es ขโมยง่ายขนาดนั้นเลยหรอค่ะ ถ้าติดล็อคเทคเพิ่งแล้วจะใช้เวลามนการขโมยถึง10นาทีป่าวค่ะ
ระบบกลอน Central Lock ของ ES ,, EK ,, EG เหมือนกันทุกอย่างครับ แค่เลาะตะเข็บ ขอบกระจกนอก มีไม้แขวนเสื้อ หัวแข็งๆ ล้วงเข้าไป ดันกลอนข้างใน ดึงขึ้น กลอนในก้อ เปิดแล้ว เปิดประจำครับ เพราะที่อู่ รับเปิดรถให้ลูกค้าด้วย
สำหรับ ขโมย จะขโมยรถ ส่วนมากมันจะวิเคราะห์ ก่อนเลย ว่ากันขโมย นั้นน่ะ เร็วแค่ไหน ประเด็นแรก เอากุญแจหรือเหล็ก อะไรก้อได้ เสียบ รูกุญแจที่ประตู ว่ามันดังมั้ย
อันต่อ มาลงตบกระจกรถในระดับแรงที่ปานกลาง ว่าดังมั้ย สุดท้ายไป กดฝากระโปรงหน้าครับ ว่ามันดังตอบสนอง อึ๊ดๆ มั้ย
โจรส่วนมาก จะขโมยรถ ด้วยการ เปิดฝากระโปรงก่อนครับ (ถ้าเจอระบบกันขโมย) ด้วยการกระทุ้ง กระจังหน้ารถให้พังเป็นรู แล้วเอาคีมล้วงเข้าไปคีบแล้วบิดให้สายสลิงม้วนเข้ามาจะเกิดแรงดึงพอที่เปิดฝากระโปรงได้ แล้วรีบไปที่ ลำโพงกันขโมยแล้วตัดสายให้เร็วที่สุด
แล้วก้อค่อยมาเลาะตะเข็บ กระจก เอาไม้แขวนเสื้อ คล้องหัวล๊อคแล้วดึง
ส่วนการสตาร์ทนั้นง่ายมาก
ปัจจุบัน มันจะมี Engine Start ขายกันแล้ว ปุ่มกดสตาร์ทรถน่ะ ต่อสายสปาร์ค ให้ครบแล้ว จับสาย IG Switch 3 ต่อกับกราวด์ ไฟ หน้าปัดจะติด ในระบบพร้อมสตาร์ท ที่เหลือก้อแค่กดปุ่มสตาร์ท ถ้าดับเครื่องก้อแค่เอาสาย IG Switch 3 ออกจาก กราวด์ เท่านั้นเอง
แต่ถึงกระไรก้อดีครับ การขโมยรถนั้น ใช้เวลาสูง ยังไม่ต้องไปกังวลอะไร โจรส่วนใหญ่ ถ้าทำด้วยความชำนาญ ล้วนแต่เป็นเด็กที่ทำงานเกี่ยวกับอู่ โดยทั้งสิ้น มันจะผ่านการทำงาน แล้วเกิดประสบการณ์ แล้วเอาไปทำแบบผิดๆ
บอกได้เลยว่า แค่มีกันขโมย ให้โจร ทดสอบ อย่างที่ผมบอก 3 อย่างที่ว่า แล้วรถคุณดังขึ้นด้วยเสียงกันขโมย ด้วยการทดสอบทั้งสามอย่าง รถคุณก้อปลอดภัยแน่นอนละครับ
Sensor กันขโมยมันเยอะเกินไป โจรมันไม่เสียเวลาอยู่แน่นอน ส่วนมากที่จับได้แล้วเอามาสอบปากคำ มันจะสารภาพเลยว่า แค่เจอกันขโมย มันก้อผ่านแล้ว มันจะเดินๆ มากดฝากระโปรงแล้วเดินผ่านไปซุ่มมองกัน
ถ้าไม่มีกันขโมยแหละครับน่ากัว และรถที่จอดในที่ล่อแหล็มอีกน่ากัว
ยังไงก้อตามการโจรกรรมรถ ยังคงเป็นเรื่องยาก ครับ สบายใจกันได้ครับ
โดยเฉพาะกันขโมยรุ่นใหม่ๆ มีกล่องควบคุมมากมาย ถึงขั้นดับเครื่องเองยังได้เลย