เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 2550 ผมได้เข้าไปเติมน้ำมันที่ศูนย์บริการน้ำมันแห่งหนึ่ง (รูปดาว) สาขาเอกมัย รามอินทรา (เลียบทางด่วนรามอินทรา )ใกล้ร้านบ้านกะรัตทองก่อนถึงร้านวอเตอร์ไซด์) เนื่องจากหน้าปัดแจ้งเตือนน้ำมันหมด โดยแจ้งให้พนักงานเติมน้ำมันเบนซิน 91 เต็มถัง เมื่อเติมเต็มถังพนักงานแจ้งเก็บเงิน 920 บาท แต่เมื่อสังเกตดูที่หน้าปัดไฟแจ้งเตือนน้ำมันหมดยังคงแสดงอยู่ จึงมีการสอบถามพนักงานว่าเติมหรือยัง พนักงานแจ้งว่าเติมให้เต็มถังแล้วและยังไม่ให้ไปดูข้อมูลที่แคชเชียร์ว่ามีการเติมตามจำนวนจริง ทางผมเลยต้องจำใจชำระเงินไปทั้งที่มีความสงสัยว่าอาจถูกโกง หลังออกจากปั๊มน้ำมัน ขับรถไปที่ศูนย์บริการรถยนต์ทันที เพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่ามีน้ำมันเต็มถังหรือไม่ (ศูนย์บริการแถวรามอินทรา) เมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการพบว่า มีน้ำมันเต็มถังจริงต้องเช็คเกจ์น้ำมันเชื้อเพลิงว่าไม่ขึ้นเพราะอะไร โดยต้องนำรถทิ้งไว้ที่ศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ
18 มิถุนายน 2550 ทางศูนย์บริการโทรแจ้งว่าต้องเปลี่ยนชุดวัดระดับในถังน้ำมันและทำความสะอาดถังน้ำมันเนื่องจากมีน้ำเข้าไปปะปนอยู่กับน้ำมัน (ที่ชุดวัดระดับในถังน้ำมันเสียทันทีเนื่องจากไฟช็อตเพราะเป็นรถยนต์เป็นระบบไฟฟ้าที่เชื่อมกับหน้าปัดแสดงผลแบบดิจิตอล) ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทางผมต้องรับผิดชอบไม่อยู่ในการรับประกันเนื่องจากไม่ได้เกิดความผิดปกติจากอุปกรณ์ จึงได้แจ้งให้ทางศูนย์ถ่ายรูปและเก็บตัวอย่างน้ำมันไว้เป็นหลักฐาน หลังออกจากศูนย์บริการก็เดินทางไปที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวเพื่อขอพบผู้จัดการสถานี แต่ทางปั๊มแจ้งว่าผู้จัดการกลับบ้านแล้วให้มาวันรุ่งขึ้น
19 มิถุนายน 2550 เดินทางไปที่ปั๊มน้ำมันอีกครั้งเพื่อคุยกับผู้จัดการ ผู้จัดการแจ้งว่าเพิ่งมาทำงานได้ 2 วัน ยังไม่ทราบเรื่องแต่ก็ยืนยันว่าถ้ามีน้ำจริงย่อมไม่ใช่รถผมคันเดียวที่โดน ต้องมีอีกหลายคันที่เข้ามาแจ้งแล้ว และยังได้ทำการ print ข้อมูลจากระบบตรวจสอบที่แจ้งว่า น้ำมันเบนซิน 91 ที่เติมไม่มีน้ำปน (ค่าเป็น 0) แต่ผมเห็นในเอกสารว่า แก็สโซฮอลล์ 95 ตัวเลขแจ้งว่ามีน้ำปนอยู่ ซึ่งทางผู้จัดการก็ไม่ได้สนใจจะแก้ไขอะไรเลยและยังบอกว่าจะเข้าไปประชุมกับผู้จัดการเขตพรุ่งนี้เที่ยง เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแจ้งกลับทันที
20 มิถุนายน 2550 เวลาประมาณ 13.00 น. ก็ยังไม่มีใครโทรแจ้งผมเลยโทรไปหาผู้จัดการสถานีสอบว่า จะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากมีหลักฐานครบถ้วนตั้งแต่ภาพถ่ายหัวจ่ายน้ำมัน ปั๊มน้ำมัน น้ำที่ปนอยู่ในถังน้ำมันและแม้กระทั่งตัวอย่างน้ำมัน เค้าแจ้งว่าผู้จัดการเขตจะติดต่อกลับเองแต่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น
21 มิถุนายน 2550 ไม่มีความคืบหน้าจากทั้งผู้จัดการเขตและผู้จัดการสถานี ประมาณ 16.00 น. จึงโทรแจ้งไปยังส่วนกลางให้ดำเนินการ ทางแผนกลูกค้าสัมพันธ์โทรกลับมาหาและพูดจาไม่ดีเลยโดยแจ้งว่า ถ้ามีน้ำปนในถังน้ำมันจริงรถวิ่งได้ไม่เกิน 2 กม. ก็ต้องเสียวิ่งต่อไม่ได้และไม่เห็นมีลูกค้ารายอื่นโทรมาแจ้งเลยว่าเจอปัญหาแบบนี้ ยืนยันว่าน้ำมันเป็นน้ำมันบริสุทธิ์ 100% มีการตรวจสอบทางเคมีอยู่ตลอด แล้วมีหลักฐานอะไรถึงมั่นใจว่ามีน้ำผสมอยู่ จึงได้แจ้งว่า มีใบกำกับภาษีจากปั้ม มีรูปถ่าย ใบแจ้งซ่อม รวมถึงตัวอย่างน้ำมันที่มีน้ำปนอยู่ ทางแผนกลูกค้าสัมพันธ์แจ้งว่า ไม่ควรไปเชื่อทางศูนย์บริการเพราะไม่รู้มีการตรวจสอบดีแค่ไหน และยังขอหลักฐานฉบับจริงที่ผมมีทั้งหมดอีกด้วย เท่าที่สอบถามจากช่างเทคนิคแจ้งว่า ในกรณีที่น้ำปนเวลาสตาร์ทเครื่องจะเดินไม่เรียบบ้าง แต่เมื่อระบบจุดระเบิดทำงานน้ำจะระเหยไป (ถ้าเป็นแก๊สโซฮอลล์มีน้ำปนอยู่อาจเกิดการลุกไหม้ได้เพราะเป็นเอธานอล)ถ้าเป็นชุดวัดระดับในถังน้ำมันที่ไม่ใช่ระบบไฟฟ้า จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีน้ำปนอยู่ในถังน้ำมันหรือไม่เพราะเกจ์วัดบนหน้าปัดจะทำงานเป็นปกติ ซึ่งเคยมีลูกค้าหลายรายเข้ามาที่ศูนย์เพื่อให้ตรวจสอบถังน้ำมันว่ามีน้ำผสมอยู่หรือไม่ โดยกรณีของผมมีการไล่น้ำทั้งหมดออกจากถังน้ำมันเมื่อเช็คดูที่หน้าปัดพบว่า น้ำมันที่เติมมาเต็มถังเหลืออยู่เพียงครึ่งถังเท่านั้น
หลังจากที่คุยกับส่วนกลางยังเพิกเฉย จึงได้โทรแจ้งกับ สคบ. และสคบให้โทรไปหน่วยงานที่ตรวจสอบเกี่ยวกับน้ำมันโดยตรง และผมได้โทรไปคุยและแจ้งเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เค้าบอกว่าผมแจ้งเรื่องช้าไป ปั้มน้ำมันอาจไหวตัวทันเนื่องจากเราไปคุยกับปั้มแล้ว (ต้องบอกตามตรงนะครับว่าผมไม่รู้ว่าต้องร้องเรียนกับหน่วยงานไหน) เจ้าหน้าที่ก็ไปตรวจสอบทันที เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่ามีคนโทรไปร้องเรียนเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมาก จับไม่ได้คาหนังคาเขา แต่ส่วนใหญ่คนจะไม่รู้เพราะไปคุยกับปั้มก่อนทำให้มันไหวตัวทัน ซึ่งปั้มน้ำมันมีวิธีการดูดน้ำออกซึ่งใช้เวลาแค่1 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่หน่วยตรวจสอบจะมาถึง
ผมจึงอยากเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดียวกันกับผม แต่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เติมน้ำมัน ผมจึงอยากแนะนำว่า
- ควรขอบิลน้ำมันทุกครั้งที่มีการเติมน้ำมัน บิลเงินสดก็ได้ขอให้มีหัวของบริษัทน้ำมัน เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการร้องเรียน
- หากเกิดความเสียหายกับรถซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำมัน หรือ เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสถานีบริการน้ำมัน/แก๊ส ให้โทรศัพท์แจ้ง กรมธุรกิจพลังงาน ทันที เบอร์ 02-547-4324 อย่าเจรจากับทางปั้มน้ำมัน เพราะมันจะไหวตัวทัน และจับมันไม่ได้ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ซึ่งทางหน่วยงานจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันทีที่เราแจ้ง
- อย่าเติมน้ำมันในปั๊มที่เราไม่เคยเติม ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เติมน้ำมันจะไว้ใจปั้มคิดว่าน้ำมันที่เติมคือน้ำมัน 100%แต่บางปั้มก็ไม่น่าไว้ใจครับ แลลงไปดูที่หัวจ่ายตอนเติมน้ำมันด้วยนะครับ
ผมจึงอยากเตือนเพื่อนๆ ให้บอกกล่าวกับคนรู้จักด้วย เพราะเศรษฐกิจก็แย่ น้ำมันก็แพง และยังต้องมาเสียค่าซ่อมรถอีก อย่าให้ปั้มน้ำมันเอาเปรียบผู้บริโภคเด็ดขาด
By : ex (อ่าน 34 | ตอบ 2) (29/06/2550 04:24:08)
ที่มา :
http://www.imadesports.com/webboard.php?id=444945&cat_w=7951&lang=th