สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 6 "'งานโละลาด - ก่อพระทรายกลางน้ำโขง" 14 เมสา 2009)

[Uncle_T]

ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพคืนวันที่ 8 เมษายน 52 และเริ่มรีวิว ในวันที่ 9 จนถึงวันที่ 18 ครับ เชิญชมแต่ละวันได้ตาม URL ข้างล่างนะครับ

วัน ที่  9 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55189.0.html
วัน ที่ 10 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55625.0.html
วัน ที่ 11 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55917.0.html
วัน ที่ 12 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,56229.0.html
วัน ที่ 13 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,56848.0.html

ติดตาม รีวิว Day 6  วันที่ 14 เมษายน 2552 งานโละลาด และงานก่อพระเจดีย์ทรายบนดอนทรายกลางลำน้ำโขง ที่สุดครึกครื้น

[Uncle_T]

เช้าวันที่ 14 เมษายน บริเวณถนนศรีสว่างวงศ์ตั้งแต่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์หลวงพระบางจนถึงถนนเจ้าฟ้างุ้มงานจะจัดงาน "โละลาด" ซึ่งเป็นตลาดนัดขาย สินค้าพื้นเมือง ผักผลไม้ ของสด ของป่าที่หาได้ ซึ่งชาวบ้านจะออกมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าเหล่านี้เพื่อเตรียมไว้สำหรับการทำบุญปีใหม่ งานโละลาดนี้ปกติจะจัดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น คือวันสงกรานต์และช่วงงานบุญข้าวประดับดินในเดือนเก้า

[Uncle_T]

งานเริ่มแต่เช้ามืดคนมากันมากจริง ๆ เป็นวันแรกที่เห็นคนลาวเจ้าของประเทศ ออกมากันมากมายขนาดนี้ ผมเดินจากที่พักบริเวณพิพิธภัณฑ์ ไปทางถนนเจ้าฟ้างุ้ม ผู้คนจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดสิบโมงกว่าแล้วนะ

[Uncle_T]

สองข้างทางซึ่งปกติเห็นแต่นักท่องเที่ยว วันนี้ถึงคิวเจ้าถิ่นออกมาจับจ่ายฉลองสงกรานต์กัน ขวาเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นทางขึ้นพระธาตุพูสี

[Uncle_T]

เดินผ่านหน้าแบงค์ชาติลาว สาขาหลวงพระบางเห็นสินค้าพื้นเมืองนี้แปลกตาดี เหมือนหุ่นพม่าเลย

[Uncle_T]

สินค้าแปลกตาอีกอย่าง น่าจะเป็นธงหรือตุง 12 นักษัตร ที่เห็นขายกันมาก แต่วันธรรมดาจะไม่เห็นเลย ชาวลาวส่วนมากจะซื้อติดมือกันมากบ้างน้อยบ้าง ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเอาไปทำไม

[Uncle_T]

เกือบเที่ยงแล้ว ผู้คนบนตลาดนัดแห่งนี้ยังเนืองแน่น แต่หลังจากวันนี้ก็จะแปรเป็นถนนปกติ ยกเว้นตอนกลางคืน ก็จะแปรสภาพเป็นถนนคนเดิน แต่สินค้าคนละประเภทกัน

[Uncle_T]

เราเดินกลับมาใกล้ที่พัก แวะหาร้านอาหารกลางวันกินที่เรือนพักมาลา ที่เมื่อวานผ่านไปสำรวจดู ระหว่างทางคนเริ่มเล่นน้ำกันแล้ว

[Uncle_T]

อาหารกลางวันวันนี้มีข้าวเหนียว ส้มตำ และต้มยำไก่ ส่วนตาไก่สั่งกระเพราะเนื้อราดข้าว แต่ประเทศนี้คงไม่ปลื้มกระเพราซักเท่าไหร่ ในที่สุดก็ได้ผัดพริกมาแทนเหมือนเดิม ส่วนรสชาติของส้มตำและต้มยำ ไม่มีคำวิจารณ์ครับ

[Uncle_T]

อิ่มแล้ว เดินผ่านวัดเชียงม่วนเพื่อออกสู่ถนนริมชายโขง โปรดสังเกตุคานไม้สีทองพาดขวางหน้าโบสถ์

[Uncle_T]

คานไม้สีทองหน้าโบสถ์ นี้ก็คือรางน้ำที่ประดิษฐ์ลวดลายเป็นรูปหัวพญานาค ท้ายเป็นหงส์ ในวันที่ 17 เมษา ชาวบ้านจะมาร่วมสรงน้ำพระพุทธรูป โดยขึ้นไปเทน้ำลงที่ตัวหงส์ น้ำจะไหลไปตามรางไม้ ออกทางปากพญานาค รดลงที่องค์พระพุทธรูปพอดี ไม่ใช่ไปยืนค้ำหัวพระแบบบางประเทศใช่มั๊ยครับ

[Uncle_T]

โผล่ออกมาถึงถนนชายโขง บรรยากาศเปลี่ยนไปอีกแบบทันที

[Uncle_T]

รูปแบบการเล่นสงกรานต์ตรงนี้ คล้ายกับถนนข้าวสารบ้านเราสนุกสนานไปแบบหนึ่ง

[Uncle_T]

หันกลับมาอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นแม่น้ำโขง แม่เจ้า...ดอนทรายกลางน้ำเต็มไปด้วยผู้คนและเรือโดยสารวิ่งเข้าออกตลอดเวลา มองจากตรงนี้ ดอนทรายอยู่ตรงกับท่าเรือวัดจอมเพ็ด ฝั่งโน้นพอดี

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

สวยงามมากครับ   
ประเทศในฝัน   ผมต้องไปให้ได้

[Uncle_T]

หวัดดีครับท่านอ๊อด อย่าลืมเอาสาวเก็นติ้งมาฝากชาว WLC ด้วยล่ะ

ซูมเข้ามาใกล้ ๆ

[Uncle_T]

เราเดินลงมาที่ท่าเรือหลวงพระบาง สภาพความพลุกพล่านของเรือและผู้คนยังมีให้เห็นตลอดเวลา เราได้เรือโดยสารลำหนึ่งคิดค่าเรือเราคนละ 5 พันกีบ (ประมาณ20บาท) เราเห็นว่าไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ก็ตกลง ปรากฏว่า 2 คนเขาก็ออกเรือไปส่งเรา ได้แต่สงสัยอยู่ในใจ มาร้องอ๋อ อีตอนขากลับ เรืออีกลำเรียกแค่คนละ 2 พันกีบเท่านั้นเอง

[Uncle_T]

นึกขึ้นได้ ดอนทรายกลางน้ำนี้เรียกว่า "ดอนทรายชัยมงคล" ระหว่างนั่งเรือข้ามไปเห็นเรืออีกลำไม่มีหลังคาสวยดี

[Uncle_T]

เนื่องจากเป็นดอนทรายไม่ใช่ท่าเรือ ระดับน้ำไม่ลึกพอที่จะให้เรือเข้าเทียบได้ จึงต้องลงเดินลุยน้ำขึ้นไป

แต่ระหว่างลุยน้ำ จู่ ๆ ก็มีสาวน้อยนางหนึ่ง เดินเข้ามายิ้มหวาน ส่งสายตาแกมตัดพ้อให้กับตาไก่ ผู้เฒ่าอย่างผมสุดจะงงแกมอิจฉาเลยว่ะ

มานไปรู้จักกันตอนไหนฟระ เดาเอาเองละกัน

[Uncle_T]

พอเดินขึ้นดอนทรายได้ ภาพที่เราเห็นข้างหน้า โอ้โฮ สนุกสุดเหวี่ยง ใครใคร่ดื่ม..ดื่ม ใครใคร่เต้น...เต้น

[Uncle_T]

เสียงเพลงสนั่นดอนทราย สุรา อาหาร ที่มากสุดเห็นจะเป็นเบียร์ลาว เดินฝ่าเข้าไปเพื่อหาพระเจดีย์ทรายที่เขาโฆษณาว่ามาก่อกันที่นี่ ตามขนบธรรมเนียมประเพณีวันสรงกรานต์ .... นี่แหล่ะครับ อะไรก็ต้านกระแสวัฒนธรรมแบบนี้ไม่อยู่ แม้แต่ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบนี้ก็ตาม

[Uncle_T]

หลุดออกมาอีกฟากหนึ่งของดอนทราย ช่วงตรงข้ามกับวัดเชียงทองพอดี ผมก็พบเข้ากับสิ่งที่อยากมาเห็น และก็ไขปัญหาเมื่อเช้าเรื่องธง 12 นักษัตร ได้ ว่าเขาซื้อกันมาทำไม

[Uncle_T]

สองสาวน้อยชาวลาว ในสายตาของผมเธอสุดแสนจะน่ารัก เมื่อเทียบกับวัยรุ่นตรงที่ผมพบบนดอนกลุ่มแรก แต่มาคิดอย่างยุติธรรมได้ว่า ถ้าไม่มีคนเลว จะรู้ได้ไงว่ามีคนดีอยู่

[Uncle_T]

ทางฟากนี้ของดอนทราย จะเห็นเจดีย์ทรายอยู่มากมายพอสมควรในรูปแบบต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่คล้ายกันคือ ตัวเจดีย์จะออกสีขาว  และแล้วผมก็ได้เห็นที่มาของสีขาวจากแม่ค้าตัวน้อยที่นั่งหน้าขาวอยู่ด้านข้าง "แป้งมัน" ครับของแท้เขียนไว้ข้างถุงเลย นอกจากทาสีให้เจดีย์แล้ว ยังป้ายหน้าสาว ๆ ได้ด้วย

[Uncle_T]

ดื่ม กิน เต้น สุดเหวี่ยงแล้ว ถ้าเกิดปวดโน่น ปวดนี่ ก็มี "สุขา" ไว้คอยบริการอยู่อีกฟาก สนนราคาค่าบริการครั้งละ 2 พันกีบครับ

[Uncle_T]

ถัดมาเป็น "ขัว" สะพานไม้ไผ่ชั่วคราวเดินข้ามไปมาระหว่างดอนทราย กับฝั่งเชียงแมน ซึ่งตรงกับท่าน้ำวัดจอมเพ็ดพอดี ค่าบริการก็ 2 พันกีบครับ
ที่ลาวนี่อะไร ๆ ก็เสียตังค์ทั้งนั้น แล้วยังไม่รักประเทศไทยกันอีกหรือครับ

[Uncle_T]

พระอาทิตย์อ่อนแสงลงมากแล้ว ก็ได้เวลากลับที่พักฝั่งหลวงพระบาง แต่ความสนุกสนานบนดอนชัยมงคลยังคงดำเนินต่อไป

[Uncle_T]

หมดไปอีก 1 วัน เวลายังคงไม่หยุดเคลื่อนไปข้างหน้า วันนี้หลังจากข้ามฝั่งกลับมา เราไปจองตั๋วรถทัวร์ไปวังเวียงได้รถเที่ยว 9 โมงเช้าวันที่ 16 เมษายน เป็นรถทัวร์ VIP ราคาคนละ 130,000 กีบ (540 บาท)

พบกันใหม่ใน day 7 "ขบวนแห่สงกรานต์หลวงพระบาง" ขอบคุณที่ติดตามชมครับ

[@GuY]

เนื่องจากเป็นดอนทรายไม่ใช่ท่าเรือ ระดับน้ำไม่ลึกพอที่จะให้เรือเข้าเทียบได้ จึงต้องลงเดินลุยน้ำขึ้นไป

แต่ระหว่างลุยน้ำ จู่ ๆ ก็มีสาวน้อยนางหนึ่ง เดินเข้ามายิ้มหวาน ส่งสายตาแกมตัดพ้อให้กับตาไก่ ผู้เฒ่าอย่างผมสุดจะงงแกมอิจฉาเลยว่ะ

มานไปรู้จักกันตอนไหนฟระ เดาเอาเองละกัน