:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: jinker ที่ 20 พฤศจิกายน 2008, 08:59:19



หัวข้อ: พ่อหลวงต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง...
เริ่มหัวข้อโดย: jinker ที่ 20 พฤศจิกายน 2008, 08:59:19
?รอยพระบาท? ที่ร้าน ก.เปรมศิลป์
       
       จากชายหนุ่มต่างจังหวัดเข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างร้านรองเท้าในเมืองกรุง ค่อยๆสะสมประสบการณ์และเก็บหอมรอมริบ จนกระทั่งทุกวันนี้ได้เป็นเถ้าแก่ร้านรองเท้าของตัวเอง ใครเลยจะรู้ว่าวันหนึ่ง ?ศรไกร แน่นศรีนิล? หรือ ?ช่างไก่? จะได้รับโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งแก่ชีวิต ในการเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสถวายการรับใช้พ่อของแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       ช่างไก่ยังจำถึงเหตุการณ์วันนั้นได้ไม่ลืม แม้จะผ่านมา 2 ปีกว่าแล้วก็ตาม ?เช้าวันนั้นผมก็ทำงานซ่อมรองเท้าอยู่หน้าร้านปกติเหมือนทุกวัน แต่แปลกไปตรงที่มีลูกค้าคนหนึ่งประคองพานรองเท้าเข้ามาวางแล้วก้มลงกราบ ผมก็ตกใจถามเขาว่าเอาอะไรมาให้ผม เขาบอกว่ารองเท้าของพระองค์ท่าน แค่นั้นผมก็ขนลุกเลยครับ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้รับใช้ตรงนี้?
        ฉลองพระบาทคู่แรกของในหลวงที่นำมาซ่อมนั้นเป็นรองเท้าหนังสีดำทำในเมืองไทย ราคาไม่แพง และเท่าที่ช่างไก่สังเกตเห็น เขาเล่าว่ารองเท้าคู่นั้นอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมาหลายสิบปี ภายในรองเท้าผุกร่อนหลุดลอกหลายแห่ง ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปก็อาจจะทิ้งไปแล้ว แต่พระองค์ท่านกลับทรงให้มหาดเล็กนำมาซ่อมเพื่อใช้งานต่อ ช่างไก่ได้ทราบจาก
         มหาดเล็กผู้นั้นว่า รองเท้าหนังสีดำคู่นี้คือฉลองพระบาทคู่โปรดของในหลวง
       
       เมื่อได้ทราบดังนั้น แม้จะมีความประหม่าเกร็งในการทำงาน แต่ช่างไก่ก็ลงมือซ่อมแซมฉลองพระบาทนั้นอย่างสุดฝีมือ โดยสั่งลูกน้องทุกคนให้ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด และเก็บชิ้นส่วนวัสดุของฉลองพระบาทไว้ทุกชิ้น แม้แต่เศษธุลี ด้วยตระหนักว่านับเป็นความโชคดีอย่างหาที่สุดมิได้ ถึงแม้จะไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ แต่ก็สามารถนำวิชาชีพช่างทำรองเท้ามารับใช้สนองพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ได้
       
       ?เศษวัสดุทุกชิ้นเป็นสิ่งที่ผมเก็บไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ผมเคยดูข่าวเวลาในหลวงท่านเสด็จพระราชดำเนินก็มีคนเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้พระองค์ท่านทรงเหยียบ แต่ผมมีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่านั้น ก็เลยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงเก็บรักษาไว้อย่างดี ให้ดีที่สุดเท่าที่ร้านเล็กๆ อย่างเราจะทำได้?
       
       หลังจากนั้น ช่างไก่มีโอกาสซ่อมฉลองพระบาทอีก 4 คู่ โดยฉลองพระบาทคู่หนึ่งชำรุดเนื่องจากถูก ?คุณทองแดง? สุนัขทรงเลี้ยงกัดแทะ ต่อจากนั้นมหาดเล็กได้เชิญฉลองพระบาทของสมเด็จพระเทพฯ มาให้เขาซ่อมอีกหลายคู่ เป็นสิ่งยืนยันว่า เจ้าฟ้าหญิงไทยองค์นี้ทรงดำเนินตามรอยพระบาทของสมเด็จพระราชบิดามากเพียงใด
        นอกจากนี้ เขาได้ขอพระราชทานรองฉลองพระบาทคู่เก่าที่พระองค์ท่านไม่ทรงแล้วมาไว้สักการบูชา ซึ่งฉลองพระบาทดังกล่าวเป็นสิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า พระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นทรงเรียบง่าย ประหยัด และทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างที่ดี ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ควรอย่างยิ่งที่พสกนิกรน่าจะดำเนินรอยตาม ดังเช่นที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้ซึ่งมีโอกาสถวายงานใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเวลากว่า 20 ปี กล่าวถึงไว้ในหนังสือ ?ใต้เบื้องพระยุคลบาท? ว่า
       
       ?พระองค์ท่านทรงเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ดูแค่ฉลองพระบาท เป็นต้น พวกตามเสด็จฯทั้งหลายใส่รองเท้านอก และยิ่งมาจากต่างประเทศใส่แล้วนุ่มเท้าดี พระองค์กลับทรงรองเท้าที่ผลิตในเมืองไทย ...คู่ละร้อยกว่าบาท สีดำ เหมือนอย่างที่นักเรียนใส่กัน ...แม้กระทั่งพวกเรายังไม่ซื้อใส่กันเลย?
        ต่อมา มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่มาสัมภาษณ์ช่างไก่ ช่างซ่อมรองเท้าผู้โชคดีที่มีโอกาสถวายการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท นับแต่นั้น ?ร้าน ก.เปรมศิลป์? ร้านซ่อมรองเท้าเล็กๆ บริเวณสี่แยกพิชัย ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังสวนจิตรลดา ก็โด่งดังเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน พสกนิกรชาวไทยต่างกระหายใคร่จะรู้เรื่องราวอันน่าปลื้มปิติ ซึ่งเปรียบได้ดังหยาดน้ำทิพย์ชโลมใจท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่รุมเร้า
       
       สองวันแรกหลังเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ช่างไก่จึงแทบไม่มีเวลากินข้าวกินน้ำ เนื่องจากกองทัพสื่อมวลชนทุกแขนงที่แห่กันมาทำข่าวอันน่าชื่นชมยินดีนี้ รวมทั้งประชาชนที่อยากชื่นชมฉลองพระบาท แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็มีประชาชนแวะเวียนเข้ามาชมและกราบไหว้รอยพระบาทของพระองค์ท่านที่ร้านอยู่เรื่อยๆ แม้แต่พระอาจารย์วัดแคที่ตั้งอยู่บริเวณไม่ไกลจากร้าน ก็ได้นำแบบอย่างพระจริยวัตรของในหลวงที่ทรงดำเนินชีวิตอย่างประหยัดมัธยัสถ์ไปเป็นแบบอย่างในการสอนเด็กนักเรียนด้วย
       
       ช่างไก่กล่าวอีกว่า ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่านนี่เอง ที่ทำให้มีประชาชนให้ความสนใจร้านรองเท้าเล็กๆ แห่งนี้ ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไปได้มาสั่งตัดและซ่อมรองเท้าที่ร้านของเขามากขึ้น
       
       ?สังคมไทยรักพระองค์ท่าน ผมก็ถือว่าผมโชคดีนะครับ สังคมทั่วไปที่เห็นผมมีโอกาสอย่างนี้ก็อยากจะมีโอกาสอย่างผมบ้าง ผมว่าทุกคนก็มีโอกาสหมดเพราะว่าทุกคนรักในหลวง ทุกคนทำอะไรก็ได้ที่เป็นการทำในสิ่งที่ดี ก็เท่ากับว่าได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทแล้ว แม้จะไม่ได้รับโอกาสแบบที่ผมได้รับ แต่ก็ขอให้ทุกคนภูมิใจเมื่อตัวเองทำสิ่งที่ดีๆ เพราะเท่ากับได้สนองพระราชดำริของพระองค์ท่าน ที่ทรงแนะนำพสกนิกรให้ทำแต่สิ่งที่ดีๆ สังคมก็จะดีทั่วๆ กัน?
       
       บางคนอาจจะเมินหรือมองข้ามอาชีพช่างทำรองเท้า แต่สำหรับช่างไก่แล้ว กลับคิดว่าอาชีพของเขามิได้ต่ำต้อย และหากจะเปรียบกับอวัยวะต่างๆของร่างกายแล้ว อาชีพช่างทำ-ซ่อมรองเท้านั้น ก็นับเป็นส่วนประกอบหนึ่งของสังคม เช่นดังที่เท้าเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย
       
       ความมุ่งหวังตั้งใจสูงสุดของช่างซ่อมฉลองพระบาทผู้นี้ คือ ซื่อสัตย์ และตั้งใจทำงานของตนต่อไปให้ดีที่สุด
       
       ?ถ้าผมไม่มีกิจการรองเท้า ผมก็ไม่มีโอกาสถวายการรับใช้อย่างใกล้ชิดพระองค์ท่านแบบนี้ แม้จะไม่ร่ำรวย หรือประสบความสำเร็จอะไรมากมาย แต่สำหรับผม?การได้มีโอกาสถวายการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทเช่นนี้ ถือว่าผมประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพช่างทำรองเท้าของผมแล้ว?


หัวข้อ: Re: พ่อหลวงต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง...
เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 20 พฤศจิกายน 2008, 09:11:05
ทำไมโพสต์ซ้ำล่ครับ กระทู้เดียวกัน คนตั้งกระทู้คนเดียวกัน
v
http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,28292.0.html

เนื้อหาก็เดียวกันยังอยู่ในหน้า1 ด้านล่าง ยังไม่ตกจอไปไหนเลย