:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: ~BiRd~ ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:45:46



หัวข้อ: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ~BiRd~ ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:45:46
ชอบมั่ก ๆ อ่านให้จบนะ


    ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน


    แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ


    ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี


    วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ


    ของฉันมีกัน


    จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง


    พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง


    โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน


    "ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด


    ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน


    พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า


    " ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ"


    พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น


    ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า


    "ผมขโมยเองครับ"


    ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง


    พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด


    จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย


    พ่อนั่งลงบนเก้าอี้


    และด่าว่าน้องชายของฉัน


    " ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก


    แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย"


    คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้


    หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด


    แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย


    กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก


    น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า


    " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว"


    ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้


    ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ


    หลายปีผ่านไป


    แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง


    ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย


    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี...


    เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น


    เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน


    ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย


    ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน


    คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน


    ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า


    " ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ"


    แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า


    " แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน"


    ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า


    " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว"


    พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่


    " ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้


    ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน


    พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้"


    คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ


    ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน


    ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ


    ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า


    " ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้"


    แต่ในขณะเดียวกัน


    ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้


    ใครจะรู้ได้ .......


    วันต่อมาในตอนเช้ามืด


    น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น


    และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว


    ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน


    ขณะฉันกำลังหลับ


    " พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ....


    ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่"


    ฉันนั่งอยู่บนเตียง


    อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า .......


    ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป


    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี .....


    ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน


    รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น


    กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ .......


    ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3


    วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก


    เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า


    "มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ"


    ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ???


    ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่


    ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง
    ...


    ฉันถามเขาว่า


    "ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ"


    น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า


    " ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ


    ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี"


    ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง


    และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ


    " พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง


    เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม"


    จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง


    เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน


    แล้วพูดว่า


    " ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง"


    ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด


    ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน


    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี .


    วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก


    ฉันสังเกตเห็นว่า


    หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว


    เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก


    หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า


    "แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก


    เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ"


    แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า


    " แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก


    วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน


    ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ


    น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ"


    ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา


    ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ


    ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด " เจ็บมากไหม"


    ฉันถาม


    "ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ


    มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด


    แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ


    และ..."


    น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด


    เพราะฉันหันหน้าหนีเขา


    น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง


    "เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ"


    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี...


    หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง


    หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน...


    แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ


    ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง


    แต่เมื่อออกไปแล้ว


    ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี


    จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม


    น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ...


    เขาบอกกับฉันว่า


    "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง"


    สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว


    เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท
    ...
    แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้


    เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา


    วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล


    และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด


    เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล


    ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล


    น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา


    ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า


    " ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!


    ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้


    ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง"


    คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด


    ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา


    "พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน


    ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ


    คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด"


    น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย .....


    ฉันบอกกับน้องว่า


    " แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..."


    "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ"


    น้องชายของฉันจับมือฉันไว้


    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ  26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี...


    เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี


    เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน


    ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า


    " ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้"


    น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล " พี่สาวของผมครับ" .....


    และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้


    "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง


    เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม.


    เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน


    วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง


    พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง


    และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล


    เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว


    เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ....... นับจากวันนั้น


    ผมสาบานกับตัวเอง


    ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี


    และจะทำดีกับเธอ"


    เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว


    สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน


    คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก .......


    "ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ"


    ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้


    น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...


    จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ


    วันในชีวิตของคุณและเขา


    คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ


    แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง


    .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ


    พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน


    หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม


    จบบริบูรณ์....


    ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า 20 บริษัท


    น้องชายอายุ 83 ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ   ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า


    "ซัมซุง"


 :( :( :( แมร่งอ่านจบจะร้องไห้เลยอะ :( :( :(


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: paralell14 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:47:34
กว่าจะพิมพ์จบ เหนื่อยมั๊ยเพ่  :-[ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: gahofish ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:50:44
สุดยอดครับเบิร์ด สุดยอดมาก :(


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 15:56:38

(http://img153.imageshack.us/img153/297/bunny032fw3.gif)


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: alfaone_t ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:04:55
 :(   ถ้ามีพีน้องที่รักกันมากๆอย่างนี้ก้ดีสิ


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: TEE2.0 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:14:18
 :( :( :( :( :( :( :( :(  น้ำตาคลอเลย  ;) :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: hodo_ebola ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:37:49
พูดไม่ออกเลยว่ะเพื่อนเบิร์ด.. :( :( :( :( :( :( :( :( :( :(
ไม่เสียแรงที่อ่านจบ...อนุภาพของความรัก :-*


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: joe2522 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 16:43:47
(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)(http://i48.photobucket.com/albums/f207/joe2522/Monkey/6e984675.gif)


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Yorying ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:36:23
น้ำตาไหลตั้งแต่ยังอ่านไม่จบละ

 :'( :'( :'( :'( :'( :'(


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: miracle ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:42:53
น้ำตาซึมเลยค๊า   :(       ซึ้งๆ เจงๆ ...
มีแบบนี้เหลืออีกม่ะค๊าในโลกทุกวันนี้ อยากจะขอมาเปงน้องชายบ้างค๊า   ;D


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Tikkz ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:45:48
น้ำตาซึมเลยค๊า   :(       ซึ้งๆ เจงๆ ...
มีแบบนี้เหลืออีกม่ะค๊าในโลกทุกวันนี้ อยากจะขอมาเปงน้องชายบ้างค๊า   ;D

 :D......ฮิ้วววววววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: fomote ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 17:54:44
 :-X ข้ารักเอ๋งวะ


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: s_kungten ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 18:16:53
:-X ข้ารักเอ๋งวะ

:'(  รัก  เอ๋ง เลยเหรอพี่น้องยุ่ยย

 ::)  เอ๋งเนี่ย มานตัวไรอ่ะ


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: kingkong88 ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 18:28:43
น้ำตาไหลเลย จ้องจอคอมตั้งนาน กว่าจะอ่านจบ แสบตาหมดเลย ฮือ ฮือ


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Nuttaphon ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 22:52:08
ซึ้งจิงๆ... :-X


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: virusead ที่ 29 พฤศจิกายน 2007, 23:49:40
" พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดจะว่ายังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอเป็นยังไงเทอก็เปงน้องสาวที่น่ารักของพี่เสมอนะ"  :(



   :(  ประโยคนี้ที่พี่สาวแสนดีพูดกับเค้าเสมอเวลาน้องคนนี้โดนรังแก อยากบอกว่า "นู๋ก้อรักพี่นะ"   :-*


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhan ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 00:25:08
 :o   ยาวจัง ขี้เกียจอ่านอ่ะ  ง่วงนอน


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ~BiRd~ ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 07:33:44
:o   ยาวจัง ขี้เกียจอ่านอ่ะ  ง่วงนอน
คนไม่มีหัวใจ  ??? ???


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 08:11:08
สุดยอดครับเบิร์ด สุดยอดมาก :(

(http://img444.imageshack.us/img444/4238/onionwinkii0.gif)

อื้อหือ .. อุทานขนาดนี้

เชื่อล่ะ เบิร์ดเค๊าดีจริง................ ชายได้ชายคือยอดชาย


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhan ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 10:31:02
คนไม่มีหัวใจ  ??? ???
เกลียดคำพูดนี้ที่สุดดดดดดดดดดด :( :( :(


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Kw@n.RX ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 11:04:39
ซึ้งเจงๆครับ ;)


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: piya923 ที่ 30 พฤศจิกายน 2007, 11:44:22
 :-X :-X :-X


หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 20 ธันวาคม 2007, 14:26:58
ทีตรูโพสหละ ไม่เห็นเข้ามาซึ้ง กันเลย ทีสาวๆเนี้ยน้ำตาคลอเชียว

 >:( เรื่องนี้ตรูก็โพส

 :( :( น้อยใจอย่างแรง


เห็นพี่จขกท.ไปบ่นในกระทู้นางฟ้า กลัวพี่เบิร์ดน้อยใจอย่างแรง เอ้าซึ่งอีกรอบก็ได้ ซึ้งส์มาก



หัวข้อ: Re: ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบ โคตะระซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: s_kungten ที่ 20 ธันวาคม 2007, 14:37:42
:(  ตามมาซึ้งอีกรอบค่ะ