ปัญหาความร้อนระบบหล่อเย็น ECT switch ECT sensor ECT gauge sending unit วาล์วน้ำ

[Sitti2519]

จากคู่มือกล่าวไว้ว่า ที่อุณหภูมิ 80-93 องศา ECT sensor พร้อมจะทำงาน รอเพียงให้วาล์วน้ำเปิดที่ 78 องศา  ให้น้ำร้อนไหลผ่าน ECT Switch ที่อุณหภูมิประมาณ 91-95 องศา (นี่คือระบบทำงานที่สมบูรณ์)พัดลมหม้อน้ำจะทำงาน ถ้าพัดลมหม้อน้ำทำงานล้มเหลวเป็นบางครั้ง บางครั้งก็ทำงาน ให้ตรวจเช็คระบบน้ำ แต่ถ้าระบบน้ำโอเค คือ วาล์วน้ำเปิด(วิธีดูก็คือเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ๆ ขณะเครื่องยังไม่ร้อนท่อน้ำล่างจะพองถ้าเราเอามือบีบดูจะแข็งต้านนิ้ว เมื่อเครื่องยนต์ร้อนจนวาล์วน้ำเปิด จะสามารถบีบท่อน้ำลงได้ง่าย) เมื่อวาล์วน้ำเปิด ถ้ามอเตอร์พัดลมปกติ วงจรไฟฟ้าไม่ขาด พัดลมจะต้องทำงาน แต่อย่าลืมเงื่อนไขคือเราได้ทำการตรวจเช็ค ECT Switch แล้วว่าอยู่ในค่าที่กำหนด วาล์วน้ำก็เปิดแล้ว คือระบบน้ำปกติ หม้อน้ำก็ไม่ตัน ให้เปลี่ยน ECT Sensor (คู่มือไม่ได้เขียนละเอียดขนาดนี้หรอกครับ แต่ผมอ่านแล้วจับใจความมาแล้วอธิบายเสริมให้จัะได้เข้าใจง่ายขึ้นน่ะครับ)

[Sitti2519]

เมื่อมาถึงตรงนี้ ECT senser คือผู้ต้องสงสัยที่สุด เนื่องจาก ในขณะที่ผมใช้งานรถช่วงแรกๆ ที่วิ่งอัดๆไปบ้าง เข็มความร้อนขึ้นเลย แต่พอใช้ไปสักพัก พัดลมก็ยังไม่ยอมทำงาน รอๆไปขับผ่อนๆไปเรื่อย หรือจอดอยู่กับที่ แต่ไม่ดับเครื่อง นานสักพัก ความร้อนมันลดลง เข้าใจว่าพัดลมได้ทำงานแล้ว เข็มจะลดฮวบลงเลย ถ้ารถจอดอยู่กับที่ แต่หยุดเปิดดูไม่ได้เพราะอยู่บนถนนที่รถเยอะมาก แต่ก็เคยดูตอนที่เข็มมันขึ้นเกือบสุด พัดลมนิ่งสนิทเลย แต่ถ้าได้หมุนแล้ว ก็จะทำงานได้ ปกติแล้ว ในคู่มือบอกว่า ECT sensor อาจจะเสื่อม ให้เปลี่ยนใหม่
  คือถ้ารู้ค่าโอมห์ ของตัวเขี้ยวเดียวว่าค่าเท่าไหร่ จบเลยครับ ฟันธงได้เลยงานนี้ ผมก็ไม่รู้ มันน่าจะเรียกเซ็นเซอร์นะ เพราะมันทำหน้าที่เป็นตัวส่งค่าความต้านทานขึ้นหน้าปัทม์ วีธีการตรวจสอบคือวัดโอมห์ครับ

[Sitti2519]

ECT sensor มันเป็นตัววัดความร้อน แปลงค่าความร้อนออกเป็นค่าความต้านทานส่งข้อมูลไปยังกล่อง ECM สเปคในชาร์ท บทที่ 11 หน้า 76 มีหน่วยเป็น kโอมห์ จากภาพ อุณหภูมิต่ำ -20 องศา ค่าประมาณ 20 k โอมห์
 30 องศา 2 k
40 องศา อยู่ที่ 1 k   100 องศา  0.25k
120 องศา อยู่ที่ 0.1 k (100 โอมห์) ถ้าอยากจะวัดจริงๆ ก็ต้องเอามาต้มดู ตามอุณหภูมิที่ว่านี้ แล้ววัดขั้วหาค่าโอมห์ ตั้งมิเตอร์ไปที่ 1k ก็ได้ครับ

[Buranasak]

ECT สวิตซ์ ตรงวาล์วน้ำ วัดโอมห์ไม่ได้นะครับ เพราะมันทำหน้าที่ตัดต่อแบบคล้ายรีเรย์  คือเมื่อความร้อนถึงค่าที่กำหนด มันจะต่อหน้าคอนแทค เรียกง่ายๆว่าสะพานไฟ ยอมให้ไฟไหลผ่าน ต่อเมื่อความร้อนถึงค่าที่กำหนด พอความร้อนลดลงก็ตัด จึงไม่จพเป็นต้องวัดโอมห์ ต้องทดสอบโดยการต้มน้ำให้ความร้อนถึงค่าที่กำหนดแล้วดูการต่อสะพานไฟครับ เมื่อเราใช้มิเตอร์แตะไว้ที่ขั้วถ้าวงจรหรือสะพานไฟต่อ เข็มมิเตอร์ก็จะชี้ขึ้น แต่ไม่ต้องไปสนใจค่ามันครับว่าขึ้นเท่าไหร่

ครับ ตัวนี้น่ะ

[Buranasak]

วาล์วน้ำ ก็เป็นตัวที่สำคัญครับ เพราะ บางทีอุปกรณ์ดีทุกอย่าง วาล์วน้ำค้างไม่เปิดหรือเปิดน้อย ไม่สุด ก็ทดสอบก็เอาไปต้มเหมือนกัน

[Sitti2519]

ครับ ตัวนี้น่ะ

ตัวนี้ ECT Switch วัดโอมห์ไม่ได้นะครับ มันทำหน้าที่เป็นสะพานไฟครับ วัดไม่ขึ้น จะวัดได้ต้องน้ำร้อนก่อนจึงจะต่อสะพานให้วัดได้ แต่เขาไม่วัดกันครับ ในภาพบนและล่างที่อ้างมาคือตัวเดียวกันครับ ติดอยู่ตรงวาล์วน้ำครับ

[Sitti2519]

ครับ ขอบคุณ ที่เสริมให้ครับ ผมเปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่เลยไม่ได้ต้มลองดูครับ ถ้าลองเปลี่ยน ECT sensor ไม่หายต้องรื้อวาล์วออกมาต้มดูอีกทีครับ ที่ไม่ได้ทดลองต้มก่อนเพราะเห็นว่าเป็นของแท้ เชื่อมั่นมากครับ เลยไม่ทดสอบ

[Sitti2519]

เมื่อเช้า ฝนตก อากาศเย็น ขับมา เข็มไม่ขึ้นร้อนเลย ชี้กึ่งกลางปกติ วิเคราะห์ครับว่ามันยังไง รอค่าการวัดโอมห์ เซนเซอร์ วัดอุณหภูมิน้ำตัวเขี้ยวเดียวอยู่ครับว่ารถที่ไม่เคยมีประวัติความร้อนขึ้นเลยค่าอยู่ประมาณเท่าไหร่ครับ  

[Buranasak]

ส่วนตัวของผม ตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องวาล์วน้ำเปิดช้าเกิน เข็มกระดิกขึ้นแล้ว
ก็ลงเมื่อ วาล์วเปิด ผมต้องการ test ระบบใหม่เองหมด ก็วางแผนไล่ระบบ
ตามคู่มือนั้นหละ แต่ต้องใช้เวลา กะจะเจาะแบบละเอียดทุกเม็ดเลย
พอดีกับท่าน จัดกระทู้นี้มาพอดี ก็ตรงตามแนวทางที่ผมวางแผนที่จะทำ
เลย ดีครับ จะเอาข้อมา share ให้เติมเต็มให้กระทู้มันสมบูรณ์ไปในตัว
เลย ในระบบ  cooling เปิดอ่านในกระทูนี้ ก็ให้จบไปในตัวเลย เหลืออีกไม่มากครับ 

[Sitti2519]

ถ้าเป็นผมผมสงสัยตัว ECT Sensor ที่สุดครับ แต่ยังไม่มีเวลาทดสอบครับ เอาออกมาต้มตั้งค่าความร้อนไว้ว่าเท่าใดแล้ววัดโอมห์ ผมว่าผมวัดไม่ผิดนะของผมวัดได้ 1700 โอมห์ แต่ค่าที่มันกำหนดมา ตั้ง 20 K โอมห์ ถ้าวัดไม่ผิดคือค่ามันหายไปมากเลย วันนี้ถ้าว่างๆฝนไม่ตกจะเอามิเตอร์ FLUK ไปวัดสักหน่อยครับ ไม่รู้เขียนชื่อมันถูกหรือเปล่าไม่ได้จับนานแล้ว ซื้อมาแล้วเข้าตู้ไม่ค่อยได้ใช้เลย เอาไว้วัดค่าไฟจาก O2 sensor บ้าง เป็นบางครั้ง

[Buranasak]

ในระบบ Cooling ของรถยนต์ เมื่อเราซ่อมแซม แก้ไขอุปกรณ์หลักของระบบ เช่น หม้อน้ำไม่รั่ว  สายยางไม่รั่ว
ปั๊มน้ำทำงานปรกติ พัดลมหมุนปรกติ สมบูรณ์แล้ว....แต่ระบบหม้อน้ำของเราผิดปรกติ เช่น ความร้อนขึ้น  พัดลมไม่หมุน
วาล์วน้ำไม่เปิด สิ่งต่อไปคงต้องหันมาดูเรื่องระบบไฟฟ้าที่เป็นตัวสั่งการ หรือตัววัด Temp ของระบบ เพื่อทำหน้าที่สั่งการทำงาน
หลายๆครั้งมาตายที่เซ้นเซอร์ หรือฟิวส์ต่างๆได้ ( เส้นผมบังภูเขา ) ที่แท้ก็อย่างอื่นไม่เสียมาเสียแค่จุดเดียวก็ตายเหมือนกัน (เครื่องจะพังเอา )

[Buranasak]

เบื้องต้น Hardware ต้องสมบูรณ์ก่อน คือ ระบบไม่รั่ว หม้อน้ำไม่รั่ว ต้องมีการทดสอบ
เหตุผลเพราะ เวลาเกิดรั่ว มันไม่ได้รั่วเหมือนท่อประปา มันรั่วซึมแบบซึมๆ เวลารั่ว มันจะหาย
ไปทันที เพราะ หม้อน้ำร้อน รั่วออกมาหาไม่เจอ เพราะ เวลารั่วมันรั่วตรงเวลาเราขับ แต่รถท่านไหน
ใส่ Coolant น้ำยาที่มีสูตรผสมการเช็ครั่วได้ จะเห็นรั่วได้ชัดเจน อันนั้นก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง

ฉะนั้น ถ้ามีเครื่องมือแบบมืออาชีพตามคู่มือ ก็ลองเช็ค ทดสอบกัน แต่สิ่งสำคัญ หม้อน้ำมีปัญหาอยู่
ต้องคอยดูน้ำตลอดครับ ไม่ให้ขาดจนกว่าจะปิดงานได้  หม้อน้ำร้อนทีเข็มดีขึ้น มันจะเหวอๆ คอยมองตลอด
ถ้ามองข้าม ท่านจะได้เครื่องใหม่ ไม่นานแน่

[Buranasak]

ที่กล่าวว่า ก่อนจะไปเช็คเรื่องอ่อน ต้องดูว่าเกิดการรั่วไหน เพราะ รถของผมทำรถเอง มีความสงสัยมานานหละ หม้อน้ำรั่ว
รั่วแน่นอน แต่มันตรงไหนหว่า นี้หละสำคัญก่อนไปเรื่องอื่นๆ การเช็คต้องเช็คตอนที่เครื่องยนต์ทำงานจริงๆ เพราะมันเกิด
Pressure ตอนเราใช้รถจริงๆ หาตั้งนานเจอที่ตะเก็บกลางหม้อน้ำแบบรั่วนิดๆ ผมเอาผ้าลองไปเขี่ยๆ ดู อื้อกระจายเลยครับ
....สงสัยต้องลงมือ ถ้าผมไม่ทดสอบผมจะรู้ไหมว่าหม้อน้ำมันรั่ว หรือรั่วตรงไหน

ต่อให้ไปซ่อมอย่างอื่นของระบบหม้อน้ำก่อน ก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดีครับ อันนี้ภาพให้เห็นชัดๆ

ฉะนั้น เช็ครั้วก่อนน่ะ ทั้งท่อยาง ทั้งหม้อน้ำ ทุกจุดนั้นหละครับ

[Buranasak]

จะเส้นผมบังภูเขา หรือ ภูเขาบังเส้นผม ก็หนีความจริงไม่ได้วันยังค่ำ เอาอะไรไปเขี่ยๆ
มันให้ความจริงเปิดออกมา จะได้รู้ว่ามันเสียจริงๆ  ไม่ต้องเสียดายมันหรอกหม้อน้ำ มีเยอะ
มากมายเป็นกอง  เรื่องรถ ต้องลดอย่างชมชื่ออยู่แล้ว ใช้ไปนานประสิทธิภาพลดลงตามกันไป

หม้อน้ำเหมือนกัน เราใช้ทุกวัน มันร้อนทุกวัน วันไหนถ้ามันป่วยหรือเสียหายเราจะร้อนไปกับมันด้วย
ฉะนั้นต้องเช็คแก้ไขก่อน

[Buranasak]

เมื่อจัดการซ่อมแซมแล้ว ลองหันมาดู Hardware ตัวอื่นต่อที่เกี่ยวกับระบบหม้อน้ำ Cooling นั้นคือ Water Pump

ไม่ต้องอธิบายการทำงานของมันน่ะ เกี่ยวข้องกับระบบ Cooling อยู่แล้ว อาการรัั่วจะเกิดขึ้น ตามซีลยางของปั๊ม ใช้นาน

คุ้มหละ อาการที่ประกอบร่วมกับปั๊มน้ำบางคันเจอคือ ใบพัดปั๊มน้ำหัก เพราะเป็นสนิม คงไม่ต้องบอกนะครับ เหมือนพัดลมที่เราใช้กัน

ลองไบพัดมันหักหรือแตกแล้วเราเปิดใช้ดูครับ ไม่เหมือนเดิมแน่ Balance มันไม่มี  ต้องเช็คน่ะ  ถ้าไม่แน่ใจตอนเปลี่ยนสายพาน

Timing และลูกลอกสายพาน ก็เปลี่ยนซะเลย ไม่ต้องมาทำกันบ่อยๆ

[Buranasak]

 ของผมต้องมาบูรณะใหม่เหมือนกัน ปั๊มน้ำรั่วหยดติ๋งๆ

[Buranasak]

จากนั้นมาดูท่อยางต่างๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหากัน เปลี่ยนได้ง่าย

[Buranasak]

นอกจากนั้น คงหันมาดูระบบไฟ เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่คุณ Sitti2519 ได้ทำไว้ก็น่าจะครอบคลุมในระบบ Cooling[/b][/size][/color]

[Buranasak]

เอาข้อมูลมาช่วย Share คุณ Sitti2519  ครับ

[Sitti2519]

ขอบคุณมากๆครับที่ช่วยเสริมจุดที่ขาดไปให้ครับ

[Sitti2519]

เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ ของญี่ปุ่น 250 บาท แท้ราวๆ 924 บาท ตอนนี้ขอใช้ของ เจแปนก่อนแล้วกันครับ เพราะงบหมด วันนี้ซื้อ ของหมดไป 6126 บาทแล้ว
ไว้เปลี่ยนอะไหล่เครื่องล่างน่ะครับ มี
บู๊ชกันโคลงหลัง 4 ตัว ๆ ละ 297
บู๊ชสวิงอาร์มหลัง 2 ตัว ๆ ละ 954
แขนยึดปีกนกบนตัวหลัง ซ้ายขวา 2 ตัว ๆ ละ 1258
ปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง 490
และตัวนี้ เขาเรียกภาษาไทยว่าสวิตซ์วัดความร้อน ECT sending unit 250
ผอมเลยครับวันนี้

เย็นนี้จะลองเปลี่ยนตัวนี้ดู แต่คงไม่ได้ลองวิ่งเป็นแน่รถติด คงวิ่งอัดเร็วๆไม่ได้ เอาไว้มีโอกาส ผลออกมายังไงจะมารายงานครับ

[Sitti2519]

จวนปิดงานแล้วครับ อีกนิดเดียวเองครับ

[Buranasak]

ถ้าเป็นผมผมสงสัยตัว ECT Sensor ที่สุดครับ แต่ยังไม่มีเวลาทดสอบครับ เอาออกมาต้มตั้งค่าความร้อนไว้ว่าเท่าใดแล้ววัดโอมห์ ผมว่าผมวัดไม่ผิดนะของผมวัดได้ 1700 โอมห์ แต่ค่าที่มันกำหนดมา ตั้ง 20 K โอมห์ ถ้าวัดไม่ผิดคือค่ามันหายไปมากเลย วันนี้ถ้าว่างๆฝนไม่ตกจะเอามิเตอร์ FLUK ไปวัดสักหน่อยครับ ไม่รู้เขียนชื่อมันถูกหรือเปล่าไม่ได้จับนานแล้ว ซื้อมาแล้วเข้าตู้ไม่ค่อยได้ใช้เลย เอาไว้วัดค่าไฟจาก O2 sensor บ้าง เป็นบางครั้ง

ส่วนตัวก็สงสัยเช่นเดียวกัน ECT = เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ  มีหน้าที่วัดความร้อนหม้อน้ำแล้วส่งไปที่กล่อง ECU  ตัวนี้ผมว่ามันเพี้ยนๆ
เพราะน้ำร้อนซะขนาดนั้นวาล์วไม่เปิดได้ยังไง  อาการของผมอยู่ในช่วงแรกๆตอนวิ่งใหม่ๆ ซึ่งเข็มจะตีขึ้นทำงานปรกติ ฉะนั้น ตัวเขี้ยวเดียว
เล็กๆ คิดว่าคงไม่เสียเป็นแน่แท้  เพราะ ทำงานตามปรกติ เวลาหม้อน้ำเดือด เข็มขึ้น


ส่วนตัวบอกตรงๆ ไม่ได้เช็ค 2 ตัวนี้เลยปล่อยทิ้งไว้ไม่เคยสนใจ นอกนั้นทำหมด ไม่รู้เพราะอะไร ปล่อยปะละเลย ทั้งๆที่สำคัญ  ดูสภาพก่อนนะครับ
ซีลคอจานจ่ายไม่ดีหละ น้ำมันเลยหยดลงมา ใส่ตัวเซ็นเซอร์ ทั้ง 2 ตัวใต้จานจ่าย  เวลาไม่มีทำ มองดูตาปริๆ  เพราะ ทุกวันเข้าบ้านก็ถึง 2-3 ทุ่ม
ก็หมดแรงแล้ว

สภาพเหมือนยาจก ซกหม๊กมากครับ อย่าเอาอย่างผม ไม่ดี ไม่ดี

[Buranasak]

เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ ของญี่ปุ่น 250 บาท แท้ราวๆ 924 บาท ตอนนี้ขอใช้ของ เจแปนก่อนแล้วกันครับ เพราะงบหมด วันนี้ซื้อ ของหมดไป 6126 บาทแล้ว
ไว้เปลี่ยนอะไหล่เครื่องล่างน่ะครับ มี
บู๊ชกันโคลงหลัง 4 ตัว ๆ ละ 297
บู๊ชสวิงอาร์มหลัง 2 ตัว ๆ ละ 954
แขนยึดปีกนกบนตัวหลัง ซ้ายขวา 2 ตัว ๆ ละ 1258
ปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง 490
และตัวนี้ เขาเรียกภาษาไทยว่าสวิตซ์วัดความร้อน ECT sending unit 250
ผอมเลยครับวันนี้

เย็นนี้จะลองเปลี่ยนตัวนี้ดู แต่คงไม่ได้ลองวิ่งเป็นแน่รถติด คงวิ่งอัดเร็วๆไม่ได้ เอาไว้มีโอกาส ผลออกมายังไงจะมารายงานครับ

ไม่เป็นไรหรอกครับ ของ Japan ก็ใช้ได้ เราทำเองได้ ไม่มีปัญหา ขอให้รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงมันคืออะไรก่อนดีกว่า
ส่วนของแท้ ถ้าไม่สบายใจ รอเงินเดือนหรือพร้อมเมื่อไหร่ค่อยเบิกมาเปลี่ยนก็ได้ครับ ไม่มีใครรู้หรอก ขอให้แค่เรารู้ว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน
ก็พอในเบื้องต้น

[Buranasak]

ECT SENSOR  ถ้ามันเจ๋งจริงก็คงต้องสรรหามาเปลี่ยนด้วย ชอให้มันรู้เถอว่าตัวไหนเสีย และได้แก้ไขแบบจบๆ

[Sitti2519]

วันนี้ทดลองเปลี่ยน ECT Sending Unit ญี่ปุ่นไปแล้ว วัดค่าโอมห์ของใหม่ได้ประมาณ 750 โอมห์ ครับ ใส่เข้าไปแล้วก็เหมือนเดิม คือช่วงแรกๆเข็มตีขึ้นแต่ไม่ถึงกับ H ขับไปนานพอสมควร เข็มค่อยลดลอง แต่ถ้าได้ลดลงแล้วก็จะไม่ขึ้นอีก ต่อให้เหยียบแค่ไหนก็ตามครับ แบบนี้คงต้องหมายหีว ECT Sensor แล้วครับ พรุ่งนี้ถ้าว่างๆจะถอดมันออกไปต้มดูหน่อยครับ ตามค่าที่กราฟมันบอกไว้ว่าจะได้ตามนั้นไหม ตัวนี้ของแท้ 1050 บาทครับ วันนี้ถามหาของญี่ปุ่น รายการนี้บอกไม่มีครับ ไม่รู้พี่ซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่ครับ 

[Sitti2519]

ผมว่าพี่เปลี่ยนตัวนี้เสร็จ อาการนี้ผมว่าน่าจะหายครับ ถ้ายังไม่หายยังมีให้ทดสอบต่ออีกสองหน้าถัดจากคู่มือที่ผมได้กล่าวไว้ คือถ้าทุกอย่างไม่เสีย มันบอกว่าเสียที่กล่อง ECM ครับ มันบอกให้เปลี่ยนกล่องครับ  เวรเลยแหละถ้าแบบนั้น แต่ถ้าเป็นผม ผมจะรื้อกล่องออกมาแกะดูเลย ยังไม่เคยดูข้างในมันเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ไม่รูมีตัวเก็บประจุอิเลคโตรไลท์ในนั้นไหม ถ้ามีมันบวมไหม ถ้าบวมก็เปลี่ยนใหม่ ถ้าแค่นี้ไม่น่ายาก แต่ถ้าต้องไล่วงจรหาจุดเสียคงไม่ไหวครับ

[Sitti2519]

ตัวล่างสุดสองตัวนี้ ช่วยกรุณาวัดโอมห์ให้ด้วยก็ดีนะครับ จะได้เอาไว้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบดีเสียได้ครับ ตัวใหม่ของพี่วัดได้กี่โอมห์ครับ

[Ko Bangplee]

ติดตามความรู้นี้อยู่ตลอดนะครับ
ได้ผู้มีประสบการณ์ทั้ง 2 ท่าน มาร่วมต่อเติมความรู้ให้สมบูรณ์อย่างนี้ พี่น้อง CIVIC คงได้ของแท้ถูกต้องไปแน่นอนครับ
และขออภัยที่มา post กระทู้แซกกลาง ทำให้ข้อมูลไม่ติดต่อ 
และขอบคุณสำหรับการถ่ายทอดวิชา  ทำให้ผมเริ่มกล้าที่จะลองรื้อดูบ้างแล้วเพราะจะดูว่าที่ใช้ผงซักฟอกล้างหม้อน้ำไปผลเสียเป็นอย่างไรบ้าง   

[Buranasak]

วันนี้ทดลองเปลี่ยน ECT Sending Unit ญี่ปุ่นไปแล้ว วัดค่าโอมห์ของใหม่ได้ประมาณ 750 โอมห์ ครับ ใส่เข้าไปแล้วก็เหมือนเดิม คือช่วงแรกๆเข็มตีขึ้นแต่ไม่ถึงกับ H ขับไปนานพอสมควร เข็มค่อยลดลอง แต่ถ้าได้ลดลงแล้วก็จะไม่ขึ้นอีก ต่อให้เหยียบแค่ไหนก็ตามครับ แบบนี้คงต้องหมายหีว ECT Sensor แล้วครับ พรุ่งนี้ถ้าว่างๆจะถอดมันออกไปต้มดูหน่อยครับ ตามค่าที่กราฟมันบอกไว้ว่าจะได้ตามนั้นไหม ตัวนี้ของแท้ 1050 บาทครับ วันนี้ถามหาของญี่ปุ่น รายการนี้บอกไม่มีครับ ไม่รู้พี่ซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่ครับ  

ผมลองเดาๆเห็นภาพลางๆแล้วว่าของท่าน  sitti2519 ถ้าเปลี่ยน ect sending unit แล้ว
ผมว่ายังไงก็ไม่หาย เพราะ ตัวที่เสียคือ ect sensor เพราะค่ามันเพี้ยนไปจากเดิมที่กำหนดแล้ว
ก็เหมือนอย่างผมนั้นหละ  ระบบมันร้อนแล้ว แต่ ect sensor มันไม่วอ่งไปบอก ecu ให้เร็ว
ๆว่า น้อนแล้วน่ะโว้ย ไปสั่งให้วาล์วน้ำเปิดได้แล้ว

ในทั้งๆที่ ect sending  unit มันก็ทำงานแล้วบอกให้เราชัดเจนแล้วว่า เครื่องเริ่มร้อนแล้วน่ะ
จะทำอะไรก็รีบทำ....เปรียบเทียบเป็นอย่างนั้น

ฉะนั้น  ของท่านเริ่มงานก่อนผม ก็ไปหา  ect sensor มาจัดเลยครับ น่าจะหาย ถ้าไม่หายเราก็ไปต่อ
เรื่องอื่น เอาแบบสุดกึ๊นเลย ซ่อมไม่ว่าขอให้ซ่อมแบยตรงจุด  click to the point นี้ซิคือ professional

ผมยังไม่ไดจัดท่าน ตอนนี้ยังไม่ถึงบ้านเลย ขั้นแรกจะเอามาทำความสะอาด ขัด วัดค่าก่อนครับ
ถ้าเสีย ผมก็คงหามาจัดเลย  ซ่าดีนัก

[Buranasak]

ติดตามความรู้นี้อยู่ตลอดนะครับ
ได้ผู้มีประสบการณ์ทั้ง 2 ท่าน มาร่วมต่อเติมความรู้ให้สมบูรณ์อย่างนี้ พี่น้อง CIVIC คงได้ของแท้ถูกต้องไปแน่นอนครับ
และขออภัยที่มา post กระทู้แซกกลาง ทำให้ข้อมูลไม่ติดต่อ 
และขอบคุณสำหรับการถ่ายทอดวิชา  ทำให้ผมเริ่มกล้าที่จะลองรื้อดูบ้างแล้วเพราะจะดูว่าที่ใช้ผงซักฟอกล้างหม้อน้ำไปผลเสียเป็นอย่างไรบ้าง   

ไม่หรอกครับ พอรู้ก็เลยเอามาเผยแพร่ ตอนนี้มีเวลารู้ แต่ไมีมีเวลาทำครับพี่

[Buranasak]

ท่านเอา ect sensor มาขัดดูก่อนครับ กระดาษทรายหยาบๆขัดให้เหลืองเลย
ไม่ต้องกลัวเสียนะครับ คราบโคลน สนิม มันฝั่งแน่น เอาให้เห็นทองเหลืองเลย
น่าจะดี ผมเคยทำมาได้ผลไม่เสียเงิน ถ้ามันเสียจริงค่อยเปลี่ยนใหม่

[Sitti2519]

ติดตามความรู้นี้อยู่ตลอดนะครับ
ได้ผู้มีประสบการณ์ทั้ง 2 ท่าน มาร่วมต่อเติมความรู้ให้สมบูรณ์อย่างนี้ พี่น้อง CIVIC คงได้ของแท้ถูกต้องไปแน่นอนครับ
และขออภัยที่มา post กระทู้แซกกลาง ทำให้ข้อมูลไม่ติดต่อ 
และขอบคุณสำหรับการถ่ายทอดวิชา  ทำให้ผมเริ่มกล้าที่จะลองรื้อดูบ้างแล้วเพราะจะดูว่าที่ใช้ผงซักฟอกล้างหม้อน้ำไปผลเสียเป็นอย่างไรบ้าง   

ผมแค่คนผ่านทางมาน่ะครับ ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ ที่ทำก็แค่ซ่อมรถตัวเองเท่านั้น คงไม่สามารถให้ความรู้อะไรท่านได้ ตอนแรกกะจะทำแบบง่ายๆให้คนมือใหม่จริงๆได้อ่านให้เข้าใจ และสามารถลงมือทำเองได้ จึงพยายามอธิบายประกอบภาพไปด้วย แต่บางทีมันก็ไม่ได้ถ่ายไว้ ขาดตกบกพร่องไปบ้าง ถ้าไม่มีคนสนใจก็กะจะจบโครงการม้วนเสื่อกลับบ้าน 55 แต่พอดีพี่ บูรณะศักดิ์ เขียนมาให้ทำต่อผมก็เลยทำต่อ เพราะเรื่องมันยังไม่จบ ผมก็ไม่ได้เป็นช่าง อาศัยอ่านคู่มือผสมเดาบ้างเพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ บางครั้งอ่านหลายกระทู้ ก็ไม่ชี้จุดให้ชัดเจน ผมก็ทำตามไม่ได้อยู่ดี เลยมีความคิดอยากช่วยมือใหม่ที่อยากซ่อมเอง แบบไม่ง้อช่าง ผมว่ามันสนุกดี ถ้าเราคิดถูก ทำถูกต้อง รถมันก็ใช้งานได้ดี ผมว่ามันเป็นงานอย่างหนึ่งที่ผมชอบทำเอง เพื่อพิสูจน์ความคิดว่าผมคิดถูกหรือคิดผิดได้ ซึ่งมันต่างจากงานประจำที่ทำ จึงลงมือซ่อมเอง เมื่อรู้แล้วก็อยากแบ่งปันความรู้นี้เพื่อเอาบุญ เกิดชาติหน้าจะได้เป็นผู้มีปัญญา เพราะเคยให้ความรู้แก่คนอื่นไว้ ต้องยกเครดิตให้พี่ท่านที่เรียกให้ผมมาเขียนต่อ เห็นไม่มีใครสนใจก็คิดว่าจะจบไปดื้อๆเหมือนกัน ผมคงไม่มีอะไรจะใหัท่านได้มากนัก แต่ถ้าได้ซ่อมอะไรไปก็คิดว่าจะเอามาลงให้ต่อไปอยู่นะครับ ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณ พี่บูรณะศักด้์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

[Sitti2519]

ท่านเอา ect sensor มาขัดดูก่อนครับ กระดาษทรายหยาบๆขัดให้เหลืองเลย
ไม่ต้องกลัวเสียนะครับ คราบโคลน สนิม มันฝั่งแน่น เอาให้เห็นทองเหลืองเลย
น่าจะดี ผมเคยทำมาได้ผลไม่เสียเงิน ถ้ามันเสียจริงค่อยเปลี่ยนใหม่

พรุ่งนี้ว่าจะถอดออกมาทำความสะอาดใหม่อีกที และลองต้ม วัดค่าดูอีกทีครับ ว่ามันได้ตามสเปคไหม ถ้าไม่ได้ก็คงต้องไปซื้อมาเปลี่ยนใหม่แหละครับ แต่กลัวพนักงานขายจะเหม็นขี้หน้าเอาน่ะครับ เดี๋ยวเขาว่าไอ้บ้านี่มาอีกแล้ว เห็นหลายรอบละ ไมมันไม่ซื้อไปทีเดียวให้มันจบๆวะ เขาคงคิดในใจอยู่น่ะครับ ร้านก็อยู่ไกลจริงๆ 
      ตอนนี้อยากทำเครื่องล่างใหม่จริงๆ เตรียมอะไหล่ไว้หมดแล้ว เหลือแค่รืัอปีกนกหลักออกมาทั้งชุดไปอัดบู๊ชใหม่ ขาดอย่างเดียวคือแรงงานครับ มีแต่ชิ้นใหญ่ๆทั้งนั้น จะไหวไหม๊ไม่รู้ คิดว่าเรื่องนี้จะเอามาลงอยู่ถ้าพร้อม

[Buranasak]

พรุ่งนี้ว่าจะถอดออกมาทำความสะอาดใหม่อีกที และลองต้ม วัดค่าดูอีกทีครับ ว่ามันได้ตามสเปคไหม ถ้าไม่ได้ก็คงต้องไปซื้อมาเปลี่ยนใหม่แหละครับ แต่กลัวพนักงานขายจะเหม็นขี้หน้าเอาน่ะครับ เดี๋ยวเขาว่าไอ้บ้านี่มาอีกแล้ว เห็นหลายรอบละ ไมมันไม่ซื้อไปทีเดียวให้มันจบๆวะ เขาคงคิดในใจอยู่น่ะครับ ร้านก็อยู่ไกลจริงๆ 
      ตอนนี้อยากทำเครื่องล่างใหม่จริงๆ เตรียมอะไหล่ไว้หมดแล้ว เหลือแค่รืัอปีกนกหลักออกมาทั้งชุดไปอัดบู๊ชใหม่ ขาดอย่างเดียวคือแรงงานครับ มีแต่ชิ้นใหญ่ๆทั้งนั้น จะไหวไหม๊ไม่รู้ คิดว่าเรื่องนี้จะเอามาลงอยู่ถ้าพร้อม

นี้หละครับเขาเรียกว่า ซ่อมแบบมืออาชีพ ไม่กลัวที่เปลี่ยน เพราะต้องการเปลี่ยนแล้วให้มันตรงจุด สิ่งที่เปี่ยนไปแล้ว
แต่ไม่ใช่ถือว่าซื้อประสบการณ์ และได้ของใหม่เป็นการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ( Preventive Maintainance )
คือ เปลี่ยนก่อนที่มันจะเสียก็แล้วกันครับ แต่เพื่อนๆถ้าทำเองไม่ได้ก็จะเสียเงินมากกว่านี้ ....ผมถึงพยายามที่จะเอาสิ่งที่ผม
รู้มาเยแพร่และทำต่อให้จบ Project คนตั้งใจ สนใจ และต้องทำอ่านแล้วเอาไปแก้ไขเอง หรืออีกนัยยะหนึ่งถ้าเอาไป
ให้ช่างทำก็จะคุยกับช่างห้รู้เรื่อง มิใช่เจอช่างแบบ ช่างเถอะ เสียเงินตลอดชาติ

ลองรื้อมาแก้ไขอีกรอบ เหมือนที่ผมบอกนั้นหละครับ เอามาขัดโดยใช้กระดาษทรายหยาบๆ ขัดให้เห็นทองเหลืองเลย
นะครับ ดูว่ามันจะไปยังไงต่อ แล้วเอามารายงานในกระทู้เล่าสู่กันฟัง

ถ้าอยู่ กทม ลองโทรไปถามร้านนี้ดูครับ ภ.เฉลิมพงษ์ อะไหล่ยนต์  แถวสายไหม อะไหล่แท้ เทียบเขามีหมด
ที่สำคัญถูกด้วย ผมเป็นลูกค้าเขาประจำ

http://www.rlaid.com/index.php?lang=th&headername= หน้าแรก&headername=

[Buranasak]

พรุ่งนี้ว่าจะถอดออกมาทำความสะอาดใหม่อีกที และลองต้ม วัดค่าดูอีกทีครับ ว่ามันได้ตามสเปคไหม ถ้าไม่ได้ก็คงต้องไปซื้อมาเปลี่ยนใหม่แหละครับ แต่กลัวพนักงานขายจะเหม็นขี้หน้าเอาน่ะครับ เดี๋ยวเขาว่าไอ้บ้านี่มาอีกแล้ว เห็นหลายรอบละ ไมมันไม่ซื้อไปทีเดียวให้มันจบๆวะ เขาคงคิดในใจอยู่น่ะครับ ร้านก็อยู่ไกลจริงๆ 
      ตอนนี้อยากทำเครื่องล่างใหม่จริงๆ เตรียมอะไหล่ไว้หมดแล้ว เหลือแค่รืัอปีกนกหลักออกมาทั้งชุดไปอัดบู๊ชใหม่ ขาดอย่างเดียวคือแรงงานครับ มีแต่ชิ้นใหญ่ๆทั้งนั้น จะไหวไหม๊ไม่รู้ คิดว่าเรื่องนี้จะเอามาลงอยู่ถ้าพร้อม

ทำช่วงล่างควรมีบล๊อคลมหรือไฟฟ้า จะดี เพราะ น๊อคอัดหนัก ยิ่งเป็นสนิมเอาออกยากมาก บล๊อคมือนี้เคล็ดเลยครับ เหนื่อยได้กำลังดีแท้

[Sitti2519]

ขอบคุณครับ ถ้ามีโอกาสคงได้วิ่งไปดูอะไหล่ที่ร้านตามลิ้งค์นี้ดูครับ

[Sitti2519]

ผมไม่ได้ซ่อมเป็นอาชีพขนาดนั้นครับ เลยไม่มีเครื่องมือขนาดนั้นครับ คงอาศัยประแจปอนด์ที่ด้ามยาวๆช่วยผ่อนแรงน่ะครับ มีอยู่ตัวหนึ่งขันได้ถึงน่าจะสัก150 หรือ 200 ปอนด์ จำไม่ได้คงมีแค่นั้นแหละครับที่ช่วยผ่อนแรงครับ 

[Buranasak]

ผมก็มีอยู่อันหนึ่ง ธรรมดาๆ ไม่ใช่ขั้นเทพเป็นราคาหมื่นๆ เอาไว้เป็นยาสามัญประจำบ้าน เวลาจำเป็นต้องใช้

[Buranasak]

แนะนำ ถ้ามีงบหาซื้อบล๊อคไฟฟ้ามาใช้ เป็นเครื่องมือประจำบ้าน เอาไว้ทำรถ เจอน๊อคตัวใหญ่ๆ ทอร์กมากๆ
มันหมดแรง ไม่ไหว ใช้พลังงานในตัวเยอะ ตัวนี้เลยครับ ปรื๊ดเดียวกระจายเลย ใช้เหมือนบล๊อคลม แต่ใช้ไฟฟ้า
ฉะนั้นเราไม่ต้องซื้อถังลมเพิ่ม สะดวกครับแนะนำ  เอารุ่นธรรมดาๆ นี้หละ ไม่ต้องไปซื้อแพง เพราะ เราไม่ได้ใช้ทุกวันเหมือน
อู่ ที่เขาต้องใช้ของแพงๆ และทนๆ เป็นอาชีพเขาหละ