะเน้นกับรถ cc. ต่ำๆเพราะเรื่องของกำลังเครื่องยนต์และขนาดเครื่องยนต์มีขนาดเล็กฟิมล์น้ำมันขนาดเล็กหรือ SAE ต่ำ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม (เหมาะกับเครื่องยนต์ใหม่ๆ)
2.SAE 40 จะเป็นเบอร์ครบจักรวาล ใช้ได้ทั้งรถเก่า ใหม่ กลาง และเครื่องยนต์ทุกขนาด
3.SAE 50 จะออกเป็นทางรถใหญ่กำลังเครื่องยนต์สูง และใช้งานหนัก cc สูงๆขึ้นไป
*หมายเหตุ SAE เอาเข้าใจง่ายๆ SAE สูงๆอดทน แต่เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง SAE ต่ำ ประหยัดเชื้อเพลิง แต่ฟิมล์จะไม่ทนทานเท่า SAE สูง (เปรียบเทียบคุณเอาไม้คนน้ำเชื่อมกับเอาไม้คนน้ำอันไหนใช้แรงมากกว่ากัน)
**สงสัยเรื่องใดสามารถ inbox มาสอบถามได้ครับ ยินดีให้คำแนะนำ (ออกตัวนิดนึงนะครับต้องขอโทษแอดมินด้วย ผมอยู่ในฐานะผู้ผลิตสารหล่อลื่น คือ เป็นเจ้าหน้าจากโรงงานผลิตสารหล่อลื่นโดยตรงครับ หากสงสัยเรื่องใดเกี่ยวกับสารหล่อลื่นไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ อุตสาหกรรม หรือ โรงงานขึ้นรูปหล่อรูปสามารถให้คำปรึกษาได้ครับ)
***ขอขอบคุณสำหรับคำถามครับ
อ๋อครับ พอเข้าใจล่ะ ผมเองก็ยึดตามคู่มือ เป็นหลัก แต่ก็มีคนไม่เชื่อ บอกว่าเครื่องมันเก่ามันต้อง แบบนี้แบบนั้น  อายจัง อายจัง
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #14 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 18:21:14 »

ถ้าจะให้ตอบได้ดีนะครับก็คือเราควรยึดสเปคการใช้งานจากคู่มือ ซึ่งเครื่องยนต์สเปค 1600 cc.นั้นระบุให้ใช้เบอร์ 30 และ 40 (เบอร์ปลายนะครับ) ส่วนเบอร์ต้นก็มีผลค่าสัมพันธ์แบบเชื่อมโยง ในประเทศไทยนั้นเราสามารถใช้เบอร์น้ำมันเครื่องหรือ SAE ได้ 3 เบอร์ 30 40 50 (MONO GRADE) ถ้าจะให้แนะนำสเปคการใช้งานแบ่งออกเป็นดังต่อไปนี้นะครับ
1.SAE 30 จะเน้นกับรถ cc. ต่ำๆเพราะเรื่องของกำลังเครื่องยนต์และขนาดเครื่องยนต์มีขนาดเล็กฟิมล์น้ำมันขนาดเล็กหรือ SAE ต่ำ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม (เหมาะกับเครื่องยนต์ใหม่ๆ)
2.SAE 40 จะเป็นเบอร์ครบจักรวาล ใช้ได้ทั้งรถเก่า ใหม่ กลาง และเครื่องยนต์ทุกขนาด
3.SAE 50 จะออกเป็นทางรถใหญ่กำลังเครื่องยนต์สูง และใช้งานหนัก cc สูงๆขึ้นไป
*หมายเหตุ SAE เอาเข้าใจง่ายๆ SAE สูงๆอดทน แต่เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง SAE ต่ำ ประหยัดเชื้อเพลิง แต่ฟิมล์จะไม่ทนทานเท่า SAE สูง (เปรียบเทียบคุณเอาไม้คนน้ำเชื่อมกับเอาไม้คนน้ำอันไหนใช้แรงมากกว่ากัน)
**สงสัยเรื่องใดสามารถ inbox มาสอบถามได้ครับ ยินดีให้คำแนะนำ (ออกตัวนิดนึงนะครับต้องขอโทษแอดมินด้วย ผมอยู่ในฐานะผู้ผลิตสารหล่อลื่น คือ เป็นเจ้าหน้าจากโรงงานผลิตสารหล่อลื่นโดยตรงครับ หากสงสัยเรื่องใดเกี่ยวกับสารหล่อลื่นไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ อุตสาหกรรม หรือ โรงงานขึ้นรูปหล่อรูปสามารถให้คำปรึกษาได้ครับ)
***ขอขอบคุณสำหรับคำถามครับ
อ้ออีกเรื่องนึง จริงไม๊ครับว่า น้ำมันหล่อลื่นสมัยนี้ เกรด SJ ขึ้นไป ไม่ว่าจะราคาไหนก็ใช้ได้เป็นหมื่นกิโลเมตร  อายจัง
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
TWISTER
Verified
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #15 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 18:33:55 »

อ้ออีกเรื่องนึง จริงไม๊ครับว่า น้ำมันหล่อลื่นสมัยนี้ เกรด SJ ขึ้นไป ไม่ว่าจะราคาไหนก็ใช้ได้เป็นหมื่นกิโลเมตร  อายจัง

ไม่จริงครับ ต้องเกรด SL ขึ้นไปครับ(ต้องมาตรฐาน SL แท้ๆนะครับ) ถึงจะสามารถใช้ได้ 10,000 กม. เพราะ additive หรือสารเติมแต่งนั้นคุณภาพไม่เพียงพอ จริงๆแล้วรถยนต์วิ่ง 10,000 กม. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องดีๆแล้วเหมาะสมกับเครื่องยนต์ก็เหมาะสมแล้วครับ
*น้ำมันเครื่องขึ้นต้นด้วย S เหมาะกับรถเครื่องยนต์เบนซิน ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลขึ้นต้นด้วย C นะครับ
**เครื่องเก่าแล้วกลัวว่ามาตราฐาน SN จะลื่นเกินไป รถเก่าใช้ไม่ได้ อันนี้เป็นความเชื่อผิดๆนะครับ สถาบัน API จากอเมริกากล่าวไว้ว่าค่ามาตราฐานเบอร์สูงสุดในปัจจุบันสามารถ COVER มาตราฐานเบอร์ที่ต่ำกว่าได้ ฉะนั้นรถเครื่องเก่าใช้มาตราฐานสูงๆได้ครับ แต่ค่าความหนืดต้องสัมพันธ์กันเท่านั้นเอง

ขยายความมาตรฐาน SL บางยี่ห้ออาจจะปกป้องได้เกิน 10,000 กม. ด้วยซ้ำไป ปัญหาเดี๋ยว คือ ไม่ว่าน้ำมันเครื่องจะเทพขนาดไหนก็ตามไปตายเรื่องกรองน้ำมันเครื่องกันหมด เพราะ ไส้กรองน้ำมันเครื่องนั้นทำมาจากกระดาษ กระดาษแช่น้ำนานๆก็เละครับ

หมายเหตุ คำถามเดิมครับ รถ 1,600 cc วิ่ง 1 -2 แสน ใช้เบอร์ปลาย 40 ก็พอครับ เพราะ 50 จะกินกำลังเครื่องจะเปลืองน้ำมันเอา แค่ 40 ก็เพียงพอ เว้นแต่ว่าคุณจะขับรถไม่พักแล้ววันละ 10 ชม. อัพก็ใช้ไปเถอะเพราะเครื่องยนต์ใช้งานหนักความร้อนสะสมมากๆ บางทีฟิมล์เบอร์เล็กๆก็เอาไม่อยู่เช่นกัน
บันทึกการเข้า
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #16 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 18:40:46 »

กระจ่างขอบคุณครับ
 จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
wit533
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 304



« ตอบ #17 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 06:59:24 »

แล้ว SAE  SL  SJ  มันดูยังไง
น้ำมันเครื่องศูนย์ฮอนด้า มันคือตัวไหน
 ตกใจ
บันทึกการเข้า
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #18 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 10:34:49 »

แล้ว SAE  SL  SJ  มันดูยังไง
น้ำมันเครื่องศูนย์ฮอนด้า มันคือตัวไหน
 ตกใจ
ฉลากหลังแกลลอนจะมี พิมพ์บอกไว้ครับ  API S....  อะไรประมาณนี้ครับ

และส่วนของ SAEถ้าไม่พิมพ์บอกไปเลย ว่า SAE  10W40   ก็จะพิมพ์เฉยๆ ว่า  10W40
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ธันวาคม 2013, 10:37:34 โดย Regis100 » บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
arm 2424
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 592


ek 00 no.821


« ตอบ #19 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 12:34:36 »

ได้ความรู้เพื่มอีกแล้ว จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า
TWISTER
Verified
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #20 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 16:42:20 »

ได้ความรู้เพื่มอีกแล้ว จุมพิต จุมพิต จุมพิต

-ส่วนมากน้ำมันเครื่องศูนย์หรือ OEM นั้นจะเป็นค่ามาตราฐานกลาง ถ้าเป็นหมวดเบนซินจะเป็น SL ส่วนเป็นดีเซลจะเป็น CF-4 ซึ่งบอกตามตรงครับมันเป็นเกรดน้ำมันที่ตกรุ่นไปหลายปีแล้วครับ สรุปง่ายๆคือ ศูนย์มักจะเอาเปรียบผู้บริโภคตรงจุดนี้ โดยอ้างเรื่องการรับประกัน (ถ้าคุณเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ในศูนย์บริการ คุณอาจจะได้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรดสูงในท้องตลาดและคุณภาพดีกว่า)
*จะว่าศูนย์ก็ไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องของธุรกิจ

การเรียงลำดับเกรดค่ามาตราฐาน เบนซิน SA SB SC SD SE SF SG SH SI SJ SK SL SM SN สูงสุดคือ SN ครับในปัจจุบัน
                                                    ดีเซล CA CB CC CD CE CF CF-4 CG-4 CH-4 CI-4 CJ-4 สูงสุดคือ CJ-4 ครับในปัจจุบัน
ลองดูนะครับทุกครั้งที่คุณซื้อน้ำมันเครื่องมาใช้เองคุณได้จ่ายเงินคุ้มค่าหรือไม่? ไม่เข้าใจเรื่องสารหล่อลื่นผมยินดีให้คำแนะนำครับ กระทู้ต่อมาเรื่อยๆได้ครับ
บันทึกการเข้า
tdcub
Sponsor
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,605


No.767


« ตอบ #21 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 17:12:34 »

-ส่วนมากน้ำมันเครื่องศูนย์หรือ OEM นั้นจะเป็นค่ามาตราฐานกลาง ถ้าเป็นหมวดเบนซินจะเป็น SL ส่วนเป็นดีเซลจะเป็น CF-4 ซึ่งบอกตามตรงครับมันเป็นเกรดน้ำมันที่ตกรุ่นไปหลายปีแล้วครับ สรุปง่ายๆคือ ศูนย์มักจะเอาเปรียบผู้บริโภคตรงจุดนี้ โดยอ้างเรื่องการรับประกัน (ถ้าคุณเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ในศูนย์บริการ คุณอาจจะได้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรดสูงในท้องตลาดและคุณภาพดีกว่า)
*จะว่าศูนย์ก็ไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องของธุรกิจ

การเรียงลำดับเกรดค่ามาตราฐาน เบนซิน SA SB SC SD SE SF SG SH SI SJ SK SL SM SN สูงสุดคือ SN ครับในปัจจุบัน
                                                    ดีเซล CA CB CC CD CE CF CF-4 CG-4 CH-4 CI-4 CJ-4 สูงสุดคือ CJ-4 ครับในปัจจุบัน
ลองดูนะครับทุกครั้งที่คุณซื้อน้ำมันเครื่องมาใช้เองคุณได้จ่ายเงินคุ้มค่าหรือไม่? ไม่เข้าใจเรื่องสารหล่อลื่นผมยินดีให้คำแนะนำครับ กระทู้ต่อมาเรื่อยๆได้ครับ
ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า


ของแต่งใหม่แท้ เทียม
คลิก>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,111129.0.html
ของแต่งมือ2 สภาพดี-มาก
คลิก>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,111327.0.html
ตี๋ tel : 089-7979-379
BOWYER
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 735



« ตอบ #22 เมื่อ: 02 มกราคม 2014, 21:42:32 »

น้ำมันเครื่องถ้าใช้แล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ มันดีกว่าหรือแย่กว่าน้ำมันเครื่อง
ที่สีไม่ค่อยเปลี่ยนครับ เพราะเท่าที่รู้มาคือน้ำมันเครื่องที่มีสารชะล้างเขม่า
จะทำการล้างเขม่าจากเครื่องมาเก็บไว้ที่ตัวมันเองทำให้กลายเป็นสีดำ

 อีกคำถามครับ ผมควรใช้น้ำมันเครื่อง synthetics เปลี่ยนทุก 10000 โล
กับใช้ semi-synthetics แต่เปลี่ยนทุก 7000 โล แบบไหนถนอมเครื่องมากกว่ากันครับ ขยิบตา
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: อยากรู้เกี่ยวกับ X1R สารเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |