หัวข้อ: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: ~BiRd~ ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:45:46 ชอบมั่ก ๆ อ่านให้จบนะ
ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ ของฉันมีกัน จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน "ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า " ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ" พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า "ผมขโมยเองครับ" ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ และด่าว่าน้องชายของฉัน " ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย" คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว" ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ หลายปีผ่านไป แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี... เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า " ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ" แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า " แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน" ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่ " ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้" คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า " ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้" แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้ ใครจะรู้ได้ ....... วันต่อมาในตอนเช้ามืด น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน ขณะฉันกำลังหลับ " พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ .... ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่" ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า ....... ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี ..... ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ ....... ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3 วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า "มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ" ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ??? ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง ... ฉันถามเขาว่า "ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ" น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า " ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี" ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ " พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม" จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า " ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง" ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี . วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก ฉันสังเกตเห็นว่า หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า "แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ" แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า " แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ" ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด " เจ็บมากไหม" ฉันถาม "ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ และ..." น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะฉันหันหน้าหนีเขา น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง "เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ" ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี... หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน... แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ... เขาบอกกับฉันว่า "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง" สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ... แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า " ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!! ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้ ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง" คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา "พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..... ฉันบอกกับน้องว่า " แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..." "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี... เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า " ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้" น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล " พี่สาวของผมครับ" ..... และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ....... นับจากวันนั้น ผมสาบานกับตัวเอง ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี และจะทำดีกับเธอ" เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ....... "ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ" ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง... จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม จบบริบูรณ์.... ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า 20 บริษัท น้องชายอายุ 83 ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า "ซัมซุง" :( :( :( แมร่งอ่านจบจะร้องไห้เลยอะ :( :( :( หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: paralell14 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:47:34 กว่าจะพิมพ์จบ เหนื่อยมั๊ยเพ่ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: gahofish ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:50:44 สุดยอดครับเบิร์ด สุดยอดมาก :(
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:56:38 (http://img153.imageshack.us/img153/297/bunny032fw3.gif) หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: alfaone_t ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:04:55 :( ถ้ามีพีน้องที่รักกันมากๆอย่างนี้ก้ดีสิ
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: TEE2.0 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:14:18 :( :( :( :( :( :( :( :( น้ำตาคลอเลย ;) :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: hodo_ebola ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:37:49 พูดไม่ออกเลยว่ะเพื่อนเบิร์ด.. :( :( :( :( :( :( :( :( :( :(
ไม่เสียแรงที่อ่านจบ...อนุภาพของความรัก :-* หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: joe2522 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:43:47 (http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: Yorying ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:36:23 น้ำตาไหลตั้งแต่ยังอ่านไม่จบละ
:'( :'( :'( :'( :'( :'( หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: miracle ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:42:53 น้ำตาซึมเลยค๊า :( ซึ้งๆ เจงๆ ...
มีแบบนี้เหลืออีกม่ะค๊าในโลกทุกวันนี้ อยากจะขอมาเปงน้องชายบ้างค๊า ;D หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: Tikkz ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:45:48 น้ำตาซึมเลยค๊า :( ซึ้งๆ เจงๆ ... มีแบบนี้เหลืออีกม่ะค๊าในโลกทุกวันนี้ อยากจะขอมาเปงน้องชายบ้างค๊า ;D :D......ฮิ้วววววววววววววววววววว หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: fomote ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:54:44 :-X ข้ารักเอ๋งวะ
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: s_kungten ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 18:16:53 :-X ข้ารักเอ๋งวะ :'( รัก เอ๋ง เลยเหรอพี่น้องยุ่ยย ::) เอ๋งเนี่ย มานตัวไรอ่ะ หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: kingkong88 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 18:28:43 น้ำตาไหลเลย จ้องจอคอมตั้งนาน กว่าจะอ่านจบ แสบตาหมดเลย ฮือ ฮือ
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: Nuttaphon ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 22:52:08 ซึ้งจิงๆ... :-X
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: virusead ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 23:49:40 " พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดจะว่ายังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอเป็นยังไงเทอก็เปงน้องสาวที่น่ารักของพี่เสมอนะ" :( :( ประโยคนี้ที่พี่สาวแสนดีพูดกับเค้าเสมอเวลาน้องคนนี้โดนรังแก อยากบอกว่า "นู๋ก้อรักพี่นะ" :-* หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: Namwhan ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 00:25:08 :o ยาวจัง ขี้เกียจอ่านอ่ะ ง่วงนอน
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: ~BiRd~ ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 07:33:44 :o ยาวจัง ขี้เกียจอ่านอ่ะ ง่วงนอน คนไม่มีหัวใจ ??? ???หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 08:11:08 สุดยอดครับเบิร์ด สุดยอดมาก :( (http://img444.imageshack.us/img444/4238/onionwinkii0.gif) อื้อหือ .. อุทานขนาดนี้ เชื่อล่ะ เบิร์ดเค๊าดีจริง................ ชายได้ชายคือยอดชาย หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: Namwhan ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 10:31:02 คนไม่มีหัวใจ ??? ??? เกลียดคำพูดนี้ที่สุดดดดดดดดดดด :( :( :(หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: Kw@n.RX ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 11:04:39 ซึ้งเจงๆครับ ;)
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: piya923 ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 11:44:22 :-X :-X :-X
หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 20 ธันวาคม 2007, 14:26:58 ทีตรูโพสหละ ไม่เห็นเข้ามาซึ้ง กันเลย ทีสาวๆเนี้ยน้ำตาคลอเชียว >:( เรื่องนี้ตรูก็โพส :( :( น้อยใจอย่างแรง เห็นพี่จขกท.ไปบ่นในกระทู้นางฟ้า กลัวพี่เบิร์ดน้อยใจอย่างแรง เอ้าซึ่งอีกรอบก็ได้ ซึ้งส์มาก หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย เริ่มหัวข้อโดย: s_kungten ที่ 20 ธันวาคม 2007, 14:37:42 :( ตามมาซึ้งอีกรอบค่ะ
|