นศ.สวนดุสิตโวยโดนใบสั่งซ้อน รตอ.บีบคอแถมตบปากซ้ำ
รองสารวัตรจราจรโรงพักสามเสน บีบคอ-ตบปาก นศ.ปี 3 สวนดุสิต เหตุไม่พอใจถูกโวยเขียนใบสั่งซ้อน เหยื่อแฉเจอกระชากคอเสื้อขึ้น จยย.ไปโรงพัก พ่อสุดทนพาลูกโร่ฟ้องผู้กำกับฯ เอาผิดวินัย ชี้ทำเกินกว่าเหตุ ลั่นไม่ถูกลงโทษร้องบิ๊กตำรวจแน่ ด้าน รอง ผกก.จร.เผย เรียกตัวมาอบรมแล้ว อ้างลูกน้องเข้าใจผิด
เหตุนักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ถูกรองสารวัตรจราจร สน.สามเสน ทำร้ายรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน นายอภิวัฒน์ บรรจบบารมี อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พร้อมด้วยนายสมชาย บรรจบบารมี บิดา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผกก.สน.สามเสน เพื่อร้องทุกข์กรณีที่ นายอภิวัฒน์ ถูก ร.ต.อ.จีระศักดิ์ สิทธิโชคธรรม รอง สว.จร.สน.สามเสน ทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอภิวัฒน์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 26 มิถุนายน ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน พล 3848 กรุงเทพมหานคร เดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยได้นำรถไปจอดไว้ภายในซอยสวนอ้อย แขวงและเขตสามเสน กทม. ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย
กระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. หลังเลิกเรียน ได้เดินมาที่รถพร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน เมื่อมาถึงได้เห็นใบสั่งติดอยู่ที่กระจกหน้ารถ โดยใบสั่งดังกล่าวระบุว่า มีความผิดข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอด จึงดึงออกมาเก็บไว้ก่อนจะเดินขึ้นรถ ระหว่างนั้น ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดขวางหน้ารถแล้วลงมาเขียนใบสั่งให้อีก 1 ใบ ตนจึงรีบลงจากรถพร้อมทั้งอธิบายว่า ก่อนหน้านี้ถูกออกใบสั่งไปแล้ว แต่ ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ไม่ฟังและได้เขียนใบสั่งในข้อหาเดียวกันแล้วนำมาติดไว้ที่หน้ารถ
?ผมดึงใบสั่งออกมาแล้วกำลังจะเดินขึ้นรถ แต่พูดลอยๆ กับตัวเองว่า ทำไมตำรวจยังเขียนใบสั่งอีกทั้งที่ได้มาแล้วใบหนึ่ง พอผมกำลังจะสตาร์ทรถ ตำรวจก็เดินกลับมา ทำหน้าไม่พอใจ มาเคาะรถให้ผมเปิดประตูแล้วจะดึงกุญแจรถ และพยายามจะล็อกตัวให้ผมนั่งซ้อนท้ายไปโรงพักกับเขา แต่ผมไม่ยอม เขาก็ใช้มือขวาบีบคอ ใช้นิ้วจิกลงไปที่คอ ก่อนจะใช้กระดานที่รองใบสั่งตบที่หน้าจนปากแตกเลือดไหล ยังกระชากคอเสื้อให้ขึ้นรถจนกระดุมเสื้อขาด ผมกลัวว่าเรื่องจะบานปลายเลยยอมขึ้นรถไปกับเขา พอไปถึงเขาก็ขย้ำใบสั่งที่เขียนให้ครั้งที่ 2 ทิ้ง และให้เสียค่าปรับ 100 บาท ในข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอด? นายอภิวัฒน์ กล่าว
นายอภิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตอนแรกคิดว่าจะไม่บอกใคร แต่เมื่อกลับไปบ้านรู้สึกเจ็บคอ จึงให้บิดาพาไปรักษาที่คลินิกใกล้บ้าน เมื่อบิดาถามจึงได้บอกความจริงให้ฟัง ก่อนที่จะพากันมาร้องเรียนในวันนี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษตามวินัยกับ ร.ต.อ.จีระศักดิ์ เพื่อไม่ให้ประพฤติตัวแบบนี้กับใครอีก แต่ถ้าหากว่ายังไม่มีการลงโทษใดๆ ก็จะเข้าร้องเรียนต่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต่อไป
ด้านนายสมชาย บิดาของนายอภิวัฒน์ กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เพราะเป็นเพียงความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร เท่านั้น ไม่ใช่คดีอาญา
พ.ต.อ.กมลสันติ กล่าวว่า จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เบื้องต้นได้ให้นายอภิวัฒน์ไปให้ปากคำต่อ ร.ต.ท.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ พนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากผู้เสียหายต้องการให้ลงโทษทางวินัยเท่านั้น และหากพบว่าทำเกินกว่าเหตุจริงก็จะลงโทษไปตามระเบียบวินัยอย่างตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถาม ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ที่ห้องตำรวจจราจร แต่ไม่พบและไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์กับ ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ได้ แต่ได้รับการเปิดเผยจากตำรวจจราจรนายหนึ่งว่า ร.ต.อ.จีระศักดิ์มาปฏิบัติหน้าที่ สน.สามเสน เป็นเวลานานแล้ว และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาในลักษณะดังกล่าวมาก่อน ส่วนเรื่องการออกใบสั่งซ้อนนั้น หากเป็นคนละข้อหากัน หรือตำรวจไม่เห็นใบสั่งเดิมก็สามารถออกใบสั่งได้ และหากว่าเป็นใบสั่งซ้อนที่มีข้อหาเดียวกันก็จะเสียค่าปรับเพียงใบเดียวเท่านั้น
พ.ต.ท.ประภัสสร ชาติพรหม รอง ผกก.จร.สน.สามเสน กล่าวว่า ได้เรียก ร.ต.อ.จีระศักดิ์ มาพูดคุยแล้ว โดยทราบว่าขณะเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายต่างเกิดความเข้าใจผิด เนื่องจาก ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ได้ผ่านมาเห็นรถของผู้เสียหายจอดในที่ห้ามจอด โดยไม่เห็นใบสั่งที่ติดไว้หน้ารถ จึงได้เขียนใบสั่งอีกใบ แต่คู่กรณีบอกว่าได้ใบสั่งแล้ว
ต่างฝ่ายต่างใส่อารมณ์จนต่อปากต่อคำกัน ร.ต.อ.จีระศักดิ์ อาจควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ซึ่งได้อบรม ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ไปแล้วว่า เป็นเจ้าพนักงานต้องควบคุมอารมณ์และถ้าผิดต้องขอโทษ ทั้งนี้ ต้องรอดูผลการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนก่อน และต้องดูว่าคู่กรณีจะเอาผิดคดีทำร้ายร่างกายหรือไม่
ที่มาจาก คมชัดลึก