sp6914
เข้าวงการ
ออฟไลน์
กระทู้: 27
|
|
« ตอบ #840 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2008, 08:54:13 » |
|
รบกวนไปดูที่หน้า 16 ครับ จอยู่ใต้กรองเลยครับ มันเลยร้อน แล้วดันเป็นแบบ 1 โอมอีก (เพิ่งรู้ว่ามันมี 3 โอม) ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆ ท่อไอดีเลย แต่ไม่ทันแล้ว ติดมาแล้วนิ ใช้ก็ไม่มีปัญหานะครับ ตอนนี้ก็รอ ว่าจะลองใส่กรองเปลือยดู จะช่วยลดความร้อนได้ไหม ถ้าไม่ดีขึ้นคงต้องย้ายชุดหัวฉีดขึ้นมาข้างบนแล้วครับ จะมารายงานให้ทราบอีกทีครับ น่าจะเป็นบริเวณเดียวกันน่ะครับ เด๋วยังงัยจะลองถามพี่ที่เค้าติดอีกที ถ้าเป็นตัว AG หัวแดง 3 โอห์ม ติดที่เดียวกันนี้มันจะไม่ร้อนและมีปัญหาหรือครับ ขอบคุณครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 มิถุนายน 2008, 09:03:06 โดย sp6914 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
capa
ชาวยุทธ
ออฟไลน์
กระทู้: 1
|
|
« ตอบ #841 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2008, 22:50:24 » |
|
มีซีวิคคันไหนติดแก็สแล้วบ้างคับ เอามาแบงบันความรู้กันหน่อยคับ พอดีของผมเอาไปติดอยู่ ถ้าได้ก่อนจะมาอัพเพิ่มให้ ถ้าใครใช้อยู่ก็Commentไว้ได้เลยคับป๋ม รถของดิฉัน CIVIC เตารีด ปี95 1.5 AUTO ค่ะติดแก๊สประมาณเดือน ก.ค-ส.ค.50 ขับไปไกลๆครั้งแรกที่ติดตั้ง จ.ราชบุรี ไป-กลับ ไม่มีปัญหาใดๆ ความประหยัดไม่ต้องพูดถึง ต่อมาไปจ. อุทัยธานี คราวนี้เกิดเหตุค่ะ ขากลับเข้า กทม.เครื่องร้อน หม้อน้ำแห้ง เครื่องดับกลางทาง เลยจอดพัก เติมน้ำ ไปต่อได้ ต่อมาหลังจากใช้มาเรื่อยๆรถเริ่มสั่น (เครื่องเดินไม่เต็มสูบค่ะ )ช่างเลยจัดการล้างเครื่องเปลี่ยนหัวเทียน และก็กลับมาปกติค่ะ แต่จากนั้น ใช้มาเรื่อยๆอีก ปัญหาเกิดตรงที่ความร้อนขึ้นสูงจนสุดสเกล หม้อน้ำเดือด จนน้ำทะลัก ออกจากที่สำรองน้ำ แต่ก็เล็กน้อยค่ะ ทีนี้เริ่มเช็ค 1.ส่งใช้ช่างหม้อน้ำเช็ค (หม้อน้ำก็ไม่ตัน) 2.เช็คพัดลมหน้าหม้อน้ำ(แบบดูด) ระดับความแรงปกติ (ตัวควบคุมการหมุนมันเสื่อมค่ะ) อ่ะซื้อเปลี่ยน พัดลมทำงานปกติ 3.พ่อเข้าใจว่าการระบายความร้อนมันไม่พอ ท่านเลยซื้อพัดลม (แบบเป่า) มาติดตั้งอีกด้านของหม้อน้ำ และให้มันเป่าๆตลอด ทำงานคู่กับตัวเดิม ที่ทำงานเดินๆหยุดๆ คราวนี้ก็ขับไป ชลบุรี ก็หม้อน้ำเดือดค่ะ ขึ้นสุดสเกล แต่พ่อบอกว่าถือว่าปกติเพราะความร้อนขึ้น ช่วงใกล้ถึงบ้านที่ชลบุรี ลืมบอกค่ะความร้อนขึ้น แต่จะลดลงเมื่อพัดลมทำงานพร้อมกัน 2 ตัว และรถวิ่งยาวๆ ไม่รถติด หรือจอดรอสัญญาณไฟ แต่จะบอกว่าไม่ค่อยสบายใจค่ะ เวลา เห็นความร้อนขึ้น แม้รถจะไม่ดับก็ตาม กลับถึงบ้านต้องเปิดกระโปรงรถ รีบระบายความร้อน เห็นน้ำในตัวสำรองน้ำเดือด อู้ยสงสารรถ แต่ต้องใช้ คำถาม 1.ใครพอจะมีวิธีแก้ไขให้หม้อน้ำมันไม่เดือดเกินเหตุแบบที่เล่า บ้างไหมค่ะ 2. การวิ่งสลับเชื้อเพลิง ควรใช่น้ำมันกี่กิโลเมตร ใช้แก๊สกี่กิโลเมตร ถึงจะถนอมเครื่องยนต์ :'(
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 902
I love my CIVIC.
|
|
« ตอบ #847 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2008, 12:02:35 » |
|
หัวฉีดครับ
โทษทีเมื่อกี่ไม่ได้ทันอ่านว่าเป็นระบบอะไร - เครื่องสั่นที่เกิดจากวาล์วห่างก็คงเป็นได้ เมื่อตั้งแล้วเครื่องก็จะเดินเรียบขึ้นไม่สั่น - อีกสาเหตุนึงที่ทำให้สั่นได้ก็คือ ลิ้นปีผีเสื้อสกปรก เนื่องจากว่าก่อนติดแก็สเราวิ่งมานาน อาจจะมีคราบฝุ่นต่างๆจับตามปีกผีเสื้อและตัวSersorเดินเบาที่ติดอยู่ลิ้นปีกผีเสื้อ ตอนเป็นน้ำมันอาจจะไม่สั่น แต่เมื่อเป็นแก็ส อาการนี้จะเกิด ก็แค่เอาไปให้ที่ร้านเขาล้างปีกผีเสื้อ แค่นี้รอบเดินเบาก็จะนิ่งไม่สั่นเช่นกัน -อีกจุดนึงก็มาจาก การจูนแก็สจากคอม ตอนแรกที่เราติดไป เขาจะให้เราใช้ไปก่อน แล้วถ้ามีอาการสั่นหรือผิดปกติ เขาก็จะให้เข้ามาจูนอีกที ซึ่งถ้าเป็นระบบหัวฉีด ไม่ควรจะเกิน3ครั้ง(หลังจากติดแก็สเสร็จใหม่ๆ และมีการใช้งานแล้ว) จูนก็จะนิ่งขึ้น -และอีกจุดนึงที่ไม่น่าเชื่อ(ที่ผมเจอก็คือ) ยางแท่นเครื่อง ของผมตอนนั้นสั่นมาก แบบว่าสั่นจนเห็นได้ชัด จูนนิ่งแล้วก็สั่น น้ำมันก็สั่นคล้ายๆกัน เช็คไปเช็คมา ยางแทนเครื่องตัวหน้าขาด หลังจากเปลี่ยนไปก็นิ่งขึ้น(และอีกสักพักนึงยางแทนเครื่องตัวขวา ที่เป็นตัวสำคัญก็เริ่มหมดอายุแล้ว อาการสั่นก็เห็นได้ชัดเช่นกัน ไว้ผมเปลี่ยนแล้วผมจะเอามาฝากกันอีกทีครับ) เรื่องการตั้งรอบ อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ตอนที่ผมใช้Mixerแรก เคยตั้งทีนึง ก็ดีขึ้นได้สักพักนึง ใช้ไปอีกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเมื่อแก็สรอบผิดปกติ ตอนเป็นน้ำมันก็จะผิดปกติตาม ผมมีข้อชี้แนะสำหรับเรื่องนี้คือ ให้คุณสังเกตตอนเป็นน้ำมันว่า เมื่อคุณวิ่งแล้วรอบเป็นยังไงบ้าง และเมื่อจอดรอบเป็นยังไง้บ้าง และเปลี่ยนมาเป็นแก็ส ก็ควรจะนิ่งใกล้เคียงน้ำมัน แบบว่าใกล้กันมาก แทบจะแยกไม่ออกระหวางแก็สกับน้ำมัน แต่ถ้าใช้น้ำมันแล้วสั่น ต้องเช้คตอนเป็นน้ำมันก่อนว่ามีตัวใดผิดปกติบ้าง แล้วจัดการแก้ไข แล้วแก็สก็จะดีเอง ยังไงก็ลองดูแล้วกันนะครับ ถ้ามีนอกเหนือจากนี้ เดี๋ยวก็มีเพื่อนๆมาเสริมให้อีกทีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bank9910
ชาวยุทธ
ออฟไลน์
กระทู้: 6
|
|
« ตอบ #848 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2008, 12:36:55 » |
|
โทษทีเมื่อกี่ไม่ได้ทันอ่านว่าเป็นระบบอะไร - เครื่องสั่นที่เกิดจากวาล์วห่างก็คงเป็นได้ เมื่อตั้งแล้วเครื่องก็จะเดินเรียบขึ้นไม่สั่น - อีกสาเหตุนึงที่ทำให้สั่นได้ก็คือ ลิ้นปีผีเสื้อสกปรก เนื่องจากว่าก่อนติดแก็สเราวิ่งมานาน อาจจะมีคราบฝุ่นต่างๆจับตามปีกผีเสื้อและตัวSersorเดินเบาที่ติดอยู่ลิ้นปีกผีเสื้อ ตอนเป็นน้ำมันอาจจะไม่สั่น แต่เมื่อเป็นแก็ส อาการนี้จะเกิด ก็แค่เอาไปให้ที่ร้านเขาล้างปีกผีเสื้อ แค่นี้รอบเดินเบาก็จะนิ่งไม่สั่นเช่นกัน -อีกจุดนึงก็มาจาก การจูนแก็สจากคอม ตอนแรกที่เราติดไป เขาจะให้เราใช้ไปก่อน แล้วถ้ามีอาการสั่นหรือผิดปกติ เขาก็จะให้เข้ามาจูนอีกที ซึ่งถ้าเป็นระบบหัวฉีด ไม่ควรจะเกิน3ครั้ง(หลังจากติดแก็สเสร็จใหม่ๆ และมีการใช้งานแล้ว) จูนก็จะนิ่งขึ้น -และอีกจุดนึงที่ไม่น่าเชื่อ(ที่ผมเจอก็คือ) ยางแท่นเครื่อง ของผมตอนนั้นสั่นมาก แบบว่าสั่นจนเห็นได้ชัด จูนนิ่งแล้วก็สั่น น้ำมันก็สั่นคล้ายๆกัน เช็คไปเช็คมา ยางแทนเครื่องตัวหน้าขาด หลังจากเปลี่ยนไปก็นิ่งขึ้น(และอีกสักพักนึงยางแทนเครื่องตัวขวา ที่เป็นตัวสำคัญก็เริ่มหมดอายุแล้ว อาการสั่นก็เห็นได้ชัดเช่นกัน ไว้ผมเปลี่ยนแล้วผมจะเอามาฝากกันอีกทีครับ) เรื่องการตั้งรอบ อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ตอนที่ผมใช้Mixerแรก เคยตั้งทีนึง ก็ดีขึ้นได้สักพักนึง ใช้ไปอีกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเมื่อแก็สรอบผิดปกติ ตอนเป็นน้ำมันก็จะผิดปกติตาม ผมมีข้อชี้แนะสำหรับเรื่องนี้คือ ให้คุณสังเกตตอนเป็นน้ำมันว่า เมื่อคุณวิ่งแล้วรอบเป็นยังไงบ้าง และเมื่อจอดรอบเป็นยังไง้บ้าง และเปลี่ยนมาเป็นแก็ส ก็ควรจะนิ่งใกล้เคียงน้ำมัน แบบว่าใกล้กันมาก แทบจะแยกไม่ออกระหวางแก็สกับน้ำมัน แต่ถ้าใช้น้ำมันแล้วสั่น ต้องเช้คตอนเป็นน้ำมันก่อนว่ามีตัวใดผิดปกติบ้าง แล้วจัดการแก้ไข แล้วแก็สก็จะดีเอง ยังไงก็ลองดูแล้วกันนะครับ ถ้ามีนอกเหนือจากนี้ เดี๋ยวก็มีเพื่อนๆมาเสริมให้อีกทีครับ ขอบคุณครับ วันอังคารนี้จะเข้าไปเช็คระยะ 9 หมื่นโลที่ศูนย์ เลยจะให้ที่ศูนย์ตั้ววาล์วกับล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 902
I love my CIVIC.
|
|
« ตอบ #851 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2008, 03:02:51 » |
|
มะวานโทรไปถามร้านติดแกสแถวชลบุรีมาคับ หัวฉีด Autronic ถัง58 ลิตร เค้าบอกว่าเด๋วนี้ราคาขึ้นเป็น 42000 แล้วอ่ะ แถว กทม ขึ้นเท่านี้หรือเปล่าครับ รบกวนช่วยเสริมข้อมูลนิดนึงนะครับ ขอบคุณครับ ล่าสุด เพิ่งไปที่ร้านแก็สมา ก็ราคาใกล้เคียงนี้ครับ อาจจะมีบวกหรือลบหน่อย แล้วแต่ร้านครับ สาเหตุก็เกิดจากระบบAutronicมีคนติดกันเยอะ และกับESแล้ว ส่วนมากติดแล้วจะจบสักส่วนใหญ่ และประกอบกับว่าราคาน้ำมันแพงแบบว่าวันต่อวัน ทำให้คนแห่กันไปติด ทำให้ทั้งแก็สระบบต่างๆและถังขาดตลาด เท่าที่ได้ยินมาแบบว่าขาดหนักพอสมควร ทำให้ราคาโดดไป เท่าที่จำได้ตอนที่ผมติด Mixer+Lamda ราคาแก็สหัวฉีด 45,000 บาท(เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว) ซึ่งราคากลับไปหาตอนนั้น และต้องบอกว่าผมเองก็โชคดี เพราะว่าก่อนหน้านี้ผมใช้ Mixer+Lamda อยู่ แล้วล่าสุดก็เกิดปัญหา(เมื่อเดือนสองเดือนที่แล้ว) ผมก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นหัวฉีด จำได้ว่าตอนนั้นของก็ยังไม่ขาด และราคายังไม่ขยับขนาดนี้ และสิ่งที่ได้ยินมาอีกอย่างนึงก็คือเรื่องค่าติดตั้ง ถ้าติดกับร้านเขาเองก็อยู่ราวๆ4หมื่นต้นๆ แต่ว่าถ้าเอาอุปกรณ์แก็ส(ทั้งชุด หมายถึงชุดKit) ซึ่งประกอบด้วย หัวฉีด + สายต่างๆ + อุปกรณ์ + ถัง มาให้ร้านเขาติด เขาคิดค่าติดหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งร้านเขาก็ให้ข้อมูลอย่างนึงคือ อย่าว่าแต่ค่าติดหมื่นนึงเลย แค่หาอุปกรณ์ให้ครบและถูก ยังหายากเลยครับ และเอาไปให้ร้านที่ไม่ได้ซื้อมาติด ยิ่งไปกันใหญ่ ปัญหาต่อมาก็เรื่องการจูน ถ้าเป็นระบบที่ร้านเขาเคยติดก็ไม่มีปัญหา ถ้าต่างกัน ใครจะเป็นคนจูนล่ะครับ ก็ที่่ร้านเขาไม่มี Software สำหรับระบบที่เอามา(ที่ร้านไม่มี) ก็คงต้องเหนื่อยอีกสำหรับเจ้าของรถ ต้องวิ่งวุ่นหาคนจูนอีก และอีกเรื่องนึงที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็เป็นไปได้คือ การขโมยระบบแก็ส เรื่องก็คือว่า ลูกค้าเขาเอาไปทำสีที่อู่ ซึ่งตอนรถเสร็จ ทางอู่ก็ให้เจ้าของเอารถออกจากอู่ ตอนเอาออก ก็ยังไม่ได้ตรวจอะไร คงจะเช็คแค่ภายนอกที่ทำสี ตอนแรกก็คงวิ่งเป็นน้ำมันออกมา แต่พอจะสับแก็ส ระบบแก็สไม่ทำงาน รู้หรือเปล่าครับเขาขโมยอะไร เขาแกะทั้งชุดหัวฉีดและถังท้ายรถออกไปเลยครับ ซ่งคนทำก็คือเด็กที่อยู่ในอู่ ซึ่งตอนหลังอู่เขารับผิดชอบค่าเสียหาย ให้เจ้าของเอารถไปติดแก็สใหม่ แล้วทางอู่จ่ายเงินชดใช้ ซึ่งตอนนี้จะติดคงจะยากเลยครับ ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิด แต่ก็เกิดจริงๆครับ ก็เล่าสู่กันฟังครับป๋ม ES01 ติด Autronics ครับ ผมวอร์มเครื่องด้วยน้ำมันตอนเช้า และตอนที่เลิกงาน แต่ทำมัยผมรู้สึกว่าน้ำมันมันหายไปเยอะพอสมควร หรือว่า กล่องECU มันผิดพลาด จะเช็คได้ยังไงบ้างครับ
ขอบคุณครับ
จริงๆอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะแต่ละคัน(ตอนเป็นน้ำมัน) ไม่รู้ว่าการวิ่งเป็นยังไงบ้าง แต่สิ่งที่อยากรู้ก็คือ 1. วอร์มเครื่องด้วยน้ำมันตอนเช้า วอร์มแบบไหน วอร์มแบบจอดเฉยๆทิ้งไว้ หรือแบบวิ่งแล้วค่อยสับน้ำมัน(และวิ่งระยะทางประมาณกี่กิโล) 2. ตอนที่เลิกงาน วอร์มแบบจอดเฉยๆทิ้งไว้ หรือแบบวิ่งแล้วค่อยสับน้ำมัน หรือวิ่งสลับจากแก็สเป็นน้ำมันกลับบ้าน(และวิ่งระยะทางประมาณกี่กิโลถึงบ้าน) 3. ระดับน้ำมัน คุณเติมอยู่ที่ขึดประมาณไหนครับ 3.1 ใกล้เต็ม 3.2 ตรงกลาง 3.3 ใกล้หมด เพราะว่าของผมเองจะเติมไว้ครี่งถังตลอด กันเต้นอ่ะครับ เพื่อเลี้ยงเครื่องให้วาล์วไม่แห้ง และให้ถังไม่เป็นสนิม ถ้าพร่องหน่อยหรือใกล้จะขีดล่าง ผมก็จะเติมประมาณครี่งถัง ซี่งครี่งถัง(แบบว่าน้ำมันยังไม่หมด ค่อนไปทางครี่งถัง) ผมจะเติมประมาณ 350 บาท เดือนนึงก็เติมไว้สัก2-3ครั้ง ก็อยู่ราวๆพันนิดๆ ซึ่งมันจำเป็นอะครับ และเท่าที่สังเกตระดับน้ำมัน ก็พร่องไม่ค่อยเยอะ เติมไปครั้งนีง ถ้าเกิดว่าไม่ได้จอดเลี้ยงน้ำมัน(นอกบ้าน) แค่ตอนเช้าและตอนจะเข้าบ้าน น้ำมันจะอยู่ราวๆอาทิตย์กว่าถึงจะเติมที แต่ถ้าเลี้ยงมันบ่อย ก็อาทิตย์ต่ออาทิตย์เหมือนกัน แต่ก็พร่องไม่เยอะ และยิ่งถ้าเป็น ECU แล้วผมว่าค่อนข้างพลาดยาก ส่วนใหญ่ ECU จะคำนวนการจ่ายน้ำมันจากการขับขี่ของเจ้าของรถว่าขับขี่ลักษณะไหน ขับช้าหรือเร็ว ซึ่งตรงนี้ตรวจสอบได้โดยการให้ช่างเอาตัวเสียบเช็คECUแล้วกดดูค่า มันจะมีค่าบอกอยู่ ถ้ามีปัญหาจริง จะมีค่าออกมาเลยครับ ซึ่งถ้าไม่แน่ใจ ก็ลองให้เขาเช็คดูตรงนี้ก็ได้ครับ อีกจุดนึงผมไม่แน่ใจ ซึ่งอันนี้ก็น่าจะเป็นไปได้เหมือนกันก็คือเรื่องติ๊กน้ำมัน จริงๆแล้วตอนที่ระบบหัวฉีดเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก็สแล้ว ระบบจะทำการตัดติีกไม่ให้น้ำมันจ่ายไปที่หัวฉีด แต่เท่าที่ทราบมา ก็ยังคงมีไอน้ำมันหรือน้ำมันผ่านหัวฉีดบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นการเลี้ยงเครื่องไม่ให้แห้งเช่นเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าติ๊กตรงนี้ตัดสนิทหรือเปล่า หรือว่าหัวฉีดยังทำงานอยู่ ทำให้มีน้ำมันออกมาบ้าง แต่ก็ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองเช็คระบบน้ำมันเดิมดูว่า เกิดการผิดปกติตรงไหนก็ดีนะครับ เพราะว่าการที่แค่วอร์มเครื่องด้วยน้ำมันตอนเช้า และตอนที่เลิกงาน แล้วรู้สึกว่าน้ำมันมันหายไปเยอะนี่ก็ผิดปกติอยู่ ถ้าอู่เขาซ่อมรุ่นนี้อยู่ก็เอาให้เขาเช็คเลยครับ แต่ว่าถ้าเขาไม่ได้ซ่อมES ให้เอาไปเขาศูนย์ ให้ปรับเข้าโหมดน้ำมันแล้วเสียบเช็คECUดูว่าเกิดอะไรจะดีกว่าครับ ปล. ยังไงผมจะลองหาข้อมูลเพิ่มให้อีกทีนะครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มิถุนายน 2008, 03:10:35 โดย anodite_studbar »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
bank9910
ชาวยุทธ
ออฟไลน์
กระทู้: 6
|
|
« ตอบ #861 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2008, 10:44:41 » |
|
0819157722 เอกครับ หรือถ้าจะโทรหาพี่ชายผมเลยก็ได้ครับ ชื่อพี่หนู 0812961020 ครับ ปล.วันนี้ตา X ก็เข้าไปทำเครื่องยนต์เหมือนกันครับ [/quote เดี๋ยวลองวิ่งน้ำมันดูก่อนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
sp6914
เข้าวงการ
ออฟไลน์
กระทู้: 27
|
|
« ตอบ #864 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2008, 22:07:48 » |
|
มาอัพเดทครับ เอารถไปติดถังมาแล้วครับ รอลุ้นอยู่ว่าจะได้เมื่อไร ES 2001 หัวฉีด AG หัวแดง ถัง 58 ลิตร ค่าสินไหม 33,000 เพิ่มพิเศษให้ 1,000 เอารถเข้าไปติดตั้งแต่วันจันทร์ ได้ใช้วันเสาร์นี้เองครับ ติดหัวฉีดเสร็จ ตั้งแต่วันพุธแล้วครับ แต่รอถังอยู่นึกว่าจะได้ใช้เดือนหน้าซ่ะแล้วสิ ร้านที่ติดเป็นอู่เล็กๆ ไม่ได้สต็อกถังไว้ มีแต่หัวฉีดเหลืออยู่ครับ ก้อเลยให้พิเศษ พี่เค้าไปหน่อยครับ เพราะรู้อยู่แล้วว่าราคาถังตอนนี้ปั่นกันน่าดูเลย วันนี้เลยเอารูปมาให้ชมกันครับ หัวฉีด AG 3 โอห์ม ไอ้หัวแดง วางไว้ใต้กรองเดิม ไม่รู้ว่าจะเจอปัญหาเดียวกับคุณ asdf เรื่องความร้อนหรือเปล่า แต่พี่เค้าติดไป 2 คัน ยังไม่เจอปัญหาครับ หม้อต้ม Zavoli มาพร้อมชุดหัวฉีด ใบเล็กแต่แจ๋ว (หรือเปล่าก้อไม่รู้ครับ หาข้อมูลเจอแต่เป็นชุดของ NGV แต่เช็คน้ำมันเกียร์ง่ายหน่อย) ถังชื่นศิริ 58 ลิตร วาวล์ Mimgas แล้วยังงัยใช้แล้วจะมารายงานน่ะครับ ยอมรับครับว่าไม่ต่างจากน้ำมันเลย กดก้อมาเลยครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มิถุนายน 2008, 20:14:49 โดย sp6914 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
asdf
ศิษย์พี่
ออฟไลน์
กระทู้: 245
|
|
« ตอบ #866 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2008, 11:20:54 » |
|
ส่วนมากใช้น้ำมันเครื่องไรกันหรอคับ ถ้าใช้แก๊สอ่ะคับ ผมใช้เกรด 10000 โล แล้วควรเปลื่ยนตอนกี่โลคับ
แล้ววิ่งจากน้ำมันสับเป็นแก๊สดีกว่าจอดอยู่เฉยแล้วเบิ้ลให้รอบถึงแล้วเปลื่ยนเป็นแก๊สอันไหนดีกว่ากันคับ
แล้วถ้าบอกให้ร้านจูนประหยัดจะมีผลเสียต่อเครื่องมากมั้ยคับ พอดีอยากได้ความรู้เพิ่งกำลังศึกษาข้อมูลอยู่คับ
- ใช้อะไรก็ได้ครับ อย่าให้ขาดก็พอ - อุ่นให้ความร้อนได้ที่ดีกว่าไหม อุ่น แก๊ส อุ่นเกียร์ อุ่นเครื่องไปในตัว - แก๊สบาง เครื่องมันจะร้อนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 902
I love my CIVIC.
|
|
« ตอบ #868 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2008, 22:38:09 » |
|
ผม EG เครื่อง D16Y ขอถามหน่อยนะครับว่าระบบ LAMDA กับ Stepping Motor ที่ถอดออกไปมันแย่ถึงขนาดต้องถอดออกเลยเหรอครับ คือว่าผมกำลังจะไปติดอยู่ Variable Mix LPG อ่ะครับ ยังไงรบกวนตอบเป็นความรู้ผมหน่อยครับ
อันนี้ต้องทำความเข้าใจนิดนึง จริงๆแล้วที่ผมถอดออกไม่ได้ว่ามันแย่ถีงถอดออก เพราะสุดท้ายที่ผมขายชุด Lamda + หม้อต้มไป อีกคนเข้าเอาไปใช้ก็ยังใช้อยู่ดี แต่สาเหตุจริงๆที่ถอด 1. เนื่องจากว่าใช้มาแล้วเกือบหกหมื่นโล ซึ่งทั้งทุนและกำไรในการใช้ได้ครบหมดแล้ว 2. การจูน หลังๆนี้คนที่จูน Lamda เริ่มน้อยลง และร้านที่ผมใส่ Lamda เริ่มหันมาจับหัวฉีด และมีแน้วโน้มว่าตัว Lamda เขาจะไม่ทำ ซึ่งปัญหาต่อมาก็จะทำให้เรื่องจูนลำบากขึ้น 3. ข้อมูลการใช้งาน จาก Mixer + Lamda แม้ว่าจะวิ่งดีจริง ประหยัดในระดับนึงก็จริง แต่มีข้อเสียที่ว่า เวลาวิ่งปลายหมดเร็ว และในบางครั้ง(ขอย้ำว่าบางครั้ง)ไฟเอ็นจิ้นโชว์ และทุกครั้งหรือบางครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต้องทำการจูนใหม่ ซ๊่งทำให้เกิดความรำคาญขึ้น และจากจุดที่พูดมาทั้งหมดนี้ ก็มาถึงสาเหตุที่เป็นหัวฉีด 1. การจูนของหัวฉีดค่อนข้างง่ายกว่า การดูแลรักษาง่ายกว่าไม่จุกจุิกเหมือน Mixer หรือ Mixer+Lamda Control 2. เวลาวิ่ง วิ่งกว่า ปลายไม่หมดเหมือน Mixer หรือ Mixer+Lamda Control แต่ในความเร็วที่เท่ากันจะประหยัดกว่า ซึ่งผมมองถึงสองข้อดีนี้ ผมก็ทำการเปลี่ยนมาเป็นหัวฉีด ซึ่งเท่าที่ใช้ดู ก็ประหยัดกว่าและวิ่งกว่าจริงๆ และผมเปรียบเทียบความประหยัดให้ดู สมมติว่าน้ำมันตกกินโลละ 3 บาท แก็สที่เป็นมิกซ์(ในเมือง)กินโลละ 1.2-1.5 บาท แต่แก็สที่เป็นหัวฉีด(ในเมือง)จะกินอยู่ที่ 0.85-1 บาท แต่ถ้านอกเมืองก็จะประหยัดขึ้น เอาง่ายๆ ถ้าวิ่ง 100 โล(ในเมือง) - น้ำมัน 300 บาท - มิกซ์ 120-150 บาท - หัวฉีด 85-100 บาท ผมเห็นถึงความประหยัดกว่า ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เป็นหัวฉีด แต่ก็อีกนะครับ บางคันยังเป็นเครื่องคาร์บู ติดได้เต็มที่ก็คงเป็น Mixer+Lamda Control ซึ่งให้ความประหยัดและจูนง่ายกว่าMixerธรรมดา แต่ถ้าเป็นเครื่องหัวฉีด แก็สระบบหัวฉีดเป็นทางเลือกที่ประหยัดอีกทางนึง ยังไงก็ลองดูคอมเมนต์จากท่านอื่นๆอีกทีนะครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มิถุนายน 2008, 23:23:16 โดย anodite_studbar »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|