Genting Highland ?Malaysia สูงเสียดเมฆ

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

     หลีกหนี ความวุ่นวายของกรุงเทพ ยามสงกรานต์สีแดงเป็นครั้งแรกที่ผมได้มาประเทศมาเลเซีย   ประเทศที่มีการอยู่ร่วมกันอย่างสงบของชนหลากเชื้อชาติ   ไม่ว่าจะเป็น มาเลย์   ชาวจีน ชนเชื้อสายอินเดีย  ฯลฯ
     ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง  ก็มาถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์    ด้วยเงิน 8 ริงกิตกับอีกร่วมๆ 1 ชั่วโมง  ก็พาผมมาที่ตัวเมือง กัวลาลัมเปอร์ (KL)     ค่าเงิน 10 ริงกิต  จะเท่ากับ 100 บาทไทย   คือง่ายๆจะซื้ออะไรในมาเลย์เซีย  ก็ให้ใส่ 0 เพิ่มไปอีกตัว
     80 บาทจากสนามบินมาตัวเมือง   ประเทศเรารถขนส่งจากสุวรรณภูมิ เข้ากรุงเทพ  ชาตินึง
มาคัน   ต้องพึ่ง แท๊กซี่เพียงอย่างเดียว + กับค่าบริการ 50 บาท แค่มาประตูน้ำ ก็  200 กว่าบาทแล้ว
รถพามาจอดที่ KL Sentral  (ผมไม่ได้เขียนผิด  ที่นี่เขียน Central   ใช้ตัว S แทนตัว C)
ที่  KL.Sentral   เปรียบเหมือนศุนย์กลางของการเดินทาง  ใครจะมาต่อรถไฟฟ้า จะไปจุดใดก็ต้องมาต่อรถที่นี่
      มาเลเซีย  คนเชื้อสายมาเลย์ หน้าตาเหมือนคนไทยทางภาคใต้มาก  บ้านเมืองก็ไม่ได้แตกต่างจากกรุงเทพมากนัก  ผมว่ากรุงเทพยังดูทันสมัยมากกว่า  ที่นี่ดูเก่าๆยังไงชอบกล    แต่สิ่งที่เขามีดีกว่ากรุงเทพก็คือ  ระบบขนส่งมวลชน   รถที่นี่มีจำนวนน้อยกว่าในกรุงเทพ  เพราะมีเส้นทางของรถไฟฟ้ายาวกว่ากรุงเทพมากมายนัก

     อาหารมื้อแรกผมเลือกที่จะไปกินอาหารอาหรับ  เดินมาไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก จะมีร้านอาหรับเรียงรายอยู่ 4-5 ร้าน    ร้านตกแต่งดูดี แต่ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าที่คนไทยอย่างเราจะรับได้  ผมเลือกสั่ง ฮูมูส   (Humus) ถั่วลันเตาบดผสมกับน้ำมันงา  กินกับ พิตา (Pitas) แป้งที่อบในเตาดิน   อาหารประจำชาติของชาวอาหรับ  (บ้านเรามีขายที่ร้านอาหารอาหรับ แถวตรอกข้าวสาร)  พิซซ่า ก็แค่ 20 กว่าริงกิต  ( 200 กว่าบาทเอง)    แต่ราคาน้ำดื่มน้ำอัดลม บ้านเรายังถูกกว่าพอสมควร  น้ำดื่นที่นี่ร้านทั่วๆไปประมาณ 2 ริงกิต  น้ำอัดลมประมาณ 3 ริงกิต

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

ร้านอาหารอาหรับ

- โลตัส  จอดโชว์อยู่ที่หน้าโรงแรมใน KL
- ตึกปิโตรนาส  ในยามกลางคืน   อยู่หลังไกลๆจาก โรงแรมที่พักของผม

[pop96]

รอดูรูปอีกครับ 

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

วันที่สองผมลากกระเป๋าเช็คเอ๊าท์มาจากโรงแรม  กลับมาที่  KL. Sentral  อีกครั้ง  
ไม่ต้องลากเกระเป๋า ไปเที่ยวด้วยที่นี่มีบริการตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญไว้บริการ  
ศูนย์อาหารของที่นี่ อยู่ชั้น 3 มีอาหารพื้นเมืองให้เลือกมากมาย  ก๋วยเตี๋ยว เพิ่มราคาตามท้อปปิ้งที่ใส่  อย่างละ 7 เซ็นต์   ชามใหญ่ชามนี้ 6 ริงกิต

นั่งรถชมเมือง  ผมเลือกใช้บริการของ Hop-On   เขาจะพาคุณนั่งรถรอบเมือง  คุณจะขึ้นลงที่ไหนก็ได้  เพียงจ่ายเงินซื้อตั๋วเพียงครั้งเดียว  (ที่สิงคโปร์ ก็มียี่ห้อนี้)   ราคาประมาณ 38 กว่าริงกิต  ด้วยเวลาที่น้อยผมได้แวะลงเพียงแค่ 2 ที่  คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ มาเลเซีย   ผมไปพอดีกับเค้ามีนิทรรศการโลงศพอยู่ด้วยพอดีเข้าไปดู   ก็จะมีโลงศพจากหลายๆที่ มาจัดแสดงที่นี่

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

- โปรตรอน (Proton )    รถสัญชาติคันแรก
- นิทรรศการโลงศพ

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

   มาลงอีกที่  ตึก ปิโตรนาส  (Petronas) 1 ในความภาคภูมิใจของชาวมาเลเซีย   อดีตตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก  (อีก 1 ในความภาคภูมิใจของเขาก็คือ สนาม เซปัง เซอร์กิส  ที่ใช้แข่ง  F1  ไปไหนก็มักจะมี F1  ให้เห็นอยู่บ่อยๆ)    หมดเวลาที่ KL  ผมกลับมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้  เพื่อขึ้นรถต่อไป เก็นติ้ง
ใช้เวลาประมาณร่วมๆชั่วโมง ด้วยเงิน  9.3 ริงกิต (รวมค่าเคเบิ้ล คาร์)  ผมมาสู่ที่จอด เคเบิ้ลคาร์  กระเช้าที่จะพาผมขึ้นไปที่พัก ด้วยความสูงระดับเดียวกับเมฆ  ทั้งสวย ทั้งสูง ทั้งเสียว  ส่วนตัวผมว่า น่ากลัวน้อยกว่า  กระเช้าที่ข้ามไปเกาะเซนโตซ่า ประเทศสิงคโปร์  อันนั้นมองลงไปมีแต่ทะเล  เห็นเรือเดินสมุทรเหลือลำนิดเดียว   แต่ที่เก็นติ้งมันจะอยู่เหนือยอดป่า  ถ้ามีรถมาเองจะสามารถขับขึ้นมาถึงตัวโรงแรมได้เลย  
    

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

     โรงแรมที่ผมพักคือ Theme park hotel  อยู่ติดกับสวนสนุก  Theme park  ห้องพักที่นี่ไม่มีแอร์  เพราะอากาศบนเก็นติ้งเย็นตลอดปี   ถ้าจะไปเที่ยวติดเสื้อหนาวไปด้วยนะครับ  ขนาดไปช่วงหน้าร้อนแต่ตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้ว  ถ้าไปยินอยู่ข้างนอกก็ขนลุกได้ทีเดียว     
      เช้าอีกวัน ณ สวนสนุก  Theme park   ซึ่งถูกแบ่งไว้  2 ส่วน   คือ 1 In Door  และ Out Door   ค่าเข้าวันธรรมดา 51 ริงกิต  เสาร์ ? อาทิตย์ 57 ริงกิต  มีขายตั่วแบบ ครอบครัว (ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 2) และตัวแบบ 2 วันด้วย   ลักษณะของเครื่องเล่นไม่ได้แปลกใหม่ไปกว่าของดรีมเวิร์ด บ้านเราสักเท่าไหร่   แต่การจัดการ อากาศที่เย็นสบาย  ตลอดจนวิวโดยรอบ  ทำให้มันดูเสน่ห์    ในส่วนที่เป็น In  Door  ไม่ต้องซื้อบัตรก็เข้าไปเดินเล่นได้  แต่ถ้าจะเล่นเครื่องเล่นก็ต้องไปซื้อบัตรเพิ่ม  ในนี้ก็จะมีร้านอาหาร ร้นขายของที่ระลึกอยู่เต็มไปหมด   ราคาอาหารแพงกว่าที่ KL  นิดหน่อย   การที่ได้มากินข้าวที่มาเลเซีย ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแพงแต่อย่างใด  เมืองไทยขายข้าวจานละ 25 -30  แต่กินจานเดียวไม่อิ่ม   แต่นี่มาจานโตๆเลย  50- 60  บาท  กินที่เดียวไม่ต้องเบิ้ล    ที่นี่มีร้าน Hot Pot ด้วย
เป็นบุฟเฟ่  ราคา + Vat แล้ว  ประมาณ 27 .5 ริงกิต   ซัดได้ไม่ยั้ง พร้อมน้ำ

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

      วันที่ 4   ผมออกจากเก็นติ้ง  เพราะมีแผนจะไป บ้านฝรั่งเศส  France Ville  (แต่คนที่นั้นรู้จักในอีกชื่อนึง  ประมาณว่า บูกิซ พิงกี้ อะไรซักอย่าง ไม่แน่ใจ)
      ผ่านไร่ สตอเบอรี่  และ Japanese Ville   
France Ville   ถูกออกแบบมาให้เป็นโรงแรม ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส  มีแท๊กซี่หรือรถเหมามาเท่านั้น  ถึงจะมาได้  ค่าโดยสารรถตู้ 12 คน ประมาณ 350 ริงกิต  โดนรวมสวยดี  แต่อากาศร้อน (น้อยกว่าเมืองไทย)  ไม่เหมือนอยู่บนเก็นติ้ง
      

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

France Ville   

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

      วันสุดท้ายก่อนกลับ  แวะมาเดินเล่นที่ China Town   ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เป็นย่านขายของที่ระลึก ของก๊อบบี้พวกนาฬิกา เสื้อ รองเท้า กระเป๋า คล้ายๆ ถนน พัฒน์พงศ์ ของเรา

ปล. ขออภัยรูปไม่สวย ที่ถ่ายด้วยกล้องคอมแพคปัญญาอ่อน  ซึ่งคนถ่ายปัญญาอ่อนกว่า

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

    แล้วจะกลับไปเยือนอีกนะครับ เก็นติ้ง มาเลเซีย 

[Ryuknight]

ถ่ายภาพสวยดีนะครับ เล่าเรื่องประกอบเหมือนรายการท่องเที่ยวเลย

[taxman : ปทุมธานี]

ลืมเข้ามาชม  ชอบๆๆ 

[Aod61 : มิสซิสซิปปี้]

ลืมเข้ามาชม  ชอบๆๆ 

ตะเองเข้ามาชม   เค้าก็ปลื้มใจแล้ว 

[banpeenong]

โห ไปไม่ชวนอ่ะ   

แต่... เหมาะมากจริงๆ ไว้วันหลังจะไปเที่ยวมั่ง ช๊อบ ชอบ มีบรรยายปลากรอบด้วย   

ป.ล  ถ่ายภาพมา สวยดีน่ะจ๊ะ ลุงอ๊อดตี้   

[oapple34]

เพลินเลยค่ะ ต้องหาโอกาสไปมั่ง