ประกันรถยนต์ใกล้จะหมดแล้วจะต่อประกันกับบริษัทประกันภัย ต้องทำอย่างไร ? สำหรับคนที่ยังไม่เคยต่อเพราะเพิ่งเคยทำประกันครั้งแรกการต่อประกันรถยนต์กับทางประกันไม่ยากแต่จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเข้ามาเกี่ยวด้วย การต่อประกันก็มีทั้งเราจะต่อกับบริษัทเดิมหรือจะเปลี่ยนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราได้เลย มาดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
ก่อนจะตัดสินใจต่อประกันรถยนต์ให้พิจารณาเปรียบเทียบประกันของแต่ละบริษัทประกันอีกครั้ง เพราะบางทีเมื่อเวลาผ่านไปเบี้ยประกันก็อาจจะมีการปรับขึ้นลงบ้าง หากพบว่ามีบริษัทไหนที่เบี้ยประกันถูกกว่าให้ความคุ้มครองแบบเดียวกันก็ควรจะต่อกับบริษัทใหม่ดีกว่า แต่ถ้าหากที่เดิมยังคงดีและ
เรายังยินดีจะอยู่กับบริษัทประกันภัยรถยนต์เดิมก็ทำการต่อกับที่เดิมได้เลยการต่อประกันที่ดีก็มีส่วนดีตรงที่หากเรามีประวัติในการขับรถดีจะมีส่วนลดประวัติดีด้วยนะ ซึ่งจะทำให้ได้เอามาคำนวณค่าเบี้ยประกันที่ดีกว่า
ทางบริษัทประกันภัยรถนต์ก็จะเช็คว่าประวัติเป็นอย่างไร จำนวนการเคลม อุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เราเป็นคนผิดมีไหมมีกี่ครั้ง ถ้าหากว่าผิดบ่อย เคลมเยอะเบี้ยประกันจะเพิ่มด้วยนะ และการต่อประกันรถยนต์ในที่เดิมนี้ถ้าหากมีรอยแต่ไม่แจ้งถ้าเขาตรวจพบก็กลายเป็นเราเคลมข้ามปีก็เสียเพิ่มแทนที่จะได้ส่วนลดเสียอีก
ส่วนการต่อประกันภัยรถยนต์ในบริษัทประกันใหม่ ทำได้ตลอดและก็หลายที่สามารถยกยอดประวัติดีมาให้ได้อีกด้วย แต่รถก็ควรจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่มีรอยนะ ถ้าหากมีรอยเฉี่ยวชนมายอดประวัติดีที่จะได้รับส่วนลดก็จะหายไป ยังไม่พอโปรโมชั่นของบริษัทประกันยังมีส่วนลดให้อีกหากในปีที่ 2 ในการถือประกันไม่มีการเคลมเลย ก็เหมือนเป็นแรงจูงใจให้เราอยู่กับบริษัทนี้นานขึ้น แต่มองดี ๆ ในอีกแง่คือทำให้เราไม่ประมาทในการขับรถด้วยนั่นเอง
ขั้นตอนการต่อประกันภัยรถยนต์กับบริษัทประกันภัยทำอย่างไร 1. ต้องเช็คด้วยว่าประกันภัยรถยนต์ของเราหมดอายุวันไหน เพราะจะต้องเตรียมตัววางแผนการต่อประกันว่าจะต่อกับที่เดิมหรือที่อื่น
2. โทรสอบถามรายละเอียดกับทางบริษัทเดิมเลยว่าตอนนี้เบี้ยประกันราคาอยู่ที่เท่าไหร่ ความคุ้มครองมีอะไรบ้าง พอได้รายละเอียดมาแล้วก็ลองมานั่งคิดคำนวณเลยว่าเราจะได้ส่วนลดอะไรไหม มีส่วนต่างอะไรไหม ถ้าหากมันห่างกันไม่เยอะก็อาจจะโอเค
3. ลองสอบถามเบี้ยประกันในบริษัทอื่นดีในระดับความคุ้มครองแบบเดียวกัน ค่าเบี้ยเท่าไหร่โดยประมาณก็ได้ แจ้งรถยี่ห้ออะไร ปีไหน ประวัติการเคลม การเฉี่ยวชนถ้ามี
4. เปรียบเทียบประกันลองดูว่าที่ไหนให้ราคาถูกกว่าในความคุ้มครองเหมือนกัน หรือมีที่ไหนให้ความคุ้มครองมากกว่าแต่ราคาพอ ๆ กัน ก็ให้เปลี่ยนไปต่อประกันภัยรถยนต์กับที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าแต่ราคาเท่ากัน
5. ถ้าหากบริษัทประกันรถยนต์ที่เราถืออยู่นั้นเราเคลมบ่อยแล้วต้องจ่ายเบี้ยเยอะเกินไปเกินกว่า 200 % เปลี่ยนบริษัทประกันใหม่ได้เลยไม่ต้องคิดเยอะ เพราะยังไงเราเปลี่ยนที่ก็ย่อมได้จ่ายค่าเบี้ยที่ถูกกว่านี้แน่นอน
บางทีบริษัทประกันก็เล็งจะเอาเงินกับลูกค้าเดิมในกรณีที่เคลมบ่อยได้เหมือนกันบริษัทประกันในประเทศไทยมีเยอะมากเราไม่จำเป็นจะต้องงอนง้อที่เดิมหากรู้สึกว่าความคุ้มครองไม่ครอบคลุม หรือบริการไม่ดี ศูนย์ซ่อมมีน้อย ไม่ทั่วถึงในบางพื้นที่ หรือคิดค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นเมื่อเราจะต่อประกันภัยรถยนต์กับที่เดิม เพราะการเปลี่ยนบริษัทประกันใหม่ก็เป็นสิทธิ์ของเราอยู่แล้วสามารถเลือกความคุ้มครองที่ดีกว่าในราคาที่ถูกกว่าได้เสมอ ดังนั้นใครที่กำลังต่อประกันรถ หรือกำลังมองหาประกันรถเจ้าใหม่ สามารถติดต่อ
บริษัทประกันภัย 
ที่ถูกใจ โดนใจคุณได้เลย
ผู้เขียน
