★★ ระบบแอร์รถยนต์ Honda Civic -- คลังความรู้เรื่องแอร์รถยนต์ Civic EG,EK,Si ★★

[Buranasak]

เพราะ....แม่บ้านที่ดูแล ไม่ใช่คนหลังแรก นะจิ

[hs2cbp]

เพราะ....แม่บ้านที่ดูแล ไม่ใช่คนหลังแรก นะจิ

ผมไม่เคยหา คนที่ 2 นะ แต่ 

[Sitti2519]

หวัดดีครับอาจารย์ ขอพักผ่อนยาวๆก่อนครับ สิ้นเดือนค่อยมาว่ากันครับ จะไปจัดเครื่องแว็คสักหน่อย ไม่เอา 120 ก็ 250 ลิตร/นาทีไปเลยครับ กำลังมองๆอยู่

[Buranasak]

หวัดดีครับอาจารย์ ขอพักผ่อนยาวๆก่อนครับ สิ้นเดืrอนค่อยมาว่ากันครับ จะไปจัดเครื่องแว็คสักหน่อย ไม่เอา 120 ก็ 250 ลิตร/นาทีไปเลยครับ กำลังมองๆอยู่

ท่าทางจะเอาจริง จัดตัวดีมาเลยเครื่องแวค  หายห่วงเรื่องควาใชื้นในระบบ หายหมดเลย
เพราะแรงดูดแรงมากครับ  ได้แล้วเอารูปมาโชว์  ว่าแต่ของมาเมื่อไหร่ครัเห็นสั่งเขาไว้นิ

[Sitti2519]

ตอนแรกว่าจะเอา 120 ลิตร 6500 เขาบอกของหมด อาจต้องรอเป็นเดือน ราคาไม่แน่ว่าจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ผมก็เลยมองๆตัว 250 ลิตร/นาที 9900 มันต่างกันไม่เท่าไหร่ กำลังคิดครับว่าอาจจะเอาตัวหลังครับ ได้มายังไงจะเอามาลงให้ชมครับ รอดูอาทิตย์หน้าครับ อาจจะไปเอาเลย แต่มันหนักตั้ง 17 กก แหน่ะครับ จะไหวไหมเนี่ยถ้าต้องยกบ่อยๆ

[Sitti2519]

ผมดูที่ร้านอื่นตัว 120 มัน  6900 แต่ตัว 250 ลิตร ที่ร้านฮั่วฯ 9900 ราคามันต่างกันนิดหน่อย แต่ได้กำลังขึ้นมาสองเท่าเลยก็เลยคิดหนักอยู่ครับ ราคาจริงที่เขาขายอยู่ 13500 จริงเปล่าอาจารย์

[Sitti2519]

ได้มาแล้วจะลองปล่อยน้ำยาแอร์ทิ้ง แล้วลองแว็คด้วยเครื่องนี้ แล้วลองชาร์ทน้ำยาใหม่ ดูสิว่าจะได้ความเย็นลดลงเท่าไหร่ น้ำยาชุดนี้เพื่อการศึกษาครับ ยังเหลืออีกเยอะ อัดมาตั้ง 5 กก แหนะ ขอลองกับน้ำยาปลอมปนตัวนี้ก่อนครับ จะดูสิว่าน้ำยาตัวเดิม แต่เครื่องแว็คใหม่จะได้ความเย็นเท่าไหร่ ขอพิสูจน์ความสามารถของเครื่องแว็คสักหน่อยครับ

[jkung_27]

ตอนแรกว่าจะเอา 120 ลิตร 6500 เขาบอกของหมด อาจต้องรอเป็นเดือน ราคาไม่แน่ว่าจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ผมก็เลยมองๆตัว 250 ลิตร/นาที 9900 มันต่างกันไม่เท่าไหร่ กำลังคิดครับว่าอาจจะเอาตัวหลังครับ ได้มายังไงจะเอามาลงให้ชมครับ รอดูอาทิตย์หน้าครับ อาจจะไปเอาเลย แต่มันหนักตั้ง 17 กก แหน่ะครับ จะไหวไหมเนี่ยถ้าต้องยกบ่อยๆ

  ราคาระดับนี้เปิดร้านเลยดีก้า   ชุดบ๊อคมีแล้ว   ขาดแค่ ชุดเช็ครั่ว  เกจ์วัดเติมน้ำยาอีก 2-3ตัว เครื่องเติมน้ำยาสำหรับรถไม่มีตาแมว อีกซัก 20000 นี่เปิดใด้เลยนะครับ

[Buranasak]

ใจเย็นๆครับท่านสิทธิ ผมไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่นะ เวลาถ้าซื้ออุปกรณ์สำหรับนำมาใช้งาน และแน่นอนสามารถนำมาสร้างเป็น
อาชีพได้เล็กน้อยกับเวลาที่เรามีอยู่ ที่บอกว่าใจเย็นๆนะผมไม่แน่ใจว่าจะเอาเครื่องมือ อย่างเช่นแวคคั่ม มาใช้งานได้มากแค่ไหนนะครับ
ต้องดูแนวทางของแต่ละคนไป 120 ลิตร 2 ชั้น นั้นก็หรูแล้วครับ ผมยังไม่มีเลย มีแต่แวคคั่มลูกสูบญี่ปุ่น มันดูดได้แรงดี ผมเอาไวใช้ที่
บ้านสะดวก มีที่เก็ก็เลยเลือกตัวนี้ ราคาก็เกินครึ่งหมื่นเหมือนกันครับ.....ลองดูนะ ส่วนตัวจากประสบการณ์  120 ลิตร 2 ชั้น ก็พอครับ
การตัดสินใจ อยู่ที่ท่าน Sitti หละ

น้ำยาแอร์ของเดิมเอาไว้ใช้งานต่อได้ เอาไว้ล้างท่อ ใส่ F11 แล้วอัดน้ำยาเข้าไปล้าง ไม่เสียหลายครับ น้ำยาแบ่งขายทำยังไงก็ไม่เย็น
ผมลองมาหมดแล้ว ความเย็นตอนทดสอบ อุณหภูมิได้เลขสองหลักทั้งนั้น อีกทั้งความเย็นเวลาออกมามันไม่เย็นฉำ่ชื้นใจเท่าไหร่

ลองดูครับ ใจเย็นๆก็ได้ไม่ต้องรีบมาก

[Buranasak]

ผมไม่เคยหา คนที่ 2 นะ แต่ 

ผมไม่เคยหา คนที่ 2 นะ แต่ .......(มันมาเอง).....หรือเปล่าพี่ตู่

[Buranasak]

ผมดูที่ร้านอื่นตัว 120 มัน  6900 แต่ตัว 250 ลิตร ที่ร้านฮั่วฯ 9900 ราคามันต่างกันนิดหน่อย แต่ได้กำลังขึ้นมาสองเท่าเลยก็เลยคิดหนักอยู่ครับ ราคาจริงที่เขาขายอยู่ 13500 จริงเปล่าอาจารย์

ราคาปากครับ....อย่าไปเชื่อมันมากร้าน จริงๆราคา 7-8 พันเท่านั้นหละผมว่า มาตั้งราคากันเอง อย่างว่าหนะร้านค้า
เราเสียเปรียบ เพราะเป็นสินค้านำเข้าระหว่างร้านขาย กับ โรงงานผลิตที่ต่างประเทศ เขาซื้อกับโรงงานตลอดผมว่าได้กำไรเยอะอยู่
เราไปซื้อเองไม่ได้ ต้องรับค่าตลาดเองเต็มๆ......อย่างเงาะที่ขายที่สวน โลละ 5-10 บาท เอามาขายให้เราที่ กทม กก.ละ 20-25 บาท
นั้นหละครับ จะขับรถไปซื้อเอง คงไม่ไหว กก.คงเป็นพันๆ เพราะต้องเติมค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส 

[Buranasak]

  ราคาระดับนี้เปิดร้านเลยดีก้า   ชุดบ๊อคมีแล้ว   ขาดแค่ ชุดเช็ครั่ว  เกจ์วัดเติมน้ำยาอีก 2-3ตัว เครื่องเติมน้ำยาสำหรับรถไม่มีตาแมว อีกซัก 20000 นี่เปิดใด้เลยนะครับ

นั้นนะซิ....และที่สำคัญ อึดด้วยนะซิ ท่าน Sitti เปิดร้านสบายเลยครับ ทำงานราชการไปด้วย รับงานไปด้วย ถอนทุนหน่อย 

[Sitti2519]

  ราคาระดับนี้เปิดร้านเลยดีก้า   ชุดบ๊อคมีแล้ว   ขาดแค่ ชุดเช็ครั่ว  เกจ์วัดเติมน้ำยาอีก 2-3ตัว เครื่องเติมน้ำยาสำหรับรถไม่มีตาแมว อีกซัก 20000 นี่เปิดใด้เลยนะครับ

คงไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แค่ทำเอาความรู้และบริการเพื่อนๆที่ทำงานบ้าง คงไม่ถึงกับยึดเป็นอาชีพครับ เพราะอาชีพที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้วครับ อาจทำเป็นรายๆด้เสริมเล็กๆน้อยๆครับ

[Sitti2519]

ใจเย็นๆครับท่านสิทธิ ผมไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่นะ เวลาถ้าซื้ออุปกรณ์สำหรับนำมาใช้งาน และแน่นอนสามารถนำมาสร้างเป็น
อาชีพได้เล็กน้อยกับเวลาที่เรามีอยู่ ที่บอกว่าใจเย็นๆนะผมไม่แน่ใจว่าจะเอาเครื่องมือ อย่างเช่นแวคคั่ม มาใช้งานได้มากแค่ไหนนะครับ
ต้องดูแนวทางของแต่ละคนไป 120 ลิตร 2 ชั้น นั้นก็หรูแล้วครับ ผมยังไม่มีเลย มีแต่แวคคั่มลูกสูบญี่ปุ่น มันดูดได้แรงดี ผมเอาไวใช้ที่
บ้านสะดวก มีที่เก็ก็เลยเลือกตัวนี้ ราคาก็เกินครึ่งหมื่นเหมือนกันครับ.....ลองดูนะ ส่วนตัวจากประสบการณ์  120 ลิตร 2 ชั้น ก็พอครับ
การตัดสินใจ อยู่ที่ท่าน Sitti หละ

น้ำยาแอร์ของเดิมเอาไว้ใช้งานต่อได้ เอาไว้ล้างท่อ ใส่ F11 แล้วอัดน้ำยาเข้าไปล้าง ไม่เสียหลายครับ น้ำยาแบ่งขายทำยังไงก็ไม่เย็น
ผมลองมาหมดแล้ว ความเย็นตอนทดสอบ อุณหภูมิได้เลขสองหลักทั้งนั้น อีกทั้งความเย็นเวลาออกมามันไม่เย็นฉำ่ชื้นใจเท่าไหร่

ลองดูครับ ใจเย็นๆก็ได้ไม่ต้องรีบมาก

ครับได้ผลยังไงจะมารายงานครับ ราวๆสิ้นเดือนครับ

[Sitti2519]

โทรไปถาม อ.ทรงเกียรติ ท่านให้คำแนะนำเหมือนที่อาจารย์ว่า คือใช้ 120 ลิตร/นาทีก็พอ เพราะค่ามากกว่านี้มันก็แค่ดูดได้เร็วขึ้นแค่นั้น
อยากถามอาจารย์ว่า 120 มอเตอร์มัน  1/2  แต่ 180 ลิตร/นาที มอเตอร์มัน 3/4 อันไหนจะทนกว่าครับ

[Sitti2519]

ตัว 120 ลิตรนี่มันจะทนแค่ไหนครับ อีกอย่างน้ำมันที่เติมมันนี่คือน้ำมันอะไรครับ น้ำมันเครื่องธรรมดานี่เหรอครับ

[Buranasak]

ท่าทางจะเอาจริงๆ เดี๋ยวผมมาอธิบายให้ครับ ตัดสินใจให้ดี เพราะซื้อมาแล้ว
เดี๋ยวจะเสียดาย ตอนซื้อมา ว่าซื้อตัวเล็กไป หรือซื้อตัวใหญ่ไป
ตอนนี้เนต ที่บ้านผมมันเน่าอยู่ครับ ใช้มือถือ ไม่ค่อยสะดวก ขอจัดการ
กับมันก่อน

[Sitti2519]

ครับผม งั้นวันนี้ขออนุญาตไปเฝ้าเทวดาก่อนครับ พรุ่งนี้ค่อยมารอฟังครับ ขอบคุณครับ คือไหนๆจะเสียตังค์แล้วก็อยากจะเอาให้คุ้มกับเงินที่เสียไปสักหน่อยครับ

[Buranasak]

เครื่องแวคคั่ม ( Vacumm Pump)

การทำ Vacuum คือการทำให้ระบบทำความเย็นเป็นสุญญากาศในระบบแอร์มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง

ก่อนที่จะทำการบรรจุสารทำความเย็นจะต้องใช้เครื่องดูดระบบให้เป็นสุญญากาศเสียก่อนและการใช้เครื่องทำ Vacuumไม่เพียงแต่การดูดอากาศออกให้หมดอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องดูดความชื้นออกมาด้วยเรียกว่า การ Dehydrating ตัว Filter Drier จะทำหน้าที่ดูดความชื้นซึ่งจะต่ออยู่ระหว่างทางออกของเครื่องควบแน่นและทางเข้าของตัวควบคุมสารทำความเย็น

[Buranasak]

ก่อนหน้าทีจะซื้อมาใช้งานผมก็ใช้เวลาศึกษาพอสมควรเหมือนกันว่า เราจะซื้อเครื่องแวคคั่มนี้ควรซื้อขนาดเท่าไหร่ึจะเหมาะ
สม อย่าซื้อเพราะว่า มันมียี่ห้อดี แรงดี เท่านั้น ต้องถามตัวเองว่าซื้อมาแล้วเราจะเอามาใช้ทำอะไร แล้วเราจะใช้ได้กี่ครั้งกันหว่า

แต่ถ้าซื้อเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อการประกอบอาชีพด้านการทำความเย็นแล้วก็ตัดสินใจได้ง่ายครับ เอาดีๆเลย งั้นลองมาดูถึงชนิด
ของเครื่องแวคคั่ม หรือเครื่องทำสูญญากาศกันก่อนนะครับ ว่าแบ่งออกเป็นอย่างไร

[Buranasak]

1.เครื่องแวคคั่มแบบธรรมดา

    เครื่องแวคคั่มแบบธรรมดา หรือ Low Vaccumm Pump เป็นเครื่องแวคคั่มปั๊มแบบธรรมดาที่นิยมใช้กันทั่วไป ใช้ได้ทั้งระบบแอร์บ้านและ
แอร์รถยนต์   เครื่องแวคคั่มแบบธรรมดา มีความสามารถในการดูดอากาศออก ทำให้สภาพกลายเป็นสูญญากาศได้ต่ำสุดที่ 25-27 นิ้วปรอท
ซึ่งในระบบแอรบ้านหรือแอร์รถยนต์ทั่วๆไป ถือว่ายังไม่ดีพอมากนัก
    ราคาไม่แพงมากนักตั้งแต่ 1,000 กว่าบาทเป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดแรงม้า ขนาดอัตราการดูดความชื้น ฯลฯ ราคาจะสูงต่ำ ตามลำดับ

[Buranasak]

2.เครื่องแวคคั่มแบบประสิทธิภาพสูง

    เครื่องแวคคั่มแบบประสิทธิภาพสูง หรือ High Vaccumm Pump เป็นเครื่องแวคคั่มปั๊มแบบประสิทธิภาพสูง นิยมใช้กันในงานระบบทำความเย็นที่ต้องใช
ต้องมีการควบคุมอย่างดี และเป็นระบบควมเย็นใหญ่ๆ ที่เครื่องแวคคั่มแบบธรรมดาทำงานได้ไม่ถึง  ใช้ได้ทั้งระบบแอร์บ้านและ
แอร์รถยนต์เช่นเดียวกัน    เครื่องแวคคั่มแบบประสิทธิภาพสูง มีความสามารถในการดูดอากาศออกได้ 100 % ทำให้สภาพกลายเป็นสูญญากาศอย่างแท้จริง
     ทำให้ราคาเครื่องสูงมาก ระดับ 20,000 บาทขึ้นไป

[Buranasak]

ผมเห็นหลายๆร้าน เวลาทำแอร์รถยนต์หรือแอร์บ้านให้ลูกค้า บางร้านไม่ได้แวคคั่ม หรือแวคคั่มเพียง 5 นาที ยังงงๆอยู่ว่า
ทำไมมันเร็วขนาดนั้น ทั้งๆที่เวลาเรียนหรือใครสอนมานั้นก็ต้องให้ทำกันอยู่แล้ว ได้รับคำตอบมาว่า แค่นี้ก็พอแล้วครับพี่...
ทำให้เป็นสูญญากาศก็พอ น้ำยามันจะได้ชาร์ทเข้าง่ายๆ....พูดปล่อยไก่มาให้ผม ผมก็รู้แล้วหละ.....มันไม่รู้จริง ไม่ละเอียดรอบคอบ

ในการทำสูญญากาศ ค่าความดนของเกจวัดความดันต่ำจะอ่าน่าไดต่ำกว่า 0 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ทำให้เราทราบว่าค่าความดันณะนั้น
เป็นสูญญากาศ งง งง ใช่ไหมครับ

คือ ในระบบแอร์ของเรา มีค่าความดันบรรกาศน้อยกว่า ค่าความดันบรรากาศภายนอก นั้นเอง ขณะนี้ ระบบแอร์ของเรา พร้อมที่จะดูด
น้ำยาแอร์ เมื่อเราเติมน้ำยาแอร์เข้าไป หรือ พร้อมที่จะดูดอากาศภายอกเข้าไปในระบบแอร์ได้ทันที เมื่อมีจุดรั่วของระบบแอร์ นั้นหละครับ
เวลาเราเช็ครั่ว ทำไมเขาให้หยุดเช็คโดยการปิดเกจดูก่อน ที่จะแวคคั่มต่อไปมันจะได้ไม่เสียเวลาต้องแก้ไขจุดรั่วก่อนถึงแวคคั่มต่อ

อันนี้เขาเรียกว่า การทำสูญญากาศนะครับ

[Buranasak]

ในการทำสูญญากาศที่ผมกล่าวในกระทู้ข้างบน จะเห็ว่าอากาศจะถูกดูดออกจากระบบแอร์รถยนต์เรา จนทำให้ระบบภายในความดันบรรยากาศต่าลง
จนเป็นสูญญากาศ แต่มีสิ่งที่สำคัญที่ต้องแยกลึกลงไปนอกเหนือจากนั้นคือ ความชื้นของอากาศ  ซึ่งจะต้องมีการดึงความชื้นออกจากระบบออกให้หมด
เช่นกัน  ต้องแยกประเด็นระว่างระบบเป็นสูญญากาศ กับ ความชื้น ออกจากกันให้ดีนะครับ มันมี 2 ส่วนที่เป็นจุดร่วมกันอยู่ เวลาเราไม่ทำแอร์ร้านที่เขาทำ
เขาทำใหเราแค่ การดึงสูญญากาศออก ให้สามารถบริการด้านแอร์ได้ง่ายขึ้น หรือ เรียกว่า ทำงานได้ง่ายขึ้นนั้นเอง แต่ลืมมอง ความชื้นของอากาศ ซึ่งเวลา
ทำแวคคั่ม ไม่ใช่อาศัยความสามารถของเครื่องอว่างเดียว ต้องอาศัยเวลาการทำงานของเครื่องด้วย ไม่ใช่ทำแค่ 5 นาทีแล้วบอกว่าดีแล้ว....ไม่ใช่ ไม่ใช่

[Buranasak]

มาว่ากันเกี่ยวกับความรู้การดึงความชื้นออกจากระบบ ( Moisture Removal) แล้วต่อไปจะได้รู้มันสำคัญอย่างไร คืออะไร

เมื่อทำสูญญากาศ ระบบจะถูกดูดอากาศออกจากระบบแอร์ ความชื้น ซึ่งปรกติจะมีของเหลวปนอยู่ด้วยนั้นจะต้องถูกดูด
ออกมาเช่นกัน นั้นคือ เป็นการลดความดันผิวหน้าของเหลว จะทำให้จุดเดือดของ ของเหลวนั้นลดต่ำลงด้วย แต่เมื่อเรา
ดูดความชื้นไม่หมด ความชื้นที่เหลือจะถูกเปลี่ยนสถานนะได้ง่ายขึ้น

ลองดูภาพที่ผมทำมาให้นะครับ เป็นตารางอุณหภูมิจุดเดือดของน้ำ ภายใต้ความดันสูญญากาศ นะ  ดูแล้ว งง งง ไหมหว่า 

[Buranasak]

จากภาพ เราจะเหนได้ว่า การดึงความชื้นออกจากระบบ ( Moisture Removal) ในขณะที่ระบบใกล้เป็นสูญญากาศหรือความสูงของปรอท
ใกล้ 29 นิ้วปรอท น้ำจะมีจุดเดือดที่ 0 องศาฟาเรนไฮน์ สามารถบอกได้ว่าไม่มีความชื้นในระบบหละ ดูจากเกจให้เข็มใกล้ 30 นิ้วปรอท
จะดีที่สุดครับ ค่าจุดเดือดของน้ำ จะเป็น 0 หรือติดลบมา จะเป็นการทำระบบสูญญากาศที่สมบูรณ์ที่สุดครับ

[Buranasak]

โอ้...อธิบายมาซะยืดยาว งง ไหมหว่า เป็นความตั้งใจของผมเองครับ เอาไว้อ่านกัน บางที่ผมก็จะลืมๆอยู่เหมือนกันครับ
หลักการเราต้องมีไว้เป็นหลักยึด  ปฏิบัติบางจุดก็ต้องใช้วิชาการ ประกอบกับ วิชาการ ปนกันเพื่อให้สามารถปิดงานได้ครับ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกันใช่ไหม อธิบายมาซะยาว เกี่ยวซิครับ....แล้วผมจะมาเขียนอธิบายให้เมื่อยมือทำไม 

[Buranasak]

คือ เราจะทำอย่างไรหละที่จะทำให้ การดึงความชื้นออกจากระบบ ( Moisture Removal) ของเราให้สมบูณณืที่สุด
โดยหลักๆแล้ว ตามที่ครู บา อาจารย์เขาสอนมา หรือตำรา ที่ผมเห็นนะครับ จะเห็นมีเงื่อนไขอยู่หลายๆข้อเหมอนกัน
ที่จะทำให้การทำสญญากาศ และสามารถ การดึงความชื้นออกจากระบบ ( Moisture Removal) ดี หรือ ดีที่สุด

คือ การทำสูญญากาศ ต้องให้ความสูงของปรอททำได้ถึง 29 นิ้วปรอท หรือ ขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย ต้องให้ได้
29 นิ้วปรอท จึงจะทำให้ความชื้นในระบบไม่มีหลงเหลืออยู่เลย ทั้งนี้ การจะทำอย่างนั้นได้ จะต้องใช้เครื่องทำสูญญากาศ
ที่มีปะสิทธิภาพ โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่า

1.ประสิทธภาพการทำสูญญากาศของเครื่องแวคคั่ม
    ผมได้เขียนไแล้วครับข้างบน เลือกเอาว่าจะจัดมาแบบธรรมดาหรือแบบประสิทธิภาพสูง (ให้ดูตามงบและสิ่งที่จะเอามาใช้ประกอบ)นะครับ
ไม่งั้นไม่คุ้ม  มีเงินซื้อ ซื้อได้ แต่ซื้อมาแล้วจะใช้สักกี่ครั้ง เอามาถอนทุน รับงานทำได้ไหม ลองคิดดูครับ

2. ระยะเวลาในการทำสูญญากาศ

   การทำสูญญากาศ นอกเหนือจากเครื่องดีแล้ว ระยะเวลาก็เป็นเรื่องสำคัญครับ เครื่องแวคคั่มประสิทธิภาพสูงก็ใช้เวลาสั้นหน่อย เพราะมันดีมาก ดูดได้ดี
แต่ถ้าเครื่องแบบธรรมดาก็ใช้เวลาานหน่อยเท่านั้น ขั้นต่ำระยะเวลาการทำสูญญากาศ อย่างน้อย 20 นาทีครับ
   เครื่องเล็ก อัตรการดูด ลิตร/นาที  ขนาดความแรงมอเตอร์ มีผลทั้งนั้นครับ

[Sitti2519]

เข้าใจครับ งั้นผมก็เลือกตัว 250 ลิตรต่อนาทีสิครับถ้าตามทฤษฎีนี้ เพราะมันดูดอากาศได้เร็วกว่า ในเวลาที่เท่ากัน ความชื้นมีโอกาสออกได้มากกว่าตัว 120 ลิตรต่อนาทีแน่นอน ถ้าใช้เวลาที่เท่ากัน

[Buranasak]

เวลาเลือกซือเครื่องแวคคั่มเนื่องจากมีผลต่อราคาการซื้อ ควรพิจารณา  ประเด็นหลักของความสามารถของเครื่องแวคคั่ม(เป็นหลัก)

1. ขนาดการดูดความชื้น (ลิตร/นาที)  อันไหนดูดได้มากก็ได้เปรียบอยู่แล้ว เลือกเอาตลาดมันทำมาเยอะ เนื่องจากผลของมอเตอร์แรงม้าขอเครื่อง

2. ขนาดมอเตอร์ ยิ่งแรงยิ่งดีครับ มีตั้งแต่ 1/4  1/2  3/4  1 HP อันนี้คงทราบกันอยู่แล้ว ยิ่งขนาดใหญ่ยิ่งแรง ยิ่งเร็วและราคาแพงตามลำดับ

3.น้ำหนักเครื่อง  ขนาดใหญ่ก็หนักนะครับ เอาไปไหนลำบาก ขึ้นที่สูงๆอย่างทำแอร์บ้านนี้ลำบากน่าดู มันหนัก ( อันนี้แล้วแต่หุ่น ความบึกบึน)

4. ราคา  ตามสบายเลยครับ

[Sitti2519]

ราคา 9900 บาท แลกกับคุณภาพและความพอใจของผลงานที่ออกมาผมรับได้ครับอาจารย์ คือผมเคยซื้อของพลาดมาหลายครั้งแล้ว อย่างประแจปอนด์ ถ้าเอา Kingtony ตั้งแต่แรก ผมก็คงไม่ต้องมาซื้อ Ampro เพิ่มอีกตัว หลายๆอย่างที่คิดว่าเราใช้แค่นี้แล้ว สุดท้ายมันก็ไม่พอเลยสักครั้ง มีล่าสุดเลยจัดโน๊ตบุ๊คมา 24000 สเปคแรง แรม 4 GB   CPU i7  เลย ไม่ผิดหวังกับเงินที่เสียไป แรงสมใจอยากเวลาทำกราฟฟิค ผมทำ DIY เปิดภาพขึ้นมาเลือก บางทีเปิดทีละ 50-60 รูปขึ้นมาพร้อมกัน ทำงานสบายๆ ถ้าได้เครื่องแว็คที่มันแว็คได้เร็วในเวลาที่เท่ากัน ผมยินดีจ่ายครับ ถือซะว่าเราคิดเป็นค่าแรงจ้างล้างแอร์ 10 ปี แถมได้ของ ทำเองได้เต็มประสิทธิภาพ แถมยังรับงานบ้างเป็นบางครั้ง ผมก็คุ้มแล้วครับ

[Buranasak]

เข้าใจครับ งั้นผมก็เลือกตัว 250 ลิตรต่อนาทีสิครับถ้าตามทฤษฎีนี้ เพราะมันดูดอากาศได้เร็วกว่า ในเวลาที่เท่ากัน ความชื้นมีโอกาสออกได้มากกว่าตัว 120 ลิตรต่อนาทีแน่นอน ถ้าใช้เวลาที่เท่ากัน

ใช่ครับ เร็วกว่า ความชื้นก็หมดจดหว่า ครับตามที่ผมบอกไป มอเตอร์ตั้ง 3/4 HP เกือบ 1 แรงม้า คามชื้นในระบบไม่หมด หรือว่า เวลาในการดูดไม่เร็วให้มันรู้ไปครับ

[Buranasak]

เรื่องว่า เครื่องแวคคั่มมันทนทานไหม อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆครับ หลักการที่เลือกซื้อก็น่าจะอยู่กับ 4 ประการข้างต้นก็น่าจะพอครับ
อย่างอื่นมันรับกันได้ เอาหลักๆ 4 อย่างนี้ก็น่าจะทำให้การเลือกซื้อในครั้งนี้คุ้มค่ากว่าครับ

ส่วนความทนทาน คงตอบไม่ได้ละเอียดแล้วแต่ผู้ผลิต คงเลือกที่มียี่ห้อหน่อยก็ดีครับ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การบำรุงรักษา การเปี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
แวคคั่ม ......เดี๋ยวมาต่อให้นะครับ ขอไปกินข้าวก่อน.......ติดตามกันต่อไป

[Sitti2519]

สมัยไปเรียนซ่อมรถภาคค่ำ ไปทุกวัน จ-ศ แต่ก่อนมี ส-อา ด้วย ผมไป 7 วันเลย ค่าแก๊สหมดเป็นหมื่นมั้ง เพราะผมจบ 150 ชม. แล้วต่อหลักสูตรใหม่ไปเรื่อย บางคนคิดว่าเปลืองตังค์ค่าเชื่อเพลิง บอกไม่คุ้ม แต่ผมกลับคิดว่าสิ่งที่เราได้มามันคุ้ม จากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างผม ให้ช่างหลอกกินตังค์ตลอด พอจะเก็บเงินหน่อย ต้องเอาไปฝากไว้ในกระเป๋าช่างอีกแล้ว โคตรเบื่อเลย มาคิดว่าเราก็คน เขาก็คน เขาทำได้เราต้องทำได้สิ ขอแค่ตั้งใจจะรับมันหรือเปล่า เงินส่วนนี้เอามาลงทุนครั้งเดียวต่อไปเราก็ใช้ของที่เรามีทำได้ตลอด ขอแค่มีคนใจดีๆอย่างอาจารย์ยอมถ่ายทอดความรู้ให้เท่านั้น เครื่องมือแค่นี้ต่อให้ต้องกัดฟันซื้อก็จะซื้อให้ได้แหละครับ ซื้อปืนผมยังหมดไปตั้งสามกระบอกแล้ว 50k ทุกกระบอก เครื่องแว็คถ้าจะเอาไม่ใช่ปัญหาครับ

[Sitti2519]

เรื่องว่า เครื่องแวคคั่มมันทนทานไหม อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆครับ หลักการที่เลือกซื้อก็น่าจะอยู่กับ 4 ประการข้างต้นก็น่าจะพอครับ
อย่างอื่นมันรับกันได้ เอาหลักๆ 4 อย่างนี้ก็น่าจะทำให้การเลือกซื้อในครั้งนี้คุ้มค่ากว่าครับ

ส่วนความทนทาน คงตอบไม่ได้ละเอียดแล้วแต่ผู้ผลิต คงเลือกที่มียี่ห้อหน่อยก็ดีครับ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การบำรุงรักษา การเปี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
แวคคั่ม ......เดี๋ยวมาต่อให้นะครับ ขอไปกินข้าวก่อน.......ติดตามกันต่อไป

ว่าไปแล้วผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกันครับ

[Buranasak]

มาต่อ....ที่ว่าประสิทธิภาพของเครื่องแตละเครื่องมีผลมากครับ เนื่องจากขนาดเล็กจะสู้แรงขนาดใหญ่ไม่ได้
สังเกตดูนะครับ

   ภาพแรกเป็นภาพการทำแวคคั่มระบบแอร์รถยนต์ โดยเครื่องนี้ผมใช้เครื่องแวคคั่มแบบลูกสูบ ออกแบบมาเฉพาะ
สำหรับการแวคคั่ม หนักแต่ทนและแรงดูดดี ทำให้ดูดได้เข็มความดันลดลงถึง - 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว  อันนี้ความชื้นในระบบ
ไม่มีเหลือเลยครับ ชาร์น้ำยาคุณภาพดีๆเข้าไป ความเย็นก็ได้เลขตัวเดียวตอนเช็คระบบแอร์ เปิดพัดลมสุด ความเย็นสุด
นี้คือ ความสามารถที่ระบบแอร์รถคันนี้ทำได้สูงสุด

[Buranasak]

ฉะนั้น เมื่อพูดถึงความสามารถของเครื่องแวคคั่ม เป็นเรื่องที่สำคัญมากว่ามีความสามารถแค่ไหน อีกทั้ง เป็นเครื่อมือและเครื่องวัด
ที่จำเป็นต้องมีความเที่ยยงตรง ไม่ควรใช้คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นเครื่องปั๊มสูญญากาศ หรือใช้คอมเพรสเซอร์แอร์ของระบบทำ
สญญากาศในตัวเอง เพราะ อัตรากำลังการดูดไม่พอแน่นอน เนื่องจากไม่ได้ออกแบบมาโดยเฉพาะ อีกทั้งคอมแอร์ไม่ได้
มีการสูบอัด ที่ดีในการทำงานแบบทำสูญญากาศ ความชื้นในระบบหลงเหลืออยู่ จำนวนมากครับ ทำแอร์ยังไงก็ไม่ดี มันไม่ดีตรงนี้หละครับ

ขออนุญาต รูปท่าน Sitti นะครับ เนื่องจากใช้น้ำยาแบบเติมมา ปั๊มสูญญากาศทำจากคอมแอร์ ความแรงไม่พอทำให้เข็มไม่สุดไปที่
-30 ปรอทต่อตารางนิ้ว  ทำอย่างไรความเย็นมันก็ไม่เป็นเลขเดียว นี้หละครับ ที่ผมพยายามอธิบายมันจะสอดคล้องกัน มันก็จริงๆครับ

[Buranasak]

ทำไมมันไม่เย็น เพราะ.....

อากาศและความชื้น ( ไอน้ำ ) ที่มีปนอยู่ภายในระบบปรับอากาศรถยนต์ เมื่อปนกันสารทำความเย็นจะเกิดผลเสียหายหลายประการ เช่น แปรสภาพเป็นกรดเกลือกัดกร่อนชิ้นส่วนภายในระบบเป็นเกล็ดน้ำแข็งขวางทางเดินของสารทำความเย็นเมื่อระบบทำงาน เกิดการอุดตันความดันขณะทำงานจะสูงผิดปกติจนอาจก่อให้เกิดผลเสียหายต่ออุปกรณ์ของระบบ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีวิธีการดึงความชื้นอกมาจากระบบ เราเรียกว่า การทำสุญญากาศหรือการทำแว็ก ( Vacuum ) ซึ่งเป็นการทำให้ภายในระบบมีความดันต่ำลงกว่าความดันบรรยากาศปกติให้มากที่สุด ซึ่ง ณ ความดันที่เป็นสุญญากาศความชื้นจะแปรสภาพเป็นแก๊สและถูกดึงออกมาจากระบบได้ง่าย


การดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบ โดยปั๊มสุญญากาศเรียกว่า การทำสุญญากาศหรือการทำแวคคั่มระบบปั๊มสุญญากาศถูกให้สำหรับลดแรงดันในระบบและอัดทิ้งสู่อากาศ ภายนอกสายท่อกลางของแมนิโฟลด์เกจจะถูกต่อเข้ากับปั้มสุญญากาศทางด้านดูดวาล์วทั้งคู่ของ เกจจะอยู่ในตำแหน่งเปิดเต็มที่ เดินปั๊มสุญญากาศให้ความดันลดลงถึง - 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว และใช้เวลาในการดูดความชื้นอย่างน้อย 20 นาที แต่ถ้าสามารถทำสุญญากาศระบบได้นานกว่านี้ก็จะเป็นการดี การใช้เวลาในการทำสุญญากาศระบบได้นานกว่านี้ยิ่งนานเท่าไร จะยิ่งทำให้การดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบดีขึ้นเท่านั้น 
--------------------------------------------------------------------------------

[Buranasak]

เมื่อเรามีการซ่อมและบริการเครื่องปรับอากาศ สิ่งหนึ่งที่ควรระวังเป็นอย่างดี คือ อย่าให้ระบบมีความชื้นหลงเหลืออยู่ภายในระบบเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ผลความเย็นของระบบปรับอากาศไม่ดีเท่าที่ควร ถ้ามีความชื้นในระบบมากจะทำให้เกิดการอุดตันความชื้นภายในระบบ (ความชื้นกลายเป็นน้ำแข็งอุดรูเล็ก ๆ ของเอกแพนชั่นวาล์วปิดกั้นการไหลของสารทำความเย็น) และยังทำให้เกิดอันตรายกับชิ้นส่วนต่าง ๆของระบบปรับอากาศอีก ด้วย

  ตัวอย่างนะครับ น้ำยา (R-12) ในทางเคมีเมื่อผสมกับน้ำแล้วจะทำให้เกิด กรดไฮโดรคลอริก  กรดที่เกิดขึ้นนี้จะกัดทำลายส่วนที่เป็นโลหะ ขอระบบปรับอากาศทั้งหมด เช่น เหล็ก ทองแดง อลูมิเนียม ทำให้เกิดเป็นออกไซด์ และจะไปอุดตันภายในระบบที่ตะแกรงกรองของรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ หรือ ทางเข้าของคอมเพรสเซอร์ได้

เย็นก็ไม่เย็น คอมก็พังกันพอดี 

[Buranasak]

การบำรุงรักษา เครื่องปั๊มสูญญากาศ ไม่ค่อยซับซ้อนอะไรมากครับ เช็คทำความสะอาดทุกครั้งก่อนเก็บ เอาผ้าคลุมไว้
ป้องกันฝุ่น แ่สิ่งที่สำคัญน้ำมันปั๊มสูญญากาศแอร์จะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อย 6 เดือนครั้งก็น่าจะพอเพียง
เนื่องจากคุณสมบัติของน้ำมันปั๊มสูญญากาศจะเป็นตัดดูดความชื้นของระบบแอร์ที่เราทำแวคคั่มอยู่ด้วย ความชื้น
จะทำปฏิกริยากับน้ำมัน จะสังเกตุว่าใช้นานๆไปสีเริ่มต้นจะใส่ๆ นานๆไปจะขุ่นไปเรื่อยๆ ต้องถ่านทิ้งเปลี่ยนใหม่ครับ
ดูแลรักษาเครื่องให้พร้อมอยู่เสมอ