สินธุ์ชัย ภมรพล
ตลาดรถคอมแพคท์ในวันนี้ ถือว่ามีตัวเลือกหลายๆ ตัว มีทั้งรถรุ่นใหม่ๆ รถเก่าที่รอเวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ ที่หลายๆ ค่าย ยังพยายามปิดเงียบ ว่าเมื่อไรกันแน่ และในตลาดนี้ ก็มีความหลากหลาย ให้เลือกกันตามความต้องการ ความชอบที่แตกต่าง
และมักจะมีคำถามเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถ ว่าจะเลือกคันไหนดี โดยเฉพาะรถ 3 รุ่น ที่ถือว่ามีความสดใหม่ที่สุดในตลาดคือ ฮอนด้า ซีวิค ฟอร์ด โฟกัส และมาสด้า 3 ซึ่ง "กรุงเทพธุรกิจบิซวีค ยานยนต์" รายงาน คุณภาพการขับขี่รถและสะท้อนภาพมุมมองการตลาดของค่ายรถ
ฮอนด้า ซีวิคใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 8 และดูเหมือนว่า ซีวิค จะเข้ามาใกล้กับมาสด้า 3 และ ฟอร์ด ในเรื่องอารมณ์สปอร์ตมากขึ้นในหลายๆด้าน รวมไปถึงรูปทรง และก็อารมณ์การขับขี่ มันคือรถธงของ ฮอนด้า
ในมุมมอง ซีวิคมีการออกแบบที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ตัวรถเพรียวลม มองจากหน้าไปท้าย ดูเป็นงานชิ้นเดียว หรือจะเรียกว่าเป็นก้อนเดียวก็ได้ครับ รถดูสบายตา นำพาสายตาเราลื่นไหลไปตลอดหัวจรดท้าย ไม่มีจุดเบรกสายตามากนัก และนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ผมนิยามรูปทรงของซีวิคใหม่ ว่า สวย แต่ไม่ เด่น
รวมไปส่วนอื่นๆ เช่น ชุดไฟหน้าที่ดูแปลกตา และแปลกแนวออกไปสำหรับฮอนด้า ไฟหน้า กระจังหน้า ดูดุดัน แต่ก็แฝงความเหงาเล็กๆ เอาไว้ในใจ ด้านท้ายไฟทรงกลมคู่ในโคมครึ่งวงกลม ก็ดูสวยงาม แต่ไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
ส่วนภายใน การออกแบบเบาะของซีวิค ทำได้ดีครับ ดูสวยงาม นั่งสบาย และให้ความรู้สึกโล่งโปร่ง สบายตา เพิ่มลูกเล่นกับชุดมิเตอร์แบบ มัลติเพล็กซ์ มิเตอร์ โทนสีฟ้า ดูสวยงามเย็นตา และการออกแบบพื้นที่รอบๆ มิเตอร์ พวงมาลัย จากมุมมองของผู้ขับขี่ดูทันสมัยครับ แต่ว่าด้านผู้โดยสารด้านหน้า ดูจะมีความแตกต่างเกินไป ก็เลยทำให้อารมณ์ติดขัดเล็กน้อย
แต่ว่าในส่วนการออกแบบอื่นๆ ในห้องโดยสาร ถือว่า ซีวิค ทำได้ดีครับ
ส่วนมาสด้า 3 คันที่นำมาเปรียบเทียบนี้ เป็นรุ่น 4 ประตู ซึ่งการออกแบบเป็นที่รู้กันว่าให้อารมณ์สปอร์ตอย่างชัดเจน ตัวรถแบบ 3 กล่อง ออกแบบให้ดูคล้ายๆ รถ 2 กล่องครึ่ง โดยแยกส่วนของกล่องแรกเอาไว้เก็บเครื่องยนต์ชัดเจน ขณะที่ห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระ ออกแบบให้ดูคล้ายกับรถคูเป้ ที่มีกระโปรงท้ายสั้น แต่ว่าตัวพื้นที่เก็บของไม่ได้สั้นตามมุมมองที่เห็นภายนอก เรียกว่าซ่อนรูปเอาไว้ ไฟหน้าทรงเรียว เล็ก แหลม เฉียวขึ้นด้านบน กระจังหน้าซี่แนวนอน ให้ความรู้สึกดุดันมากขึ้น ขณะที่โคมไฟท้าย ก็ออกแบบให้มีแนวคิดเดียวกับโคมไฟหน้า และซ่อนดวงไฟทรงกลมไว้ภายใน 3 ดวง ทั้งไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟถอยหลัง
ภายในมาสด้า 3 เน้นรูปแบบสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่ค่อนข้างจะโอบกระชับ รูปทรงของมิเตอร์ คอนโซลหน้า คอนโซลกลาง ไม่สลับซับซ้อนมากนัก ออกแบบง่ายๆ แต่เน้นให้ดูสปอร์ต เช่นมาตรวัดทรงกลม และชุดควบคุมเครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ คุมด้วยไฟโทนสีแดง เมื่อเปิดไฟหรี่หรือไฟหน้า เช่นเดียวกับไฟที่มิเตอร์ต่างๆ
อารมณ์จากการนั่งภายในมาสด้า 3 จะต่างจาก ซีวิค เล็กน้อย โดยซีวิค รู้สึกโล่งกว่า ขณะที่มาสด้า 3 จะออกไปทางสปอร์ตมากกว่า ทีนี้ก็แล้วแต่ใครชอบครับ
แต่ว่าคันที่นำมาขับนี้ เป็นรุ่นแต่งพิเศษของมาสด้า โทนสีแดงทั้งพวงมาลัย คันเกียร์ หรือว่าคอนโซลหน้า โดยส่วนตัวผมแบบพื้นๆ ที่ใช้สีดำดูดีกว่าครับ
ฟอร์ด โฟกัส รุ่น 5 ประตู ก็ออกแบบภายในให้อารมณ์สปอร์ตเช่นกัน เบาะนั่งแบบกระชับลำตัว ขณะที่คอนโซลหน้า และอุปกรณ์ต่างๆ ยังคงให้อารมณ์ของรถอเมริกัน คือ ไม่เน้นอ่อนช้อย เอาบึกบึนเข้าว่า ก็สวยไปอีกแบบครับ แต่ติดอยู่นิดเดียวตรงที่คอนโซลกลางดูจะรบกวนหัวเข่าด้านซ้ายสักหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
แต่รูปทรงด้านนอกนี่ผมชอบนะ ดูสวยลงตัว ไม่หวือหวามากนัก แต่ก็ไม่เชย มองได้นาน ดูคล้ายๆกับรถคอมแพคท์ 3 ประตู ไฟท้ายที่ยกขึ้นสูงดูแปลกตา แต่ฟอร์ดก็ไม่ทำให้ไฟดูลอยเกินไป ด้วยการออกแบบกันชนทรงบึกมาถ่วงน้ำหนักได้อย่างลงตัว ซึ่งด้านท้ายของโฟกัส ผมชอบมากกว่าด้านหน้าครับ
พูดถึง โฟกัส 5 ประตู ก็ให้เสียดายว่า ถ้าฟอร์ด (หมายถึงบริษัทแม่) ตัดสินใจเปิดตลาดด้วยรุ่น 5 ประตู น่าจะสร้างกระแสได้แรงกว่านี้ แต่การเอารุ่น 4 ประตู ซึ่งดูไม่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ มากนักเข้ามาก่อน ทำให้ดูธรรมดาเกินไป และเมื่อถึงเวลาเปิดตัวรุ่น 5 ประตู มันก็เหมือนกับคนเรารับข้อมูลไปแล้วบางส่วน ทำให้ไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร คิดเหมือนผมไหมครับ
จะเห็นว่า รูปแบบของรถ ฮอนด้า เน้น งานที่ไม่มีที่ติ ให้ความสำคัญของรถธงในตลาด ในขณะที่ มาสด้า 3 ตอบโจทย์เรื่องการตลาด ซูม ซูมของตัวเอง ชัดเจน มีเพียงค่ายฟอร์ดเท่านั้นที่ อยู่กึ่งกลาง จุดแข็งแกร่งและสปอร์ตเหมือนจะแบ่งที่จุดยืดในตลาดไม่ชัดเจน
แข่งเครื่องยนต์แข่งภาพลักษณ์เทคโนโลยี
มาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ขนาด DOHC 4 สูบ แถวเรียง 1,999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 181 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แอคทีฟเมติค ระบบกันสะเทือนด้านหน้า อิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท ช็อคอับ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลัง อิสระ มัลติลิงค์ ช็อคอับ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ใช้ล้อขนาด 205/50 R17
ฟอร์ด โฟกัส ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ดูราเทค 1,999 ซีซี ให้กำลัง 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซีเควนเชียล สปอร์ต ชิฟท์ ช่วงล่างด้านหน้า อิสระแมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง อิสระคอนโทรล เบลล์ มัลติลิงค์ คอยล์สปริง ใช้ยางขนาด 205/55 R 16
ฮอนด้า ซีวิค ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตรที่ 4,200 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบเกรด โลจิก คอนโทรล และ ไดเรค คอนโทรล ช่วงล่างหน้า อิสระแมคเซอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง อิสระ ดับเบิล วิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง ใช้ล้อขนาด 205/55 R16
จะเห็นว่า ฮอนด้า วางภาพของตัวเองเป็นเครื่องยนต์ ตามสโลแกน เอ็นจิ้น คือ ฮอนด้า ฮอนด้าคือ เอ็นจิ้นและเป็นจุดแข็งของซีวิคใหม่อย่างเหนือคู่แข่งในขณะที่สองรถใหม่จากฟอร์ดและมาสด้า จะต้องเหลียวดูสิ่งที่ฮอนด้าทำ