ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
17 พฤศจิกายน 2024, 05:23:30
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น  |  หัวข้อ: ฝากคนกรุง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ฝากคนกรุง  (อ่าน 2425 ครั้ง)
NATASHA
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,079



« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2013, 12:55:41 »



เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เรียกประชุมรอง ผบก.น.1-9 รอง ผบก.จร. และ ผกก.ในสังกัด บก.จร. เพื่อขับเคลื่อนนโยบายแผนงานการพัฒนาและแก้ไขปัญหาระบบการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากที่มีการแถลงนโยบายการแก้ปัญหาจราจร 11 ยุทธศาสตร์ โดย พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยว่า โครงการแรกที่จะเริ่มดำเนินการ คือ โครงการถนน 10 สาย ที่มีปัญหารถติดขัดมาก ได้แก่ 1.ถนนลาดพร้าว 2.ถนนพระราม 4  3.ถนนสุขุมวิท 4.ถนนรัชดาภิเษก 5.ถนนรามคำแหง 6.ถนนพหลโยธิน-ถนนเกษตรนวมินทร์ 7.ถนนสาทร 8.ถนนราชดำเนิน 9.ถนนราชบุรี และ 10.ถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลถนนทั้ง 10 สาย ห้ามไม่ให้มีการจอดรถในที่ห้าม โดยปัจจุบันพบว่า การจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นการสร้างปัญหารถติดขัดโดยใช่เหตุ และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.นี้เป็นต้นไป และจะเริ่มประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ระหว่างวันที่ 15-20 ต.ค. หากพบการจอดรถที่ผิดกฎหมายจะดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนก่อน และจะจับปรับจริงจังเข้มข้นในวันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะไม่ใช้มาตรการล็อคล้อ แต่จะใช้วิธียกรถออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นการกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.จราจรมาตรา 57 และ 59 ห้ามจอดในที่ห้าม ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลอีกวันละ 200 บาท
 
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการเสนอห้ามรถอายุ 7-10 ปี เข้าพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ขณะนี้เป็นเพียงแนวคิด ซึ่งเหมือนกับแนวคิดของผู้ตรวจการฯ ที่เสนอเก็บค่าปรับรถเกิดอุบัติเหตุนาทีละ 100 บาท ที่ยังต้องนำไปศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดของโครงการ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และความเป็นไปได้ในการดำเนินการให้รอบด้านก่อน หลังจากนั้นก็ต้องเสนอรัฐบาล ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายกลั่นกรองกฎหมาย คณะกรรมาธิการ และยังต้องผ่านการพิจารณาของรับสภา ซึ่งหากมีขั้นตอนใดไม่เห็นด้วยแนวคิดก็ต้องยกเลิกไป ถ้าศึกษามาแล้วมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากก็มีความเป็นไปได้น้อย อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ตนไม่ได้คิดเอง แต่เป็นการเสนอจากตำรวจจราจรที่ทำงานในพื้นที่ว่า รถติดเพราะมีรถจอดเสียกีดขวางและส่วนใหญ่ก็เป็นรถเก่าเกิน 10 ปี อีกทั้งตนได้ลงพื้นที่ที่ถนนพระราม 2 รถติดกว่า 2 กม. เพราะมีรถเก่าจอดเสีย 2 คัน จึงได้บรรจุในแผนเพื่อเตรียมการแก้ไข นอกจากนี้ตนมีข้อมูลปริมาณรถเก่าเกินกว่า 10 ปี ที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันมีถึง 30% ของรถทั้งหมด ถือว่าเป็นจำนวนมาก ส่วนที่มีการชี้ประเด็นไปที่โครงการรถคันแรกที่เพิ่มปริมาณรถยนต์เข้าสู่ถนนมากถึง 9 แสนคันนั้น รถคันแรกเป็นเรื่องของเศรษฐกิจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ไม่เหมือนกรณีรถเก่าที่สร้างปัญหา ทั้งจอดเสียบ่อย ทำให้รถติดซึ่งยังกระทบเศรษฐกิจที่ต้องเผาผลาญน้ำมันเป็นจำนวนมากอีกด้วย
บันทึกการเข้า

Coupe Racing>>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,95643.0.html >> CIVIC CLUB # 672 : AYUTTHAYA
tdcub
Sponsor
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,605


No.767


« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2013, 20:48:21 »

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เรียกประชุมรอง ผบก.น.1-9 รอง ผบก.จร. และ ผกก.ในสังกัด บก.จร. เพื่อขับเคลื่อนนโยบายแผนงานการพัฒนาและแก้ไขปัญหาระบบการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากที่มีการแถลงนโยบายการแก้ปัญหาจราจร 11 ยุทธศาสตร์ โดย พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยว่า โครงการแรกที่จะเริ่มดำเนินการ คือ โครงการถนน 10 สาย ที่มีปัญหารถติดขัดมาก ได้แก่ 1.ถนนลาดพร้าว 2.ถนนพระราม 4  3.ถนนสุขุมวิท 4.ถนนรัชดาภิเษก 5.ถนนรามคำแหง 6.ถนนพหลโยธิน-ถนนเกษตรนวมินทร์ 7.ถนนสาทร 8.ถนนราชดำเนิน 9.ถนนราชบุรี และ 10.ถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลถนนทั้ง 10 สาย ห้ามไม่ให้มีการจอดรถในที่ห้าม โดยปัจจุบันพบว่า การจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นการสร้างปัญหารถติดขัดโดยใช่เหตุ และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.นี้เป็นต้นไป และจะเริ่มประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ระหว่างวันที่ 15-20 ต.ค. หากพบการจอดรถที่ผิดกฎหมายจะดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนก่อน และจะจับปรับจริงจังเข้มข้นในวันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะไม่ใช้มาตรการล็อคล้อ แต่จะใช้วิธียกรถออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นการกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.จราจรมาตรา 57 และ 59 ห้ามจอดในที่ห้าม ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลอีกวันละ 200 บาท
 
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการเสนอห้ามรถอายุ 7-10 ปี เข้าพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ขณะนี้เป็นเพียงแนวคิด ซึ่งเหมือนกับแนวคิดของผู้ตรวจการฯ ที่เสนอเก็บค่าปรับรถเกิดอุบัติเหตุนาทีละ 100 บาท ที่ยังต้องนำไปศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดของโครงการ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และความเป็นไปได้ในการดำเนินการให้รอบด้านก่อน หลังจากนั้นก็ต้องเสนอรัฐบาล ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายกลั่นกรองกฎหมาย คณะกรรมาธิการ และยังต้องผ่านการพิจารณาของรับสภา ซึ่งหากมีขั้นตอนใดไม่เห็นด้วยแนวคิดก็ต้องยกเลิกไป ถ้าศึกษามาแล้วมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากก็มีความเป็นไปได้น้อย อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ตนไม่ได้คิดเอง แต่เป็นการเสนอจากตำรวจจราจรที่ทำงานในพื้นที่ว่า รถติดเพราะมีรถจอดเสียกีดขวางและส่วนใหญ่ก็เป็นรถเก่าเกิน 10 ปี อีกทั้งตนได้ลงพื้นที่ที่ถนนพระราม 2 รถติดกว่า 2 กม. เพราะมีรถเก่าจอดเสีย 2 คัน จึงได้บรรจุในแผนเพื่อเตรียมการแก้ไข นอกจากนี้ตนมีข้อมูลปริมาณรถเก่าเกินกว่า 10 ปี ที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันมีถึง 30% ของรถทั้งหมด ถือว่าเป็นจำนวนมาก ส่วนที่มีการชี้ประเด็นไปที่โครงการรถคันแรกที่เพิ่มปริมาณรถยนต์เข้าสู่ถนนมากถึง 9 แสนคันนั้น รถคันแรกเป็นเรื่องของเศรษฐกิจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ไม่เหมือนกรณีรถเก่าที่สร้างปัญหา ทั้งจอดเสียบ่อย ทำให้รถติดซึ่งยังกระทบเศรษฐกิจที่ต้องเผาผลาญน้ำมันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

ตามแต่ผู้มีอำนาจเลยครับ ประชาชนคนธรรมดารับไป
บันทึกการเข้า


ของแต่งใหม่แท้ เทียม
คลิก>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,111129.0.html
ของแต่งมือ2 สภาพดี-มาก
คลิก>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,111327.0.html
ตี๋ tel : 089-7979-379
putirun
= ท่านชายพุธ =
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,537


พุธ..สมุทรปราการ..


« ตอบ #2 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2013, 14:07:24 »

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เรียกประชุมรอง ผบก.น.1-9 รอง ผบก.จร. และ ผกก.ในสังกัด บก.จร. เพื่อขับเคลื่อนนโยบายแผนงานการพัฒนาและแก้ไขปัญหาระบบการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากที่มีการแถลงนโยบายการแก้ปัญหาจราจร 11 ยุทธศาสตร์ โดย พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยว่า โครงการแรกที่จะเริ่มดำเนินการ คือ โครงการถนน 10 สาย ที่มีปัญหารถติดขัดมาก ได้แก่ 1.ถนนลาดพร้าว 2.ถนนพระราม 4  3.ถนนสุขุมวิท 4.ถนนรัชดาภิเษก 5.ถนนรามคำแหง 6.ถนนพหลโยธิน-ถนนเกษตรนวมินทร์ 7.ถนนสาทร 8.ถนนราชดำเนิน 9.ถนนราชบุรี และ 10.ถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลถนนทั้ง 10 สาย ห้ามไม่ให้มีการจอดรถในที่ห้าม โดยปัจจุบันพบว่า การจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นการสร้างปัญหารถติดขัดโดยใช่เหตุ และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.นี้เป็นต้นไป และจะเริ่มประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ระหว่างวันที่ 15-20 ต.ค. หากพบการจอดรถที่ผิดกฎหมายจะดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนก่อน และจะจับปรับจริงจังเข้มข้นในวันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะไม่ใช้มาตรการล็อคล้อ แต่จะใช้วิธียกรถออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นการกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.จราจรมาตรา 57 และ 59 ห้ามจอดในที่ห้าม ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลอีกวันละ 200 บาท
 
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการเสนอห้ามรถอายุ 7-10 ปี เข้าพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ขณะนี้เป็นเพียงแนวคิด ซึ่งเหมือนกับแนวคิดของผู้ตรวจการฯ ที่เสนอเก็บค่าปรับรถเกิดอุบัติเหตุนาทีละ 100 บาท ที่ยังต้องนำไปศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดของโครงการ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และความเป็นไปได้ในการดำเนินการให้รอบด้านก่อน หลังจากนั้นก็ต้องเสนอรัฐบาล ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายกลั่นกรองกฎหมาย คณะกรรมาธิการ และยังต้องผ่านการพิจารณาของรับสภา ซึ่งหากมีขั้นตอนใดไม่เห็นด้วยแนวคิดก็ต้องยกเลิกไป ถ้าศึกษามาแล้วมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากก็มีความเป็นไปได้น้อย อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ตนไม่ได้คิดเอง แต่เป็นการเสนอจากตำรวจจราจรที่ทำงานในพื้นที่ว่า รถติดเพราะมีรถจอดเสียกีดขวางและส่วนใหญ่ก็เป็นรถเก่าเกิน 10 ปี อีกทั้งตนได้ลงพื้นที่ที่ถนนพระราม 2 รถติดกว่า 2 กม. เพราะมีรถเก่าจอดเสีย 2 คัน จึงได้บรรจุในแผนเพื่อเตรียมการแก้ไข นอกจากนี้ตนมีข้อมูลปริมาณรถเก่าเกินกว่า 10 ปี ที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันมีถึง 30% ของรถทั้งหมด ถือว่าเป็นจำนวนมาก ส่วนที่มีการชี้ประเด็นไปที่โครงการรถคันแรกที่เพิ่มปริมาณรถยนต์เข้าสู่ถนนมากถึง 9 แสนคันนั้น รถคันแรกเป็นเรื่องของเศรษฐกิจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ไม่เหมือนกรณีรถเก่าที่สร้างปัญหา ทั้งจอดเสียบ่อย ทำให้รถติดซึ่งยังกระทบเศรษฐกิจที่ต้องเผาผลาญน้ำมันเป็นจำนวนมากอีกด้วย



เหนื่อยใจเลยครับพี่พงษ์  เศร้า
บันทึกการเข้า

zemix
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 190



« ตอบ #3 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2013, 21:19:22 »

พูดได้คำเดียวครับ สมองงงงงงงง!
บันทึกการเข้า
neang
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,536


เหนี่ยง no.681 คับผม


« ตอบ #4 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2013, 22:49:12 »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับพี่พงษ์  จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

จะเก่ามาจากไหน ก้อมาใหม่ที่เรา <<< ยังดี ที่มีขับ >>> RAMBO
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=91023.0
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=158209.0
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น  |  หัวข้อ: ฝากคนกรุง
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |