ครับ วันนี้ก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันอีกแล้วครับ เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่าสองสามวันที่เกิดมาฝนตก ทำให้ถนนบางสายเกิดน้ำขังบนผิวถนน ซึ่งบางทีท่วมเกือบครึ่งล้อรถก็มี(เจอมากับตัวยังงงเลยครับ) ซึ่่งก็สังหรณ์ใจอยู่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรกับรถผมหรือเปล่า ก็เป็นไปตามคาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไฟเอ็นจินโชว์ ทั่งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้ให้เห็น(หลังจากติด Lamda แล้ว) ผมเองก็ไม่รู้ทำยังไง วันจันทร์ตอนบ่ายผมก็เอารถไปให้เขาจูนตามปกติ คราวนี้ซิครับเล่นเอาหงุดหงิดเลย จูนเท่าไรเอ็นจินก็โชว์ ทั่งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เอามาจูนครั้งนึงก็จบ ถ้าเพื่อนๆจำได้ ทุกครั้งที่ผมเปลี่ยนน้ำมัน ระบบมิกซ์ของคนอื่นต้องจูนทุกครั้งที่เปลี่ยน แต่ของผมนานมากถึงจะจูนที ครั้งนี้จูนไปเกือบห้าครั้ง ทำเอาผมหงุดหงิดไปเลยเหมือนกัน เจ้าของร้านเขาก็เข้ามาคุย บอกว่าเห็นผมแนะนำคนโน้นคนนี้ให้ไปที่ร้านเขาติดหัวฉีด แต่ทำไมผมไม่เปลี่ยนเป็นหัวฉีด ตอนแรกพูดจริงๆเลยว่าที่ไม่เปลี่ยนเพราะว่าระบบแก็สไม่มีปัญหา จูนแล้วจบ ผมก็เลยไม่อยากเสียเงิน แต่จริงๆแล้วผมเองก็เคยเปรยๆกับเจ้าของร้านไว้ก่อนปีใหม่ว่าถ้าเกิดว่ามีงบผมก็อยากทำเหมือนกัน และอีกใจนึงผมยังคิดว่าจะคุ้มไหมถ้าจะเปลี่ยนจาก LPG เป็น NGV ไปเลย ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับNGVผมขอไว้พูดตอนท้าย มาต่อที่ LPG ก่อน เท่าที่ผมสังเกตมาหลายๆครั้ง และหลายๆร้าน ส่วนใหญ่เขาจะเปลี่ยนจากระบบมิกซ์ที่มีLamda มาเป็นหัวฉีดกันหมด และเท่าที่สังเกต(จากเพื่อนๆที่ผมแนะนำไปหรือเท่าที่อ่านจากเวป ทั้งในนี้และนอกเหนือจากนี้) ส่วนใหญ่หัวฉีดจะจบกว่า แต่บางทีอาจจะไม่จบ อันนี้ผมไม่ขอพูดถึง วันนี้ก็ต้องยอมรับน้ำใจเขาจริงๆ เขาเองบอกว่าถ้าเปลี่ยนก็ให้ราคาพิเศษไป ซึ่งราคานี้ผมคงไม่สามารถบอกให้ทราบได้นะครับ แต่เท่าที่ฟังราคามาแล้ว ก็มาคิดถึงว่าระบบมิกซ์ติดและใช้ไปแล้วกว่าหกหมื่นโล ซึ่งก็คุ้มทุนไปแล้ว และการเปลี่ยนจากมิกซ์เป็นหัวฉีด นอกจากจะได้ความประหยัดขึ้นแล้ว อัตราการเร่งก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญเรื่องการจูนก็ง่ายกว่ามิกซ์แน่นอน ไหนๆผมก็ใช้รถพอสมควร ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนไปเลยดีกว่า
มาดูของเก่าก่อน อันนี้ตอนเป็นมิกซ์+Lamda Control
เกย์แก็สตัวเดิม
ซึ่งแก็สระบบมิกซ์+Lamda Control ผมจำได้ว่าผมใช้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2006 ซึ่งก็ใช้ไปเกือบหกหมื่นโล(หลังจากที่ใช้น้ำมันสี่หมื่นโลแรก) ก็ทำการเปลี่ยนระบบแก็สจากมิกซ์มาเป็นหัวฉีดซะเลย มาดูกันครับ
ช่างเขาทำการรือกรองต่างๆออก เพื่อเดินสายท่อแก็สและระบบหัวฉีดใหม่
จากเดิมเป็นหม้อต้ม
เปลี่ยนมาเป็นสายต้มสำหรับหัวฉีดแทนครับ
ซึ่่งเดิมการทำให้แก็สร้อนต้องใช้หม้อต้มเป็นตัวทำ แต่คราวนี้เขาความร้อนของน้ำที่อยู่ในระบบเครื่องแทนครับ โดยใช้สายเส้นข้างล่างนี้เป็นตัวผ่าน
อันนี้คือสายที่ทำให้แก็สร้อนตามอุณหภูมิ
ให้สังเกตดีๆ มีบอกไว้เลยครับว่าน้ำเข้ากับน้ำออกครับ
ตอนนี้เขากำลังวางสายท่อน้ำอยู่ครับ
หลังจากนั้นเขาก็เอาไอดีออกมาเจาะเพื่อที่จะติดหัวฉีดร่วมเข้าไปครับ
อันนี้คือหัวฉีดที่ใช้
เบอร์ 15 ครับ
ก็เอามาต่อที่เจาะเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งที่เจาะเขาต้องรอให้แห้งก่อนแล้วถึงจะติดเข้าไปได้ครับ
ก่อนที่เขาจะเอาไอดีมาประกอบ เขาเอาลมเป่าเพื่อให้เศษหรื่อฝุ่นต่างๆออก เพื่อไม่ให้ลงไปสู่เครื่องครับ
รูปนี้เขาประกอบไอดีเข้าไปแล้วหลังจากทำความสะอาด
ซึ่งตัวต่อมาที่จะใส่ตามก็คือลิ้นปีกผีเสื้อ ซึ่งเท่าที่ดูสภาพก็สกปรกพอสมควร ผมก็เลยให้ช่างเขาทำความสะอาดก่อนที่จะใส่ลงไปใหม่ครับ
หลังจากนั้นเขาทำจั้มสายไฟต่างๆทั้งในรถ(ลืมครับไม่ได้ถ่ายไว้) และนอกรถ
ซึ่งเมื่อทำเสร็จ ก็พร้อมเสียกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งไปแล้วได้เลยครับ
เมื่อเสียบสายไฟเสร็จ รูปนี้เป็นการตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนใส่กรองอากาศลงไป
หลังจากนั้นก็ทำการสตาร์ทเครื่อง ด้วยที่เราถอดท่อน้ำต่างๆออก ทำให้น้ำในระบบเครื่องไหลออกมาเหมือนตอนเปลี่ยนสายพานเครื่อง ก็เลยให้ช่างเขาเติมน้ำยาหม้อน้ำใหม่ให้เลยครับ
นิดนึงสำหรับเรื่องหม้อน้ำ บังเอิญว่าคันข้างๆเป็นอีกรุ่นนึง ซึ่งรถเขาไม่ใช้น้ำยาหม้อน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือสนิม เท่าที่เห็นจากวาวล์น้ำ สนิมเกาะเต็มไปหมด แล้วคิดดูว่าระบบน้ำในเครื่องจะเป็นยังไง
ดับเครื่องแล้วสตาร์ทเครื่องอีกครั้งหลังจากเติมน้ำไปแล้ว เพื่อเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก็ส หลังจากนั้นช่างก็ดับเครื่อง แล้วช่างเขาก็เช็คจุดรั่วต่างๆว่ามีการรั่วหลังจากดับแก็สแล้วหรือไม่
หลังจากนั้นก็ทำการจูนโดยสตาร์ทเครื่องแล้วใช้คอมจูนให้ได้ค่าที่แน่นอนอีกครั้ง ก่อนเอาไปวิ่งจูนอีกทีครับ
หลังจากนั้นเจ้าของร้านเขาเอาไปวิ่งจูนเองเลยครับ ซึ่งหลังจากจูนเสร็จผมก็กลับ เท่าที่สังเกตดู รู้สึกได้เลยว่าวิ่งกว่ามิกซ์แน่นอน บางจังหวะยังนึกเลยว่าระบบเปลี่ยนเป็นแก็สให้หรือยัง เพราะว่าเนียนเหมือนน้ำมันมากครับ
หลังจากกลับถึงบ้านก็ทำความสะอาดนิดหน่อย อันนี้คืองานที่เขาติดตั้งเสร็จแล้วครับ
จะเห็นได้ว่าไม่ต่างกับรถที่เป็นน้ำมัน ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้
อันนี้คือตำแหน่งจุดจ่ายแก็สเข้าหัวฉีดครับ
อันนี้คือสายจากจุดจ่ายเข้าหัวฉีดครับ
นี้คือเกย์วัดแก็สอันใหม่ครับ เห็นได้ว่าโป๋ไปเลย เพราะว่าอันเก่าใหญ่กว่า คงต้องไปหาที่ปิดรูแล้วเจาะใหม่อีกทีครับ
อันนี้เป็นกิโลที่เริ่มติดแก็สระบบหัวฉีดไปครับ
ก่อนเข้าบ้านผมก็เติมแก็สเต็มถังไว้ คราวนี้คงต้องมาดูอีกทีว่าจากมิกซ์เปลี่ยนเป็นหัวฉีดอัตราการกินแก็สจะเป็นยังไงบ้าง ในเมือง นอกเมือง ต่างกันขนาดไหน ไว้ผมจะเอามาฝากกันอีกที
เรื่องสุดท้าย ก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับ NGV สำหรับท่านใดที่คิดจะติดอยู่แล้ว ก็ติดได้เลย อย่ารอให้แก็สมันขึ้นไปกว่านี้แล้วค่อยติด(เหมือนLPG) แล้วแก็ส NGV จะขึ้นหรอ? จริงๆแล้วยังมีหลายๆคนไม่ทราบว่า ราคาแก็สที่เขามาขายเรา 8.50 บาทนี้ เขาเป็นราคาที่ชักจูงให้ใช้ จริงๆแล้วค่าการตลาดของ NGV จริงๆเท่าที่ทราบ(จากคนที่อยู่ในวงการแก็ส NGVเลยครับ) อยู่ที่ 11-12 บาท แรกๆนี้คงยังไม่ขึ้นหรอกครับ แต่ว่าถ้าเกิดว่าคนใช้เยอะขึ้น ราคาแน่นอนคงต้องขึ้นตาม ซึ่งอันนี้เป็นจุดแรกที่ผมไม่เปลี่ยนไปใช้ ไหนๆใช้ NGV ก็ต้องขึ้น ผมใช้ LPG ไปก่อนดีกว่า ยังไงก็ถูกกว่าน้ำมันอยู่ดี อีกอย่างนึง เรื่องปั้มนี้เป็นปัญหาใหญ่ เวลาเติมทีรอคิวเหมือนกับขอทานอะไรประมาณนั้น คิวยาว บางทีจะเติมแก็สหมด ไปต่างจังหวัดก็หาเติมยาก ที่มีเติมทีก็รถเพียบ อย่าเจอพวก18ล้อที่รอเติมนะครับ เพราะว่าพวกนี้เวลารู้ว่าจุดเติมอยู่ไหน ก็ไปออเติมกันที่นั้น กว่าจะถึงรถบ้านอย่างเราๆ ก็ใช้เวลารอพอสมควรเหมือนกัน ราคาติดตั้งที่สูงแบบว่าไปดาวน์รถใหม่ได้ ทำให้เป็นอีกจุดนึงที่ยังไม่น่าใช้ในตอนนี้(เป็นความคิดส่วนตัวเท่านั้น)
ส่วนคนที่จะติดแก็ส ถ้าเป็นรถใหม่ๆยังไม่เคยติดแก็สมาก่อน ไม่ว่าเป็น LPG หรือ NGV ก็ชั่งใจดูว่าการใช้งานเป็นยังไง คุ้มกับทุนที่ลงไปไหม ศึกษาให้ดีๆก่อนที่จะติด แล้วต้องยอมรับกับสิ่งที่จะตามมาหลังจากติดแก็สให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาต่างๆ อาจจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคัน ก็ขอให้มีความสุขกับการใช้พลังงานทางเลือกอีกทางนึงซึ่งประหยัดกว่าน้ำมันที่ลิตรละ30กว่าบาท และเป็นไปได้ว่าอาจจะเห็น 40 บาทต่อลิตรอันใกล้นี้ครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ พี่พากษ์และคุณยุทธ แห่ง Highway ที่อนุญาตในการถ่ายภาพและให้ข้อมูลต่างๆในการติดตั้งมาให้เพื่อนๆในเวปได้ชมกันมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ