ช่วยทีคับ ผมติดเครื่องเสียงมาใช้ฟร้อนเดิม ผ่านปรี + แอมป์ มีเสียงวีด ลำคาญคับ

[noncrazy]

วิทยุผมติดมากับรถคับ dimesion 05  เป็น 2 din คับ
ต่อผ่านตัวแปลงสัญญาณให้สามารถขับแอมป์ ได้คับ
และพวงปรีแอมป์ 1 ตัว แอมป์ 4 ch. ลำโพงกลางแหลม 2 ชุด และซับวูฟเฟอร์ วอยล์คู่ คับ
ติดมาครั้งแรกไม่มีเสียงวีดคับ แต่หลังๆ มีเสียงวีดตามรอบเครื่องแต่ไม่มาก จนมาติดแก๊สคับ
มันมากขึ้นจนรำคาญคับ ไม่รู้เกี่ยวกันป่าวน่ะคับ ช่วยวิเคราะห์หน่อยคับ ว่าเกิดจากอะไร และจะต้องแก้ไขปัญหายังงัยคับ

[fomote]

  มันเป็นปัญหาโลกแตกครับ
 

[POLY EG]

ลองตรวจจุดลงกราวด์ใหม่ครับเอาให้แน่ๆๆ

แต่ผมว่าน่าจะเป็นที่ตัวแปลงสัญญาณมากกว่านะครับ

[love ek]

ลองเช็คสายต่างๆดูครับ ว่ามีขาดหรือลอกมั่งรึเปล่า 

[love ek]

ลองถอดปรีแอมป์ออก ต่อโดยไม่ผ่านปรีดูก็ได้ครับ  ว่าเสียงวีดหายไปไหม   

[tortranseng]

อ่อ ผมรู้ทางแก้ครับ ถ้าใช้ผ่านปรี + แอม ลองให้คุณ ถอดสายกาวออกตัวหนึ่ง เพราะว่าไฟ มันลงกาว ผ่านสายวิทยุ
 รถของผมติดตั้งเครื่องเสียงชุดใหญ่ แต่ปัญหาเสียงวีดก็ไม่หาย ผมเลยลองเช็คสายไฟใหม่อีกครั้ง แต่ของผมเปลี่ยน เครื่องเล่นใหม่ด้วย คือผม ไม่ต่อสายกาว กับเครื่อเล่น แต่ใช้สายวิทยุเป็นสายกาวแทน เสียงวีดจะลดลงจนเห็นได้ชัด แต่จะไม่หายร้อย% แต่ก็แถบจะไม่ได้ยินเลย แต่ถ้าลากรอบสัก5-6พันก็จะได้ยินนิดๆๆ ลองดูเเล้วกานนะครับ

[Pantamitr]

เห็นด้วยตามที่ท่านทั้งหลายแนะนำมาครับ
เพิ่มเติมครับ เช็คสายสัญญาณ ต่างๆ ว่าแน่นดีหรือไม่ โดยเฉพาะสาย RCA ต้องคุณภาพดี และต้องไม่เดินใกล้สายไฟ
นอกนั้นก็มี ลองเพิ่มสายกราว ที่ตัว Front  หรือ Pre แม้แต่แอมป์ ดูซิครับ อาจจะช่วยได้

[loukgolf]

รถผมก็เป็นครับ แต่ของผมเป็นวิทยุเดิมติดรถ และต่อกับ power amp แต่ข้อเสียของวิยุเดิม(จากที่ถามช่างมานะครับ) มันไม่มีตัวต่อสายกับpower amp  โดยตรงและที่เป็นเสียงเพราะมันอยู่ใกล้กล่อง ECU เพราะผมใช้ es04 ECU มันอยู่หลับวิทยุเลยครับ  อันนี้ช่างบอกมาครับถ้าผิดอะไร ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

[4490]

รื่อเดินระบบใหม่เนียนๆ แน่นหนาแข็งแรง เสียงใสสะอาดแน่ครับ จุดลงกราวด์ต้องขัดสีรถออกด้วยให้เห็นเนื้อเหล็ก
สายสัญญานเสียงให้เดินแยกออกจากระบบสายไฟถ้าทำตามนี้ไม่หาย ค่อยมาไล้หาจุดจากอุปกรณ์อีกที

[srithanon]

ปัญหาสำหรับเครื่องเสียงสำหรับรถยนต์ ที่มีการติดตั้งเพิ่มเติมหรือการโมดิฟายน์อุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับระบบเสียง ปัจจัยสำคัญที่ควรใส่ใจก็เรื่องของระบบกราวด์ บางท่านคิดว่าไม่สำคัญ แต่คิดผิดครับ เพราะในระบบ Sound System จะเน้นเรื่องของ Grounding and Shielding และในเรื่องของ Impedance Matching อันเป็นหัวข้อสำคัญๆ ที่แยกมาจากในเรื่องของ Acoustic Environment ในการติดตั้ง  เพื่อไม่ให้เป็นการกล่าวถึงในเรื่องของวิชาการให้ปวดหัว มากเรื่องมากความ เอาแบบพอเข้าใจไปปฏิบัติและแก้ไขได้ แบบผมๆและเพื่อนสมาชิกก็แล้วกันครับ
ขออนุญาตกล่าวถึงการรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบของคลื่นเสียงและคลื่นวิทยุ พอสังเขปนะครับ ในระบบของเครื่องเสียงที่มีการติดตั้งในรถยนต์ จะประกอบไปด้วย ตัวแอมปริไฟร์เออร์  ปรีแอมป์ ฟร้อนเอน และอื่นๆอีกหลายอย่าง ในอุปกรณ์เหล่านี้ เป็นการใชย่านความถี่ของเสียงที่เรียกว่า ย่านความถี่ต่ำ
พวก AF frequency และย่านความถี่สูง คลื่นวิทยุ RF frequency (AM/FM ) สัญญาณคลื่นที่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนในระบบของเครื่องเสียงนี้ ก็ไม่ได้มาจากอื่นไกลแต่อย่างใด มันมาจากอุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องยนต์ เช่นในระบบของการจุดระเบิดของหัวเทียน จากการสปาร์คของหัวเทียน และจากการสปาร์คของแปลงถ่านที่สัมผัสกับสล๊อตของคอมมิวเตเตอร์ ในไดน์ชาร์ท  เนื่องจากสัญญาณคลื่นที่เกิดจากการสปาร์คทั้งสองอย่างนี้ ก่อให้เกิดสัญญาณคลื่นวิทยุ ที่มีแบนด์ของย่านความถี่ของคลื่นกว้างมาก อีกทั้งยังมีความแรงของสัญญาณ ที่สูงกว่าระดับสัญญาณคลื่นปกติ เป็นพันๆเท่า
ดังนั้นมันจึงเป็นการง่ายที่สัญญาณดังกล่าว จะถูก induce หรือ coupling เข้าไปที่อินพุท ของภาคขยายเสียง ทั้ง IF amp and Power amp ได้ง่ายดาย หากว่าในระบบกราวด์ของวงจร และตัวเคสของอุปกรณ์ เครื่องเสียง มีจุดลงกราวด์ที่ไม่ดี หรือไม่ถูกต้อง หรือเรียกว่ากราวด์ลอย จุดสัมผัสระหว่างตัวเครื่องของอุปกรณ์เครื่องเสียง กับตัวถังรถ(แช็ชซิซ)  ต้องมีการต่อสายกราวด์จากตัวเคสเครื่องเสียงกับแช็ชซิซ ตัวถังรถให้ใกล้ที่สุด สายชีลที่ทำเป็นสายกราวด์ ควรเป็นสายทองแดงชุปเงินเส้นเล็กๆถัก เป็นสายแบนๆไขว้กัน ตรงปลายสายที่ต่อเข้ากับตัวกล่องเครื่องเสียงและตัวโลหะของแช็ชซิซรถ ต่อเป็นหางปลาบัดกรีด้วยตะกั่วให้เรียบร้อย และจุดที่จะยึดลงกราวด์ ควรใช้กระดาษทรายขัดให้ผิวโลหะให้สะอาด แล้วเจาะยึดด้วยน๊อตแบบมีตัวเมียขันให้แน่น แล้วทาด้วยซิลิโคลครีส กันสนิม  ส่วนสายดำที่เป็นสายลบ(กราวด์) ที่ติดมากับตัวเครื่องเสียง ก็ให้เอาลงกราวด์ที่ปลายสายกราวด์ ที่ลงตัวถังแช็ชซิซ จุดเดียวกัน 
สิ่งที่ต้องปฏิบัติก็คือ ห้ามนำสายกราวด์ สีดำที่ตัวอุปกรณ์เครื่องเสียง ที่ติดคู่กับสายสีแดงที่ไปไฟบวก ห้ามเดินสายยาวไปเข้าที่ขั่วแบ็ตเตอรี่คู่กับสายแดงนะครับ จะยิ่งทำให้เกิดการรบกวนของสัญญาณที่มาจากไดน์ชาร์ทและระบบจุดระเบิดของหัวเทียน ชนิดของสายไฟก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของการใช้กระแส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในชุดของเพาเวอร์แอมป์ ที่ใช้กระแสสูงมากๆ  ว่าควรใช้สายขนาดเท่าใด ผมคงไม่แนะนำให้นะครับ เพราะไม่ทราบว่าแต่ละเครื่องแต่ระรุ่น ใช้กระแสเท่าใด  ถามร้านที่ขายหรือที่ติดเครื่องเสียงก็แล้วกัน
ในเรื่องของการใช้วงจรฟิลเตอร์ ป้องกันการรบกวนของสัญญาณคลื่นที่มาจากอุปกรณ์ที่ผมกล่าว ปกติแล้วที่ตัวเครื่องของอุปกรณ์เครื่องเสียง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องรับวิทยุ ปรีแอมป์ เพาเวอร์แอมป์  ก็จะมีชุดของพวกวงจร กรองสัญญาณคลื่นรบกวน ที่ภาคเพาเวอร์ซัพพลาย ของเครื่องนั้นๆอยู่แล้ว เช่น AF chock  แต่เนื่องจากการออกแบบดีไซน์วงจร ไม่ได้สร้างเป็นกรณีพิเศษ เหมือนเครื่องเสียงในห้องบันทึกเสียง ที่มีคุณภาพและราคาแพง  แต่ผู้สร้างเขาแก้ไขในเรื่องของระบบกราวด์ และใช้ได้ดี หากทำตามที่เขาออกแบบไว้   
สำหรับเรื่องสายนำสัญญาณ ที่เป็นแจ็คเสียบ พวก RCA เพื่อต่อสัญญาณ จากชุดเครื่องเสียง ไปเข้าอินพุทของตัวเครื่องอื่นๆ ก็ควรใช้ของที่มีราคาสักหน่อย ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นของดีเสมอไป  สายสัญญาณที่มีหัวแจ็คที่ดีต้อง มีผิวสัมผัสเมื่อเสียบเข้าไปแล้วยึดแน่น หากหัวสายไม่แน่น สิ่งที่จะตามมาในเรื่องของการรบกวนก็ประเภทเสียงฮัม ที่ความถี่ต่ำๆ 
เรื่องของเสียงรบกวนในระบบเสียงของรถยนต์มันยังมีอีกหลายรูปแบบ แต่ที่พบเจอทั่วไปก็ดังที่เล่ามาให้ฟังนะครับ  คราวนี้ก็ขอคร่าวๆแค่นี้ก่อน  ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆสมาชิกบ้างนะครับ??.srithanon

[Pantamitr]

อีกอย่างนึง บางที ปรีฯเขาไม่ได้บุฉนวนกันไฟฟ้าเอาไว้ หรือมันอาจจะเคลื่อน ลองหาอะไรบุให้มันดีๆ ก็ช่วยได้อีกแรงครับ 

[noncrazy]

ขอบคุณเพื่อนทุกๆๆ คนเลยคับ
เดี๋ยวจะกลับไปไร้ สายกราวน์ดูอ่ะคับ
น่าจะมาจากปรีแอมป์ แน่ๆๆ เลย ขยับ VOLUME
แล้วมันมีเสียง กุกๆๆ ซ่าส์ๆๆ  แต่อีกใจ หนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นที่
ตัวแปลงสัญญาณ น่ะ  แต่ก็อีก ทำไมติดตอนแรกๆ มาไม่เป็น ได้ผลงัยจะมาบอกน่ะคับ 

[TONCIVIL]

เข้ามารับมราบข้อมูลครับผม

[gozzilla]

ของผม ทั้งวิ๊ด ทั้งแตกคับ ไม่รู้เป็นอะไรเฮ้อ เซ็ง...ไม่จบซักที

[BillyTheKid]

http://www.ss-caraudioschool.com/page6.htm

http://www.ss-caraudioschool.com/page7.htm