ชีวิตแต่งงานแสนสุขดีต่อสุขภาพ ผลวิจัยชี้ชัดคนโสดมีแนวโน้มอายุสั้นกว่าคนแต่งงาน หรือกระทั่งคนที่เรือรักล่มต้องหย่าร้าง ชี้การอยู่คนเดียวเหมือนถูกโดดเดี่ยวทางสังคม มิหนำซ้ำยังไม่มีลูกหลานมาคอยให้กำลังใจ
ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในลอสแองเจลิส (ยูซีแอลเอ) ศึกษาข้อมูลประชากรและใบมรณบัตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่เกือบ 67,000 คน ระหว่างปี 1989-1997 สิ่งที่พบคือ ในปี 1989 เกือบ 1 ใน 2 ของประชากรกลุ่มนี้แต่งงาน เกือบ 1 ใน 10 เป็นม่าย ขณะที่ 1 ใน 8 หย่าร้าง และ 3% แยกกันอยู่กับคู่ชีวิต ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เหลือ 5% ใช้ชีวิตร่วมกับแฟนโดยไม่ได้แต่งงาน และ 1 ใน 5 ไม่เคยแต่งงานมาก่อน มาถึงปี 1997 อายุที่มากขึ้นและปัญหาสุขภาพเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต แต่นักวิจัยยังพบความเกี่ยวโยงแน่นแฟ้นระหว่างชีวิตคู่ที่ยังอยู่รอดกับการมีอายุยืนยาว
หลังจากพิจารณาปัจจัยเรื่องอายุและสุขภาพประกอบ พบว่า กลุ่มที่เป็นม่ายมีแนวโน้มมากขึ้นเกือบ 40% และ 27% สำหรับพวกที่หย่าร้างหรือแยกทางกับคู่สมรส ที่จะเสียชีวิตระหว่างปี 1989-1997 เทียบกับกลุ่มที่เรือรักยังไม่อับปาง คนที่ไม่ได้แต่งงานมีแนวโน้มเสียชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้น 58% ความเสี่ยงยิ่งรุนแรงสำหรับหนุ่มโสด โดยผู้ชายอายุระหว่าง 19-44 ปี ที่ไม่เคยแต่งงาน มีแนวโน้มเสียชีวิตมากกว่าผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันที่แต่งงานแล้วกว่า 2 เท่า ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาโรคติดต่อและสุขภาพของสมาคมการแพทย์อังกฤษ ชี้ว่า คนที่ไม่เคยแต่งงานอาจประสบภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม และขาดกำลังใจสนับสนุนจากลูกหลานหรือญาติ
ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แคปแลน ผู้นำการวิจัยลงลึกในรายละเอียดว่า สาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยของกลุ่มคนหนุ่มคนสาวที่ไม่ได้แต่งงานคือ การติดเชื้อ เช่น เอชไอวี จากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ขณะที่สาเหตุหลักของการเสียชีวิตในกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงวัยคือ โรคหัวใจและการเจ็บป่วยเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม หากตัดพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงทางเพศทิ้ง กลุ่มที่ไม่ได้แต่งงานกลับดูแลสุขภาพดีกว่า เช่น ดื่มแอลกอฮอล์น้อยกว่า ออกกำลังกายมากกว่า และอ้วนน้อยกว่ากลุ่มที่มีครอบครัว
ที่มา ไทยโพสต์