:::CIVIC CLUB THAILAND:::

เห็นมาหลายกระทู้ แต่บางทีสำหรับคนมือใหม่ๆที่ยังไม่เคยล้างเองก็อาจจะงง ต่อให้เขียนยาวๆๆๆๆไป ก็ทำตามไม่เป็นอยู่ดี ก็เลยคิดว่ามันขาดความสมบูรณ์สำหรับมือใหม่จริงๆ ถ้าคนที่ไม่มีความรู้และไม่กล้าลงมือทำเองเลยเนี่ยไม่มีทางที่จะกล้าทำเองแน่นอน การรื้อถอดประกอบขอเอามาลงซ้ำอีกทีนะครับ สำหรับมือใหม่จริงๆ มือเก่าๆระดับเซียนแล้วอย่าว่ากันนะครับ

ส่วนการถอดลิ้นเร่ง (ปีกผีเสื้อ) ก็ให้ดูตามลิ้งค์นี้ได้ครับ
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=80822.80
ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ผมว่าการชี้จุดที่่จะต้องล้างมันยังไม่ชัดเจน เห็นว่ามันยังขาดอยู่ก็เลยอยากชี้วัตถุประสงค์ของการล้างน่ะครับ ว่าล้างตรงไหน
ส่วนประกอบที่จะต้องถอดก็ตามรูปครับ

ขอบคุณมากครับ เหมาะสำหรับมือใหม่อย่างผมจริง ๆ  :-* :-*

เนื่องจากในสภาวะเดินเบา ลิ้นเร่งจะปิดสนิทไม่มีอากาศไหลผ่านได้ อากาศที่จะผ่านจะผ่านที่รูเล็กๆนี้ ฉะนั้นการปรับสกรูเดินเบาเข้าออกจึงมีผลทำให้ปริมาณอากาศไหลเข้าออกตามการหมุนปิด(หมุนขวา) และหมุนเปิด(หมุนซ้าย) การปรับเดินเบาจะหมุนปรับในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในสภาวะมีอุณหภูมิทำงานคือเข็มความร้อนชี้ที่กึ่งกลาง แล้วจึงทำการหมุนหาระยะที่เครื่องยนต์ไม่มีภาระทางไฟฟ้า คือไม่เปิดโหลดใดๆ (ไม่เปิดวิทยุ แอร์ ไฟหน้า) จะหมุนปรับประมาณ 800-850 รอบ เมื่อรอบเครื่องยนต์นิ่งแล้ว ก็ถือว่าถูกต้อง
ส่วนเมื่อเราเร่งเครื่องยนต์ ลิ้นเร่งจะเปิดทำให้ปริมาณอากาศเข้ามาก เซนเซอร์วัดความดันอากาศ ฯลฯ จะวัดค่าที่ได้ส่งไปกล่องอีซียู กล่องก็จะสั่งฉีดน้ำมันตามปริมาณค่าที่วัดได้
ฉะนั้นจุดประสงค์ของการล้างลิ้นเร่ง (ปีกผีเสื้อ) คือล้างรูเล็กๆที่อากาศไหลผ่านใขขณะที่ลิ้นเร่งปิดสนิท ส่วนที่เป็นปีกจะใช้ตอนต้องการให้อากาศเข้ามากแค่ล้างรอบๆให้สะอาดก็เพียงพอแล้วครับ

วันหลังถ้าอารมณ์ดีๆ ว่างๆจะถอดตัวชดเชยรอบ ผมเรียกเดินเบาแอร์ IACV เกียร์ธรรมดาเหมือนรถผมคือตัวดำๆที่เห็นอยู่หลังท่อร่วมไอดีน่ะครับ ส่วนเกียร์ออโตจะอยู่ประมาณด้านล่างมีท่อน้ำต่อเข้าไปช่วยระบายความร้อนด้วยมั้ง
การล้างของผมไม่มีท่อน้ำ แค่ถอดออกมาแล้วเอาน้ำมันเบนซินเทลงไป เอาพู่กันถูๆๆๆๆๆ ในช่องที่มีตะแกรงลวดให้สะอาด ทำซ้ำไปมาจนสะอาดที่สุด ปล่อยให้แห้ง แล้วนำไปประกอบกลับ ถ้าหาซีลยางตัวใหม่เปลี่ยนไม่ได้ก็ใช้ปะเก็นกาว (กาวดำ) ทาตรงซีลยางนิดหน่อยแล้วประกอบ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศรั่วผ่านซีลได้ เพราะถ้าอากาศรั่วเข้าตรงนี้จะไม่ผ่านการวัดค่าจากเซนเซอร์ ทำให้ค่าที่ได้ผิดเพี้ยนไป เครื่องเปิดแอร์จอดรถอยู่นิ่งๆจะสั่น รอบสวิงขึ้นๆลงๆ ถ้าเข็มวัดรอบสวิงให้ล้างตัวนี้นะครับ ยกเว้นใครติดแก๊สมิกเซอร์ เครื่องสั่นอาจเกิดจากการจูนแก๊สไม่พอ ต้องทำการปรับตั้งเครื่องยนต์ในโหมดน้ำมันให้นิ่งสมบูรณ์ก่อน ถ้าน้้ำมันนิ่งเครื่องเดินปกติถือว่าถูกต้อง ส่วนพอไปใช้แก๊สแล้วเครื่องรวน สั่น รอบสวิง ให้ไปจูนแก๊สใหม่ครับ

ฉะนั้น ถ้ารถคุณมาเดิมๆ ไม่เคยไปแกะเซนเซอร์วัดตำแหน่งลิ้นเร่ง (TPS) และไม่เคยไปคลายน็อตปรับตั้งที่สปริงดึงคันเร่งกลับ ก็ไม่ต้องไปคิดให้วุ่นวายว่าจะต้องไปปรับตั้งค่าอะไร ไม่ต้องเอามิเตอร์ไปจิ้มไปวัดอะไรให้มันปวดสมอง แค่ทำตามที่ผมอธิบายไว้คือจบครับ ง่ายๆสำหรับคนมือใหม่จริงๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ขอแค่ถอดออกมาได้และประกอบกลับเข้าไปได้คือจบครับ

 :) ทำให้ผมเข้าใจอะไรได้ชัดเจนขึ้น  ขอบคุณมากครับ   

ขอบคุณแทนเพื่อนๆก่อน อย่างนี้ซิชาว welovecivic มีอะไรเอามาแบ่งปันกัน
ไม่ว่าจะเรื่องง่ายๆ ไปจนถึงเรื่องยากๆ ประโยชน์ทั้งนั้นครับ

อ่านแล้วเข่้าใจอธิบายพร้อมภาพประกอบ อย่างนี้เพื่อนๆยิ้มเลย

ขอบคุณอีกครั้งครับ  :-* :-* :-* :-*

เครดิตนี้ขอยกให้ท่านอาจารย์ วิสิทธิ์ บุญโสม ที่สอนวิชาเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดให้ ส่วน อาจารย์ ทรงเกียรติ อันชุรีย์ สอนวิชาติดตั้งแก๊สรถยนต์ เสริมความรู้เรื่องอิเลคทรอนิคส์รถยนต์ให้ และสอนแอร์รถยนต์ครับ (แต่แอร์ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ครับ เลยไม่ชำนาญ) และอาจารย์อีกหลายท่านครับ ที่โรงเรียนฝึกอาชีพดินแดง 1 กทม ครับ

กระทู้ดีๆต้องดันคร๊าบบบบ ;D ;D ;D :-* :-* :-*

ผมมีแวคคั่มชดเชยแอร์อยู่ตัวหนึ่งอ่ะ จะต่อสายยังไงเข้าไปช่วยให้รอบเดินแอร์มันไม่สวิงล่ะครับ

ต่อเพิ่มจากที่มีอยู่เดิมเหรอครับ ปกติมันน่าจะใส่ได้ทีละตัวนะครับ ผมว่ามีนมีรูให้อากาศเข้าได้แค่ที่เดียวนะครับ

ช่วยถ่ายรูปลงประกอบด้วยน่าจะดีนะครับ เกียร์ออโต้เหรอครับ

ผมว่าถอดของเก่าออกมาล้างทำความสะอาดก็หายครับ

ถ้าเกียร์ธรรมดา ตรงตัวชดเชยรอบเดินเบามันจะมีขั้วต่อสายไฟอยู่สองขั้ว เอาขั้วหนึ่งต่อไฟ 12 v ขั้วบวก อีกขั้วต่อลบ กลไกภายในมันจะเปิด ถ้าถอดสายออกมันจะหดกลับ ถ้ามันขยับได้แสดงว่าทำงานได้ปกติ ถ้าไม่ขยับแสดงว่าเสียครับ ส่วนแบบเกียร์ออโตจะมีสายไฟสามเส้น พอดีถ้าจะเอาว่าเส้นไหนต่อยังไงผมคงต้องให้คำตอบวันหลังครับ เพราะลืมไม่ค่อยได้จำ ต้องเปิดตำราที่จดไว้น่ะครับ

เท่าที่เคยเอาออกมาล้างมันจะมีรูที่ท่อร่วมไอดีอยู่สองรู คงไม่สามารถเอาอะไรมาพ่วงต่อได้อีกนะครับ

รบกวนสอบถามครับว่า รถผมไปตั้งวาลว์มาครับแล้วรอบไม่นิ่ง เปิดแอร์รอบก็ไม่นิ่งขึ้นๆ ลงๆ ก่อนหน้านั้นรอบก็ไม่ตก อยากสอบถามครับว่าผมควรทำอย่างไรต่อดี ล้างลิ้น ล้างมอเตอร์ตามกระทู้แล้วก็ไม่หายครับ  :-[ :-[ :-[

ถ้าไม่ได้ไปทำอะไรกับลิ้นเร่ง ก็คงไม่ต้องไปทำอะไรมันหรอกครับ ต้องไปตั้งวาล์วให้มันได้ก่อนนะครับ

โอ๊ววว  ดูรูปมีลูกศรชี้อธิบาย เข้าใจเลยครับ ว่าอะไรเป็นอะไร ชื่ออะไร ผมอยากรู้ตรงนี้มากๆ
ค้นหาตาม Web อื่นจะมีเพียงรูปไม่มีอธิบายแบบนี้ อย่างนี้ค่อยกล้าถอดหน่อย ขอบคุณมากๆครับ  :-* 

ขอบคุณครับผม  :-* :-* :-* :-*

ส่วนอันนี้ยังไม่จบ ว่างๆจะเอาตัวเดินเบาแอร์ออกมาล้างอีกตัวครับ เพราะจริงๆแล้วต้องล้างพร้อมกันครับ

งานเข้าแล้วครับ  >:(
รถผม สตาร์ทน้ำมัน รอบเครื่องสวิงขึ้นลง  พอตัดเป็นแก๊สรอบค้างสูงที่ประมาณ 1500 รอบ  ::)
เหมือนท้าทายให้ผมลองวิชาเลยของกระทู้นี้เลย  ตอนนี้ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะถอดล้างปีกผีเสื้อ เสี่ยงรถวิ่งไม่ได้กลัวต้องใช้ลากไปอู่ 
ขอนอนคิด 1 คืน  ว่าจะเอางัยดี   ตอนนี้ Print กระทู้นี้มาอ่านให้มั่นใจก่อน 
ท่าน Sitti2519 มีสิ่งใดจะแนะนำก่อนหรือไม่ครับ   :D

แวะมาเจอ ....ไม่น่าอ่านกระทู้นี้เลย  งานเข้าจนได้ ;D...ล้อเล่นครับ :-*
ต้องถามว่า ไปทำอะไรกับรถมาก่อนหน้า ไฟ เครื่องยนต์ มีโชว์ไหมครับ

ท่าน sitti เอาอะไรขัด ขาวดีน่ะ

สวัสดีครับท่านอาจารย์กันต์
ก่อนหน้า  เติมแก้ส  เติมน้ำมันเบนซิน95 เต็มถัง --->ขับไปนครปฐม ---->จอด 1 คืน ---> เช้าสตาร์ทปกติ หยีบคันเร่งให้ตัดเป็นแก๊ส ขับไปซื้อของในซอย  
กลับมา รอบเครื่องค้าง ---> ดับเครื่อง  ลองย้ำๆ คันเร่ง ---> สตาร์ทใหม่  หาย  

เช้าวันต่อมา  สตาร์ทน้ำมัน เครื่องสวิง ตัดเป็นแก๊ส รอบค้าง1500  ย้ำๆๆๆๆ คันเร่ง  ไม่หาย
วันนี้ เหมือนเดิม ย้ำ ๆๆๆๆ ไม่หาย -----> เริ่มสงสัยระบบของเหลวต่างๆ เพราะตั้งแต่รับรถมายังไม่ได้ทำหลายอย่าง  ???
  
ตัดสินใจ เข้าอู่ B-Quik เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง Mobil 0W-40 , น้ำเกียร์ Power , หัวเทียน , Nut ฝาสูบ , ผ้ากรอง เปลี่ยนแบบให้หายสงสัยไปเลย ซัดไปซะ 7600 บาท   :-[
เสร็จแล้ว ช่างในอู่ ลองสตาร์ท รถ    ;D ไม่หายครับท่าน  สวิงเหมือนเดิม   :-[    

ช่างใน B-Quik เขาไม่เน้นซ่อมเครื่องยนต์ แต่มีคนพอรู้ เขามาลองปรับรอบเดินเบา , คลายน๊อตที่สายหัวเทียนออก (น่าจะเรียกว่าจานจ่าย) แล้วลองบิดไปมา ไม่หายเหมือนเดิม ถอดใจแล้วให้ผมไปหาร้านจูนระบบแก๊สใหม่  เซ็งแหยๆ ครับ

ขับรถกลับมา รีบเปิด Welovecivic นี่แหละครับ  
    
      

อื้อ...ไม่มาถามกันก่อน  ให้ทำดังนี้ครับ

Reset  ecu  โดยการ
1.ถอดขั้วแบตลบ ทิ้งไว้ สักพัก 2 นาทีน่าจะพอ
2. เสียบขั้วลบ เหมือนเดิม
3. บิดสวิตกุญแจ  on อย่าสตาร์ทเครื่องน่ะ  เหยียบเบรคยาวๆ 1 ครั้ง
ต่อมา ก็เหยียบคันเร่งยาวๆ 1 ครั้ง  ไม่ติดเครื่องนะครับ
4. ปิดสวิตกุญแจ รอสักพัก 
5.สจาร์ทเครื่อง ดูครับ
   ลองดู การแก้ไขเบื้องต้นก่อนน่ะ ไม่ดีค่อยว่ากัน  ดูนะครับวา reset
หรือไม่ง่ายๆ นาฬิกา จะเปลี่ยนค่าไม่เหมือนเดิม คือ ให้เราตั้งใหม่

ขอบคุณมากครับ

แต่แหม... ช้าไปนิ๊ดเดียว ในอู่เขาปรับจูนรอบเดินเบาน่าจะเพี้ยนไปหมดแล้ว แถมมาโยกจานจ่ายซะอีกแต่ไม่ว่าเขาหรอกเพราะเขาหวังดี
 ถ้ามาถามก่อนคงไม่ให้เขาทำ  แต่เดี๋ยวจะไปลอง Reset ดูก่อน 
ไปละ  8)

นึกแล้วต้องไปทำอะไรกับมันแน่ สงสัยไปปรับตัวสำคัญเข้าครับ
ลองไปreset ที่ผมบอกก่อน เดี๋ยวไม่หายจะได้ไปเรื่องอื่นตอครับ

ไม่ได้ใช้อะไรพิเศษครับ เบนซิน กับผ้าขัดออกครับ อย่าใช้ของแข็งอะไรขัดนอกจากผ้าครับ

ขอโทษทีที่ตอบช้าไปครับ น่าจะรอคำตอบก่อนเนาะค่อยไปทำ ใจร้อนจริง

 
Re: การล้างลิ้นปีกฝีเสื้อ
« ตอบ #89 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2013, 09:27:20 » ตอบโดยอ้างถึงข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความ 

--------------------------------------------------------------------------------


อ้างจาก: nuy civik ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2013, 16:59:35

พึ่งซื้อมาEK96ติดแก็สระบบดูดมากับรถรู้สึกว่ารอบเดินเบาเช้าๆเวลาสตาทร์ใหม่ๆขึ้นถึง1600พอทิ้งใว้สักพักค่อยๆลงมาประมาณ900เวลาวิ่งเครื่องสดุดๆเปิดแอร์รู้สึกว่าดึงกำลังมากเวลาแอร์ตัดวิ่งฉิวเลยมันจะเกี่ยวกับไม่ใด้ล้างลิ้นผีเสื้อหรือป่าวครับใครพอจะรู้เรื่องช่วยตอบหน่อยครับ


ตอนเช้าๆที่เครื่องยนต์มันเย็น ขณะสตาร์ทใหม่ๆเครื่องยนต์จะเร่งอยู่ประมาณ 1500-1600 เป็นเรื่องปกติครับ เขาเรียกว่ารอบเดินเบาสูง (ส่วน 700-800 รอบ รอบเดินเบาต่ำ) หน้าที่ของรอบเดินเบาสูงคือเมื่อเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิอากาศ (แอร์โฟลมิเตอร์) จะวัดอุณหภูมิได้ค่าอุณภูมิห้องว่าต่ำกว่าค่าที่โรงงานกำหนด แล้วไปบอกกล่องอีซียูว่าขณะนี้อากาศเย็นนะ รถยนต์โดยปกติจะทำงานได้ไม่สึกหรอที่อุณหภูมิร้อน(ปกติเมื่อสตาร์ทรถใหม่ๆเขาถึงไม่ให้ออกรถทันที พวกลูกสูบ แหวน ฯลฯ มันต้องการให้อุณหภูมิที่ร้อนไปละลายน้ำมันเครื่องให้มาไหลผ่านชิ้นส่วนเครื่องยนต์ก่อน) เครื่องจึงต้องเร่งการฉีดน้ำมันเข้าไปให้มากให้เร็ว เราจึงเห็นเครื่องยนต์มันเร่งในตอนเช้าที่เครื่องมันเย็น เมื่อได้ระดับความร้อนที่ต้องการแล้วรอบก็จะตกลงมาอยู่ที่ปกติที่ 750-850 รอบ ณ อุณหภูมิทำงาน(เข็มความร้อนอยู่ประมาณกึ่งกลาง) รอบที่ตกลงมานี้จึงเรียกว่ารอบเดินเบาต่ำ ในทางทฤษฎีจะมีทั้งรอบเดินเบาสูง และเดินเบาต่ำครับ ไม่ผิดปกติแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องแก๊สที่เป็นแบบนั้นคืออาการกินแก๊สไม่พอครับ ผมจะให้คุณสังเกตุง่ายๆอาการนี้ถ้าวิ่งน้ำมันแล้วไม่มีอาการนี้เลย ปกติวิ่งสบายๆ คือรถยนต์ระบบเครื่องยนต์และเซ็นเซอร์ต่างๆไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย เพียงแต่เป็นที่แก๊สอย่างเดียว นั่นล่ะต้องจูนแก๊สใหม่ครับ ปล.ของผมก็เคยเป็น และจูนเองกะมือครับ อ่านให้เข้าใจแล้วไปสังเกตุว่าเป็นแบบที่ผมพูดไหมว่าถ้าวิ่งน้ำมันแล้วปกติ เป็นแต่แก๊ส คือต้องจูนแก๊สใหม่ครับ เวลาแอร์ทำงานขณะจอดรถอยู่หรือขณะเครื่องทำงานหนักๆเครื่องจะสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยใช่ไหมล่ะ นั่นล่ะแก๊สไม่พอมันล่ะ

ตามกระทู้นี้ ในการตอบของผมอธิบายไว้แล้วครับ
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=80822.80

พรุ่งนี้ตอนเที่ยงๆจะรื้อตัวเดินเบาแอร์ IACV ออกมาล้าง แล้วจะเอามาลงอัพต่อให้เสร็จครับ รอสักหน่อยไม่เกินอาทิตย์หน้าคงได้อัพ พอดีช่วงนี้งานเยอะครับ รอแป๊บครับ

โอ๊ววววว    ขอบคุณอาจารย์กันต์
หายแล้วครับ  ขอบคุณมาก ๆ เลย  โล่งอกไปที :)  เบิ้ลซะลั่นซอยเลย ดีใจ

แต่ปัญหาที่ตามมา คือ  เปิดแอร์ แล้ว รอบเครื่องตกเกือบดับ สงสัยเป็นผลจากการที่ไปปรับรอบเดินเบา และเห็นช่างเขาปรับตรงท่อแก๊สด้วย  
ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ขอคำแนะนำวิธีการปรับกลับสู่แบบเดิมให้หน่อยครับ :-*


**** แก้ไข
 เพิ่งเห็น link วิธีปรับรอบเดินเบา เดี๋ยวขอเข้าไปอ่านก่อนนะครับ

ผมจะบอกอีกนิดเรื่องน้ำมัน เบนซิน 91   95  ไม่มีปัญหา  แต่ถ้าเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 สั่นเป็นผีเข้าเลยครับ รอบสวิงขึ้นลงแน่ ผมเคยเติมมาแล้ว ว่ามันเป็นอะไรว้า  จูนแก๊สก็แล้ว ไม่หาย เอาปีกผีเสื้ออย่างที่พวกท่านๆชอบเรียกกันแหละครับออกมาล้าง พอล้างเสร็จดันหาย แต่เหลืออีกตัวคือตัวที่จะอัพให้ต่อนี่แหละครับ พอดีมีเวลาค่อนข้างจำกัดน่ะครับ เลยทำพร้อมกันลำบากครับ

เอาง่ายๆอยู่ใกล้ ม เกษตร เอารถวิ่งมา จะสอนทำให้จูนแก๊สด้วยเลยจบไหม

การจูนแก๊สมันก็มีวิธีการของมันครับ ไม่ใช่อยากหมุนอะไรตรงไหนก็ได้ หมุนปรับมั่วก็กินแก๊สแบบมั่วๆครับ

ทำตามกระทู้นี้แหละรอบเดินเบาน่ะ แต่ที่เสียหายคือทะลึ่งไปตั้งไฟที่จานจ่ายใหม่นี่สิ แล้วไม่ได้มาร์คตำแหน่งเดิมไว้แล้วเอากลับคืนไม่ได้นี่แหละ เวรกรรมเลยตรงนี้ เอาน้ำมันให้นิ่งก่อนค่อยไปจูนแก๊สครับ

ผมอยู่บางพลี สมุทรปราการ   
ถ้าไปหาผมรู้สึกเกรงใจครับ ที่จะไปรบกวน แต่ถ้าไม่เป็นการรบกวน ก็ไม่แน่
 เคยอ่านเจอว่าการ จูนแก๊ส ต้องใช้โปรแกรมด้วย น่าจะยุ่งยากพอสมควร

รถมันวิ่งมาดีๆอยู่แท้ๆไปตั้งไฟใหม่ ยังไม่ทันจะถามอะไรเลยซัดก่อนแล้วตายอย่างเดียวครับ

ถ้าระบบมิกเซอร์ไม่ต้องใช้โปรแกรมครับ แต่ถ้าหัวฉีดจะมีโปรแกรมจูนครับ รถผมติดมิกเซอร์ หม้อต้มโทมาเซโต้ครับ ถ้าเป็นหัวฉีดไม่ต้องมาครับ เพราะผมไม่ได้ติดหัวฉีด เลยไม่ได้ซื้อสายจูนไว้ มันมีโปรแกรมมาพร้อมเลย ใช้ร่วมกันโน๊ตบุ๊ค ไม่ได้ทำรับจ้างเป็นอาชีพเลยไม่ได้ซื้อครับ ไม่รู้จะไปจูนให้ใคร ปกติก็ทำฟรีตลอด เลยไม่คิดจะซื้อ แต่ก่อนเรียนจบใหม่ๆว่าจะอัพเป็นหัวฉีดเหมือนกัน คิดไปคิดมากินแก๊สไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ เทียบกับรถที่เขาติดหัวฉีดแล้วแทบไม่ต่างกันมาก เลยเอาเงินไว้เติมแก๊สดีกว่า การดูแลรักษาถ้าหัวฉีดพังก็ซื้อยกชุด ผมมิกเซอร์แค่หม้อต้มก็จบ จูนให้น้ำมันเดินเบาที่ 800 รอบ แก๊สก็จูนเท่ากันได้ วิ่งได้แทบไม่แตกต่างจะเอาแรงขนาดไหน

ส่วนมีช่างบางคนบอกว่าน้ำมันกับแก๊สตั้งไฟไม่เท่ากันนั้นมั่วครับ ถ้าจะเอาแก๊สนิ่ง น้ำมันจะไม่นิ่งนะไปโน่น ไม่จริงครับอยู่ที่ผู้จูนครับ ไฟเท่ากันเป๊ะเลย รอบน้ำมันกับแก๊สเท่ากันไม่เห็นแปลก ก็พูดไปเรื่อยแบบฟังกันมาผิดๆครับ ???

 ;D ;D ;D ดมแก๊สกะไม่ดมแก๊สต่างกันตรงนี้แหละ การล้างลิ้น(ปีกผีเสื้อ)ต้องทำพร้อมๆกับการตั้งรอบเดินเบาเลย ทำอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้

เดี๋ยวมีโฮ ;D ;D ;D ดูกระทู้เก่าๆครับ อ่านเยอะๆแล้วต้องทำตามอาการนั้นเลย เปิดเน็ตไว้ด้วยเดี๋ยวลืม ;D ;D ;D >:( >:( >:( สำหรับผมอยู่

ไกลต้องเปิดเน็ตแล้วซ่อมครับ ฟังดูขำแต่ทำได้จริงขอบอก ;D ;D ;D

ไม่น่าเลย พลาดเต็มๆ 
แต่พูดถึงที่ B-Quik ผมก็ไม่ได้ให้เขาปรับ  เขาเห็นมันผิดปกติ เขาลุยกันเลย ไม่ถามด้วยนะ สรุปว่าเขามีเจตนาหวังดีนั่นแหละ

ก็ไหนๆ อีกนั้นแหละ ขอคำแนะนำเรื่องการปรับจานจ่ายด้วยครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะถ่ายรูปมาให้ดูว่าเขาปรับตรงไหนไปบ้าง  :o

ฟังมา หรืออ่านอย่างเดียว ไม่เจ๋งจริงหรอกครับ อย่างที่พี่บูรณะศักดิ์ว่าไว้แหละครับ ชัดเจนเลยคนที่ทำงานผม พูดเรื่องอะไรมารู้หมด รู้ทุกเรื่อง ตอบได้ (แบบแถไปเรื่อยๆน่ะ) พอให้ทำจริงทำไม่เป็นครับ วิ่งไปหาช่างให้ทำให้ ผมล่ะเอือมระอาจริงๆ จริงๆแล้วผมอยากถ่ายทอดความรู้ผมให้เขานะ อยากให้เรียนรู้และคิดเป็น ซ่อมเป็น ไม่ใช่เก่งแต่โม้อย่างเดียวจะได้ไม่ต้องเอารถหลวงที่ทำงานไปให้คนอื่นทำ ผมว่าช่างพวกนี้ทำไม่ดี ถ้าไม่เสียเลยเขาก็ไม่มีงาน ผมเน้นให้ทำเองตลอด แต่ตำแหน่งหน้าที่ช่างโดยตรงไม่ใช่ผม อันนี้คือความต้องการเรียนรู้พิเศษที่พึ่งพาอาศัยตนเองได้ ผมนิยมแบบนี้ครับ มั่นใจในผลงานของตัวเองครับ

เรื่องทฤษฎีกับปฏิบัตินี่ต่างกันเยอะครับ  ขนาดผมตามกระทู้ ยังไม่เหมือนเลย วันนี้ก็ถอดเบรคหลัง มาตามกระทู้เก่า ๆ ล่อซะครึ่งวันเลย งงไปพักใหญ่เลย  เหนื่อยจริง ๆ   ;D
ตอนนี้กำลังรอพี่ ๆ รีวิวิ  เปลี่ยนสายคันเร่ง , ถอดเบรคหน้า, เปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์, เบรค,เกียร์ อะไรพอทำได้ก็ทำไปก่อน :-*

ของผม d16y8 ล้างลิ้นแล้วปิดสกรูนี้ให้สุด แล้วหมุนเปิดไว้ก่อนเลยประมาณ 3 รอบ ทีนี้ก็อุ่นเครื่องเร่งเครื่องให้เข็มความร้อนขึ้นกึ่งกลางให้ได้ก่อนครับ จะให้ดีให้พัดลมหม้อน้ำทำงานก่อนครับแล้วค่อยลดคันเร่งให้อยู่ในสถานะเดินเบาที่ประมาณ 800 รอบ ก็ได้ครับ นี่คือจบแล้วการตั้งรอบเดินเบา ไม่ต้องเปิดแอร์นะครับ อ้อ การตั้งรอบเดินเบาที่ถูกต้องห้ามเปิดโหลดใดๆทั้งสิ้น แม้แต่ขณะที่พัดลมหม้อน้ำกำลังทำงานก็ห้ามปรับตอนนั้นนะครับ ให้พัดลมหยุดหมุนก่อนค่อยหมุนปรับหาครับ เมื่อได้ 800 รอบคือจบแล้วครับ ส่วนเวลาเปิดแอร์ ถ้ารอบมันสวิงให้ล้างตัวชดเชย IACV นั่นแหละครับ มันจะปรับอัตราการจ่ายน้ำมันให้เองอัตโนมัติ เพราะมันควบคุมด้วย ECM ไม่ต้องไปห่วงมันถ้าล้างสะอาดแล้ว คือมันจะชดเชยให้เองนะ

ปิดนี่คือหมุนตามเข็ม  เปิดคือทวนเข็มใช่ป่าวครับพี่

อาการเบาดับน่ะเกิดจากเขาปรับสกรูเดินเบาไม่ถูกต้อง ทำน้ำมันได้แล้วค่อยไปจูนแก๊ส แต่ครับแต่ ท่านต้องไปตั้งไฟให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกครับ ค่อยมาปรับเดินเบาอีกที การตั้งไฟที่ดีเขาจะใช้ไทมิ่งไลท์ส่องตั้งครับ ถ้าไม่มีก็ความรู้สึกล้วนๆจริงๆครับ การปรับไฟ คือ หมุนจานจ่ายตามเข็มนาฬิกา คือไฟอ่อน หมุนย้อนเข็มนาฬิกา คือ ไฟแก่ครับ ปกติเขาจะปรับไปให้ค่อนข้างแก่ครับ ถ้าจำไม่ผิดไฟอ่อนมากเครื่องจะร้อนครับ แก่มากไปเครื่องจะเขกครับ ตอนเร่งเครื่องน่ะนะ ถ้าปรับไปแก่ เร่งแล้ว บรื้นๆๆ แน่นๆน่ะ แจ่มครับ แก่เกินก็เสียงแกร๊กกกๆๆ ประมาณนั้น เร่งไม่แน่นน่ะครับ ให้มันค่อนข้างไปแก่นะ แต่อย่าแก่เกินครับ

ถืก ๆๆๆๆ ถืกต้องแล้วคร๊าบบบบ

ที่เหลือรอพี่บูรณะศักดิ์อธิบายต่อเลยครับ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดแผนจะถอด IACV ไอเดิลแอร์คอนโทรลวาล์ว ออกมาล้าง ลงให้จบๆกระทู้นี้ไปจะได้สมบูรณ์ครับ ย้ำนะครับถ้าไม่มีอะไรผิดแผน จะจัดให้ครับ

ถ้าท่าน Ko Bangplee ลองตั้งเอง โดยมากจะมีปัญหาเรื่องการตั้งแก่ไป ก็จะเกิดอาการเขก ตามมา

อาการ"เขก" เรียกอีกอย่างว่าการชิงจุดครับ แปลว่ามันจุดระเบิดตัวเองก่อนที่หัวเทียนจะสั่งให้มันจุด
เนื่องจากมีอะไรบางอย่างไปกระตุ้นมัน หรือมันทนสภาวะนั้นๆไม่ไหว
เลยยอมระเบิดพลีชีพไปซะก่อนที่หัวเทียนจะสั่งลุย

เลยทำให้หัวลูกสูบถูกแรงระเบิดถีบลงก่อนจังหวะที่เหมาะสม
เลยจะมีเสียง แกร็กๆๆๆๆๆๆ คล้ายๆโลหะกระทบกันนั้นเอง  

ก็ตามที่พี่ได้อธิบายไว้แล้วน่ะครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละคน ประสบการณ์ล้วนๆ เพราะไม่ได้ใช้ไทมิ่งไลท์เลย แต่ละคนทำได้ไม่เท่ากันหรอกครับ จิตสัมผัสล้วนๆเลยครับ

ใช่เลย  ตัวในวงกลมๆ นั่นแหละครับ เขาคลายน๊อตพอหลวมๆ แล้วบิดซ้าย  บิดขวา เครื่องยนต์ก็ หวื๊ด หว๊าด ๆ ๆ
แล้ว เขาก็มาหยุดหมุนตรงที่เสียงเครื่องยนต์ดังกลางๆ แล้ว lock nut 
ช่วงนั้นยังนึกขอบคุณบริการของ B-Quik ที่เอาช่างผู้เชี่ยวชาญมาประจำศูนย์และเห็นอะไรไม่ดีก็ทำแถมให้ แต่ก็ ...(อย่าดีกว่า.. เขาทำเพื่อหวังดี)  :'(
สุดท้ายก็มาเข้าศูนย์  Welovecivic แน่นอนกว่า ขอบคุณที่เป็น Web พี่ Web น้อง ช่วยเหลือกันจริงๆ  ซาบซึ้งครับ

หลายเรื่องเลยน่ะนี้ ว่าแต่อู่คงตกงานกันเป็นแถบเลย  ;D ;D ;D รอครับ รอ ทำมาหมดแล้ว แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ท่าน Sitti มีวัตถุดิบก็จัดให้เพื่อนๆได้เลยครับ :-* :-* :-*

เห็นแล้ว เปรี้ยวปาก ต้องขอพักก่อนนะครับ ออกไปจิบเบียร์วุ้นที่แคร่หน้าบ้านก่อนดีกว่า สำหรับวันนี้ขอขอบคุณมากครับ

ผมคงไม่บังอาจรับคำชมจากพี่ได้ครับ บอกตามตรงผมไม่ได้เรียนมาด้านช่างยนต์มาก่อนในชีวิต เรียนด้านศิลปะมา แต่เมื่อมีรถต้องใช้ทุกวัน แต่ก่อนผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ เปลี่ยนผ้าเบรคก็จ้าง ถ่ายน้ำมันเครื่องก็จ้าง ฯลฯ ด้วยเหตุที่รถมันเก่า ไม่ขยันหาเงินมาประเคนให้ช่างน่ะครับ โดนทีก็หลายตังอยู่ เราไม่รู้ราคาของ เขาบอกเท่าไหร่ก็ต้องจ่าย ช่างเขาจะดูเรา ถ้าโง่ๆเซ่อๆก็เชือดเลย เลือดออกเยอะหน้ามืดไปเลย จนผมมาคิดว่าทำไมเราไม่ทำเองวะ แรกก็ยืนดูเขาทำ คิดไปคิดมาหาที่เรียนดีกว่า ไม่กล้าขอเขาเป็นลูกมือ คิดในใจมีที่ไหนสอนให้ จ้างเรียนสักสองหมื่นก็จะจ้างนะ คิดแบบนี้เลย เลยหาซื้อหนังสือมาอ่านมั่ง เข้าใจ ไม่เข้าใจบ้าง พอดีมีคนรู้จักอยู่ กทม ถามเขาๆเลยบอกมีโรงเรียนฝึกอาชีพสอนอยู่ ค่าเรียนหลักสูตรละ 105 บาท แต่ค่าแก๊สไปเรียนจนได้ปีกว่าก็น่าจะหมดค่าแก๊สไปเป็นหมื่นเหมือนกัน เรียน จ-ศ วันละสามชั่วโมง แบบนั้น จบอันนั้นไปต่ออันนี้ ตอบว่าไม่เก่งครับเพราะไม่ได้ทำทุกวัน แต่จับใจความได้ว่าการที่จะเป็นช่างซ่อมที่เก่งได้ ต้องรู้ทฤษฎี กลไก หน้าที่การทำงานของชิ้นส่วนแต่ละส่วน เราต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมเขาออกแบบๆนั้น ต้องวิเคราะห์หาครับ ถ้าเรารู้จุดมุ่งหมายของผู้ออกแบบ เราจะสามารถซ่อมได้อย่างเข้าใจอย่างถ่องแท้ครับ

อะไรที่จัดให้ได้ก็จะจัดไปก่อนครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการผลิต(เงิน) และอายุการใช้งานของแต่ละชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ครับ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค คลัชท์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์มันก็ไม่มีอะไรยากเลย เพียงแต่มันต้องใช้คนสองคน หรือจะทำคนเดียวก็ได้ แต่มันต้องมีอุปกรณ์ช่วยนิดหน่อย แต่ก่อนก็ทำคนเดียวครับ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเอามาถ่ายทอดแบบนี้เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ต้องรอสักหน่อยครับ ช่วงนี้กำลังยุ่งๆหลายเรื่องครับ ไม่มีกะจิตกะใจทำรถเลยครับ แต่สัญญาว่าจะทำให้ ถ้าไม่มีท่านใดชิงทำตัดหน้าไปเสียก่อนครับ :-[

ฮึ้ย ..  ไม่หาย กลับมาเป็นเหมือนเดิม ;D

สวัสดียามเช้าครับท่านอาจารย์กันต์ อาจารย์Sitti  และพี่น้อง Civic ทุกท่าน
เช้านี้ลองไปสตาร์ทรถ อาการเครื่องสวิงขึ้นลงเป็นเหมือนเดิม ท่าทางต้องเสียทรัพย์อีกแน่เรา  หรือจะไปที่ ม.เกษตรดี
สรุปว่า มันเป็นๆ หายๆ ครับ   ???  เดี๋ยวจะลองไป Reset แบบใหม่ดูก่อนครับ   8)

อย่าเพิ่งใจร้อนอยากเสียเงิน ถอดออกมาล้างตามกระทู้นี้ก่อน รอก่อน ถ้าไม่รีบจำเป็นอะไรมาก วันนี้กะจะล้างเดินเบาแอร์อัพให้อีกตัว มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ อ่านไปทำไปครับ ขออนุญาตไปอาบน้ำไปทำงานก่อนครับ แนะนำว่าอย่าใจร้อนครับ รอครับรอก่อน :-\

ถ้าไม่กล้าทำเองก็มาครับ จะพาทำครับ

ลองทำตามกระทู้ไปก่อน อย่าตื่นเต้น อย่ากังวลครับ ทำไม่ได้ค่อยว่ากันใหม่ ถ้ายังไม่เคยใหม่ๆก็งี้แหละครับ ยิ่งเป็นรถตัวเองด้วยแล้ว กลัวพังสุดๆเลยล่ะ ใจเย็นๆครับ

ไป reset มาแล้ว กางตำราอาจารย์กันต์ ทำเลยครับ

สตาร์ท ช่วงแรก นิ่งดี แต่พอสักพัก ลองเหยียบคันเร่ง สวิงทันที

ช่วงที่กำลังสวิง นึกถึงอาจารย์ Sitti เขียนไว้ในรูปว่า ตัวที่ผมวงกลมไว้ถ้าล้างแล้วเครื่องจะไม่สวิง
 ผมอยากรู้ผล จึงลองถอดสายออก ทำให้เครื่องหยุดสวิง และรอบตกมาอยู่ที่ ประมาณ 500  ชักเริ่มสงสัยตัวนี้แล้วครับ
เดี๋ยวจะใจเย็นก่อน รอคำแนะนำอื่นๆ ก่อนที่จะกางตำราวิธีการถอดเอามาล้าง

เครื่องมือผมยังมีแค่พื้นๆ ประจำบ้าน งานนี้สงสัยต้องไปหาซื้อมาให้ครบ

หายังไม่เจอครับ ไม่เหมือนในรูป เดี๋ยวจะลองหาใหม่ให้ระเอียดอีกที

สายแว็กคั่มเป็นท่อยางเส้นเล็ก ต่อเข้าท่อร่วมไอดี หาให้เจอครับ ถ้าหลุด ขาด แตก เครื่องจะสวิงแบบนี้แหละครับ

ที่วงไว้คือตัวเดินเบาแอร์ครับ ผมกำลังจะทำอัพขึ้นครับ โหลดรูปลงเครื่องอยู่ครับ รอก่อน

อัพต่อให้จบแล้วนะทีนี้ แอบทำวันนี้ มีงานเยอะมาก ช่วงบ่ายต้องลุยงานแล้วครับ เดี๋ยวไม่ทัน งานประจำเสร็จค่อยมาว่าเรื่องที่ค้างกันไว้ต่อครับ

ต่อ

อีก

ประกอบเสร็จแล้ว ก็จบครับเสียบสายเข้าที่เดิม พร้อมใช้งานไม่ต้องไปปรับแต่งอะไรครับ แค่ล้างทำความสะอาด (ทดสอบการทำงานโดยการป้อนไฟเข้าว่าใช้งานได้ก็จบครับ ทดสอบตอนที่ยังไม่ประกอบเข้าเครื่องนะจึงจะมองเห็น ประกอบแล้วมองไม่เห็นเด้อ)  แต่อย่าลืม ควรล้างตัวนี้พร้อมกับล้างลิ้นเร่ง (ปีกผีเสื้อ) ผมว่ากระทู้นี้ผมจบแล้วครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากซับซ้อนอะไร เพียงแต่ให้เข้าใจระบบการทำงานของเครื่องยนต์ก่อนจะได้ไม่ต้องไปเดาสุ่มสี่สุ่มห้า  จะได้ไม่ต้องไปฟังเขาเล่ามาว่า อะไรประมาณนี้น่ะครับ

สรุปแล้วเลยได้แกะของตัวเองออกมาล้างไปในตัวเลย จะว่าไปแล้วผมล้างบ่อยที่สุดเลยรถผม ปีหนึ่ง 3 - 4 ครั้ง ขยันแท้ :(

กระทู้นี้ผมไม่มีอะไรติดค้างแล้วนะครับ เหลือเรื่องเครื่องล่างว่าจะอัพเรื่องดิสก์เบรคหลังให้อีกหน่อยหนึ่ง เล็กๆน้อยๆ แต่สำคัญบางคนอาจมองข้ามไปครับ ขอเวลาทำงานก่อนครับ เดี๋ยวงานไม่เสร็จจะโดนยำครับ :-[

ผมก็แค่เดาๆเอาน่ะครับพี่ อย่าถึงขั้นนั้นเลยครับ ผมอายครับ แนะนำได้แค่เท่าที่รู้ครับ เพราะผมก็เพิ่งจะหัดเรียนรู้แต่ไม่ได้มีประสบการณ์และไม่ได้รู้มากมายขนาดนั้น เอาเป็นว่าพอจะรู้อะไรแนะนำได้ก็จะเอามาลงให้แล้วกันครับ

ขอบคุณมากครับ ที่สละเวลา มาอัพให้
และขอบคุณมาก ที่ถ่ายทอดวิชาให้

ทีนี้ก็แต่ผมจะเริ่มลุยตอนไหน แต่ต้องเป็นวันนี้
- ตรวจสาย Vacuum
- ถอดล้าง IACV (Idle air control valve)  พิมพ์บ่อยๆ จะได้จำได้  IACV = IDLE AIR CONTROL VAVE

อีกนิดนึง ทั้งน้ำมันเบนและน้ำมันเบนซิน ผมไม่มี จะใช้ SONAX , WD40 , น้ำมันก๊าด , น้ำมันสน , แอลกอฮอล์ล้างแผล ได้หรือไม่ครับ

ห้ามใช้น้ำมันพวกโซแน็ก หรืออย่างอื่นครับ เพราะมันทิ้งคราบ ความมัน ความเยิ้มเอาไว้ ยิ่งเป็นตัวช่วยทำให้เขม่าเกาะตันเร็วขึ้นดีแล้วที่ถามก่อนทำเองอีก ต้องเบนซินอย่างเดียวครับ แอลกอฮอล์ล้างไม่ออกหรอกครับ เบนซินล้างแล้วแห้งเร็ว สะอาดที่สุดครับ หาซื้อที่ปั้มหลอด หรือที่เขาใส่ขวดขาย ตามปั้มหาซื้อยากฉิบเลย ไม่รู้จะกลัวเราเอาไปเผาเมืองที่ไหนไม่รู้ผมล่ะเบื่อ

น้ำมันเบนน่ะไม่มีนะ นั่นมันน้ำมันเบนซิน ใส่ขวดเหล้า กันการระเหยทิ้ง เคยซื้อมาใส่แกลลอนเกือบเต็ม ระเหยทิ้งหมดเลย เสียดายจริงเลยฝากพวกวินมอไซต์ซื้อให้ ไม่แน่ใจน้ำมันก๊าซนะ ล้างดี แต่กลัวมันไม่แห้งสักที ถ้ามันเยิ้มอยู่อย่างนั้น อย่าใช้ครับ เขม่าจะเกาะเร็วมากตันเลยครับทีนี้ จบเห่ เน้นคือเบนซินครับ 8)

แก้ไขได้หรือยังครับท่าน ko  bangplee รายงานต่อด้วย จะได้หาทางช่วยต่อ
กระชับพื้นที่ของปัญหา

ส่งการบ้านครับอาจารย์  เพิ่งเสร็จประมาณ 18.30  น.  ตอนนี้ Worm เครื่องอยู่ครับ   เหนื่อย เมื่อย ทรมานมาก ได้เลือดไปหลายแผล :-[

ส่งรายงานตามรูปก่อนครับ

- ไปถอยเครื่องมือ ตามแบบของอาจารย์กันต์เป๊ะเลย จะได้ไม่พลาด 2200 บาท  :-*
-  น้ำมันเบนซิน เขาไม่ขายให้ ใช้เบียดเบียนมอเตอร์ไซค์
-  ถอด IACV เห็นตามสภาพ ล้างแค่พอดูได้ ไม่เนียนเหมือนของอาจารย์ Sitti เวลาน้อยครับ
-  ถอด ปีกผีเสื้อ ก็เห็นตามสภาพครับ ไม่รู้รถวิ่งมาได้อย่างไร ก็ล้างและขูดประเก็นออก ไม่มีเปลี่ยน ก็เลยไม่ใช้ซะ ทากาวดำเอา (ชั่วคราวก่อน มือใหม่)
-  ประกอบกลับที่เดิม อย่างทุลักทุเล ยังไม่รู้เทคนิค
-  reset ECU
-  Start เครื่อง ช่วงแรก สวิงเหมือนเดิม แทบหมดกำลังใจ
       ลืมไปว่าหมุนตัวปรับรอบเดินเบาออกไว้ตอนล้าง (ตามที่อาจารย์ Sitti บอกไว้) 
        หมุนปรับกลับตามตำแหน่งที่มั่วไว้ตามเดิม  เครื่องเริ่มนิ่ง ยังมีแกร่งนิดหน่อย แต่ไม่มากเหมือนตอนแรก  ขณะนี้วอร์มอยู่ 

ต่อครับ

อีกหน่อยครับ  ไหนๆก็ถ่ายมาแล้ว

ต้องนี้สิครับ อุ่นเครื่องให้ร้อน เข็มชี้กึ่งกลางแล้วปรับสกูเดินเบาได้เลยครับ

อีกนิ๊ดนึง

สนิมเต็มท่อน้ำเลย แบบนี้ควรใช้น้ำยาล้างระบบน้ำหน่อยก็ดีนะ เป็นห่วงเรื่องความร้อนในอนาคตอันใกล้นี้ เสร็จแล้วล้างให้สะอาดแล้วเติมน้ำยาหล่อเย็นด้วย เห็นแล้วใจหายแทน

อยากห็นภาพที่ล้างออกแล้วจัง น่าจะเอาให้เอี่ยมเลยสภาพขนาดนี้ผมไม่ปล่อยมันไปแน่

ทำตามกระทู้ไปครับ จะรอฟังผล เชื่อครับว่าทำได้จริงแน่ๆ จะได้พิสูจน์ว่าผมสามารถอธิบายให้มือใหม่ๆอย่างท่านได้ดีไหม ถ้าท่านทำได้แสดงว่าผมก็ยังเขียนพอรู้เรื่องอยู่ :-\

ส่วนเรื่องปะเก็นตรงลิ้นเร่ง ท่านไม่ยอมถามอีกละ พลาดอีกที่เอากาวดำทา มันไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ แค่อากาศผ่านตรงนี้เฉยๆไม่ต้องระวังมากเหมือนพวกท่อน้ำหรือน้ำมันที่จะต้องแน่นขนาดนั้น ของผมที่มากับรถมันเป็นพลาสติก ใช้ไม่เคยต้องเปลี่ยนเลย ถอดออกถอดเข้ากี่ครั้งก็ไม่เคยเปลี่ยน และไม่ต้องทากาวดำด้วย ถ้าท่านหาแผ่นพลาสติกทนความร้อนสูงได้แจ่มเลย ถ้าไม่ได้ก็กระดาษชาร์ทเทาขาวเราก็ได้ครับประมาณความหนาสัก 1 หรือ 2 มิล ก็ได้แล้วครับ คราวหลังจะได้ถอดล้างง่าย ทีนี้คราวต่อไปท่านถอดลิ้นออก ถ้าทากาวเยอะเผลอๆจะได้งัดออกเลยนะนั่น ท่านพลาดอีกแล้วเห็นไหมล่ะ

เอาให้เสร็จนะคืนนี้จะรอฟังผล  :)

จัดหนักเลยสำหรับเครื่องมือ ของผมยังไม่ค่อยมีลูกบล็อคยาวเลยครับ

รอฟังด้วยคนอยู่ครับพี่ เกาะติดยิ่งกว่าศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม ซะอีก ;D

ถอดง่ายครับ ถอดง่าย แต่ปวดหลัง เพราะมันต้องเอื้อมแรงข้างไปตรง
บริเวณด้านกลาง ในห้องเครื่องรถ ปวดน่ะ แต่ชินหละ อึด แล้วแต่อารมณ์ ;D ;D ;D

หมดแรงได้แต่อย่าถอดใจครับ

น้ำมันก๊าดล้างดีครับ สะอาดดีมากๆ แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันแห้งเร็วไหม คงต้องใช้ลมเป่า ผมไม่มีปั้มลมครับ จึงนิยมเบนซินครับ น้ำมันก๊าดเขานิยมเอาไว้ล้างปืนครับ ออกดีมาก

น้ำมันก๊าดสุดยอดของการกัดยางครับ หนักกว่าเบนซินอีกผมว่าเพราะมันแห้งช้ากว่าเบนซิน

ไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ชมผลงานมาครับ  :)
ดีกว่าเดิมเยอะเลย แต่ยังมีสวิงนิดหน่อย ช่วงปล่อยคันเร่ง สวิงขึ้นลงสักพักก็หยุดปกติ
ตัวปรับรอบเดินเบา ต้องปรับหมุนตามเข็มจนสุด(ปิด)  แล้วถอยทวนเข็มมานิดเดียว เครื่องจึงหยุดสวิง เครื่องนิ่ง  ปกติหรือว่ายังมีจุดให้แก้อยู่  ::)
เปิดแอร์ รอบตกเกือบดับ ยังมีอยู่ อาจจะเป็นที่โดนปรับจานจ่าย กับปรับแก๊สหรือเปล่าไม่แน่ใจ อยากจะปรับกลับที่เดิมให้หมด อันนี้ต้องรบกวนให้ชี้แนะอีกแล้วหละ

คราวหน้า ต้องเนียนกว่านี้แน่นอนครับ เพราะวันนี้เร่งเวลา กลัวมืด เดี๋ยวเอารถเข้าจอดที่ไม่ได้  8) 

ชอบมากเครื่องมือ ใช้ดีจังเลย ขอบคุณที่แนะนำครับ  2200 บาท ไม่เสียดายเลย :-*

เพลียแดดครับ เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำ อาบท่าก่อน ถ้ายังสดชื่นอยู่ จะมาต่อเบียร์เย็นๆ อีกซักขวด  เป็นซะอย่างงั้นไป ;D

ขออนุญาตมอบกระทู้ คืน จขกท คุณ Sitti ต่อนะครับ ผมเพียงมาต่อเติมในสวนที่ควรรู้
ให้เท่านั้น ระหว่างรอท่าน Ko Bangplee รายงาน คงใจเต้นตุ๊บๆเลยะนะนั้น  ;D ;D ;D

ขออนุญาติไปย้ายรถเข้าบ้านก่อน มีใช้ 2 คัน งานดูแลก็เลยเยอะ เพื่อนๆท่านใดมีปัญหา
สอบถามก็ Post ถามแทรกมาได้น่ะ เกี่ยวกับ ชุดปีกฝีเสื้อนี้ ท่าน Sitti จขกท นี้เซียนเลยครับ
ไม่ต้องรออ่อานอย่างเดียวก็ได้ถามเลย คนถามอยากรู้  คนรู้อยากตอบ นี้ช่างเป็อะไรที่ลงตัวแท้

สอนซ่อมรถแบบ Online ก็มีที่นี้หละครับ welove civic.com :-* :-* :-*

ผ่อนคันเร่งแล้วสวิงนิดหน่อย ปกติครับ ตอนนี้ห้ามใช้แก๊สก่อน ตั้งแมนนวลไปที่น้ำมันอย่างเดียวก่อน อุ่นเครื่องห้ามเปิดอุปกรณ์ใดๆ แม้แต่ขณะพัดลมหม้อน้ำทำงานก็ห้ามปรับ ให้พัดลมหยุดก่อนปรับรอบให้นิ่งอยู่ที่ 800 รอบไว้ก่อน ให้รอบน้พมันนิ่งก่อน

อ้อ ลืมส่งการบ้านอีกข้อนึง  ยังหา Vacuum ไม่เจอเลยครับ ไม่รู้ตัวไหน
ตามรูป ช่วยวงให้หน่อยครับ ถ้ายังเห็นไม่ทั่วถึง พรุ่งนี้จะถ่ายมาใหม่ครับ ::)

OK ครับ แต่ต้องเป็นวันพรุ่งนี้นะครับอาจารย์  (ต่อรองเหมือนตอนเรียน ปวส. เลย) วันนี้ เพลียครับ

เมื่อคิดว่ารอบเดินเบานิ่งแล้ว ไม่ตีขึ้นตีลงแล้ว ลองเปิดแอร์ พัดลม ไฟหน้า วิทยุ เอาให้มีภาระเต็มที่ ดูว่าเครื่องเป็นยังไง อย่าลืมนะให้อยู่ในโหมดน้ำมันนะ อย่าเพิ่งไปวุ่นวายกับระบบแก๊ส

ถ้าล้างสะอาดดีไม่น่าจะมีอาการสวิงแล้ว ส่วนเรื่องแก๊สก็ว่ากันยาวอีก ใช้มิกเซอร์หรือหัวฉีด แต่คิดว่ามิกเซอร์มากกว่าเพราะใช้คำว่าปรับแก๊ส  ยี่ห้อหม้อต้ม ขอข้อมูลด้วยเด้อ

เฮ้อเหนื่อยแทนเด้อ ก็คงร่ายกันยาวอีก

การปรับจูนแก๊สมันก็มีสูตรอีกแหละ
มันมีอยู่สามตัวที่ต้องปรับให้สัมพันธ์กัน
1 Idle
2 sensitive
3 power valve
ถ้าจะอธิบายมันก็ยาวมาก แต่จะจูนเองได้หรือเปล่านั้นอีกเรื่องหนึ่ง จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย อยู่ที่ความชำนาญ แล้วค่อยว่ากัน :-[

วันนี้ขอพักก่อนครับ

มันลายตาไปหมดภาพเล็กไปขอภาพใหญ่ๆ ซูมๆหน่อยครับ ภาพด้านนี้ เอาซูมไปหลังคอไดดีเลยครับ เอามันใกล้ๆ
ให้เห็นทุกจุดเลยเดี๋ยวจะดูให้ เวปนี้ให้ภาพไม่เกิน 140 Kb ojk0t.sPjwfhd;jkouh


แล้วหันไปอีกฝั่งหนึ่งนะครับ เอาแบบใกล้ชิดเหมือนกัน เดี๋ยวดูให้

ระบบแก๊สเป็นระบบ Fix Mix เหมือนท่านหละ เหมือนผมด้วย ทีนี้ก็สอนจูนต่อได้เลยครับ เอาแบบครบๆ

เอาขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่ ต้องร่ายยาวนิดหนึ่งนะครับ ผมไม่รู้ใครจูนยังไงนะ แต่ของผมก็อาจจะแตกต่างจากของคนอื่นหรือเปล่าไม่รู้ ไว้ค่อยว่ากันครับ ต้องมีภาพประกอบด้วยน่ะครับ ขอเวลาแป๊ปนึงครับ ไม่เกินวันสองวันนี้เดี๋ยวอัพให้ แต่เอสงสัยกระทู้นี้ไมเงียบจังน้อ   ;)

ถ้าผมมีโอกาสและประสบการณ์อย่างพี่ก็คงดีเนาะ ผมก็ยังรู้ไม่หมดหรอกครับ ถ้าอะไรที่ไม่เกิดปัญหากับรถตัวเองก็ไม่ค่อยได้สนใจมัน แต่ถ้าสนใจเมื่อไหร่เอาให้ถึงกึ๋นไปเลยครับ

ส่วนเรื่องการจูนแก๊สมิกเซอร์นี่ สัญญาว่าจะทำให้ครับ คนอื่นไม่สนใจไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดให้พี่เป็นกรณีพิเศษก็ได้ครับ  ;)

วัดจากเสียงโหวตน่ะครับ  :)

สวัสดียามเช้าครับ

 :'(  ไม่หายครับ

เช้ามา Start รถ ยัง Ok อยู่  วอร์มเครื่องสักพัก ขับออกไปได้ประมาณ 500 เมตร เครื่องสวิงเป็นจังหวะถี่ขึ้น(น้ำมัน)  ทำไมช่วง 1-500 เมตร วิ่งดีปกติ
 เหยียบเร่งไปที่ประมาณ 1500-2500 รถก็วิ่งกระตุกเป็นจังหวะเหมือนกัน พอตัดเป็นแก๊ส รถก็พุ่งตัว  พอจอดรถ รอบก็ค้างที่ประมาณ 1500   เซ็งครับท่าน :'(

ลองปรับรอบเดินเบา ไม่มีผลอะไรเลย ปรับซ้ายสุด ขวาสุด เครื่องก็สวิง วื๊ด วื๊ด วี๊ด ถี่ๆ อยู่อย่างงั้นครับ  แต่
พอลองถอดสาย แจ๊คเสียบ IACV เครื่องเบาทันที นิ่งด้วย ปรับรอบเดินเบามีผลทันที แต่เหยียบคันเร่งที่ 1500 - 2000 เครื่องสวิงครับ ตัดเป็นแก๊ส ค้างที่ 1500 รอบ

สงสัย   ::)
   -  ตัว IACV เสียเป็นหรือไม่ครับ และถ้าเสียอาการจะเป็นอย่างไร
   -  ผมใส่ไม่ดี ลมรั่วเข้าไปได้ เป็นไปได้หรือไม่
   -  หรือว่าจะเป็นที่ระบบ VAC ที่ยังหาตัวไม่เจอ     เดี๋ยวต้องไปถ่ายรูปมาให้ใหม่ครับ   

ไปละ 8)

จากที่เล่ามานะ ให้หาสายแวคคั่มให้เจอ ว่ามีหลุดไหม มีตรงไหนที่มีรูแต่ไม่มีท่อ คือท่อสายยางเล็กๆหลุดหายไปไหม ถ้าไม่มีแสดงว่าท่านอ่านกระทู้ยังไม่เข้าใจ สตาร์ทตอนเช้าใหม่ๆรอบต้องขึ้นได้ประมาณ 1500 รอบ พอท่านขับรถไปเลย รอบมันยังสูงอยู่เลยวิ่งไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเครื่องมันร้อนได้ที่รอบมันจะตกลงมาที่ปกติ ตอนนี้แหละสำคัญตอนที่มันตกลงมานี่แหละดูว่าไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดอะไรเลย จอดรถนิ่งๆเดินเบาน้ำมันอยู่ที่เท่าไหร่

พอตัดไปเป็นแก๊สมันจะขึ้นไป 1500 รอบก็ไม่แปลกเพราะเรายังจูนน้ำมันให้มันถูกต้องไม่ได้ เขาดันไปปรับแก๊สให้ท่านแบบนั้นมันก็กินแก๊สอาจจะมากไป มันเลยรอบขึ้นสูงลิ่วเลย ไม่แปลกครับ ผมบอกเอาน้ำมันให้นิ่งก่อน ตั้งใจอ่านดีๆครับ ใช้สมาธินิดหนึ่ง อย่าตื่นเต้นจนลนลานครับ มือใหม่ก็แบบนี้แหละครับ

พอเดินเบาน้ำมันได้แล้วผมจะบอกวิธีจูนแก๊สต่อไป แต่ท่านยังไม่ได้บอกผมเลยว่าใช้หม้อต้มยี่ห้ออะไร ผมก็บอกท่านไม่าได้ว่าจะจูนยังไงเหมือนกัน

ส่วนการทดสอบ IACV ผมก็ลงไว้แล้วนี่ครับว่าทดสอบดีเสียยังไง แสดงว่าท่านไม่ตั้งใจอ่านนะนี่ มีภาพประกอบชัดเจนเลย

IACV จะทำงานก็ต่อเมื่อท่านเปิดแอร์ครับ ถ้าท่านไม่ได้เปิดแอร์ไปจูนเดินเบาไปไม่มีผลนะผมว่า เพราะผมจูนเดินเบาก็ไม่เคยไปถอดสายมันออกหรอกไอ้ตัว IACV นี่ ก็เห็นจูนได้ปกติ

การประกอบห้ามให้มีลมรั่วเข้าได้ครับ โอริงมันวงไปยังไงท่านต้องทากาวดำตามมันให้รอบเลยอย่าให้มีลมเล็ดลอดผ่านรูทั้งสองทะลุหากันได้เป็นอันขาด

ขอบคุณครับ

ตอนประกอบ IACV โอริงมันขาดหน่อยนึง ใช้กาวดำ ทาบางๆ ช่วย ถ้าสงสัยเป็นที่จุดนี้ ต้องไปเชียงกงแล้วหละครับ

ผมพยายามหาตัว VAC ก็ยังไม่พบ  แต่พูดถึงว่ามันต้องมีทุกเครื่อง CIVIC ทุกคันใช่ไหมครับ  ::)

ใช่ตัวในรูปนี้หรือเปล่า

ตัวในภาพนี้ก็น่าจะใช่นะ เพราะมันต่อเข้าท่อร่วมไอดี

มีที่อื่นอีกไหม ถ้าไม่มีที่อื่นแสดงว่าไม่เกี่ยวกับแวคคั่มแล้ว

ถอด IACV ออกมาใหม่ ป้อนไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์เรานี่แหละเข้าไป ดูในรูช่องเล็กๆของท่านน่ะว่ามันขยับแกนที่เป็นแหนบๆได้สะดวกไหม ถ้าไม่ขยับแสดงว่าเสียครับ

รถยนต์ยี่ห้อไหนก็มีแวคคั่มเหมือนกันหมดแหละครับ

ถ่ายภาพหม้อต้มแก๊ส ที่มีที่จูนมาให้ดูด้วยครับ

เดี๋ยวมาต่อขอไปกินข้าวก่อนครับ

อย่าว่าอย่างนู้น อย่างนี้ เลยครับ ผมยังไม่รู้ว่า หม้อต้มแก๊ส มันอยู่ตรงไหน  ใช่ในรูปนี้หรือเปล่า เพราะมีเขียนคำว่า GAS อยู่   ::)

ใช่ครับตัวกลมๆนั้นหละ ภาพแรก เขาเรียกว่า หม้อต้มแก๊ส ครับ ภาพที่สอง

เป็นตัวปรับปริมาณแก๊สที่เข้าไปยังท่อไอดี
ว่าจะกำหนดให้มันเท่าไหร่ คือ ต้องมีการจูน ให้มีความเหมาะสมอย่างที่ ท่าน Sitti จะสอนให้รู้นี้หละครับ

ภาพนี้เขาเรียกว่า Regurator ครับ เอาไว้ปรับแรงดันน้ำมัน ไม่เกี่ยวกับ ตัว Vaccumm อากาศที่ผมว่าไป
แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการใช้อากาศจากเครื่องยนต์เหมือนกัน จึงต้องมีท่อต่ออยู่ ครับ

ตอนที่เกิดอาการนี้มีไฟเครื่องยนต์โชว์หน้าปัดไหมครับ คำว่า Engine สีเหลืองๆครับ

เช็คดูสายตรงนี้ให้หน่อยมามันแตกและมีลมรั่วออกมาไหม

อะ วิธีจูนแก๊ส ให้หมดใส้หมดพุงเลยทีนี้

ต่อๆๆๆๆๆ

ท่านใดที่ใช้หม้อต้มต่างจากนี้ก็ยากหน่อยครับ แต่ทั่วไปจะมีอยู่ 3 จุดเหมือนกัน
1. Idle ตัวเล็ก
2. Sensitive ตัวใหญ่
3. Power Valve วาล์วกลางสาย
ก็จูนเหมือนกัน ต่างกันที่ตำแหน่ง หน้าตาอุปกรณ์ครับ จัดเองแล้วกันครับพี่น้อง

ขอบคุณครับ สุดยอดของการอธิบายครับ อ่านรอบเดี๋ยวพอเข้าใจเลย ก็เหลือแต่เครื่องมือ อุปกรณ์ละทีนี้  :-*

ขอย้อนตอบเรื่องนี้ก่อนนะครับ

เป็นสายคันเร่งครับ มีปลอกยางหุ้มอยู่

ตอนมีปัญหา ไม่มีไฟ Engine ขึ้นโชว์ครับ ::)


แต่ผมสงสัย ท่อที่ถูกตัดไว้ ใช่ที่ต่อ Vac หรือเปล่า  ::)

และขอคำอธิบายอีกครั้งครับว่า ระบบ VAC ที่ว่า มันทำงานอย่างไร ต่อเข้ากับจุดไหนของเครื่องยนต์ เพื่อจะได้ไล่หาถูกครับ :D

เรื่องแวคคั่มรอพี่บูรณะศักดิ์ตอบครับ

ตรงนี้ไม่รู้เลย ตำแหน่งนี้ในรถผมไม่มีครับ

กระทู้นี้เข้มข้นจริงๆ  พี่น้อง CIVIC ที่มีปัญหาคล้ายๆกัน น่าจะเป็นคำตอบที่ดี

รถผมถึงแม้ว่า อาการจะหาย หรือไม่หาย ไม่ค่อยเท่าไหร่  ไม่ไหว จริงๆ  สุดๆ ก็พึ่งอู่ไปก่อน  ก่อนที่จะออกทะเลไปไกล :-[

แต่สิ่งที่ผมได้มา คือความรู้ ได้ลองทำเอง ประกอบแล้วเครื่องยังไม่พัง ถึงยังไม่ดีเท่าไหร่ ก็ภุมิใจแล้ว ครับ
และที่สำคัญมากคือ ได้เห็นการเสียสละเวลา อัพรูป พิมพ์รายละเอียด อธิบาย ซึ่งไม่ใช่ง่ายเท่าไหร่ ต้องใช้เวลามากของผู้ให้ ซึ่งผมขอเรียกว่าเป็นอาจารย์คนหนึ่ง
คอยเป็นห่วงติดตามถามปัญหาแต่ละขั้นตอน  ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซาบซึ้งมากครับ  :-*

ก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี นอกจากคำขอบคุณมากๆ

ไม่เป็นไรครับ กันลืมเองด้วย ลืมเมื่อไหร่เปิดเข้าเว็บ อยู่ที่ไหนก็หาเจอ ไม่ต้องพกเอกสารครับผม

ตัวนี้หละท่าน ต่อเลย ต่อตรงถังดักไอน้ำมัน น่ะ...ผมำม่แน่ในเรียกถูกไหม รูปร่างอย่างนี้น่ะ ว่าแต่มันตัดเมื่อไหร่หว่า ::) ::) ::)

ท่อนี้ สงสัยจะไม่ใช้งานตั้งแต่แรก  เพราะถูกอุดไว้อยู่  มีภาพเมื่อก่อนตอนหัดล้างหม้อน้ำ ก็ถูกตัดไว้เหมือนกัน ตอนนั้นเครื่องยังไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนถังดักน้ำมัน ดูตามรูปก็ไม่น่าจะมี  สงสัยเป็นเครื่องแปลกประหลาด ถูกโมดิฟายมามั๊งครับ  หรือผมอาจยังไม่เห็น

ในสายนั้นตอนนี้มีอะไรอุดอยู่ไหมครับ ดูใหหน่อย

คงไม่ต้องอธิบายแล้วมั้งครับว่าทำไมถึงมีสูตรในการจูนแบบนี้ เขียนไปก็ยาวเปล่าๆครับ ผลสุดท้ายก็ต้องทำแบบนี้ วิธีนี้ได้มาจากท่าน อ.ทรงเกียรติ อันชุรีย์ สมัยท่านสอนอยู่โรงเรียนฝึกอาชีพดินแดง 1 กทม ครับ ส่วนใครสนใจอยากได้สุดยอดอาจารย์ ตามไปเรียนได้ที่โรงเรียนฝึกอาชีพของ กทม มั้ง ไม่แน่ใจยังสังกัด กทม ไหม ที่หนองจอกครับ ท่านย้ายไปสอนที่นั่นแล้วครับ ใครอยู่ใกล้ตามไปเรียนเลยครับ ท่านไม่หวงความรู้ครับ น่าชื่นชมครับ

คิดๆๆ แล้วท่านจะรู้คำตอบครับ

ย้อนกลับไปอ่านก็เจอที่พิมพ์ผิดอยู่บ้าง แต่ความหมายโดยรวมอ่านแล้วน่าจะเข้าใจได้อยู่หรอกครับ  การปฏิบัติไม่ผิดไปจากนี้ครับ ทุกอย่างที่เขียนมาจากการปฏิบัติเองล้วนๆครับ เข้าใจ ทำได้ เลยอธิบายไม่ยากครับ

ดึงท่อออกมาแล้วครับ

Start เครื่อง  ท่อที่เครื่องมีลมดูด

ส่วนท่อที่ดึงออกมา มี nut อุดรูไว้ครับ ตามรูป

ตอนนี้ น่าจะออกทะเลไปเยอะแล้ว เริ่มหงุดหงิดแล้ว  พูดถึงแล้วนึกโมโหศูนย์ B-Quik ไม่หายเลย ไม่เป็นก็ไม่น่ามาปรับเล๊ย ???
อาการเหมือนที่อาจารย์ Sitti บรรยายในการจูนแก๊สเลย
   -  ระบบแก๊ส รอบเดินเบาอยู่ 1000  พอใส่เกียร์ R เหยียบเบรคไว้ เครื่องแทบดับ ดัง บุบ บุบ ๆๆๆๆๆๆ  เซ็งสุดๆ
   -   น้ำมัน เครื่องสวิงถี่ ๆ

ตอนนี้ระบบรวนหมดแล้วครับ สงสัยต้องพึ่งอู่ อย่างเดียว
หรือท่านอาจารย์ Sitti จะพอช่วยได้   ม.เกษตร ก็ไม่ไกลเท่าไหร่น๊า 
ผมเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ พื้นๆ ไม่ไฮโซ ไม่แต่งตัวเท่ห์ ครับ น่าจะไม่รังเกียจ หรือเกรงๆ นะครับ  :D  Please 

หรือจะลองให้ผมลองอีกสักตั้งนึงก่อน  แต่ทนรำคาญถามบ่อยหน่อยนะครับ  มือใหม่หัดพัง เอ๊ย หัดซ่อมเครื่องยนต์ครับ

ลองสักตั้งใหม่ก่อน ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบไปเสียเงิน ผมไม่รังเกียจใครหรอกครับ คุณ Amic อีกคน อยากถามอะไรถามได้ครับ เท่าที่รู้ได้ก็จะตอบให้ครับ ผมก็ไม่ได้สนใจการแต่งตัวพิถีพิถันอะไรนักหรอกครับ เวลาซ่อมรถผมก็กางเกงขาสั้น เสืัอยืดเก่าๆเอาไว้นอนลอดใต้ท้องรถบ้าง ก็เท่านั้นเอง มีเพื่อนดีกว่ามีศัตรูนี่ครับ ขออย่างเดียวคือจริงใจก็พอครับ

อื้อ เอาใส่ไปที่เดิม หาน๊อคตัวใหม่ หัวให้ใส่รูและมันฟิตๅ ใส่เข้าไปนะครับ แล้วมาเริ่มกันใหม่ครับ
...เดี๋ยวขอคิดก่อน ::) ::) ::)

ถอดลิ้นเร่ง และ iacv ออกมาล้างใหม่ให้แจ่มๆซิ

พรุ่งนี้ถ้าขยันกะว่าจะวิ่งไปเปลี่ยนปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องที่ทำงานอยู่ ถ้าขยันนะ ซื้อปะเก็นมาไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว บอกตรงๆว่ายังไม่ได้ดูคู่มือเลยว่าถอดตรงไหนมั่ง หรือไงพรุ่งนี้มาไหวไหม๊ล่ะ จะช่วยดูสิว่ามันเป็นอะไรกันนักหนา

หรือไม่ก็วันอาทิตย์ ที่บ้านสวนบางเขน ถนนพหลโยธิน ซอยพหลโยธิน 48 แยก 17/1 ครับ

งอน หายไปซะแล้ว :-[

เอ๊า เอาเบอร์โทรไป บางทีไม่ค่อยได้เข้าเว็ปน่ะ ถ้าตอบได้จะตอบนะ ตอบไม่ได้ก็จะบอกไม่รู้นะ ตรงๆ ไม่ได้เป็นช่าง จะให้รู้หมดทุกเรื่องคงไม่ได้ อะไรที่รู้พอช่วยได้จะช่วยนะ

ลืมพิมพ์เบอร์ 0851273387

มือใหม่ใจสู้แบบนี้ผมชอบครับ  ;) สมัยก่อนที่ผมยังไม่ได้เรียนก็อย่างนี้แหละครับ อ่านคู่มือการจูนแก๊สที่มากับหม้อต้ม อ่านไปทำไป ปรากฎว่าไปไม่เป็นเลย สตาร์ทแก๊สก็ไม่ติด พอใช้แก๊สดับเลย ให้ช่างมาทำให้ ช่างบอกหม้อต้มรุ่นนี้ไม่ดี ผ้ามันเก็บแก๊สไม่อยู่ เขาคงหมายถึงแผ่นไดอะแฟรมในหม้อต้มน่ะ เริ่มจะหาทางเชือดเราแล้ว แต่ผมไม่ได้เชื่อนะ คิดในใจมันจะเชือดกูอีกละ ไว้ใจยากครับ ถ้าไม่โกง ไม่เหลี่ยม ไม่รวยครับ เจอมาบ่อยจนเรียนเองดีกว่า สนุกดี

ใส่ไม่เป็นพี่ ยังไม่ค่อยได้เข้าโปรไฟล์เลย เดี๋ยวจะลองดูครับ

ถ้าได้ทำอะไรก็จะจัดให้ครับ ไม่หวงความรู้ครับ สำคัญว่าจะได้ทำเมื่อไหร่ตามความขยันน่ะครับ ตอนนี้เรื่องดิสก์เบรคหลัง ถ่ายรูปไว้แล้ว แต่ยังไม่มีเวลาอธิบายในภาพครับ เล็กๆน้อยๆแต่ก็สำคัญไม่ใช่เล่น เพราะบางคนอาจมองข้ามมันไป ขอเวลาสักหน่อยครับ ช่วงนี้งานเยอะครับ เลยยังไม่ได้ทำอัพต่อครับ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วงจรแก๊สมิกเซอร์ อยู่ที่ลิ้งค์นี้นะครับ จะยี่ห้อหม้อต้มยี่ห้อไหน วงจรการต่อก็ตามนี้ครับ อาจจะมีแตกต่างจากนี้บ้าง แต่เท่าที่วิเคราะห์แล้ววงจรนี้ประหยัดรีเรย์ที่สุดครับ โดยทั่วไปร้านติดตั้งแก็สถ้าเดินสายไฟตามวงจรนี้ถือว่าใช้ได้ครับ รีเรย์ไม่น้อยเกินไป บางร้านที่ต่อต่างจากนี้ก็มีเน้นประหยัดรีเลย์เกินไปก็มี แต่ผมไม่แนะนำ เลยเอาวงจรนี้มาลงครับ ถ้าท่านจะตรวจเช็คระบบไฟแก๊สก็ไล่สายตามนี้เลย ถ้าสีสายไฟไม่เหมือน ก็ลองไล่อ่านวงจรให้เป็นก็ไล่ได้ครับ 8)

ลืมวางลิ้งค์อีกละ http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=165237.0

เมื่อกี้อธิบายหลักการไปยาวมาก กดส่ง เน็ตหลุด ย้อนกลับมาข้อความหายเกลี้ยงเลย เหนื่อยแล้ว อดไปครับพี่น้อง อุตส่าห์จะเอาหลักวิชาการให้สักหน่อยว่าทำไมจูนแบบนี้ หมดแรงเลย :'(

ติดตามมาตลอดแต่ไม่กล้าถอดล้างเอง ผมอยู่แยก 23 ว่างๆจะขอเข้าไปขอคำชี้แนะ นะท่าน

ไม่มีปัญหาครับผม ยินดีช่วยถ้าช่วยได้ครับ

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ทั้งสอง :-*

เมื่อคืนไปนั่งคุยกับรถมาครับ  ว่าจะเอาอย่างงัยกันว่ามา  (หมดไป 2 ขวด) ;)
เพราะตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน ยังไม่เคยให้แม้แต่พวงมาลัยสักพวง
เพราะเป็นคนไม่ค่อยมีพิธีการอะไร เรียบๆ ง่ายๆ ไม่ค่อยยึดถืออะไร  มีแต่พาไปเที่ยวไหว้พระตามวัดต่างๆ   งอนหรืองัยเราน่ะ (คุยกับรถ  แบบใกล้จะบ้าน่ะครับ) ???


ขอบคุณสำหรับเบอร์โทรครับ  กล้าให้อย่างนี้ แสดงว่าห่วงกันจริง ขอบคุณมากๆครับ   :D
ของผม 081-4224803 (ผมไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์ นานๆจะหยิบขึ้นมาโทรที่สำคัญซะที
ไม่ใช่ประหยัดนะ แต่ไม่มีกิ๊ก เลยไม่รู้จะโทรไปไหน เรียบง่าย สมถะ อย่างว่า จึงวางไกลมือหน่อย โทรมาไม่ได้รับไม่เป็นไร เดี๋ยวผมโทรกลับ)


เอางัยต่อดีเรา
งั้นวันนี้เดี๋ยวผมจะหาเวลาไปซื้อ ยาง(โอริง)  IACV ที่ขาดมาเปลี่ยนก่อนดีกว่า ถ้ามี IACV ของใหม่ก็จะซื้อมาเปลี่ยนซะเลย
และ ประเก็นปีกผีเสื้อ ครั้งแรกจะหาซื้อแบบสำเร็จก่อน รอให้ชำนาญหรือมีเวลา จะทำประเก็นเองตามที่อาจารย์แนะนำ

ขอบคุณครับ

เชื่อเถอะว่าทำเองน่ะสุดยอดแล้ว ได้ประสบการณ์ดี สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ร้อยตาเห็นยังไม่เท่าลงมือทำเอง ทำไปเรื่อยๆเดี๋ยวรู้ ต้องหมั่นสังเกตุก่อนถอดออกมาดูท่าเดิมๆมันให้ดีก่อน มันออกแบบยังไง หาเหตุผลให้เจอ แล้วจะเก่ง เจออะไรซัดได้เรียบ สำคัญต้องวิเคราะห์ระบบการออกแบบของเขาให้ออก แจ่มเลย สู้ๆน่า

ถ้าได้ปะเก็นลิ้นมาใหม่ไม่ต้องทากาวดำนะ ทำความสะอาดหน้าสัมผัสให้สะอาดที่สุด ห้ามใช้ของแข็งขูดผิวหน้าอุปกรณ์ให้ใช้พวกไม้โปรพลาสติกน่ะขูดออก ผมยังใช้เล็บตัวเองค่อยๆขูดลอกออกเลย อดทนสุดๆ ไม่อยากให้หน้าแปลนเสีย ถ้าเราไม่ทากาว ครั้งต่อไปเราก็ถอดออกมาล้างเลย ประกอบเข้าไปใหม่ที่ใช้อยู่นี่ก็อันเดิมไม่เคยเปลี่ยนใหม่เลยนะบอกตรงๆ ส่วน IACV ถ้าไปซื้อเซียงกงก็ลองป้อนไฟ 12 v ทดสอบว่ามันทำงานไหมด้วย ยังดีที่ตัวที่เห็นนี้ท่อน้ำมันแยกส่วนออกจากรูอากาศ ถ้ารุ่นของใครที่ท่อน้ำ รูอากาศอยู่หน้างานเดียวกัน ถ้าประกอบไม่ดีโอริงรั่ว น้ำเข้าท่อร่วมไอดีเลยนะ งานเข้าเลยนะ ที่ไม่ได้บอกไว้ก่อนเพราะเห็นในรูปแล้วมันอยู่คนละหน้างานกันก็เลยปล่อยผ่านไป

เอาออกมาล้างใหม่ให้แจ่มๆ ที่สำคัญให้รูเล็กๆที่บอกไว้แล้วให้สะอาดที่สุดเลย จะได้ไม่ต้องถอดออกมาล้างบ่อยๆ อย่าใจร้อน

อาบน้ำ กินข้าว จะออกไปข้างนอกแล้ว มีปัญหาอะไรถามพี่บูรณะศักดิ์เลยนะทีนี้ ไปแล้ว

ทดสอบของเดิมก่อนมันทำงานไหมถ้าทำงานได้คือมันจะสามารถเลื่อนแกนของมันได้เกือบถึง 5 มม เลยมั้งเท่าที่ทดสองของตัวเองนะ ไม่อยากให้เสียเงินฟรีน่ะ

 :o :o :o :'( :'( :'(

เจ้าตัว ตาหมุนๆ กับ เจ้าตัวหน้าคว่ำ เนี่ย น่าจะหมายถึง เริ่มงง ๆ แล้วใช่ไหมครับ
ผมมาลองคิดดูว่า มันจะเกี่ยวกับ Sensor ตัวใด ตัวหนึ่ง เสื่อมหรือเปล่า :-\
เพราะ ช่วงวอร์มเครื่อง ยังปกติ แต่พอเครื่องร้อน และขับไปสักระยะ จะเริ่มมีอารการรวน
รู้สักท่านอาจารย์กันต์เคยบอกไว้ว่า สัญญาณ Sensor จะส่งให้ ECU ประมวลผล สั่งการ  :-\
เมื่อ Sensor ร้อน แล้วส่งสัญญาณเพี้ยนไปให้ ECU   ECU ก็เลยสั่งการเพี้ยนมา เป็นไปได้หรือเปล่าครับ  หรือผมเริ่มคิดเลอะเทอะ ไปกันใหญ่แล้ว
ถ้าใช่ จะเป็น Sensor ตัวไหนล่ะที่นี้  เยอะไปหมด     ::)


 

อยากรู้จะยากอะไร ใต้เท้าด้านคนนั่งข้างคนขับมันจะมีขั้วทดสอบอยู่ หาให้เจอ มันซ่อนอยู่ มียางหุ้มสีเขียวๆหุ้มอยู่ มีสายไฟ 5 เส้น แบ่งเป็นชุด 3 เส้น กับชุด 2 เส้น ให้หาสายไฟเส้นเล็กๆ ต่อพ่วงชุดสายที่มันอยู่ด้วยกันสองเส้นเข้าไปให้มันต่อกัน อย่าให้หลุด แล้วไปสตาร์ทเครื่องยนต์ เร่งๆ สักพัก ดับเครื่องยนต์ ปิดสวิทกุญแจ แล้วเปิดใหม่ ดูว่าไฟรูปเครื่องยนต์กะพริบไหม ถ้ากะพริบใช่เลย เซ็นเซอร์มีปัญหา

ส่วนวิธีการอ่านรหัสให้หาจากเว็บนี้แหละ มีลงไว้อยู่แต่จำไม่ได้ ไปดูตามนั้น มันจะบอกว่าอะไรเสียก็ไปจัดการกับมันซะ

ถ้าไฟรูปเครื่องยนต์ไม่กระพริบ แช่นิ่งอยู่อย่างนั้นตอนที่เราต่อสายพ่วงกันแล้ว ทดลองเดินเครื่อง ปิดออฟที่สวิทซ์ เปิดออนใหม่ ไฟเครื่องยนต์ไม่กะพริบ คือไม่มีเซ็นเซอร์ตัวใดเสียนะ ฟันธงเลย

ใต้เท้าซ้ายคนนั่งข้างๆเราน่ะ ไปหาให้เจอ หาไม่เจอแกะหาให้เจอ

คิดว่าเป็นที่ตั้งค่าที่ลิ้นไม่ถูกมากกว่าน่า IACV ด้วย บอกแล้วไงว่าสตาร์ทใหม่ๆรอบมันยังสูงอยู่เลยไปได้ พอสักพักเครื่องร้อนรอบตก เลยงึกๆงั๊กๆเลยทีนี้ คิดดีๆ ดูที่เข็มวัดรอบตอนแรกๆ กับตอนที่วิ่งไปสักพักเทียบกันดูสิ ยิ่งจูนแก๊สไม่ได้ด้วยแล้วจบเห่เลย

วันอาทิตย์ร้านแถวนี้ปิดครับพี่ ถ้าจะมาจริงก็เตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อมครับ ถ้าแค่อาการตั้งเดินเบาไม่ถูก ประกอบเดินเบาแอร์ไม่ดี แต่ตัวมันไม่เสีย จูนแก๊สไม่ได้ ไม่มีปัญหาหรอกครับ พอสอนได้ครับ

วันนี้ขออนุญาตก่อนนะครับพี่น้อง ไปละ

คุณโก้ บางพลี  ผมว่าให้ดีอย่าเพิ่งไปร้านเตรียมเครื่องมือ อะไหล่ มาหาท่าน Sitti ก่อนดีกว่า เอาลองช่วยกันไล่
ดูเบื้อต้นที่ผมว่าก่อนครับ ถ้าอะไรมัเสียค่อยว่ากันน่ะ ผมว่า

ฮึ๊ม.... เอาจริง  งานนี้ มาลุยกันสักตั้ง ให้มันรู้ไปเลยว่า เครื่องหรือคน ใครจะพังก่อนกัน  ???

ไปซื้อมาแล้ว
-   มอเตอร์รอบเดินเบา เชียงกง บางนา 1000 บาท สภาพไม่ต่างจากเดิมมากนัก  แต่ความรู้สึกดี
-   ประเก็น  เอ ... เท่าไหร่หว่า   40  บาทมั้ง
-   เบนซิน ซื้อยากนัก  นี่เลย  น้ำยาล้าง 80 บาท

เดี๋ยวหาเวลาไปลุยเปลี่ยน น่าจะเป็นเย็นนี้  อาจจะถึงมืด เดี๋ยวเตรียมหาหลอดไฟส่องสว่างก่อน 

ถ้าสำเร็จ อดไปเที่ยว ม.เกษตร :)
ถ้ายังงอแง  จะโทรนัดครับท่านอาจารย์ทั้งสอง   :o

เสร็จแล้วครับ  รายงานผล

แจ่ม   ชัดเจนเลย  IACV ชัวร์   ;D

ถอดรอบสองคล่องขึ้นครับ  เปลี่ยนตัว IACV เข้าไปใหม่ ทำความสะอาดใหม่    OK เลยครับ  ไม่มีสวิง   :(
แต่อาจจะเป็นผลจากการไปปรับ จานจ่าย ปรับแก๊ส ปรับรอบต่ำ ทำให้เครื่องจะทำรอบต่ำที่ ประมาณ 1000 รอบ กว่า ๆ  (หรือว่าไม่เกี่ยว)  :'(
ปรับรอบเดินเบาแล้วไม่ลดลง เปลืองแก๊ส เปลือง น้ำมันดีครับ (Positive thinking)   ;)
แต่พอใส่เกียร์ R รอบตกมาอยู่ทีประมาณ  800 รอบ  เปิดแอร์เพิ่ม ตกมาอยู่ 600  มันไม่สวิงเหมือนตอนแรกก็พอรับได้แล้วครับ

เหลือแต่ทดสอบวิ่งครับ  ตอนนี้ มืดแล้ว บนถนนรถเยอะ ไม่อยากเสี่ยง เอาไว้พรุ่งนี้เช้า จะรายงานผลครับ   

แก้อาการหายชักเริ่มมันแล้วครับ    :)

ส่วนประเก็นปีกผีเสื้อ ยังไม่ได้เปลี่ยน เพราะจะทดสอบ IACV ดูก่อน ถ้าหายก็ไม่เปลี่ยน

เฮ้อ!!!!  ล่วงอกไปที  เอาไว้พรุ่งทราบผลภาคสนาม   :-[  ว่าจะได้ไปบ้านอาจารย์ Sitti หรือไม่

แต่พูดถึง หายหรือไม่หาย ก็อยากไปอยู่ครับ  ในฐานะอาจารย์ที่ช่วยชี้แนะ 

ขอบคุณทุกท่านครับ    :-* 







 

ดีๆ พรุ่งนี้เริ่มจูนน้ำมันใหม่ให้ได้ตามสูตร แต่แนะนำว่าให้ล้างรูเล็กๆที่ว่านั้นให้เอี่ยมเลยนะ จูนน้ำมันได้แล้วจูนแก๊สตามสูตร มือใหม่อาจจูนยากหน่อยนึง แต่ลองๆดูก่อน

เพิ่งกลับมาจากที่ทำงานไปลุยเปลี่ยนปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องมา เหนี่อยฉิบไปถึงบ่ายโมง กว่าจะได้ทำก็บ่ายสองถ่ายน้ำมันเครื่องออก ถอดท่อไอเสีย น๊อตเป็นสนิมติดตายเอาไม่ออกอยู่ตัว สุดท้ายต้องยกออกทั้งยวงตั้งแต่ฝาสูบลงมาถึงใต้อ่าง กว่าจะออกได้ เหนื่อยเลย แม่แรงก็กิ๊กก๊อก เซ็ง ถอดอ่างมาเสร็จก็ทำความสะอาดหน้าแปลน กว่าจะเสร็จยังไม่มืด พอเริ่มทากาวดำที่ปะเก็นอ่างเริ่มมืดเข้าๆ เอาอีกแล้ว ไฟซ่อมรถก็เจ๊ง ต้องเอาไฟฉายแอลอีดี หงุดหงิด วางก็ไม่ได้ส่องไม่โดนจุดที่ต้องการ กว่าจะประกอบเสร็จก็มืด ทดลองเดินเครื่องดูรอยรั่วซึมพอมีบ้าง เลยไล่ขันใหม่หมด ถ้ายังไม่มีตัว T เบอร์ 10 หาไว้ซะ ฮ่าๆวันนี้ไม่มีจนมุมเลย โทรให้วินมอไซค์ไปซื้อมาให้ กว่าจะได้ถอดนานพอดู วันนี้เลยกลับมาซะสามทุ่มเลย อาทิตย์หน้าค่อยไปส่องดูใต้ท้องว่ามีซึมไหม เพราะมีประแจปอนด์ก็ใช้ไม่ได้ มันต้องใช้ลูกเล็กไม่ได้ซื้อไว้เซ็งเลย เลยขันมั่วเอา ไปดูถ้าซึมรื้ออกมาทำใหม่

ปรับเดินเบาน้ำมันให้มันลดลงมาที่ 800 รอบให้ได้ก่อน แล้วลองเปิดแอร์ วิ่งทดสอบน้ำมันก่อนว่าปกติดีหรือยัง อย่าใช้แก๊สนะ ให้สับสวิทซ์ไปเป็นแมนนวลที่น้ำมัน ถ้าวิ่งน้ำมันได้ดีปกติแล้ว ค่อยไปทำการจูนแก๊สต่อไป

ตอนที่รอบตกลงมาใช้น้ำมันหรือแก๊ส ย้ำนะว่าให้ทดสอบที่น้ำมันให้จบก่อน จนกว่าจะเรียบร้อย ค่อยไปจัดการกับแก๊สต่อเป็นรายต่อไป

ถ้าขยันส่งการบ้านแบบนี้ก็น่าแนะนำอยู่หรอกครับ พี่ว่าเหมือนผมหรือเปล่าครับ ;D

ถ้าพรุงนี้ ไม่มีปัญหาแล้วให้เริ่มต้นใหม่ครับ B Quick ไม่น่าหวังดีเลย มั่วไปหมด ถ้ามันดีโดยการทดสอบวันพรุงนี้ก็แสดงว่า
ตัวมอเตอร์เดินเบาอาจมีปัญหาจริง พอดิบ พอดี กันกับเวลาดี ไม่ใช่เวรกรรมนะครับ ขอบอกมันเกี่ยวกับกลไกลของรถยนต์เอง
หรืออีกอย่างก็มอเตอร์เดินเบาตัวนั้นอาจไม่เอี่ยมข้างใน คงมีเศษอะไรไปหมด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเก็บไว้ หัดเงะเล่นน่ะ ห้ามเอาไปทิ้ง
อะไหล่ทุกตัว เอามาลองแงะเล่นเลยถ้ามันเสีย หรือไม่เสียก็แล้วแต่  อาจารย์เลยน่ะนั้น เอามาเล่นบ่อยๆจำขึ้นใจ เจ็บๆเลย จะเริ่มทำรถเป็น
ต้องมีเจ็บ มีเลือดเรื่องเล็กครับ ลูกผู้ชาย  

พอได้ถ่ายไว้บ้างเล็กๆน้อยๆครับพี่ แต่ตอนประกอบมันมืดมากแล้วใช้มือถือถ่าย ไม่มีแฟลช ลืมดูดันซื้อรุ่นไม่มีแฟลชไม่คิดว่าจะได้ใช้ขนาดนี้ ที่เอามาลงหลังๆนึ่ถ่ายด้วยมือถือตลอดครับ ตอนประกอบก็คงไม่เท่าไหร่หรอกครับ ถอดยังไงก็ประกอบยังงั้น ส่วนปะเก็นแท้ เครื่องวีเทค มันจะเป็นเส้นกลมๆ 490 บาทครับ ร้าน ย.แสงชัย แถววังหินครับ ร้านประจำผมเลย ซื้อที่นั่นตลอดถ้าเป็นอะไหล่ฮอนด้า ผมว่าบางทีถูกกว่าร้านข้างนอกนะ ท่อน้ำล่าง 156 บาท แท้นะ  ร้านทั่วไป 180 ไม่ใช่ของแท้ด้วย สายพานราวลิ้นโรงงาน เส้นละ 550 ลูกรอก 500 ของญี่ปุ่นด้วยนะ

ต่อด้วยการตั้งรอบเดินเมา.....เอ้อ เขียนผิด รอบเดินเบา  เอารอบน้ำมันเอารอบน้ำมันให้นิ่งๆก่อน ตามที่ท่าน Sitti ทำให้ดูแล้ว ตามนั้น  

ถ้าว่างๆอาจเอามาลงให้ครับเรื่องการเปลี่ยนปะเก็นน้ำมันเครื่อง ดูของตัวเองก่อนว่าอยู่ไหมถ้าอยู่จะเอามาลงให้ครับ เสียดายจริงๆผมทำเร่งเกินไป งานแบบนี้ต้องใจเย็นเอารอบเดียวจบ ถ้าเร่ง ไม่มีสมาธิ คาดได้ว่าอาจมีรั่ว ยิ่งมืดยิ่งรีบ แล้วก็ดันไปซะสายเลยเชียว บ่ายโมง  ;)

ตะแกรงดักฝุ่นมันขาด ถ้าขี้ฝุ่นก้อนใหญ่ๆเข้าไปค้ำการเปิด ปิดรูอากาศมันให้เปิดไม่สุด ปิดก็ไม่สนิท มีผลแน่นอนครับ ต้องดูในช่องรูเล็กๆที่มันมีแหนบๆน่ะครับ ป้อนไฟเข้าต้องหดตัวเข้าได้ ถอดไฟออกต้องยืดตัวออกปิดรูอากาศครับ มันทำหน้าที่ปิดเปิดอากาศครับ ปิดหรือเปิดตามสภาวะการดูดของเครื่องยนต์แล้วส่งสัญญานเข้ากล่อง สั่งฉีดน้ำมันครับ

แจ่มแท้

ถ้ามันทำงานแบบงึกๆงั๊กๆ มันก็เลยวิ่งงึกๆงั๊กๆเหมือนกัน ฮาดี

ไม่ได้นับตัวเลยพี่เยอะมาก เป็นกำมือเลย มันมีสตัทด้วย โยกไปโยกมาได้อีกต่างหาก ช่างคนก่อนสมัยยังไม่ได้เรีบนเขาทำให้ กลัวเขาขันแน่นไว้มากจนน๊อตบางตัวจะเสียดูๆแล้ว ตัวกลางมีปัญหา สตัทมันหมุนตามตอนขัน เซ็งเลย รู้ปัญหา เลยไม่กล้าอัดแรงมาก ไล่ขันใหม่แล้วครับ ติดเครื่องรอดูสักพัก ไม่ค่อยเห็นออกมากเลยกลับ ค่ำแล้วด้วย

ถ้าไม่อยู่เดี๋ยวร้อออกมาทำใหม่ครับ พอดีเชื่อคู่มือมากไป ไม่ยอมทากาวให้รอบปะเก็น ทาเฉพาะจุดที่บอกไว้ในคู่มือ ผมน่าจะซัดมันให้ทั่วทั้งเส้นเลยก็ดี เวลาลอกเปลี่ยนใหม่ถ้าทาเต็มร่องลอกออกง่ายด้วย ด้วยความรีบเพราะมืดนี่แหละเซ็งเลย

ของเดิมมันพัง ว่าจะซื้อใหม่ ดันไม่มีของที่ร้านเคยซื้อ เลยใช้ไฟฉายไปก่อน อย่างว่าแหละครับ พอนึกอยากทำก็ทำเลย ไม่ได้ดูงานก่อน อย่างตัว T ผมไม่มีสักตัว ขำไม่ออก อย่างอื่นมีเกือบหมดแล้ว เหลือส้อมถอดลูกหมากอีกตัวด้วย

ขอบคุณครับพี่

มาว่าถึงหลักการจูนแก๊สกัน สมัยเรียนอาจารย์ก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมมีสูตรการจูนแบบนี้ ซึ่งบางคนอาจไม่เคยได้ยินว่าทำไมต้องจูนแบบนี้ จูนยังไงก็ได้ ขอให้รถไปได้ เครื่องติด เปลืองไม่เปลืองไม่รู้ กลิ่นแก๊สนี่ฮึ่มเลย พอถามช่างว่าทำไมมันเหม็นแก๊สอย่างนี้ ช่างก็ต้องบอกว่า อ๋อหม้อต้มรุ่นนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละพี่ รถรุ่นนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละพี่ มันเป็นคำตอบที่แสนจะคลาสสิค จบเลยเลยถามอะไรต่อไม่ได้เลย ท่านก็คงเคยเจอเหมือนกันแหละน่าคำตอบคล้ายๆแบบนี้ พอเขาจนมุม นี่คือคำตอบท่าไม้ตายเขาล่ะ

ผมมาวิเคราะห์สูตรนี้แล้วเข้าใจว่า ถ้าต้องการใช้ศักยภาพของหม้อต้มให้เข้ากับสภาวะของรถแต่ละคันที่มีสภาพความสึกหรอที่ย่อมไม่เท่ากันอยู่แล้ว การใช้ค่ามาตรฐานของหม้อต้มแก๊ส มันอาจไม่เหมาะกับสภาพรถยนต์แต่ละคัน จึงต้องมีการมาหาค่าความเหมาะสมของการปรับหม้อต้มให้เข้ากับรถยนต์แต่ละคัน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

1 Idle จูนหยาบ ค่าตรงนี้ทำไมต้องตั้งที่ 700 รอบ Idle มันแปลว่าเดินเบาอยู่แล้ว ฉะนั้น ทำไมเราไม่ตั้งเดินเบาแก๊สที่ 800 รอบไปเลย ให้เหมือนน้ำมันทีเดียวจบไปเลย ทำไมต้องลดลงมาที่ 700 ค่าสกรูเดินเบาตรงนี้มันจ่ายแก๊สคงที่ตลอดเวลา ปรับไว้แค่ไหน จ่ายแค่นั้น ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด คงที่เสมอ เครื่องจะทำงานมากหรือน้อยมันไม่สนใจมันจะจ่ายเท่าที่เราตั้งมันไว้ ฉะนั้นเราอาจปรับลดลงมาอีกก็ได้ บางคนคิดเช่นนั้น ทำได้ครับ ตามแต่ละสภาพรถของแต่ละคน แต่ถ้าตั้งไว้ต่ำมากเครื่องยนต์ได้รับแก๊สไม่พอดีจะกลายเป็นส่วนผสมบางเกินไปอีก เครื่องยนต์ร้อนจัดอีก จึงควรลดค่าลงมานิดเดียวคือ ให้เหลือ 700 รอบ จากค่าน้ำมันที่ 800 รอบ เพื่อการจ่ายที่คงที่ตรงนี้ไม่น้อยเกินไป

2 Sensitive จูนละเอียด เมื่อได้ค่าเดินเบาแก๊สที่ 700 รอบแล้ว คือถ้าไม่มีภาระทางไฟฟ้าใดๆเครื่องยนต์มันก็อยู่ได้สบายๆแล้ว เราจะมาหมุนจูนละเอียดตัวนี้เพื่อเพิ่มปริมาณแก๊สให้เครื่องยนต์ได้รับให้เพียงพอต่อการใช้งาน Sensitive จะตอบสนองต่อการดูด ความต้องการของเครื่องยนต์ที่ไม่คงที่ กล่าวคือเร่งมากกินมาก เร่งมากก็เปิดแผ่นไดอะแฟรมของหม้อต้ม(เร็กกูเรเตอร์) มาก ถ้าเราปรับตั้งสกรูตรงนี้มากเกินไปก็ไม่ดี แก๊สท่วม ล้น เกินความต้องการของเครื่องยนต์ เผาใหม้ไม่หมด ก็กลิ่นฮึ่มเลย ปล่อยแก๊สทิ้งเล่นไปซะอย่างนั้น เรียกได้ว่าพอมีฐานะ ขับไปพ่นแก๊สเล่นไป ฉะนั้นจึงไม่ใช่ว่าอยากหมุนปรับไปแค่ไหนก็เอา การปรับสกรูนี้ให้เปิดภาระทางไฟฟ้าทุกอย่างให้เต็มที่ แอร์ ไฟหน้า วิทยุ ปรับให้เครื่องนิ่งให้ได้ก่อน แล้วค่อยลองเหยียบเบรคเข้าเกียร์ถอย สำรับรถเกียร์ออโต้นะ เกียร์ธรรมดาไม่ต้อง ถ้าลองเข้าเกียร์ถอยแล้วเครื่องยังสั่นอยู่ให้ปรับจนนิ่ง อย่าลืมว่าแก๊สมากเกินก็สั่นจะดับ แก๊สน้อยเกินก็สั่นสวิงครับ ปรับไปแค่ตรงที่เครื่องนิ่งคือพอครับ ไม่ต้องเผื่อให้เกินนะ มันจะเอาไปบ้วนทิ้งเปล่าๆ

3 Power Valve หรือเรียกว่าวาล์วกำลัง ทำไมถึงต้องหาค่าสูงสุดที่หมุนขวา หรือซ้าย เพื่อให้ได้ค่าที่รอบเครื่องยนต์สูงที่สุด ณ สถานะที่หมุนไปด้านไหนก็ตามที่ให้ค่าเข็มวัดรอบขึ้นสูงที่สุด นั่นคือช่วงที่วาล์วกำลังเปิดได้โล่งที่สุด ได้พอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ถ้าเปิดมากไปแก๊สท่วมกำลังก็ตก ถ้าเปิดน้อยไปแก๊สไม่พอก็วิ่งไม่ออก ฉะนั้นค่าที่เข็มวัดรอบขึ้นสูงที่สุด คือค่าที่เผาใหม้ได้อย่างหมดจด พอดิบพอดี ไม่เอาไปบ้วนทิ้งให้เสียเปล่าเพื่อประกาศตนว่ามีฐานะดี ใช้ไปทิ้งไปก็ยังได้ แล้วแบบนี้จะไม่ถือว่าเป็นสูตรที่ดีมีหลักการที่ดีได้ยังไงล่ะครับ ผมก็ใช้สูตรนี้อยู่ วิ่งถึงไหนถึงกัน ผมถึงค้านพวกบอกว่าหัวฉีดดีกว่า ตอบสนองดีกว่า ประหยัดกว่า ผมเทียบกับรถหัวฉีดแล้วเกือบๆจะไม่ต่างกัน อัตราความสิ้นเปลืองที่แตกต่างไม่เกินสิบยี่สิบสตางค์ ผมเคยถามของอาจารย์ท่านติดหัวฉีด ของผมมิกเซอร์ แทบไม่ต่างกัน ผมเลยไม่เปลี่ยนไปใช้หัวฉีด จะวิ่งเอาแค่ไหนกันเชียว ผมวิ่งต่างจังหวัดไม่ถึง 140 ได้แค่ 135 เพราะใจปลาซิวก่อน ไม่กล้า ยังรักชีวิตอยู่ครับ

ส่งการบ้าน รอบสุดท้ายครับ  8)

reset ECU ใหม่
ปรับรอบเดินเบาใหม่
ทดสอบวิ่งแล้ว OK เลยครับ ไม่วิ่งเป็นจังหวะตามรอบการสวิงแล้ว   

เรื่องจูนแก๊ส เครื่องมือผมยังไม่พร้อม  ตอนนี้มันยังพอวิ่งได้อยู่ จะเพี้ยนไปนิดหน่อย พอทน
จบเรื่องรถนี้แล้ว ต้องขอตัวไปสะสางงานที่ค้างๆ ไว้ก่อนนะครับ เอาเวลามาใช้เรื่องรถอย่างเดียว โดนยึดใบขับขี่แน่(ภรรยา)

ไม่รู้ว่าตอบแทน อาจารย์ Sitti กับอาจารย์กันต์ อย่างไรดี  :-*  ต้องหาโอกาสสักวัน
ต้องขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่ชี้แนะ ติดตามอาการตลอดจนจบ สอนกันแบบ online ก็ได้ผลเหมือนกัน :-*
ที่เขาบอกกันว่า web นี้เป็น web ที่อยู่กันอย่างสงบ อบอุ่น เป็นอย่างนี้นี่เองเข้าใจแล้ว ช่วยกันแบบไม่รู้จักกัน

ผมกล้ามากขึ้นครับ กล้ารื้อกล้าถอด โดยเฉพาะเจ้า IACV นี่มั่นใจเลย 
ต้องขอบคุณมาก อีกครั้งครับ




 

ไม่เป็นไรครับ ช่วยได้ก็ช่วยครับ ถ้าเรื่องไหนไม่รู้จริงๆก็ช่วยไม่ได้จริงๆครับ

หัดทำไปเรื่อยๆ เมื่อมีความมั่นใจแล้ว ความกล้าลุย และประสบการณ์จะตามมาอีกเยอะ

กระทู้นี้ผมว่าผมถ่ายทอดจนหมดใส้หมดพุงเลยนะ คงไม่มีอะไรจะเอามาให้อีกแล้ว มันก็มีอยู่แค่นี้แหละ ผมทำกระทู้จะพยายามไม่แยกเรื่อง เรื่องไหนที่มันต้องใช้ร่วมกันจะเอาไว้ที่เดียวกันเลย ไม่สนใจว่าอยากจะแยกให้ดูเหมือนว่ามีกระทู้เยอะ เข้าของผมเรื่องเดียว แต่มันเป็นซีรี่ย์ ที่ต่อเนื่องกัน จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายหาที่อื่นให้ลำบากค้นยาก หงุดหงิด คิดว่าสมบูรณ์แล้วใน 3 จุด ลิ้นเร่ง IACV และการจูนแก๊ส มันสัมพันกันนะ

จบเรื่องนี้แล้วจะไปกล่าวถึงทริปเล็กๆน้อยๆของดิสก์เบรค ที่ทุกคนอาจมองข้ามไป อันดับต่อไปก็น่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง เพราะทำไปแล้ว พอมีรูปบ้างแล้ว ถัดไปค่อยว่าเรื่องถ่ายน้ำมันเบรค คลัทซ์ ด้วยตัวเองคนเดียวทำยังไง ผมทำมาแล้ว คนเดียวเลย วานใครลำบากเลยซัดเองเลยคนเดียว ต่อไปก็น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ครับ แต่รอหน่อย จริงๆผมทำเยอะมากแต่ไม่ค่อยได้ถ่ายไว้ ทั้งเปลี่ยนพวกบู๊ชปีกนกหน้าทั้งชุด ดิสก์เบรคหน้า ไม่ค่อยได้ถ่าย ไม่คิดว่าจะเอามาสอนใครน่ะนะเลยไม่สนใจถ่ายไว้ คราวหลังถ้าทำอะไรอาจทำมาลงให้ครับ

จะพยามยามครับ การเช็คโค๊ตหรือการอ่านรหัสค่าความผิดพลาดของเซ็นเซอร์ รุ่นปี 96 แค่สายไฟเส้นเดียว กับคู่มือการอ่านรหัส แค่นี้ก็พอแล้วครับ ไม่มีอะไรมาก แต่จริงๆแล้วในเว็บนี้ก็มีนะ จำไม่ได้ว่าอยู่หน้าไหน ถ้าไม่มีใครทำจริงๆจะลองทำให้ครับ ไม่ยากอะไรครับ แต่ขอเคลียร์งานประจำให้เสร็จก่อน เดี๋ยวจะโดนที่ทำงานยำเอาครับ

สวัสดีครับ

วันนี้ทดสอบระยะทางไกล  ทางด่วนกาญจนาเลยครับ  แต่ไม่กล้าไปเร็วเกิน 90 กม/ชม เดี๋ยวโดนจับ 
ก็ Ok เลยครับ ไม่งอแง
ใจนึกอยากขับไป ที่บ้านสวน ม.เกษตร ไปอวดผลงานกับอาจารย์ Sitti  ซะเลยดีไหม  แต่กลัวจะไปรบกวน และผมขี้เกรงใจคน เลยยังไม่ดีกว่า

ตอนนี้เหมือนยังมีอุปทานคาใจอยู่ ตรงไฟจานจ่ายนี่แหละครับ   ::) ไม่รู้ว่าอยู่จุดที่เหมาะสมหรือยัง
อยากจะลองเหยียบหมดคันเร่งดู ถนนก็ยังไม่เอื้ออำนวย  เมื่อก่อนวิ่งเร็วสูงสุดได้แค่เพียง 120 กม/ชม
แต่ตอนนี้ เปลี่ยนใหม่เกือบหมด  น้ำมันเครื่อง หัวเทียน สารเคลือบ (อู่แนะนำ ขี้เกียจขัดใจ เอ้า ใส่ก็ใส่) :-X
รอไปทดสอบ ที่สายเอเชีย ถนนโล่งๆ ดีกว่า ว่าปรับไฟจานจ่ายมันมีผลอย่างไร เป็นการค้นหาคำตอบครับ   8)

ขอรบกวนถามอีกนิดก็แล้วกันครับ 
การใส่สารเคลือบไปพร้อมกับน้ำมันเครื่อง  ดี หรือไม่ดีอย่างไร  เห็นว่าเป็นศูนย์ B-Quik แนะนำเลยเชื่อ  ::)

ผม Print เก็บไว้แล้วครับ ใส่รูปท่านอาจารย์ Sitti ไว้หน้าแฟ้ม เลย ในฐานะผู้ให้วิทยาทาน

จริงอย่างท่านอาจารย์กันต์ว่าครับ  ว่า EK EG มีอะไรให้ทำเยอะ  งานต่อไปที่จะต้องทำคือ
-  เปลี่ยนเป็นกระจกไฟฟ้า
-  พวงมาลัย กินซ้ายนิดๆ ปล่อยมือจะออกซ้ายอยู่เรื่อยเลย
      รอดูอาจารย์ Sitti  รื้อช่วงล่างให้เสร็จก่อน ในกระทู้ช่วงล่าง จะถาม ว่าเราพอทำเองได้ไหม ตอนนี้มีโครงการจะซื้อ แม่แรง เก็บไว้บ้าง
-  และเล็กๆน้อยๆ อีกหลายรายการครับ 

สารเคลือบบ่าวาล์ว หรือ หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง ถ้าเป็นหัวเชื้อน้ำมันเครื่องไม่ควรใช้ มันจะทำให้น้ำมันเครื่องหนืดขึ้น ข้นขึ้น แน่นอนเขาอ้างว่าช่วยป้องกันการรั่วของกำลังอัด แต่ผลระยะยาวเท่าที่อาจารย์สอนมาท่านบอกว่าไม่ควรใส่ มันจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้น เพราะความหนืดเกินไปของน้ำมันเครื่อง ยิ่งนานยิ่งหนืด น้ำมันเครื่องจะไปหล่อเลี้ยงชิีนส่วนไม่ทัน หนืดมากก็ไหลไปตามรูที่ก้านสูบยาก ทุกอย่างไม่ควรเชื่อคนขาย ยกเว้นเขาให้ฟรี ค่อยน่าคิด แต่ขนาดนั้นยังคิดเลยว่าจะใส่หรือไม่ใส่ดีหว่า มีอะไรก็ถามมา ไม่ต้องเกรงใจ ตอบได้จะตอบ ตอบไม่ได้ก็จะบอกไม่รู้แค่นั้นแหละครับ

พวงมาลัยกินซ้าย แนะนำให้ไปตั้งศูนย์ล้อใหม่ก่อน ทดลองขับดูแล้ว ถ้าศูนย์ดีแล้ว ให้หาเวอร์เนียวัดระยะของศูนย์ที่ตั้งมาแล้วไว้ ว่าค่ามันอยู่กี่ มม จดไว้เลย ทีหลังเปลี่ยนบู๊ชปีกนก เปลี่ยนลูกหมากก็ตั้งเองได้เลย ไปดูวีธีการที่เรื่องเปลี่ยนยางหุ้มคันชัก ดูให้เข้าใจ แล้วจะรู้วิธีการตั้งเอง

ตามลิ้งค์นี้ http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=165160.0

ภาพที่ 3 คือวิธีวัดระยะศูนย์ล้อหน้า ตั้งศูนย์เสร็จรถวิ่งดีแล้ว วัดไว้เลย ทั้งสองข้างต้องเท่ากัน แนะนำให้ซื้อเวอร์เนียดีๆสักตัวไว้ใช้งานด้วย ยังไม่ได้ซื้อเหมือนกัน

คำถาม มีเยอะเลยครับ แต่จะยังไม่ถาม ถ้ายังไม่ลงมือทำ ลงมือที่จะทำเจอปัญหาแล้วจะถามครับ เหมือ่นเรื่องรอบเดินเบานี่แหละ จบทีละเรื่องเลย ขอบคุณมากครับ
เดี๋ยวเรื่องอื่นๆ ถ้าผมลงมือทำแล้วจะต้องถามละ  เตรียมตัว 

เครื่องล่างหลังนี่ไม่เห็นจะมีที่ให้ตั้งนะ มันบังคับด้วยขนาดความยาว รูน๊อต มันฟิกของมันมาอย่างนั้นเลย หาที่ขยับเกลียวตั้งศูนย์เหมือนล้อหน้าไม่มีนะ มันฟิกศูนย์ถาวรมาจากโรงงานแล้วนะว่าต้องอยู่ตรงนี้ๆ ไม่เหมือนรถสมัยก่อนที่ต้องมารองแผ่นชิมใส่เข้าไป หาดูแล้วไม่มีจริงๆ หรือใครเห็นก็ช่วยชี้ด้วยว่ามันอยู่ตรงไหน อยากรู้เหมือนกัน

ผมอ่านและเข้าใจดีแล้วครับ เพียงแต่ขี้เกียรรื้อออกมา แต่อย่างว่าครับ ทุกคนไม่ได้รู้รื่องหมด สารพัดเรื่อง เรื่องรถ ลดราคาไปเรื่อยๆ
ถ้าเราหัดซ่อมเองนี้ก็ เพิ่มครับเพิ่มความรู้

วิธีการเช็ค Error  Code มันน่าสนใจ เพราะเรื่องระบบ Sensor มีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ชัดเจน เช่น MAP เจ้งไฟโชว์เลย
หาอยู่ตั้งนาน ส่วนตัว เข้าใจการทำงานของ Sensor ดี บางครั้งไม่ได้เสียนะครับ เห็นเจอไหม เวลา Engine โชว์หน้าปัดหาแทบตายที่แท้ปลั๊กหลุด
หลุดนิดเดียวหรือหลวม นั้นเอง หากันเกือบครึ่งวัน แต่มันดีครับ ฉะนั้น ถ้ามี Know how เรื่อง How to Check Error Code for Honda Civic
พร้อมทั้ง วิธีแก้ไข หรือชี้จุดให้นี้ กระทู้นี้สุดยอดครับ คือง่ายๆ ม้วนเดียวจบ จริงๆทุกอย่างมีหมดนั้นหละ ผมก็อ่านมาแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาส
ได้เจอ...และไม่อยากเจอ เหนื่อยหา :-[ :-[ :-[ ถ้าจัดมาเป็น DIY มันเห็นภาพและเข้าใจง่ายดีครั ซึ่งท่าน Sitti ทำอยู่ให้เพื่อนได้เห็น ส่วนผม Stype
ต้องอ่านถึงจะเข้าใจ แตกต่างิธีนำเสนอกันไป เพราะ สิ่งที่พูด เขียนให้ มันเจอมาแล้ว หละ ถึงเขียนได้....แนวทาง ปัญหา แตกต่างกันได้
แต่ไปถึงเป้าหมายเดียวกัน

ลองดูครับ Story นี้ดี ผมสนับสนุน และจะคอยเสริมเพิ่มท่าน Sitti ในส่วนที่ผมรุ้ และสิ่งที่ขาดไปให้ในกระทู้ท่านเอง...ผมอยู่แถวนี้หละ ;D ;D ;D

เหนื่อยไหมครับ อีกหน่อยเก่งแล้ว ก็อย่าลืมเอาความรู้กลับมาให้เพื่อนๆ welovecivic ต่อน่ะ

มันยังขับได้ สิ่งไหนที่ตั้งใจจะทำ อ่านหาข้อมูลก่อน เอาแน่นๆ ทีนี้ก็ปฏิบัติ ในตำราทางวิชาการ
อ่าน แล้วทำไม่ได้ ต้องมาอ่านในกระทู้รถยนต์ นี้หละของจริง ว่าแต่ในกระทู้ฝั่ง EG ทางโน้นเขามี DIY
เขาก็มี DIY เยอะเหมือนกันนี้  จริงๆ welovecivic นี้ก็รวม Civic หมดเลยน่ะ EG  EK   ES  แต่พอดี
สมาชิกที่เข้ามาร่วมแชร์ขับ EK ก็เลยพูดถึง EK กันเยอะ แต่ก็ได้หมดครับ :-* :-* :-*

ว่างๆจะจัดให้ครับ ตระกูลฮอนด้าที่มีปลั๊กสีเขียวๆนี่ เขาเรียกขั้วทดสอบหรือขั้วตรวจสอบครับ ส่วนรุ่นหลังเราไปเขาใช้คอมพิวเตอร์สแกนหารหัสเลยครับ อันนั้นยิ่งง่ายเข้าไปอีก รอว่างสักนิดก่อนครับ

เมื่อเช้าทำไว้แล้วการเช็ครหัส ถ่ายภาพไว้แล้ว มีเวลาจะอัพให้ครับ

ขอไปจัดการธุระส่วนตัวก่อนครับวันนี้

ไม่ต้องรีบครับ .... เอาทำแบบละเอียดเลย กระพริบกี่ครั้ง Code ไหน  ยิ่งถ้า แต่ละ Code คืออะไร
มีภาพ  มีหลัการอธิบายด้วย นี้หละก็สมบูรณ์เลยครับ :-* :-* :-* :-* :-*

การอ่านรหัสข้อผิดพลาดของระบบเซ็นเซอร์รถยนต์แบบ OBD ครับ

ต่อ

วิธีเช็ค code สำหรับ HONDA
วิธีการอ่านค่า
เช่น ช้า-ช้า-ดับ=20 คือเซนเซอร์ตัวที่20
เช่น เร็ว-เร็ว-เร็ว=3 คือเชนเซอร์ตัวที่ 3
เช่น ช้า-ช้า-ช้า-เร็ว-เร็ว-เร็ว-เร็ว-ดับ = 34 เชนเซอร์ตัวที่ 34

และกรณีเดียวกันนี้สามารถฟ้องได้มากกว่า2ตัวก็ได้ครั บ
 เช่น ช้า-ช้า-เร็ว-ดับ-ช้า-ช้า-ช้า-ช้า-เร็ว-เร็ว-เร็ว-ดับ = 21 และ 43 คับ

ความหมายของ code ครับ

1 O2A - Oxygen sensor #1
 2 O2B - Oxygen sensor #2
 3 MAP - manifold absolute pressure sensor
 4 CKP - crank position sensor
 5 MAP - manifold absolute pressure sensor
 6 ECT - water temperature sensor
 7 TPS - throttle position sensor
 8 TDC - top dead centre sensor
 9 CYP - cylinder sensor
 10 IAT - intake air temperature sensor
 12 EGR - exhaust gas recirculation lift valve
 13 BARO - atmospheric pressure sensor
 14 IAC (EACV) - idle air control valve
 15 Ignition output signal
 16 Fuel injectors
 17 VSS - speed sensor
 19 Automatic transmission lockup control valve
 20 Electrical load detector
 21 VTEC spool solenoid valve
 22 VTEC pressure valve
 23 Knock sensor
 30 Automatic transmission A signal
 31 Automatic transmission B signal
 36 traction control found on JDM ecu's
 41 Primary oxygen sensor heater
 43 Fuel supply system
 45 Fuel system too rich or lean
 48 LAF - lean air fuel sensor
 54 CKF - crank fluctuation sensor
 58 TDC sensor #2
 61 Primary oxygen sensor
 63 Secondary oxygen sensor
 65 Secondary oxygen sensor heater
 71 random misfire cylinder 1
 72 random misfire cylinder 2
 73 random misfire cylinder 3
 74 random misfire cylinder 4
 80 Exhaust Gas Recirculation insufficient flow detected
 86 ECT Sensor (Engine Coolant Temperature) circuit range / performance problem
 90 Evaporative Emission Control System leak detected in the fuel tank area
 91 Fuel Tank Pressure Sensor low input
 92 Evaporative Emission Control System insufficient purge flow

ส่วนตำแหน่งแต่ละตัวอยู่ที่ไหน พี่ช่วยเอาจากคู่มือมาลงไว้หน่อยก็ดีครับผม

ตัวที่ผมถอดออกมามันฟ้องรหัส 3 คือ  MAP - manifold absolute pressure sensor  ตรงเป๊ะเลยครับ

อีกกรณีหนึ่งครับ ถ้าไฟเครื่องยนต์ติดขึ้นมาตอนวิ่งๆอยู่ จอดแล้วดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทใหม่ก็หายไป วันดีคืนดีเป็นอีก ลองตรวจรหัสข้อบกพร่องแล้วไม่มีการแสดงค่าว่าเซ็นเซอร์ตัวใดเสีย ตรงนี้เกิดจากรถที่ใช้เป็นรถที่ติดแก๊ส แล้วจูนแก๊สบางเกินไปครับ อ็อกซิเจนเซ็นเซอร์ฟ้องว่ามีปัญหา แต่ไม่ใช่ปัญหาจากตัวเซ็นเซอร์ เป็นปัญหาของระบบเชื้อเพลิงที่ไม่เหมาะสม คือแแก๊สบางเกินไป ให้ทำการจูนแก๊สเพิ่มขึ้นครับ อาการนี้จะหายไปครับ อย่าลืมรีเซ็ทกล่อง ด้วยการถอดขั้วลบแบตเตอร์รี่ออกสักพักด้วยครับ ง่ายสุดแล้วสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าฟิวส์ระบบจ่ายไฟเลี้ยงกล่องคือตัวไหนครับ ถอดขั้วลบแบตออกง่ายสุดครับ

ตัวนี้หละ ปลั๊กชอบหลวม มันกรอบ ดึงออกมาและขยับดันๆไป ผมเคยเจอ

เดี๋ยว ช่วยหาก่อนน้า  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ที่เหลือการหาตำแหน่งในคู่มือยกให้พี่นะครับ ขอทำงานต่อก่อนครับ

ผมให้สุดๆเลยนะกระทู้นี้ ไม่มียั้งเลย เป็นซีรี่ย์จริงๆครับ

สงสัยผมต้องเปลี่ยนเรื่อง ที่หน้าปกแฟ้มใหม่  ต้องเพิ่มการอ่าน CODE เข้าไปด้วย  :-*

ท่อที่มันต่อออกมาจากลิ้นเร่งตรงนี้ถ้ามันทะลุเข้าข้างในได้มันจะปรับรอบเดินเบาไม่ได้นะ ดูดีๆถ้ารูมันทะลุเข้าไปได้ แสดงว่าลมเข้ามากกว่าค่าที่ควรจะเป็นมันจึงลดเดินเบาลงมาที่ 800 รอบไม่ได้ ต่อให้บิดสกรูจนสุดแล้วก็ตาม ถ้ามีเวลาอยากให้รื้อดูว่ามันทะลุเข้าไปในลิ้นได้ไหม ถ้าได้อุดไว้เลยอย่างดี อย่าให้ลมเข้าได้

เฮ้ย..เอาขนาดนั้นเลยเหรอครับท่าน อายเขาๆ

ท่อนี้นะ ไม่รู้มันมีไว้ทำไม ไขข้อข้องใจให้ทีสงสัย

เลิกงานแล้วกลับบ้านแล้วครับพี่น้อง

ก็ว่าไป๊...เขาเรียกการพลางตัว จะได้ไม่มีใครดักตีหัวถูกตัว 55 ไปแล้ว

เอ้...แล้ววิธีการอ่านค่า code อื่นๆนะ อ่านค่า ไฟกระพริบยังไงเอ่ย

เช่น 54  ckf sensor

เคยถามแล้ว ให้เอาน๊อต ปิดไว้เหมือนเดิม ถ้าหลุดรถมีสะอึก กระตุ๊กแน่

ของอาจารย์กันต์ มีวิธีการ reset ECU ผมแยกไปรวมกับแฟ้ม ความรู้เรื่องแอร์
 และขออนุญาตทำปกแบบนี้นะครับ (กลัวโดนลิขสิทธ์เจ้าของกระทู้หวง) :D

กะพริบช้าๆ 5 ครั้ง ต่อด้วยกะพริบเร็วๆ 4 ครั้ง แล้วหยุดจังหวะการกะพริบไว้ให้เราพอรู้ว่ามันหยุดแล้วนะ ช้า(ยาว) 5 ครั้งต่อกันเลย แล้วต่อด้วยเร็ว(สั้น) อีก 4 ครั้งครับ แล้วมันจะหยุดพักสักครู่หนึ่ง แล้วแสดงรหัสตัวอื่นๆ ถ้ามี จะแสดงไปจนหมดทุกตัวที่มีปัญหา เมื่อครบเซ็นเซอร์ทุกตัวที่มีปัญหา มันจะวนกลับไปเริ่มแสดงรหัส 54 ใหม่ แล้วตัวเดิมที่เคยแสดงมาแล้ว วนอยู่อย่างนั้น จนกว่าเราจะปิดสวิทซ์ Off ครับ

วิชานี้อยู่ในหมวดวิชาของช่างยนต์ชั้นสูง สอนระดับ ปวส ที่ผมเรียนชื่อว่าเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด จากโรงเรียนฝึกอาชีพดินแดง 1 ครับ ส่วนวิธีจูนแก๊สจากวิชาการติดตั้งระบบเชื้อเพลิงธรรมชาติ (การติดตั้งแก๊สรถยนต์)ครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในรอบเดินเบา ผมเคยเจอปัญหาหลายๆครั้งในการตรวจสอบ
ผมเป็นคนชอบแก้ไข มากกว่าการ ตกแต่งรถยนต์ให้สวยงาน เน้นสมรรถนะมากกว่า

เกี่ยวกับรอบเดินเบา กรุณตรวจสอบระบบ Vaccumm ให้ดีเนื่องจากระบบรถยนต์มีระบบอากาศ
ในการหายใจ ว่าตอนไหนฉันจะรับอากาศจากภายนอกเข้ามา และการทำงานนั้นจะเกี่ยวข้องกับ
Sensor ต่างๆให้ดีนะครับ ผมจะพูดบ่อยๆ เช่น ท่อยางต่างๆ อันนี้อย่าให้หลุดหมั่นเช็คตลอด
เพราะท่อยางใช้นานแตกได้ ข้อต่อตรงช่วงต่อ ไม่ฟิตหรือมันไม่ยืดหยุ่นและมายันกับท่อที่มัไปต่อ
หลุดออกได้ครับ แน่นนอนรอบเครื่องยนต์เอ๋อแน่นอน จนไปไล่เปลี่ยนเซ็นเซอร์ซะหมด ที่แท้ก็ท่อยางแตก
หลุดนี้เอง  :'( :'( :'( ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ....โง่ ต้องมาก่อนฉลาด น่ะ :-[ :-[ :-[


ฉะนั้นเวลาทำความสะอาดรถหรือทำความสะอาดเครื่องหมั่นตรวจสอบและเปลี่ยน สายยางระบบแวคคั่ม จริงๆ
แล้วถ้าขี้เกียจไปศูนย์ ก็ให้ถอดออกไปเทียบเอาที่ร้านอะไหล่ซื้อมาเก็บไว้สัก เมตร สองเมตรนะครับ ยกเว้น
ท่อยางที่มีรูปร่างเฉพาะ ไม่สามารถใช้ท่อยางตามร้านอะไหล่ได้ก็ไปซื้อเอา ยืนยันครับใช้ได้ไม่ขาดหรือหมด
ประิทธิภาพง่ายครับ

ฝากไว้น่ะ ...ภาพนี้รถผมเองครับ จะเช็คห้องเรื่องประจำ

ขอว่าต่ออีกนิดส์หนึ่ง ว่าด้วยการโชว์ของไฟเตือนข้อผิดพลาดของเครื่องยนต์ Error Code
ไฟสีเหลืองโชว์รูปเครื่องยนตื "Engine" นั้นหละ อย่างที่ท่าน Sitti ว่าไปการที่จะรู้ได้ว่าจะไร
ต้องกระชับพื้นที่ของปัญหาให้แคบลงมา โดยการใช้วิธี Check Error Code เอาเนื่องจาก
เราไม่สามารถหรือมีเวลามากพอที่จะไล่ไปทีละตัว ถ้ามันเสียที่อุปกรณ์ก็ว่าไป คือ หามาเปลี่ยน
จะของใหม่ เชียงกง หรือเบิกศูนย์ ก็ว่ากันไปแล้วแต่จังหวะ โอกาสและงบประมาณน่ะ

แต่หลายครั้ง เกิดจากความบกพร่องของปลั๊ก จุดเชื่อมต่อระหว่างกัน ซึ่งผมเคยเจอมา เล่นซะ
ผมหอบเลย  ดูดีๆนะครับเครื่องยนต์อยู่ในที่ร้อน อากาศก็ร้อน ใช้งานก็ ใช้มานานหละ การแตก
หรือหัก หรือสายขาด แกต หลุด ของปลั๊กต่างๆ มีเกิดขึ้นแน่ Remind ไว้เลย ถ้ามีปัญหาเรื่อง
ไฟ Engine โชว์ก็อย่าลืมประเด็นที่ผมว่าไปหละ เรื่องเล็กน้อย แต่สร้างปัญหาให้เราได้มากเลยครับ

กระทู้นี้คงไม่มีอะไรอีกแล้วมั้งครับ ให้หมดใส้หมดพุงทุกกระทู้แหละครับ รู้เห็นเป็นมายังไงก็ให้ตามนั้นครับ ถ้านอกเหนือจากนี้ผมอาจไม่รู้แล้วครับ

สักวันคงมีโอกาสได้เจอกันนะครับพี่ เอาความรู้ทักษะมาแชร์กัน แต่เสียดายอยู่ไกลกันไปหน่อย จริงๆแล้วนี่ผมไม่หวงความรู้นะ แต่สำคัญว่าคุยกันจริงใจถูกคอกันแค่ไหน เห็นกระทู้มันเงียบๆนี่ผมว่าเรามาแชร์กันสามคนก็พอมั้งคราวต่อไปนี่ 55

จะเห็นว่าแต่ละกระทู้ของผมนี่เน้นการซ่อม บำรุงรักษาล้วนๆ เรื่องดัดแปลงพลิกแพลงนี่ไม่ถนัดครับ ทำเฉพาะเรื่องที่ใช้งานจริง ที่ต้องทำให้รถใช้งานได้ครับ

อุดรูด้วยซิลิโคนดำ ซะเลยครับ 

ขออนุญาตเปลี่ยนหัวข้อใหม่ให้สัมพันธ์กับเนื้อหานะครับ คงไม่ว่ากัน

รายงานผลครับ

รอบเดินเบา ของระบบน้ำมัน ก่อนและหลังอุดรู

รายงานผล  ระบบแก๊สครับ  ก่อนและหลังอุดรู

ว่าแล้วเชียว มันอาจเกิดจากการที่เขาไปดัดแปลงมาแต่ก่อน อาจจะมีการเจาะรูใส่สกรูไว้ ให้อากาศเข้าไปเพิ่ม แต่ไม่รู้ทำไปทำไม คิดไว้แล้วว่าถ้ามันทะลุเข้าไปในลิ้นเร่งได้ อากาศมันจะเข้ามากกว่าที่ควรจะได้รับจากสกรูเดินเบา ทำให้ปรับจนสุดสกรูเดินเบายังไงมันก็ไม่มีทางลงไปได้หรอก คิดไว้ไม่ผิด แต่อาจจะช้าไปหน่อยเพราะไม่ได้ไปจับดูด้วยตาตนเอง แต่พอมาดูๆแล้วในรถตัวเองไม่มีเลยตรงนี้

รอบเดินเบาน้ำมันน่ะได้แล้ว ทีนี้ก็ไปจูนแก๊สใหม่ซะให้ได้ตามสูตร ถ่ายรูปหม้อต้มมาให้ดูใหม่ซิ ให้เห็นสกรูมันทุกตัวจะได้บอกถูกอันไหนเป็นอันไหน

รอบของแก๊สยังสูงไป ปรับให้มันลดลงมาจนได้เท่าน้ำมันให้ได้ อยู่ที่การจูนแก๊สแล้วทีนี้ ไม่ต้องไปปรับสกรูเดินเบาที่ลิ้นเร่งแล้วนะ เอาไว้แค่นั้นแหละมันพอแล้ว

ส่งการบ้านไว้ ขอทำงานก่อน ว่างแล้วจะตอบนะ

ถ้ายังจูนไม่เป็นลองหมุนปิด Power Valve ไปทางขวาลง ให้รอบมันลดต่ำลงหน่อย แต่มันไม่ดีเท่าการจูนใหม่นะ จะให้ดีต้องจูนตามสูตร

ภูมิใจกับผลงาน DIY  พอสมควรครับ ที่สามารถทำเครื่องยนต์ได้ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้มาก่อน อยากจะขอบคุณอีกหลายๆครั้ง สำหรับอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน

 ได้แค่นี้ก็ OK แล้ว   ก็อย่างคำของอาจารย์กันต์ว่าไว้แหละว่า  :-*

" เอาน่า ทนๆ ไปก่อน รถมันเก่าแล้ว "   ชอบมากเลยคำนี้  

เครื่องมือที่ซื้อมาใหม่ อาจารย์กันต์แนะนำมา   เห็นแล้วอยากใช้มาก
เลือดช่างสูบฉีดแล้ว  ผมก็สายเลือดช่างครับ แต่เป็น ปวส. อิเล็กทรอนิคส์ เทคนิคลพบุรีครับ แต่ก็ไม่เก่งอิเล็กฯ เท่าไหร่หรอก  แหกคอกซะส่วนใหญ่

ดีๆ แล้วค่อยว่ากันใหม่  ;)

ใช้เลย หัวข้อนี้ พี่น้อง CIVIC เห็นแล้วรู้ว่าข้างในมีอะไรบ้าง  ลดเวลาการค้นหา กับลดจำนวนการตั้งคำถามผิดห้องด้วยครับ :-*

ผม ปวส.ออกแบบพาณิชยศิลป์
ป.ตรี ออกแบบนิเทศศิลป์
รับราชการตำแหน่งนายช่างศิลป์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับด้านรถยนต์เลย
ส่วนเรื่องรถยนต์ ไปเรียนพิเศษภาคค่ำเอา หลักสูตรละ 150 ชั่วโมง เพราะอยากทำเองได้เลยอดทนเรียนเป็นปีๆเลย จบตัวนั้นต่อตัวนี้ไปเรื่อย ถามว่าเก่งทุกเรื่องไหม ตอบว่าไม่ แล้วแต่ว่าได้ใช้อันไหนมากกว่า สนใจอันไหนมากกว่าครับ ทำเองได้สนุกดีครับ

โอ้ โฮ หนักกว่าผมเข้าไปอีก ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์เลย ;D

งั้นผมขอเอารูปออกก่อนนะครับ เกรงใจอยู่เหมือนกัน กลัวไม่ชอบเหมือนอาจารย์กันต์
 ผมจะทำแฟ้มใหม่ เรียบเรียบของความรู้ของแต่ละอาจารย์ไว้เลย  แต่ผมจะขออนุญาตเอารูปติดหน้าแฟ้มทุกท่านครับ ไม่เอาขึ้น Web ก็ได้ครับ
ที่เอารูปติดที่แฟ้ม เพราะเวลาผมทำเครื่องจะได้นึกหน้า นึกถึงคำบอกข้อควรระวังต่างๆนะครับ เป็นการคาราวะนะครับ
 เชื่อว่าหลายคนที่เป็นช่าง เวลาทำก็ต้องนึกหน้าคนสอน นึกถึงที่เขาสอน  รวมนึกถึงที่เขาด่าด้วย 

ไม่เป็นไร แค่แซวเล่นๆเด้อ

แต่รถของท่าน Ko Bangplee เข้าใจว่าถูกดัดแปลง ตัดต่อ จนไม่มีระบบการหายใจของเครื่องยนต์
ผมว่าภาษาง่ายๆ หายไป หาไม่เจอ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ครับรถก็ยังใช้ได้อยู่ ขนาดรถบางคันรุ่นเดียวกัน
ยังหา ถังดักไอน้ำมันไม่มีเลย

อันนี้ถังดักไอน้ำมัน ไม่รู้ผมเรียกถูกไหม

สวัสดียามเช้าครับ
รถผมน่าจะถูกดัดแปลงมาแน่ครับ อาจจะตัดระบบถังดักไอน้ำมันออกไป
ตอนนี้ผมมีความคิดว่าจะลองศึกษา ว่ามันมีผลดีผลเสียอย่างไร แต่มันน่าจะมีผลดีมากกว่า ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ติดไว้
และจะหาวิธีการมาติดตั้งใหม่ครับ

ถ้ามันโอเคแล้ว ณ ตอนนี้แนะนำถ้าอยากรู้ค่อยเสาะแสวงหาเอา แต่อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมันนะครับ
เอาไว้ทีหลัง ก็สานต่อโครงการที่ท่านอยากจะทำไว้ก่อนครับ เสร็จแล้วจะได้ชื่นใจ มีแรงทำอย่างอื่น
ต่อ ทีนี้หละ ทำทุกวันหยุดเลยรถน่ะ

ผมคงต้องรีบหามาติดตั้งบ้างแล้ว  ค้นหาใน google เขาว่ามาอย่างนี้  8) 
ข้อความนี้ อันนี้ copy มานะครับ
---------------
ถังดักไอน้ำมันเครื่อง (Oil Catch Tank)

คุณสมบัติ
... สิ่งตกค้าง และคราบน้ำมันต่างๆ จะถูกดักให้มาอยู่ภายในตัวถังดัก เพื่อช่วยกรองให้อากาศที่จะไหลเข้าเครื่องบริสุทธิ์มากขึ้น น้ำมันที่ไหลผ่านจึงไม่จับตัวกันเป็นก้อน ภายในห้องเครื่อง เครื่องยนต์เดินได้เรียบไม่สะดุด

ประโยชน์
... ถังดักไอน้ำมันเครื่อง มีหน้าที่ดักไอน้ำมันเครื่องที่มาจากท่อบนฝาสูบเครืองยนต์เข้าท่อไอดี เมื่อเครื่องยนต์มีความร้อนสูง น้ำมันเครื่องจะร้อนจัด ทำให้บางส่วนเกิดการระเหยเป็นไอน้ำมันเครื่องไหลไปตามท่อผ่านเข้าสู่ท่อไอดี ถังดักไอน้ำมันเครื่องจะลดปริมาณไอน้ำมันเครื่องที่ผ่านเข้าสู่ท่อไอดี โดยทำให้ไอน้ำมันเครื่องจับตัวอยู่ในถังดักไอน้ำมันเครื่อง เหลือเพียงบางส่วนไหลเข้าท่อไอดี   การที่ไอน้ำมันเครื่องไหลเข้าไปเผาไหม้จำนวนมาก ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ลดลง  ถังดักไอน้ำมันเครื่องจะทำให้เครื่องยนต์สะอาดไม่มีสิ่งตกค้างและคราบสกปรก
---------------------

ดีครับดี หามาติดตั้งให้มันเดิมๆน่าจะดีนะครับผมว่า

ผมว่า เจ้าท่อเส้นนี้แน่เลย ที่เขาเอาถังดักไอน้ำมันออกไป  
ท่านอาจารย์ต่างๆ ช่วยชี้แนะหน่อยครับ ว่าถ้าจะซื้อถังดักไอน้ำมันมาใส่ จะใส่ตรงไหน ต่อตรงที่ผมวงไว้ใช่หรือไม่
เพราะตอนที่ผมถอดลิ้นปีกผีเสื้อ ข้างในท่อไอดี มีคราบดำๆ เหนียว เกาะที่ผนังอย่างหนาเลย  ตามที่เขาบอกไว้ว่าเกิดจากไอน้ำมัน

ผมต้องรีบแล้วหละ ก่อนที่เครื่องจะสะบักสะบอม ไม่กว่านี้ 8) 

ถ้าจะใส่ตรงนี้นะ ไม่ต้องใส่ก็ได้ เพราะตรงนี้เครื่องผม d16y8 ก็ไม่มีถังดักไอเหมือนกัน ยืนยันว่าไม่มีเลย ไปดูที่รูปสิ ไม่มีนะ

มีก็คือมี ไม่มีคือไม่มีอย่าคิดมาก บางรุ่นถังดักไอก็ไม่มีหรอก

ตรงนั่น เขาต่อถูกจุดหละ  ของ eg ต้องไปดูที่คู่มือเลยครับ เอาคู่มือ civic
92-95 มาดู ผมไม่แน่ใจว่ารุ่นของท่านมีไหม ลองดูนะครับ เดี๋ยวช่วย
หาให้ ถ้าหาเจอ

ไม่จบง่ายซะแล้ว   ??? 

ขอถามท่านอาจารย์อีกหน่อยครับ

ผมจะถอดกล่อง ECU ออกมาเป่าฝุ่น ทำความสะอาดได้ไหมครับ  ::)

เพราะเมื่อคืนฝนตก อากาศชื้น  ผมปิดกระจกไม่สนิท ฝนสาดเข้าไปหน่อย

พอเช้ามา Start รถ อาการรอบเครื่องไม่นิ่งซะแล้ว  ไม่รู้จะเกี่ยวกับความชื้นนี้หรือเปล่า

ลอง reset ECU ตามแบบอาจารย์กันต์  ก็หายครับ
 
 ก็เลยอยากจะเอาออกมาเป่าทำความสะอาดหน่อย  ช่วยชี้แนะอีกทีครับ  :D
 

Ecu ถอดทำควาใสะอาดได้ครับระวังหน่อย ลองเช็คดูด้วยตัวไหนบวมบ้าง

ความชื้น  น้ำ ไม่ถูกกับระบบไฟ หรือแม้แต่ระบบสตาร์ท มีผลครับ

ถอดออกมาได้ แกะฝาออกมาเช็คดูได้ อย่าให้มีความชื้น สนิมขึ้นเชียว สนิมกินลามไปตัวอื่นพาดไปตรงนั้นตรงนี้มั่ว กล่องมันจะช็อตได้นะ เอาออกมาใช้ทินเนอร์ ใช้พู่กัน หรือแปรงสีฟันเก่าๆจุ่มเช็ดเหมือนวิธีที่ท่านเรียนอิเลคมาน่ะแหละ ระวังเรื่องความชื้น รา ประมาณนี้ ล้างทั้งสองด้าน ดูให้ละเอียดนิดนึง ครับ

สวัสดียามเช้า  กับกาแฟร้อนๆ ครับ 

วันนี้ถ้าฝนหยุด อากาศไม่ชื้น จะลองถอด ECU ออกมาทำความสะอาด 8)
ขอบคุณที่ชี้แนะครับ

ลองดู ตามนั้น :-*

เครื่องมือที่อาจารย์กันต์ ที่แนะนำมา  
พอซื้อมาแล้วทำไมหมานอย่างนี้ มีเรือ่งให้ทำอีกแล้ว  
พอรู้ว่าจะถอด ECU มาทำความสะอาด  เช้ามา รถสตาร์ทไม่ติดเลย ( ติดอยู่พักนึง แล้วดับ ที่นี้สตาร์ทไม่ติดยาวเลย)

เคยอ่านเจอกระทู้ของอาจารย์เงาะ  ต้องไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์เงาะ  เดี๋ยวจะมา Link ครับ  

สรุปว่า  หลังจากที่ไล่ Clean ไปหลายจุด  เหมือนรถเลือดลมหมุนเวียนดีขึ้น :) 
วันนี้รอบเครื่องไม่สวิงแล้ว  พรุ่งนี้ มีลุ้น

ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดี หรือความบังเอิญดี  ซื้อเครื่องมือมา เจอแต่เครื่องอ้อนอยู่ตลอด แต่ได้ความรู้ ความมั่นใจมาเพียบ
 
ขอบคุณอาจารย์ทุกคนครับ   :-* 
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=98976.new#new

เหนื่อยไหม :'( :'(....นั้นหละดี  เหมือนฝึกวิชาชีพเลยครับ  หมดเรื่องก็หัดรื้ออย่าง
อื่นต่อ ให้หมดคันเลยครับ เดี๋ยวมันจะมีอะไรให้เราทำอีกมากมาย อย่าเพิ่งท้อหล่ะ

มีเครื่องมือไม่ดี มันเป็นลางบอกเหตุว่าต้องซ่อม ;)

แลกกันครับ  มีเรื่องให้ซ่อม แต่เราได้ก็ทักษะ
ซื้อเครื่องมือมาบวกกับใจรัก  ก็น่าจะเหมือนเป็นการเริ่มลงทะเบียนเรียนวิชาช่างแล้วครับ 
ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน ก็เหมือนมีครูอาจารย์มาบังคับให้เราต้องทำ ซึ่งผมเคารพอยู่คือ องค์พระวิษณุ

และนึกถึงคำอาจารย์ตู่ ที่ว่า

เล่นไปขุดหลักฐานมาอ้างอิงขนาดนี้ก็จนมุมแล้ว  :(

ทีนี้ก็ซื้อให้ครบๆเลย
1. ประแจบล็อคชุดที่มีอยู่น่ะมันไม่มีด้ามต่อยาวไปซื้อมาใส่ซะ 2 ตัว มีงานต้องให้ต่อแน่ 2 ตัว เช่นงาน ถอดเปลี่ยนไม้ตีกลองน่ะ ที่ใช้อยู่ (King Tony) ตอนนั้นซื้อคลองถม 2300 พอรู้จักร้านอีกร้านหนึ่งพาเขาไปซื้อได้ 1900 ตอนนี้คงไม่ได้แล้วมั้ง ซื้อมานานแล้ว  
2. ประแจปากตาย เบอร์ 32     22      ตัดหัวเชื่อมกับลูกบล็อค ใช้งานเปลี่ยนไม้ตีกลอง
3. ประแจรวม 1 ชุด ยี่ห้อ King Eagle ก็พอใช้นะ เกรดเดียวกับ King Tony เลย ตอนนั้นซื้อร้านประจำในซอกที่คลองถม 1100 บาท ไม่แพง
4. ประแจแหวนหัวผ่า เบอร์ 8  10  12 ได้ใช้แน่ในงานท่อเบรค
5. ขาตั้ง อย่างน้อย 2 ตัว
6. แม่แรง
7. เอาแน่ๆประแจปอนด์ ยี่ห้อ Ampro ก็พอใช้ได้ดีนะ เพิ่งซื้อมาใหม่อีกตัว 1100 บาท ใต้หวัน ค่า 10-150 ปอนด์ - ฟุต ลองใช้แล้วก็ดี ราคาเบาๆ ใช้ดี ตัวแรกที่ซื้อมา โคเช่ 2600 บาท 30 - 150 ปอนด์ มันเริ่มปอนด์สูงไปเลยต้องไปซื้อตัวใหม่อีก เซ็งเลย
8. ไขควงตอก ซื้อร้านขาประจำ 650 บาท King Tony
9. พวกตัว T เบอร์ 8    10    12    14   น่าจะพอ
10. อย่างอื่นก็ที่ถอดกรองน้ำมันเครื่อง
ที่เหลือนึกไม่ออกแล้ว

คีมถ่างแหวน คีมหุบแหวน คีมปากจิ้งจก ฯลฯ เดี๋ยววันหลังไปซื้อที่รัดยางหุ้มเพลามาได้จะเอามาลงให้ดูตัวอย่าง ดีสุดๆเลย ใช้งานง่าย ว่าจะซื้อตั้งนานแล้วไม่ได้ซื้อสักที ไม่รู้เขาเลิกเอามาขายหรือยัง รัดยางหุ้มเพลา หุ้มไม้ตีกลองได้แน่นสุดๆ ไม่ต้องมาใช้คีบจับดึงให้เปลืองแรงเลย อาทิตย์หน้าเดี๋ยวแอบออกไปซื้อมาเก็บไว้หน่อย

ท่าน  sitti หมายเลข 7 ประเจปอนด์ ampro หัวต่อลูกบล๊อก กี่หุนน่ะ ใช่ 4 หุนไหม หรือต้องมี
หัวขยายเพิ่มเป็น 4  หุน ที่เห็นๆจะเป็นขนาดเล็ก ใส่บล๊อคเดิมต้องมี ข้อลดด้วย

รบกวนถ่ายรูปให้ชมหน่อย  ค่า Nm ตรงด้ามมันเริ่มที่เท่าไหร่ รูปกวนสะดวก focus รูปให้หน่อย

555  ไม่ได้ต่อสู้คดีกันนะครับ  ;D

นี่แหละครับสิ่งที่ผมต้องการ หามาหลายกระทู้แล้ว ขอบคุณอาจารย์ Sitti มากครับ

อ้อ เดี๋ยวก่อน ที่เหลือที่นึกไม่ออก ช่วยค่อยๆ นึกอีกทีครับว่าเหลืออะไรบ้าง อย่าบอกว่าแท่นไฮโดรลิกที่เขาใช้ในอู่ล่ะ มันใหญ่ไป ผมจะทยอยหามาให้ครบครับ
 หลังจากที่รื้อระบบไฟ ล้างปีกผีเสื้อ และ IACV  ชักเริ่มสนุกแล้ว เพราะว่าทำแล้วอาการมันหาย ถึงแม้จะออกมาไม่ดีเท่าไหร่ก็เริ่มมันแล้วครับ

ขอถามรบกวนถามอีกรอบครับ

สายคันเร่งที่ลงไปที่ข้างล่างเครื่อง มันลงไปเร่งอะไร
เพราะตอนถอดปีกผีเสื้อไปล้าง  แล้วผมถอดเจ้าสายสองเส้นนี้ไม่ออก  เลยคลายน๊อตในวงกลม แต่ลืมมาร์คตำแหน่งเอาไว้
พอใส่กลับที่เดิม ก็ปรับน๊อตแคพอตึงๆ  ไม่รู้ว่าต้องจูน ต้องตั้งค่าอย่างไรหรือเปล่า

ถ้ามองจากภาพ
   
      ภาพขวามมือ คือ สายคันเร่งครับ คือส่ยที่โยวไปในห้องโดยสาร เวลา
เราเหยียบคันเร่งนั้นหละ เวลาตั้ง ใส่ปลายอีกด้านที่เป็นหัวมุดไปเกาะกับสปริง
ลิ้นผีเสื่อเวลาเร่ง  ไม่ต้องตั้งอะไรมากหลักการที่อย่าตั้งยันจนปากปีกเสื้ออ้า หรือ
แง้มออกมา เพราะ เดินเบาจะไม่สมบูรณ์ เหมือนเราเร่งค้างไว้เบาๆ ไม่ดี ไม่ดี
เวลารอบเดินเบา ต้องให้แวคคั่ม ระบบมันทำงานเอง

   ภาพสายทางด้านซ้ายมือ.
        คือ สายคลิ๊กดาวเกียร มีความสำคัญอย่าวยิ่ง เวลาตั้งผิดจากรูปแบบเดิม
อาการที่พบคือ เข้าเกียรผิดปรกติ เช่น เร็วไปหรือช้าไป สายนี้อย่าตั้งตึงครับ หย่อนๆ
พอประมาณ

    อย่าลืมนะครับ ต่อไปเวลาจะถอดอะไรจากรถ เช่น น๊อต ชิ้นส่วนต่างๆ จงทำเครื่องหมายไว้
ปรกติ งานชิ้นไหนที่ถอดครั้งแรก ผมจะใช้วิธีการ ถ่ายรูปและจำอีกที กันพลาดได้เสมอๆ เพราะ
ตอนเราทำรถ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็ก แต่เหนื่อย ลืมกันได้เสมอๆ

ขนาด ปกติที่ใช้ทั่วไปน่ะครับ 1/2 เขาเรียกกี่หุนนะพี่ ไม่ค่อยได้ใส่ใจตรงนี้เลยครับ ใช้กับลูกบล็อคเราๆที่ใช้งานทั่วไปนี่แหละ ถ้าขนาดเล็กไปดูมาแล้วต้องใช้หัวแปลง Ampro 920 บาท ร้าน หลักชัยดำรงเทรดดิ้ง ตรงแยกหลักสี่ ใกล้ๆที่เขาขายอะไหล่รถมือสองนั่นแหละ

ขนาดเล็ก หน่วยมันเป็น NM และ KGS ครับ ผมไม่แน่ใจ KGS มันคืออะไร เลยไม่เอา ต้องมาหาลูกบล็อคชุดเล็กอีก ตอนนี้ดูๆแล้วยังไม่ทันได้ใช้ เลยยังไม่ต้องการซื้อครับ

เดี๋ยวถ่ายมาลงให้ครับ

อัพ

ขอตัวไปเปลี่ยนปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องต่อครับ เดี๋ยวไม่เสร็จ

ตอนแรกผมก็นึกว่าตัวเล็กเสียอีกน่ะ

ตกลงมีรั่วซึมอีกหรือครับ

ครับ มันทำรีบเกิน ทำความสะอาดไม่ดีด้วย น๊อตตัวที่เป็นสตัทมันขันไม่อยู่ ขันไปมันหมุนตาม วันนี้เลยให้วินมอไซต์ไปซื้อมาให้ เปลี่ยนใหม่ มันกยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่ไหม ช่างคนเก่าที่เคยทำรถให้ทำสตัทผมรูดไปสองตัวแหน่ ถ้าไม่อยู่รอบนี้คงได้เปลี่ยนน๊อตกับสตัทใหม่หมดทุกตัวครับ เลยไม่กล้าขันปอนด์เลย กลัวน๊อตยืด กลัวขาดน่ะครับ เลยขันตามความรู้สึกและระวังสุดๆค่อยๆไป กลัวน๊อตมันอาจจะยืดแล้วก็ได้ จะให้ดีต้องเปลี่ยนใหม่หมดทุกตัวครับจึงจะกล้าขันปอนด์ครับ

รอบนี้คิดว่าอยู่ครับ เพราะบอกแม่ย่านางไว้แล้วว่าขอให้อยู่นะ  ;)

ติดเครื่องดูแล้วก็หลายนาทีอยู่ ไม่รั่ว ไม่ซึม เฮ้อค่อยคุ้มค่าเหนื่อยหน่อย ใช้ปะเก็นเดิมของอาทิตย์ที่แล้วครับ ปะเก็นมันยังกลมๆอยู่เลย โชคดีไป ว่างๆจะ DIY ครับ

ส่วนเครื่องมือ ท่านโก้ ซื้อตามนั้นก่อน หมดนั่นก็เหลืออีกไม่มากแล้ว มีซ้อมถอดลูกหมาก ถ้าของเยอระมัน ตัวละ 1450 ใต้หวันหรือจีนไม่รู้ 300 เดือนหน้าว่าจะจัดของเยอรมันไว้สักตัว ใช้ถอดลูกหมากก็ได้  ถอดเพลาขับออกมาเปลี่ยนยางหุ้มเพลาก็แจ่ม ช่างที่กรม เขาทำน่ะเห็นเขาใช้แล้วเออดีว่ะเลยล่ะ แล้วต่อไปก็พวกเครื่องมือพิเศษ แต่ต้องสั่งทำเองของแบบนี้ไม่ค่อยมีขาย วันหลังจะถ่ายรูปมาลงให้ดู

ไอ้ตัวนี้อยุ่ตรงไหนIAVCเครื่องd16y8autoหาไม่เจอจะถอดมาล้างหน่อยด่วนเลยนะครับว่างๆพอดี

อยู่แถวๆด้านล่าง ใต้คอไอดีครับ มีท่อน้ำต่อเข้านั่นแหละ

หน้าตามันอาจแตกต่างกันกับเกียร์ธรรมดานะครับ ดูตรงที่มีท่อน้ำเส้นเล็กๆต่อเข้าน่ะครับ ท่อน้ำมี 2 เส้นครับ ส่วนปลั๊กไฟอาจมีสาย 3 เส้น ประมาณนั้นน่ะครับ

น่าจะอยู่ใต้คอร่วมไอดี ลองหาแถวๆ TPS sender ดูก่อนครับ

ลงไปดูแร้วครับถอดยากมากว่าจะถอดมาล้างแค่ตัวเดียวชะหน่อย :-[

ลองๆดูครับ ถ้าไม่ได้ไปไหน หัดทำไว้ ต่อไปจะคล่องขึ้นครับ

DIY => คุณทำได้น่า

ขอ update เรื่องพัดลมแอร์กับคอมเพรสเซอร์ ไม่ทำงาน นิ๊ดนึงนะครับ
ตามที่โทรถามอาจารย์กันต์ทางโทรศัพท์  เจอสาเหตุแล้วครับ

วางยาตัวเองครับ  สายกราวด์ไม่ได้ต่อ  ;D  >:(
สายกราวด์จะมีหางปลา ต่อไว้จุดเดียวกับน๊อตยึดกล่อง ECU   
ถอด ECU มาทำความสะอาด ตอนใส่ยึดน๊อด  ไม่ได้เอาสายกราวด์ใส่เข้าด้วย   ;) 
ด้วยเหตุนี้ ผมพอจะเข้าใจคร่าวๆ แล้วว่าหล่ะว่าทำไม ฝนตกรถสตาร์ทไม่ติด  รอบเครื่องไม่นิ่ง ค้าง เดี๋ยวแรง เดี๋ยวเบา
 ปล่อยรถตากฝนนี่เอง น้ำเข้าไป Short ระบบไฟลงกราวด์นี่เอง สันนิฐานนะครับ   ที่ Relay สั่นแกร็กๆๆๆๆ คงไม่ใช่ขั้วหลวม น่าเป็นที่น้ำShort ลงกราวด์   น่าจะถึงบางอ้อ

งานต่อไป หาอุดรูรั่วครับ  8)

และต้องขอบคุณมากครับที่แนะนำทางโทรศัพท์  คือผมต้องรีบซ่อมด่วนเพราะจะพาแม่ไปทำบุญ ยกช่อฟ้าโบสถ์ ที่ลพบุรี เลยรบกวนโทรถามด่วน  :-*


เชิญต่อเรื่อง IACV ของท่าน TOONM20 ได้เลยครับ 8)   งานนี้ท่านอาจารย์ Sitti จขกท. กับอาจารย์กันต์ รับบทหนักหน่อย 
ผมรอดแล้ว ทดสอบไปลพบุรี เครื่องนิ่งดีจัง ขอบคุณครับ :-*

ต่อไปนะครับพี่ ผมแนะนำเวลาจะทำรถนะครับ ผมจะางแผนดังนี้นะครับ (ซ่อมรถต้องมีแผน )

1.วันนี้และวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุด
2. วันที่ซ่อมและทำรถเป็นวันที่ร้านอะไหล่เปิด เวลาพลาดมาหรือต้องเปลี่ยนมันจำเป็นต้องซื้อแลต้องเปลี่ยนครับ
3. เริ่มเช้าๆครับ ทำรถไม่หมูหรอกครับ เราต้องรู้ว่าอะไรที่เสียแะรถันไม่ยอมให้เราจบง่ายๆหรอกครับ ( อันนี้กว่าจะรู้ก็หอบแด๊กส์หล่ะ )
เพราะ เมื่อวันที่เราทำ เราต้องทำการ Test ระบบที่เราทำเลย
4. เวลาทำอย่าเพิ่งประกอบเก็บงาน เอาให้จบครับค่อยเก็บงาน เสียเวลา เพราะรื้อและถอดนี้หล่ะ
5.เวลาทำรถให้หาที่ Fix ไว้เลยครับ เช่นในบริเวณบ้าน รถไม่ตากแดด ตากฝน คือ ประเด็นนี้สำคัญ เพราะถ้าท่านปิดงานไม่ได้
ก็จอดไว้เลย ไม่ต้องเร่งงานเวลามืดแล้้วก็ไม่กังวล จอดทิ้งไว้เลย ในบ้านได้ยิ่งดี
6. มือใหม่ ลน รีบทำ มือหนัก จำไม่ได้ว่าน๊อตตัวไหน อยู่จุดไหนสำคัญมากเลยครัตัวนี้ สามารถแก้ไไขได้
เมื่อก่อนถอดและเริ่มถอด จนถึงอดเสร็จ ถ่ายรูปไว้ทุกครั้งครับ

ที่ผมจำได้ก็มีเท่านี้น่ะ ไม่มีในตำราหรอก เอามาจากประสบการณ์เอง เพราะทำบ่อยๆผมจะเจอปัญหานี้

พูดถึงแม่ย่านาง  ไม่เชื่อก็ต้องให้เชื่อ
ที่ว่าแอร์ไม่ทำงาน โทรถามอาจารย์กันต์ ท่านก็ให้ check ตาม step ทุกอย่างก็ Ok หมด  แล้วอะไรกันล่ะนี่
นั่งคุยกับรถ  บอกว่า หายหน่อยเถอะ พรุ่งนี้เช้าจะพาแม่ไปทำบุญ ถ้าหายก็ไป ไม่หายก็ไม่ไปนะ

แล้วนั่งจิบเบียรเย็นๆ ทำใจ  เอนเบาะรถ เอนหลังนั่งถอนหายใจ  ตาก็ไปเห็นหางปลาสีเหลืองๆ ห้อยอยู่ ข้างกล่อง ECU   ชัดเจนเลย  เช้าเลยได้ไปทำบุญ
ก็เลยเอาสายสิญกับผ้าสามสีที่เขาผูกและโยงช่อฟ้าขึ้นไป  มาให้แม่ย่างนาง     ก็เล่าสู่กันฟังครับ   :)

ขอบคุณที่ชี้แนะครับ

คงไม่มีอะไรเกินความพยายามหรอกครับ คิดๆๆๆๆ เดี๋ยวก็เจอคำตอบเองครับ ทำไปคิดไป มันจะต่อยอดได้ง่ายในภายหลังครับ ส่วนเรื่องนี้คงไม่มีอะไรมากหรอกครับ ได้อธิบายไว้ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว เพียงแต่บางท่านอาจจะมือใหม่มากไปหน่อยจริงๆ ต้องหมั่นสำรวจตรวจตาดูครับ ว่ารถตัวเองส่วนประกอบอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ค่อยๆเป็นไปครับ

พึ่งใครไม่ได้แล้ว ต้องพึ่งแม่ย่านางครับ เดี๋ยวจะมี DIY การเปลี่ยนปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องตามมาเร็วๆนี้ ถ่ายไว้แล้ว เหลือแต่เวลา อธิบายลงภาพเท่านั้นแหละ ช่วงนี้งานเยอะ ขอเวลาสักหน่อยเด้อ

ไม่ยาก แต่เสียเวลา และต้องระวังความผิดพลาดสุดๆเลยล่ะ ส่วนตัวคิดว่ายากกว่าเปลี่ยนบู๊ชเครื่องล่างอีก มันกดดันสุดๆ แล้วจะอธิบายใน DIY ครับ :-[

ลองถอดมาล้างแร้วมือแหกไปหมด แร้วมีอาการตามมาคือรอบมันแรงขึ้นจากปกติ900-1000ตอนนี้1500-1700ทำอย่างไงดีครับใช้แก็สแบบดูดครับ :o

อุ่นเครื่องยนต์ให้เข็มความร้อนขึ้นกึ่งกลาง หรือให้พัดลมหม้อน้ำทำงานสักรอบหนึ่งก่อน ไม่ต้องเปิดแอร์หรือภาระทางไฟฟ้าใดๆ ให้ทำการหมุนปิดสกรูเดินเบาไปตามเข็มนาฬิกาให้รอบมันลดลงมาที่ 800 รอบครับ ให้จูนที่น้ำมันนะ อย่าให้มันตัดเป็นแก๊สเป็นอันขาด

ถ้าเครื่องยังไม่ร้อน มันจะวิ่งขึ้นไป พันกว่าๆ เป็นปกติครับ ตอนปิดสกรูให้รอบมันตกต้องทำตอนที่พัดลมหม้อน้ำไม่หมุนนะ พอมันหยุดหมุน ให้ปรับสกรูตอนนั้นเลย กลับย้อนขึ้นไปอ่านด้านบนใหม่ครับ รายละเอียดอธิบายไว้หมดแล้วครับ อ่านดีๆ ใจเย็นๆครับ ได้รอบแล้วค่อยจูนแก๊สต่อไปครับ

Don't forget reseting car ECU

ล้างปิกผีเสื้อแล้ว  รอบสูงมาก 1500 ปิดสกรูแล้วก็ไม่รดต้องทำยังงัยครับ

ย้อนกลับขึ้นไปอ่านใหม่อีกครั้งครับ อ่านให้ละเอียดยิบเลยนะ ห้ามตกหล่นสักบรรทัด อธิบายไว้หมดแล้ว ให้ดูดีๆด้วยว่าตอนที่มันขึ้น 1500 น่ะเครื่องมันร้อนจนพัดลมหม้อน้ำทำงานหรือยัง ต้องรอดู รอปรับรอบหลังจากที่พัดลมหม้อน้ำทำงานไปแล้วเท่านั้น

ถ้าเครื่องร้อนแล้วปรับไม่ลดลงแสดงว่ามีที่ให้อากาศรั่วเข้าไปได้ มันเลยปรับสกรูเดินเบาแล้วไม่มีผล เหมือนของคุณโก้ครับ ย้อนกลับไปอ่านใหม่ครับ :-\

ช่วงนี้ผมว่าจะลาพักร้อนสักหน่อย อาจารย์โก้ ปฏิบัติหน้าที่แทนด้วยนะ มีอะไรก็ถามพี่บูรณะศักดิ์ได้เลยครับ

อ่านดีๆ ทำความเข้าใจไปด้วย ผมได้อธิบายละเอียดยิบเลยครับ ไม่มีกั๊กไว้เลย เพียงแต่บางท่านอาจตื่นเต้นเลยทำอะไรไม่ถูกไปนะครับ ใจเย็นๆ ถ้าเกิดอาการแบบไหนย้อนกลับไปอ่านใหม่ ที่สำคัญ ขอให้มีสมาธินิดหนึ่งครับ

อีกอย่างที่มองข้ามไปไม่ได้คือ เวลาประกอบสายคันเร่งเข้าไปเอาไว้ที่เดิมไหม ถ้าปรับตึงเกินไป จนมันไปเปิดลิ้นเร่งอ้าไว้ คือมันปิดไม่สนิท ปรับสกรูเดินเบายังไงก็เอาไม่ลงนะครับ ดูดีๆด้วยครับ ต้องหย่อนสายลงมาให้ลิ้นมันอยู่ในจังหวะที่ปิดสนิทนะ แต่ไม่หย่อนเกินไป ไม่ตึงจนลิ้นเปิดอ้าไว้

ผมล้างโดยไม่ถอดนมหนูและสายคันเร่งไม่ได้ตั้ง(เดิมๆไม่ได้ยุ่งกับมัน)แร้วล้างเสร็จรอบมันขึ้น1500-1700นี้ปกติใช่ไหมครับ เราต้องไปจูนมันถึงจะปกติใช่ไหมครับ :-[

คงยังไม่ถึงระดับอาจารย์หรอกครับ  เพิ่งเป็นลูกศิษย์มาหยกๆ  ลูกศิษย์ใหม่เอี่ยมน่ะครับ ;D

อาจารย์ Sitti พักผ่อนก่อนก็ได้ครับ เหนื่อยกับผมมาพอสมควรแล้ว :-*
ถ้ามีพี่น้อง CIVIC คนใดสงสัยตรงไหน ผมก็ทำหน้าที่แทนให้ได้เพียงให้เขาย้อนกลับไปอ่านข้อ 1 ใหม่อย่างละเอียดครับ

ผมก็เพิ่งมมือใหม่หัดซ่อมนะครับ แต่ขอเสนอแนะตามปัญหาที่เจอมานะครับ

ถ้ามีการรื้อการถอด  ประกอบเสร็จ ให้ Reset ECU แบบของอาจารย์กันต์ ก่อนนะครับ วิธีการก็อยู่หน้าต้นๆ น่ะครับ  8)   

ปรับตั้งสายคันเร่งให้พอดี ไม่ตึงเกินจนยกลิ้นให้เปิด

เริ่มเก่งหละ ตอบแทนได้ ดี ดี ช่วยเพื่อนๆ

นมหนูที่ว่านี่คือสกรูเดินเบาใช่ไหมครับ ไม่ต้องถอดออกมาหรอกครับ แค่คลายสกรูให้มันไปทางซ้ายมือให้จนเปิดสุดเกลียวก็พอ แล้วล้างในรู้ที่ตรงตำแหน่งนั้นให้สะอาด ส่วนรอบขึ้นสูงขนาดนั้นต้องดูว่ามันขึ้นตอนที่เครื่องเย็นช่วงแรกๆ เป็นปกติครับ เขาเรียกเดินเบารอบสูง จนกว่าเครื่องร้อนเข็มความร้อนขึ้นไปในแนวราบแล้วค่อยจูนปรับสกรูเดินเบาครับ

ถ้าตอนที่เครื่องยนต์มันเย็นแล้วขึ้นขนาดนั้นในช่วงแรกๆจนเครื่องร้อนแล้วรอบมันค่อยตกลงมาคือปกติครับ

1. เช็คสาย อากาศแถวๆ ชุดปีกหลุดไหม คอยางไอดีใส่แน่นไหมครับ ขยับดู  
2. เช็คการตั้งสายคันเร่งอย่างท่าน Sitti ว่าไป
3. ถ้ามันใจก็ Reset ECU
4. ตั้งรอบเดินเบาน้ำมันอย่างที่บอกไปในกระทู้ตอนต้น

     วันเสาร์ก็เพิ่งถอดออกมาล้าง  ขาวพอใช้ได้  รอบนิ่งๆ เจี๊ยบๆเลยครับ ล้างและตั้งวาล์วเองด้วย โอ้อย่างกะได้
รถใหม่ เดี๋ยว่างๆ ผมจะมาทำ DIY ตั้งวาล์วให้ชม  ขอบิ้วอารมณ์ก่อน ตอนนี้ขอเอาเรื่องง่ายๆลงก่อนครับ

ที่เหลือ อาจารย์โก้ ต่อเลยนะ

ดีครับพี่ เอาแจ่มๆเลยครับ จะรอชมผลงานครับ

ขอทำความเข้าใจตรงจุดนี้นิดหนึ่งครับ
การที่เราจะทำการรีเซ็ท อีซียูหรือ อีซีเอ็ม (ECU โตโยต้าเขาใช้เรียก ส่วน ECM ฮอนด้าเขาเรียกแบบนี้ แม้แต่ชื่อเขายังไม่ลอกกันเลยครับ เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของแต่ละค่ายหรือยังไง)
จะทำการรีเซ็ท ECM กันตอนไหน เอาง่ายๆดังนี้ ที่ถูกต้องนะ
1. เมื่อไฟเครื่องยนต์มันโชว์ที่หน้าปัทม์ แล้วไม่แน่ใจว่ามันโชว์ทำไม มีอะไรเสียจริงไหม รีเซ็ททดสอบ ว่าหลังจากรีเซ็ทแล้วหายไหม
2. เมื่อไฟเครื่องยนต์มันโชว์ที่หน้าปัทม์ เราได้ตรวจสอบการอ่านรหัสเครื่องยนต์ดูแล้วว่ามีข้อบกพร่อง เราได้ตรวจซ่อม เช็ค หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวนั้นๆไปแล้ว  รีเซ็ทเพื่อล้างหน่วยความจำของ ECM 
3. ทำการช็อตขั้ว อ่านรหัสข้อบกพร่องของรถยนต์ใหม่อีกครั้ง ถ้ายังมีไฟรูปเครื่องยนต์กะพริบ ให้หาว่าเสียที่ตัวไหน แก้ไข แล้วรีเซ็ท
4. ถ้ามีสายเซ็นเซอร์ตัวใดหลุดไป หรือไม่แน่นขณะติดเครื่องยนต์ กล่องจะบันทึกค่าความผิดพลาดไว้ หรือเรามีการซ่อมเครื่องแล้วลืมเสียบปลั๊กเซนเซอร์เข้าไป แต่เราติดเครื่องยนต์ อันนี้กล่องจะบันทึกค่าไว้ ต้องรีเซ็ท
5. ส่วนการถอดลิ้นเร่งออกมาล้าง เราไม่ได้ติดเครื่องยนต์อยู่แล้วนะเวลานั้น จึงไม่มีผลต่อการบันทึกข้อบกพร่องของกล่อง จึงไม่ต้องรีเซ็ท
สรุปง่ายๆคือจะถอดออกเป็นสิบปลั๊กก็ได้ตอนซ่อมหรือแก้ไขอะไร ตราบใดที่ยังไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์กล่องก็จะไม่บันทึกข้อมูลนั้นๆไว้ จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการรีเซ็ท ECM ครับ

ขออนุญาตทำงานก่อนครับพี่น้อง มีปัญหาฝากคำถามไว้ครับ

 ;D อะไรกันนี่  
กลับมาเป็นอีกแล้ว  เครื่องสวิงเหมือนเดิม   จะให้เรียนรู้ไปถึงไหน  >:(   ( แต่แก้หายแล้ว )   :)

เมื่อเช้านี้  ตรวจสอบรอยรั่วที่มีน้ำเข้ารถ  โดยการใช้น้ำฉีดเหมือนฝนตก ปรากฏว่าพบรอยรั่ว 3 จุด รอหาวิธีอุด
แต่ที่สำคัญ  หลังจากไปอาบน้ำ อาบท่า กินข้าว กินปลาเสร็จ มานั่งเปิด Welovecivic หน่อยนึง แล้วมาสตาร์ทรถ

ปรากฏว่า รอบเครื่องวิ่งขึ้นสวิงที่ เกือบ 2000 รอบ สวิงถี่ๆ วื๊อ วื๊อ  ๆ ๆ ๆ ๆ  
ปิดกุญแจ  เหยียบๆๆๆ คันเร่ง เผื่อค้าง                 แล้วสตาร์ทใหม่ ก็  วื๊อ วื๊อ  ๆ ๆ ๆ ๆ  ที่ประมาณ 2000 รอบ   ???
ขยับสายไฟ ขยับฟิวส์ เช็ดรอยน้ำซึมเป่าให้แห้ง    แล้วสตาร์ทใหม่ ก็  วื๊อ วื๊อ  ๆ ๆ ๆ ๆ  ที่ประมาณ 2000 รอบ  
ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ลอง Reset ECM ใหม่ดูสิ         แล้วสตาร์ทใหม่ ก็  วื๊อ วื๊อ  ๆ ๆ ๆ ๆ  ที่ประมาณ 2000 รอบ  เปลี่ยนเป็นแก๊ส  ขึ้นไปอยู่ที่ 3000 รอบ เอาเข้าไปสิ
 :o :o :o

ตรงนี้สำคัญมากครับพี่น้อง CIVIC อาการนี้ผมก็จะจำไว้เป็นบทเรียน  แต่หลายท่านอาจจะเจอแล้วก็ได้ กล่อง ECU (ECM) มีปัญหาครับ
พบโดยบังเอิญ แม่ย่านางพาคนมาบอกครับ  (พึ่งแม่ย่านางอีกแล้ว)  :-*

 คือผม ต้องการถอดออกมาดูว่าน้ำเข้า ECU หรือเปล่า  เปิดฝากล่องวางไว้ที่แคร่หน้าบ้าน
พอดี มีวินมอเตอร์ไซค์ เขาผ่านมาทักทาย เขาเห็นกล่อง ECU วางไว้ก็เลยมาจับๆดู แล้วบอกกับผมว่า    (ขอเล่าแบบบทละครหน่อยนะ)

" นี่กล่อง ECU นี่นา "
        " อ้าว รู้จักด้วยหรือนี่ "
" ผมเคยซ่อมอยู่ที่อู่   พี่ ตัว Capacitor น้ำยามันรั่วหมดแล้วนี่ ดูสิแผ่นวงจรด่างหมดแล้ว ไอ้ตัวนี้ ทำไมมันเอียง ๆ  อ้าว ขามันหักแล้วนี่พี่ "  
         " อ้าว ซวยแล้วกู  งานเข้าอีกแล้ว "  (พูดกับวินนะครับ)

รายละเอียดอื่นไม่เล่า   มีเพื่อนอยู่ร้านซ่อมTV จ่ายเบียร์ 1 ลังเย็นนี้กินด้วยกัน  บัดกรีให้หน่อย  เพื่อนใจดี ไล่เปลี่ยน C ให้หมดเลย

ประกอบ ECM ใส่ในรถ  ใจร้อนรีบ สตาร์ทเลย   ฉึ๊งเดียวติด  รอบ อยู่ที่ 1000 สักพักลดมานิ่งที่ 800   มีแววเมาแน่เย็นนี้
ออกวิ่งรอบหมู่บ้าน 2 รอบ รอบแรกน้ำมัน   รอบสองแก๊ส    หายแล้วโว๊ย (พูดกับตัวเอง)  

วันนี้ทุกอย่างเข้าสถาวะปกติ   พรุ่งนี้ลุ้นใหม่

เล่ายาวหน่อยครับ  ซ่อม ECU หาย ดีใจครับ :(  

โอโห  .... ตั้งแต่ลุยวิชาตามอาจายร์ Sitti นี้ แม่ย่านางสอนบทเรียนให้เพียบเลย  :-*

 ผมก็เลยมาสรุปปัญหา รอบเครื่องสวิง ต้องตรวจสอบแก้ตามนี้ครับ
-  IACV
-  ปีผีเสื้อ
-  ระบบไฟ กราวด์
-  ECM หรือ ECU
สรุปว่าก็เกี่ยวเกือบทั้งคันนั่นแหละ

ขอบคุณพี่น้อง CIVIC ที่ทนอ่าน  แบบว่าดีใจครับ ไม่เคยทำ แล้วทำสำเร็จ น่าจะหาย 99 % แล้ว จึงมาเล่าขานให้พี่น้องเราชาว CIVIC เผื่อเจอเหมือนกัน

เยี่ยมมากครับอาจารย์โก้ ต้องอย่างนี้สิ แต่ในกระทู้นี้ผมไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการบวม การลดค่าของตัวเก็บประจุ ในอีกเรื่องหนึ่งกล่าวไว้ เดี๋ยวจะเอามาลิ้งค์ให้บัดเดี๋ยวนี้เลย

แต่อาจารย์โก้ ก็เรียนอิเลคมาไม่ใช่เหรอ ทำไมมองข้ามจุดนี้ไปได้ล่ะ

ในเรื่องนี้มีการกล่าวถึงการตรวจสภาพกล่อง ECM อยู่นะ
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=184616.0

ดีมากครับ เจอต้นตอปัญหาแล้ว นี้หละตัวการสำคัญเลย ทำรถไปทั้งคัน มาเจอเรื่อง ECU นี้เอง ผมขอเรียก ECU นะครับ
เรียกง่าย คือ พูดแล้วเข้าใจ นึกได้กันทุกคน

อีกทางเลือกหนึ่งอนาคตกลัวมีปัญหาอีก และวันนี้เจอในสิ่งที่เป็นปัญหาก็เล็งๆไว้ครับ ปัจจุบันกล่องเชียงกงมีมากมายสวยๆ คือ การไหลเวียน
การสั่งการจะทำได้ดีกว่านี ถ้ารูปที่ถ่ายมาให้ดู เป็นของท่านโก ก็ถึงเวลามันหละครับ คือ อนาคตก็เล็งๆหามาใช้ทนของเดิมได้ก็ดี บางคนเปี่ยนเครื่อง
ใหม่ไม่ได้ช้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึงจะได้หมดวมกังวลว่ามนจะเจ้งอีก หรือถ้าคิดว่ามันยังแจ่มอยู่ก็หมั่นดูแลขัดให้สะอาดตามวิธีการที่ท่าน Sitti บอกไป
ว่าทำความสะอาดอย่างไร

ไม่ทราบว่าเขาขายกันกล่องเท่าไหร่นะ แต่เอาง่ายก่อนดูด้วยตา ถ้ามี c บวม แตก ปริ้นท์ร้าว ก็ซ่อมใช้ครับ ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีรอยไหม้ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถ้าเจอ บวม หรือขาหลุดเหมือนของท่านโก้ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ c ตัวละไม่ถึง 10 บาท มีขายตามร้านอิเลคทรอนิค บางที่แพคใส่ถุงขายทีละ 20 -30 ตัว ถุงละยี่สิบบาท แล้วแต่ความจุครับ ยิ่งถ้าใครเป็นช่างอิเลค หรือชอบบัดกรีอยู่แล้วหมูๆเลยครับ แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ล่ะท่านครับจะเลือกแบบไหนครับผม

เผื่อในอนาคตอยากเปลี่ยน เพราะดูสภาพแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่ทำให้ใจเต้นตุ๊บๆๆๆ ::) ::)
ว่ามัจะเล่นเราอีกไหมหว่า ก็วิ่งหาไปเรื่อยๆครับ เอามาหัดเล่นดู  มีทั้งมือสองของเพื่อนๆ
หรือเชียงกง หรือบางคนไม่ใช้แจกฟรียังมีครับ ลองดูเผื่อเอาไ้

จำรหัสกล่องไว้ครับมีอยู่ใกล่องบอกไว้ ของผม EK D16Y4 Auto  รหัสกล่อง P6E ไม่รู้ว่าให้ดู
ถูกไหม แต่โดยมากเวลาไปหาก็จะดูรหัสเหล่านี้ครับ แต่การซื้อของ หาของทีดีที่สุด คือ เอาไปเทียบดู
คนขายมีหน้าที่ขาย รถมีหลายรุ่น บางทีก็จัดมาให้เราผิด

เอามาเสริม แชร์กันครับ เป็นข้อมูลไว้ .....ปัจจุบันอาจจะไม่  แต่อนาคตอาจะใช้  

ไม่มีแตกมีร้าว ยังแจ่มครับพี่

ใช่เลยครับ ถ้าจำชื่อไม่ผิด ดาราเกาหลีที่แสดง แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง "ลียองเอ" หรือเปล่าไม่แน่ใจ

ขยันทำก็ทำไปครับ สนุกดี ได้ความรู้ไปด้วย ได้ประสบการณ์ไปด้วยขณะทำ บอกตามตรง บางกระทู้ เช่น เปลี่ยนเครื่องล่าง กับปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง นั่นคือครั้งแรกของผมนะ ในแต่ละส่วนที่ซ่อมๆไป ผมจะดูงานก่อน ดูโครงสร้างการออกแบบก่อนว่ามันออกแบบยังไง รื้อยังไง เมื่อผมมองขาดแล้วว่าทำได้ ผมลุยเลย ต้องมีความมั่นใจครับ และต้องมีหลักคิดที่ดีและถูกต้องด้วย งานก็ไปได้สวยครับ

เสียดายช่างที่ทำงานผม ช่างซ่อมบำรุงชั้น 4  กับพนักงานขับรถที่ทำงานผมไม่ค่อยใฝ่รู้นะ ไม่งั้นผมหัดให้ทำถ่ายทอดความรู้ให้หมดใส้เลยล่ะ เวลาแนะนำน่ะชอบอวดรู้หมดเลย แต่พอให้ทำจริงล่ะไม่เป็น รถตัวเองยังไปให้คนอื่นทำนี่ก็แย่เต็มที ผมไม่ไว้ใจช่างที่ไหนนะ ผมเชื่อว่าเขาทำไม่ได้ดีเท่าผมทำ ไม่ใช่ดูถูกใครหรือยอตัวเองนะ แต่จะมีใครที่ไหนอยากซ่อมให้เราให้มันดีเลยทีเดียวไม่ต้องแก้งานอีก ถ้าแบบนั้นเขาก็หมดทางทำมาหากินแล้ว ในนี้อาจจะมีช่างเข้ามาดูด้วยนะ หลายคนอาจหมั่นใส้ผม แต่ผมไม่ได้สนใจตรงนั้นหรอก แค่อยากทำไว้เอาบุญน่ะ จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการมาลงในนี้ แต่ผมคิดว่าให้ความรู้เป็นวิทยาทานก็เลยทำ บางท่านอาจไปหาที่อื่นได้ แต่รับรองว่าไม่มีใครเขาให้ท่านหมดใส้หมดพุงแบบผมหรอก เพราะผมไม่ใช่เจ้าของอู่เลยไม่จำเป็นต้องหวงวิชาทำมาหากินนี่ครับ

สวัสดีครับ อาจารย์ Sitti อาจารย์กันต์ :-*

เพิ่งสร่างครับ เมื่อนั่งฉลองกับช่างTV ดึกไปหน่อย 

โธ่ !  อาจารย์     ที่ผมจบมาได้เนี่ย  ต้องขัดสีรถ ล้างรถ ล้างส้วมให้อาจารย์ที่วิทยาลัยขอเพิ่มเกรดมานะเนี่ย
เฉลี่ย 1.88 เอง  ล้างเสร็จวิชาดิจิตอลกับวงจรอิเล็กฯ ท่านก็เมตตาให้คะแนน จากเกรด 1 เปลี่ยนเป็น 2
คำนวนให้เฉลี่ยได้ 2.7 ถึงจบมาได้    ผมน่ะชอบปลูกต้นไม้ น่าจะเรียนเกษตรมาซะดีกว่า 

นำซากศพ Capacitor ที่ถูกเปลี่ยนออกมาให้ชมครับ
ถ้าของพี่น้อง CIVIC ท่านใด ขับมา 10 ปีแล้ว แนะนำควรจะไล่เปลี่ยน C ให้หมดครับ มีไม่กี่ตัวหรอก ไปที่ร้านซ่อมก็ได้ เครื่องมือเขาครบหน่อย

เจ้าตัวล่างนั่นแหละครับที่ขามันหัก

55 ;) ;)

ถล่มตนเองจริงจริ้ง

อย่างอื่นไม่ค่อยเสียหรอก ถ้าไม่มีรอยใหม้

ขนาดขาหักยังไปได้เนาะ อึดจริงๆคันนี้ 8)

ผมคิดว่า มันคงหักแบบ ปลายที่หักยังคงแตะสัมผัสกันอยู่ อาการมันจึงเป็นๆ หายๆ จังหวะกระเทือนก็อาจจะต่อ ๆ จาก ๆ น่ะครับ 
ผมเห็นวินมอเตอร์ไซค์เขาใช้ปลายนิ้ว ไล่โยกๆ เบาๆ ที่ตัว C ให้ดู  แล้วบอกว่าเจ้าตัวนี้ มันไม่แน่น โยกเบามือ นั่นคือขามันหักน่ะครับอาจารย์


 

 ::) :o   

ครับ case ของท่านโก เรื่องตัว c ขาขาดนี้มีประโยชน์มากสำหรับเพื่อนๆ
ดูให้ดี ละเอียด เส้นผมมันบังภูเขา หลายคนที่ไม่ชอบทำรถิแต่ชอบขับรถ
ต้องเสียเงินค่าซ่อมมากมาย  บางคนถึงยอมแพ้ขายรถไปก็มี

ให้เพื่อนๆ ที่แวะมาอ่าน อ่านให้ดี ลองไล่เช็คดู บางครั้งทำรถถูกต้องตามหลัก
อย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้วิชามาร เข้าช่วย

ถ่อมตนดีกว่า ถล่มตนนะ 55 ถล่มตนคือว่าให้ตัวเอง

บางเรื่องจะไม่เกี่ยวกันตามหลัก  แต่ทำแล้วมันหาย  เช่น Ecu  บางทีไม่เกี่ยวกันหรอก

แต่ทำแล้วมันหายแหะ ::)

ทำรถไม่เหมือน การปลูกผลไม้ เวลาปลูกไป ต้องรอให้มัยออกดอกออกผล และลองดู
ว่ามันหวาน มันใช้ได้ไหม

แต่การซ่อมรถ ไม่ต้องรอครับ ถ้ายังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แกไขยังไงก็รอไม่จบ
ผมเห็นบางอู่ เขาชอบบอกว่า ต้องรอใหมัน run ไปก่อน เดี๋ยวมันก็จะดีเอง ::) ::)

อย่างเช่น ท่านโก  ไล่ทำ ไล่เปลี่ยนซะนานมาเจอตัว  c แก้ไขเสร็จแล้วหายเลย
นั้นหละเราหาจุดเอง ไปทำอย่างอื่นซะนาน ซ่อมรถดีแล้วดีเลยครับไม่ต้องรอ

แต่สิ่งที่ท่านโก  ทำไป ตั้งแต่ล้างลิ้น ซื้ออะไหล่ มาเปลี่ยน  คอมแอร์ไม่ทำงาน
อะไรก็แล้วแต่ เดือนนี้ที่ทพไป เสียเวลา  เครียด  เสียเงิน นอนไม่หลับ เมื่อยเอว
ปวดหลัง  เซ็งเป็ด  เกือบๆเดือนที่ผ่านมาผมบอกเลยนะครับ


ว่า เป็น เป็นการสอบฝึกภาคปฎิบัติ  คุ้มครับ ไม่มีใครมานั่งบอกหรอก มันเสียเวลา
ภาระกิจแต่ละคนต่างกัน  สอบถามแล้ว  แต่ยังไม่ได้ a  นะ เพราะ ให้วินมอไชค์หาให้
หรือหาเจอ   จะได้เกรด a   ต้องเจอเองครับ เอาไป เกรดb  น่ะ ;D ;D ;D

ส่วนตัวทำรถเอง ถ้างานไม่ใหญ่มาก และช่วงนั้นงาน เวลา
มีไหม ถ้ามีผทลุยเองครับ เพราะไม่มีใครทำรถดีเท่ากับเราหรอก
เกือบทุก case ผมจะเจอจุดปัญหาเอง แล้วแก้ไขเอง ถูกจุดมัน
ต้องหายทันทีเลยทไม่ต้องรอเวลาให้มันหาย ครับ :-*

ขอบคุณมากครับที่ตัดเกรด B  ให้    :-*
แล้วท่านอาจารย์ Sitti ตัดเกรดไหนให้ผมครับ  :-* 

มาล้างรถให้จะให้เกรด A เพราะไอ้เรื่องซ่อมรถไม่เป็นไม่เท่าไหร่ แต่เรียนอิเล็คมานี่ ไม่ดูสภาพกล่องของตัวเองนี่มันยังไงๆอยู่นา ต้องให้วินมอไซต์มาบอกอย่างว่าแหละ ทำไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ ขอให้ช่างสังเกตหน่อยนึงครับ

 ;D ;D เดี๋ยวต้องหาโอกาสไปบ้านสวน ซะแล้ว ไปล้างรถ  ขอเกรด   :-[

ทุกอย่างเป็นบทเรียนครับ  เรียนรู้ครั้งแรก ทำครั้งแรก  ได้แค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้ว
 เบื้องหลังที่เป็นแรงหนุนให้มานั่งภูมิใจนี่ก็เพราะ Welovecivic และอาจารย์ทุกท่าน  :-* ขอบคุณอย่างใจจริง :-*

ฉะนั้นครั้งแรกก็ต้องมีพลาด  สำหรับผมคิดว่าไม่ใช่เป็นการพลาด  เพียงแต่เรายังไม่รู้ นึกไม่ถึง คาดไม่ถึงต่างหาก ที่นี้ก็รู้แล้ว  แล้วจะไม่ให้มันมีครั้งที่สอง
 ทุกอาชีพ ทุกสาขา ไม่มีสิ่งใด Perfect ทุกอย่างครับ ประสบการณ์เท่านั้นที่จะสั่งสอนครับ
                                                         *****  เปิดมาอ่านใหม่ อยากจะอ้วกตัวเอง ทำเป็นพูดแบบ เป็นงานเป็นการ  ;)       


 

อีกหน่อยก็เก่ง ทฤษฎีอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือลุยเองด้วย ทีนี้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วไม่มีพลาด ฝากกระทู้นี้ให้อาจารย์โก้ช่วยดูแลด้วย ถ้าหากวันไหนผมหายไปจากเว็ปเป็นเวลานาน ไม่ได้เข้ามาอ่านหรือตอบเลย ช่วยดูแลมันแทนผมด้วยนะ ผมถือว่าได้ให้หมดแล้วที่มีอยู่ คงไม่ค่อยได้เข้ามาตอบบ่อยๆ ฝากไว้เลยแล้วกันนะ

  ขอบคุณครับ +++ ผมไปปรับตรงที่ใต้คันเร่งแล้วดีขึ้นครับ (ประแจเบอร์7 / มีหกเหลี่ยมเล็ก)

ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยก็น่าจะดีนะ จะได้บอกถูกว่ามันคือตำแหน่งอะไร

สวัสดีครับอาจารย์ Sitti , อาจารย์กันต์   :-*
ผมหายไปหลายวัน  กระทู้นี้ตกอยู่ล่างหมด  ความรู้ดีๆ up ไว้บน ๆครับ

ไปทดสอบรถระยะไกลมาครับ พักผ่อนต่างจังหวัด 
ผลจากการล้าง IAVC , ปีกผีเสื้อ , เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, เปลี่ยนหัวเทียนแบบเข็ม , เปลี่ยนผ้ากรอง
   ลองSpeed  ถนนสายเอเชีย ทำกิโลเมตรได้ดีขึ้นมาก
จากเมื่อก่อน เหยียบหมดวิ่งได้แค่ 120    ตอนนี้ เหยียบยังไม่หมดก็ 130 ขึ้นแล้ว แค่ระยะสั้นๆ นะครับ  ไม่กล้าเหยียบหมด กลัว ครับ   
และที่พอใจมากที่สุด คือ ขณะกลับรถ ถอยหน้าถอยหลัง(เปิดแอร์) เครื่องไม่ดับแล้ว  :-* เมื่อก่อนดับประจำ ต้องปิดแอร์กลับรถ
ขอบคุณมากๆครับที่สอนการล้าง IAVC กับปีกผีเสื้อ
ที่ผมกล้ารื้อกล้าถอด เพราะการอธิบายในรูปอย่างละเอียดนี้แหละครับ   :-*

ถ้ามันหายแล้วก็ดีใจด้วยครับ จะได้สบายใจหน่อย อย่าลืมล้างระบบน้ำด้วยเด้อ รู้สึกว่าระบบน้ำจะสกปรกมาก สนิมเขรอะเลย  ควรใช้น้ำยากัดสนิมล้างหม้อน้ำล้างบ้างก็ดี ส่วนการวิ่งผมก็ไม่เกิน 135 สักที กลัวๆๆ รถมันเบามากเลยตอนวิ่งถึงระดับนั้น เอาไม่อยู่หรอกถ้าเสียหลัก ยางแตก ตายลูกเดียวอย่าเสี่ยงดีกว่าครับ เอาแค่ไว้ให้รู้ว่ามันวิ่งได้ถึงไหนก็พอ เอาไว้ใช้ตอนแซงก็พอครับ ความเร็วระดับนั้นน่ะ :(

ถามหน่อยครับ เครื่อง ZC ตัว IACV อยู่ตรงไหนครับ ผมจะล้างแต่ผมหาไม่เจอ

ผมว่ามันน่าจะอยู่ตรงแถวใต้คอไอดี ออโต้นะ มันจะมีท่อน้ำเลี้ยงอยู่สองเส้นนะ ตำแหน่งใกล้ๆแถว TPS น่าจะประมาณนี้นะ ลองหาดูครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าๆหร่ เกาะติดการเมืองอยู่ ยังไงอาจารย์โก้ กับพี่กันต์ ช่วยตอบแทนด้วยครับ

อนุญาตเต็มที่เลยครับ กระทู้ที่ผมตั้งขึ้น ใครจะเขียน ใครรู้อยากตอบ ก็อนุญาตเต็มที่ทุกกระทู้ครับ ผมอาจไม่ค่อยได้เข้ามาตอบนะครับ ตอนนี้สนใจการเมืองอย่างเดียวครับ มอบหมายให้อาจารย์โก้ตอบแทนเลยครับ

เหมือนกันเบย  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

เสียดายครับพี่ ตอนนี้ติดราชการ ตจว เลยได้แค่เกาะติดทางเน็ต ไม่งั้นคงได้ไปลุยด้วย ใกล้ที่อยู่ด้วยวันนี้ ???

พี่กันต์เข้าบ่อยกว่าผม เจอหัวข้อไหนของผม จัดการตอบได้เลยนะครับ ตอนนี้ไปติดตามการชุมนุมต่อ อัพเดทข่าวต่อก่อนครับ

ถามอีกหน่อยครับ ตอนนี้ผมล้างทั้งลิ้น ทั้ง IACV แล้ว (ของ zc อยู่ข้างล่าง) ตอนนี้รอบเดินเบาผมสูงมากเลยครับผมปรับหมุนรูอากาศเข้าจนสุดเลยตอนนี้อยู่ 900 ครับ อาการสวิงไม่มีแต่
1. คอมแอร์ตัดต่อบ่อยมาก เกี่ยวกันไหมครับ
2. แล้วผมต้องปรับอะไรให้มันลงมาอีกหน่อยครับ
3. อาการเพิ่มเติมคือตอนคอมแอร์ต่อ ไฟในรถ(หลอดเพดาน)เหมือนจะดับเลยครับ เกี่ยวกันไหม

ขออภัยมือใหม่หัดทำ กลัวดับกลางทางอีกรอบครับ

ขอทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยตอบ  อาจารย์ไปช่วยการเมืองอยู่

จะตอบแล้วนะครับท่าน mighe  
  1. คอมแอร์ตัดต่อบ่อยมาก เกี่ยวกันไหมครับ
     ตอบ  เคยอ่านเจอ เป็นที่  ตัววัดอุณหภูมิ (เหมือนหางหนู) อยู่ใกล้แผงคอยล์เย็นมากเกินไป ดึงห่างออกมาหน่อย   : ผิดหรือถูกอาจารย์
  2. แล้วผมต้องปรับอะไรให้มันลงมาอีกหน่อยครับ
       ตอบ   ตอนประกอบ ประกอบ IACV น่าจะมีลมรั่วเข้าไปได้ ลองถอดและปราณีตล้างแล้วปราณีตใส่เข้าไปใหม่    : ใช่ไหมอาจารย์
 3. อาการเพิ่มเติมคือตอนคอมแอร์ต่อ ไฟในรถ(หลอดเพดาน)เหมือนจะดับเลยครับ เกี่ยวกันไหม
          ตอบ   น่าจะปกติ เพราะ เวลาเราเปิดไฟหน้า  ไฟที่หน้าปัทม์ ยังหรี่เลย    : ใช่ป่าวอาจารย์   แบบว่าเด็กใหม่หัดตอบเหมือนกันน่ะครับ
            
                 แต่แนะนำอีกครั้ง  เริ่มอ่านหน้าแรกใหม่อย่างละเอียด เพราะอาจารย์ Sitti อธิบายไว้หมดแล้ว  ส่วนเรื่องแอร์ อยู่ในห้อง คลังความรู้
         แต่เนื้อหาเยอะมาก บางครั้งผมก็อยากจะถามเลยดีกว่า
                

เยอะมากๆอ่านไม่หวาย ใส่แว่นตาลายหมดแล้ว  :o :o

1  รอบนิ่งแล้วที่ 900 รอบ เปิดแอร์แล้วเข็มไม่สวิงขึ้นลงๆ ถือว่าใช้ได้ การตัดต่อของแอร์จะถี่หรือไม่ถี่ตรงนี้ต้องถามพี่กันต์
ถ้ารถใช้แก็ส แล้วตอนที่คอมแอร์มันตัดต่อบ่อย คืออาการแก็สไม่พอ ต้องจูนแก๊สใหม่

ถ้าแก๊สไม่พอ มันจะตัดต่อคอมแอร์ถี่ๆ แบบต๊อกแต๊กๆ ๆ ๆ ถี่จนเห็นชัดเจน คืออาการแก๊สไม่พอ ไม่มีกำลังฉุดคอมแอร์

ถ้าไม่มีลมรั่วเข้าได้แล้ว ปรับสุดแล้วได้ 900 ก็ถือว่ายังพอทน มันขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องครับ อาจปรับได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความสึกหรอของอุปกรณ์ แต่ขอให้แน่ใจแล้วว่าไม่มีลมรั่วเข้า

ข้อสาม มันฉุดกำลังเครื่อง ไฟมันเลยตก ถ้าระบบน้ำมันอาจเกิดจากแบตเตอร์รี่อาจมีไฟสำรองไม่พอ แต่ถ้าเกิดตอนใช้แก๊ส ให้จูนแก็สเพิ่มอีกหน่อย เพื่อให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น

ส่วนคำตอบของอาจารย์โก้ ข้อ 1 มันเกี่ยวกับระบบแอร์ ถ้าอาการนี้เกิดจากระบบแอร์คืออาจารย์โก้ตอบถูกต้องครับ

ข้อสองก็ถูกต้อง ตอนประกอบลิ้นเร่ง และ IACV ต้องปราณีตอย่าให้มีลมรั่วเข้าไปได้ครับ

ส่วนข้อสาม ถ้าเครื่องยนต์มีการใช้กำลังมากๆ มีภาระมาก อุปกรณ์ไฟฟ้า มันมีโหลด มันเกิดอาการไฟตกได้ อยู่ที่สภาพแบตเตอรี่และไดชาร์ทด้วย อันนี้ไม่น่าเกี่ยวกับการล้างลิ้นเร่ง อาจารย์โก้ก็ตอบน่าจะถูกนะครับ

ดีแล้วหล่ะช่วยตอบแทนผมหน่อย บางทีผมไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยนัก จัดการได้เลยครับ เต็มที่เลยครับ อนุญาติทุกกระทู้ครับ

เจอแล้วครับ ท่อตรงนี้มันเป็นรูครับ น่าจะลมเข้าตรงนี้แหละ อีกอย่างผมเพิ่งเพิ่มตัวชดเชยรอบแอร์เข้าไปด้วยอีกตัวรอบมันเลยสูงครับ

ส่วนที่ว่าแอร์ผมว่าตอนเปลี่ยนตู้แอร์ช่างน่าจะเอาหางหนูไปติดไว้ใกล้ เลยตัดต่อบ่อยๆครับ

แก้ปัญหาได้ยังครับ ค่อยๆแก้ไปทีละจุดครับ

ผมงงว่าทำไมต้องไปใส่ตัวชดเชยรอบตั้งสองตัว คิดไหมว่าค่าความแข็งตัวชดเชยสองตัวไม่เท่ากัน ซึ่งฮอนด้าเขายังไม่ได้ใส่ขนาดนั้น

เมื่อค่าความแข็งของสปริงไม่เท่ากันเพราะความสึกหรอ การเปิด ปิดของรูอากาศย่อมไม่เท่ากัน การส่งสัญญานทางไฟฟ้าของเซ็นเซอร์ทั้งสองตัวย่อมไม่เท่ากัน กล่องมันจะประมวลผลค่าไหนดี ผมไม่รู่ว่าท่านใส่ไปได้ยังไง แต่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่เพิ่มความเพี้ยนของการส่งสัญญานให้มันได้ค่าที่ไม่แน่นอนเพิ่มเข้าไปเพิ่มภาระของกล่องอีก

ระบบมันต้องการแค่หนึ่งเดียวที่ถูกต้อง แม่นยำ บางทีการที่เราคิดไปเองว่าดี มันก็ไม่ถูกเสมอไปนะครับ ผมว่าฮอนด้าเขาคงคิดไว้เหมือนกัน แต่เห็นว่าถ้าเกินประโยชน์เขาก็ไม่ทำ

ถ้าบริษัทฮอนด้าเขาทำมาอันเดียวก็ใส่อันเดียวเถอะครับ วิศวะกรเขาออกแบบมาดีแล้ว เขาคิดมาจนละเอียดแล้วล่ะจนกว่าจะมาเป็นรถหนึ่งคัน

 :) :)

ไม่พลางตัวแล้ว เ เห็นหน้าตาชัดเจน :-*

:-[ คิดว่ามันยังเบลออยู่ เจอตัวจริงอาจจำไม่ได้ครับ 55

ดูท่าทางจะบึกบึน เป็นชายชาติทหาร :) :)

เพิ่งเปิดเจอครับ ผมตัวเล็กๆ เตี้ยๆ 160 หนักแค่ 57 กก ไม่ได้ตัวใหญ่อย่างที่พี่คิดครับ เวลายกเครื่องล่างในกระทู้พอยกไหว ตอนประกอบเริ่มล้า เกือบขันน๊อตไม่เสร็จ หมดแรง คือพูดให้รู้ว่าถึงตัวเล็กก็ไม่ใช่อุปสรรคในการซ่อมรถ เห็นช่างที่ทำงานตัวเล็กกว่าผมอีกยังทำได้สารพัดเลย จึงมีแรงบันดาลใจครับ

ตัวเล็กๆนี้หละอึดเลย ;D ;D

ท่าน Sitti เอาเรื่อง การอ่านรหัสข้อผิดพลาดของระบบเซ็นเซอร์รถยนต์แบบ OBD
ไปตั้งกระทู้ DIY ใหม่ดีกว่าผมว่า มันเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ มาแอบยู่ในกระทู้ี
เสียของ ครับ

ทำหน้าลิ้งค์ไปก็พอมั้งพี่ เดี๋ยวทำหน้าลิ้งค์ให้ครับ คงไม่ต้องถึงกับตั้งใหม่มั้ง มันมีเรื่องแค่นิดเดียวเองครับ

ขอปรึกษาด้วยครับ

สายคันเร่งของผมมันจะหนักๆช่วงความเร็วจาก 100 km/hr ต้องเพิ่มแรงเหยียบคันเร่งเพื่อไปให้ถึง 120 km/hr
รู้สึกเหมือนสายคันเร่งมันแข็งๆตอนที่ความเร็วผ่าน 100 km/hr ไปแล้ว

ถ้าเราล้างลิ้นปีกผีเสื้อ จะทำให้คันเร่งเราลื่นขึ้นไหมครับ เกรงว่าฝุ่นมีโอกาสไปจับลิ้นปีกผีเสื้อ ทำให้มันขัดกับผนังของเรือนลิ้นปีกผีเสื้อ

แต่เราผม เครื่องเดินเบายังปกติครับ รอบไม่สวิง

ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกันไหมครับ  ::)

ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ  :-*

ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวครับ ให้ดูที่สายคันเร่ง ว่ามันหย่อน หรือมันตึงไปไหม มากกว่าครับ การล้างลิ้น มันช่วยได้ดีในภาวะเดินเบาแค่นั้น ส่วนภาวะเร่งลิ้นมันเปิดเต็มที่อยู่แล้ว จึงไม่มีผลอะไร ให้ดูที่การตั้ง TPS ว่าตำแหน่งมันถูกต้องไหม ถ้าตำแหน่งมันไม่ถูกต้อง มันจะเร่งไม่สัมพันกับความเร็ว ดูการตั้งสายคันเร่งด้วยครับ การตั้ง TPS ดูของ อาจารย์เงาะได้เลยครับ

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=104288.0

ขอบคุณมากครับ  :-*

สงสัยต้องไปหยอดน้ำมัน Singer ให้กับสายคันเร่งกับสายเกียร์ซะหน่อยแล้ว  :-[

ลองดู ได้ผลยังไงช่วยแจ้งผลด้วยครับ

up  :-*

สวัสดีครับ พอดีผมทำการล้างตามกระทู้ที่พี่ แนะนำไว้
เครื่องผม d16y4 auto อาการก่อนล้าง รอบเครื่องสวิง รอบเดินเบาต่ำ
ล้างเสร็จ รอบสตาร์ทแรกเครื่องขึ้น เกือบ 1800-2000 รอบ พอรอบเดินเบาลงมาอยู่ที่ 1500
แต่พอขับสักระยะ รอบเดินเบานิ่งที่ 1000 (ปรับสกรูเดินเบาตามเข็มขวาจนสุดจนหมุนไม่ได้ หมุนซ้ายไม่ได้ถ้าหมุนรอบยิ่งเยอะอะครับ) คือปรับไม่ได้เลย อย่างนี้ผมควรทำอะไรครับ เกิดจากอะไร
ลองรีเซท ecu แล้วยังเหมือนเดิม ต้องเปลี่ยนลิ้นปีกมั้ยครับ :(

น่าจะมีอากาศรั่วเข้าในทางอื่นด้วยนะ ถ้าปรับแล้วไม่ลง อีกอย่างหมุนให้รอบตกคือขวา ถ้าหมุนไม่ไปต่อก็ต้องดูว่าสุดหรือยัง แต่ถ้าตรงตำแหน่งเดิม ก็ให้ลองหาที่คาดว่าอากาศจะรั่วเข้าได้นะ เช่นปะเก็นตรงปีกผีเสื้อด้วย

ไม่ได้เข้านาน สวัสดีอาจารย์ทุกท่านคับ ขอก็อปไปทำด้วยคนคับรอบไม่นิ่ง
อาการแบบ จารย์โก้เลยคับ 55 เดี้ยวทำแล้วมารายงานผลคับ

 :-[ :-[ :-[

ทำเสร็จแล้วคับอาการดีขึ้นมากเลยคับกว่าจะถอกจะใส่ได้ เล่นไปซะหลายแผล
แต่ผลงานที่ออกมาดีทีเดียว ขอบคุณความรู้ดี ๆ จาก อาจารย์ทุกท่านนะคับ :-* :-* :-* :-*

ผมขอลาพักผ่อนไม่มีกำหนดนะครับ 555 ;)

UP.

บางทีแก้อาการเดินเบาแล้วไม่หาย ลองแกะกล่องอีซียู ดูตัวเก็บประจุมันดูด้วยนะครับว่ามีแตก บวมไหม เมื่อวานเพิ่งเจอไปหนึ่งคันที่บ้าน เวลาเปิดแอร์รอบสวิงขึ้นๆลงๆ เครื่องสั่นวืดวาดๆๆ ไล่ไปจนหมดสายไฟ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นกล่อง เลยให้เขาแกะกล่องดูปรากฏว่าตัวเก็บประจุบวม ไล่เปลี่ยนใหม่ อาการสวิงหายไป แต่ได้ตัวเก็บประจุไม่ตรงค่าเดิม ไฟเครื่องยังไม่ยอมดับ แต่การสวิงไม่มี