:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: edde21 ที่ 19 เมษายน 2009, 14:52:50



หัวข้อ: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: edde21 ที่ 19 เมษายน 2009, 14:52:50
ก้อต้องขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเป็นอย่างสูงนะคะ ถ้าหากว่าการโพสของดิฉันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับทางเว็บนี้ ช่วยลบกระทู้ของดิฉันออกไปเลยก้อได้นะค่ะ เพราะดิฉันไม่ได้มีความต้องการมาล้วงข้อมูลใดๆๆทั้งสิ้น เพราะไม่รู้จะล้วงอะไร ดิฉันต้องการแค่นำข้อมูลไปทำวิจัยในวิชา  IS (การศึกษาเฉพาะบุคคล) ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตรปริญญาโท ซึ่งเนื้อหาของวิชานี้คล้ายๆๆกับการทำวิทยานิพนธ์ แต่ว่าเนื้อหารายละเอียดน้อยกว่าเท่านั้นเอง ดิฉันก้อไม่ทราบหรอกนะคะว่า จะต้องขออนุญาติอย่างเป็นทางการด้วย จริงๆดิฉันก็อยากจะแจกแบบสอบถามที่เป็นกระดาษจริงๆๆนะค่ะ  แต่ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ได้เข้ามามีส่วนช่วยให้การทำแบบสอบถามให้ง่าย  และมีอิสระมากขึ้น ดิฉันก็เลยเลือกช่องทางนี้เป็นส่วนหนึ่งในการแจกแบบสอบถาม

ท้ายนี้ก้อต้องขอประทานโทษด้วนนะค่ะที่โพสของดิฉันไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร

ขอขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: j_nobita ที่ 19 เมษายน 2009, 15:09:59
 :-[ :-[ ใจเย็นๆครับหมู่เฮา ชี้แจงเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ก็จบด้วยดีครับ


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: pat_meaw ที่ 19 เมษายน 2009, 16:30:48
รออาจารย์พี่โอ๊ตมาเคลียร์  :-[

ตามความเห็นส่วนตัว
จากกระทู้โน้น.. ทางเวบมาสเตอร์ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรที่เกินความสามารถจะหาให้ได้นี่คะ
การมาหาข้อมูล จะแสดงตัวสักหน่อยว่ามาจากไหนยังไงก็ดีนะคะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย

สมาชิกที่นี่ใจดีน่ารักกันทุกคนค่ะ มาแบบทางการหน่อย อาจจะได้รับความช่วยเหลือมากกว่านะคะ คอนเฟิร์ม!!  :D



หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: pratrick_army ที่ 19 เมษายน 2009, 16:56:17


สมาชิกที่นี่ใจดีน่ารักกันทุกคนค่ะ มาแบบทางการหน่อย อาจจะได้รับความช่วยเหลือมากกว่านะคะ คอนเฟิร์ม!!  :D

[/b][/font][/color]
[/quote]สมาชิกที่นี่น่ารักกันทุกคนครับ..โดยเฉพาะผม..อิอิ ;) ;)


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: edde21 ที่ 19 เมษายน 2009, 17:01:42
1.หลักการและเหตุผล
รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนในยุคนึ้ จึงมีผู้ใช้รถยนต์ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป  ประกอบกับการแข่งขันของผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หลายรายที่ใช้กลยุทธ์ต่างๆต่อสู้กันอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้ส่งผลดีให้รถยนต์ออกสู่ท้องถนนจำนวนมาก จากรายงานสถิติการจดทะเบียนรถยนต์พบว่ามีรถยนต์จดทะเบียน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 จำนวน 2,350,482 คัน   คิดเป็นจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2550 เป็นจำนวน 375,731 คัน (ฝ่ายสถิติ สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก พ.ศ.2552) หรือร้อยละ 16 จากข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการบริโภคน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพราะสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลรักษารถยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ คือการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ซึ่งจะต้องเปลี่ยนถ่ายตามที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด 
น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เป็นผลิตภัณฑ์สำคัญชนิดหนึ่งที่ใช้กับรถยนต์ นอกเหนือจากการใช้น้ำมันใส เนื่องจากน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีคุณสมบัติช่วยให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์หล่อลื่นขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการระบายความร้อน และช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น โดยหน้าที่ของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์พอสรุปได้ดังนี้
                  1.   ทำให้การหล่อลื่นและผนึกแหวนลูกสูบ เพื่อป้องกันกำลังอัดรั่ว
                  2.   การระบายความร้อน ซึ่งต้องการน้ำมันที่ทนความร้อนได้สูง โดยไม่เสื่อมสลายเร็ว
                  3.   ลดการสึกหรอ ของเครื่องยนต์ที่มีอุณหภูมิสูงและรับภาระการใช้งานที่รุนแรง
                  4.   รักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ โดยอาจจะผสมสารชะล้างทำความสะอาด(Detergent) และสารช่วยกระจายเขม่าตะกอน (Dispersant) เพื่อขจัดเขม่าคาร์บอนออกจากผิวโลหะ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีมาตรฐานสูง ปริมาณสารชะล้างทำความสะอาดและการกระจายเขม่าตะกอนก็ยิ่งจะมีมากขึ้น
                  5.   ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน การเพิ่มคุณภาพสารประเภทป้องกันสนิม(Rust Inhibitor) ให้คุณสมบัติในการยึดเกาะติดผิวโลหะ ทำให้น้ำหรือความชื้นไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปถึงพื้นผิวได้
       ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากบริษัทผู้ ผลิตซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยผลิตทั้งน้ำมันใส น้ำมันหล่อ ลื่นยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่น ๆ ในจำนวนนี้มีทั้งบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันที่เป็นบริษัทข้ามชาติ เช่น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์(ไทย) จำกัด , บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)   และบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันสัญชาติไทย อย่างเช่น บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
        การเติบโตขึ้นของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเติบโตขึ้นอย่างมาก  ประกอบกับการแข่งขันในตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันใสทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จากการเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดของบรรดาผู้ค้าน้ำมันรายย่อย ประกอบกับต้นทุนดำเนินการที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนมีแนวโน้มลดลง บริษัทผู้ค้าน้ำมันจึงต้องหารายได้ทางอื่นเข้ามาชดเชย  ทำให้บรรดาผู้ค้าน้ำมันโดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่คือ เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ และปตท. ต่างมุ่งขยายตลาดในส่วนของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันในอัตราสูง
การแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างพยายามลดต้นทุนการผลิต ด้วยการพัฒนาการผลิตในขั้นตอนต่างๆขึ้นในประเทศ จากเดิมที่นำเข้าเป็นน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูป มาเป็นการนำเข้าน้ำมัน หล่อลื่นพื้นฐานเพื่อมาผสมเป็นน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์สำเร็จรูป และที่สุดก็ได้มีการผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานขึ้นในประเทศ เพื่อสนองความต้องการของโรงงานผสมน้ำมันหล่อลื่นที่ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศไทยสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศลงได้ตามลำดับ และคาดว่าในอนาคตอันใกล้ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของไทยก็จะพัฒนาไปจนถึงขั้นส่งออก เป็นการช่วยเพิ่มพูนรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ตลาดน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์จะไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ผู้ประกอบ การทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่ไว้และขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่าน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์  แต่ละยี่ห้อมีคุณภาพทัดเทียมกันจะต่างกันก็ที่ราคา ผู้ประกอบการรายใหญ่จึงต้องพัฒนาสินค้าตัวใหม่ๆออกมาเป็นระยะๆ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ทั้งลด แลก แจก แถม และชิงโชค เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองไว้
ขอบเขตการวิจัย
ขอบเขตเนื้อหา
การศึกษาวิจัยครั้งนี้  ทำการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย ปัจจัยทางด้านผลิตภัณฑ์  ราคา   ช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการตลาด และการตลาดทางตรง
ขอบเขตประชากร
ในการศึกษาเรื่องการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ ในเขตกรุงเทพมหานคร  ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ในเขตกรุงเทพมหานคร  จากสถิติรถยนต์ที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ของ ฝ่ายสถิติ สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก รายงานจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ณ สิ้นปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,350,482 คัน (ฝ่ายสถิติ สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก) 
ดังนั้น ประชากรที่นำมาศึกษาในครั้งนี้ คือ 2,350,482 คน  กำหนดค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ เท่ากับร้อยละ 5 หรือที่ระดับความเชื่อมั่น 95%  โดยใช้กฎของ Taro Yamane คำนวณการสุ่มตัวอย่างประชากร ได้ตัวอย่างที่จะทำการศึกษา 400 คน
                                                 
  เมื่อ    n    =    ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง   
             N    =    ขนาดของกลุ่มประชากรทั้งหมดจำนวน 2,350,482 คน
           e    =    ความคลาดเคลื่อนจากการสุ่มตัวอย่างที่ระดับ 0.05
แทนค่า
      n     =                2,350,482
                                            1 + (2,350,482)(0.05) 2
         =   399.93 หรือ ประมาณ 400 คน




หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: edde21 ที่ 19 เมษายน 2009, 17:03:14
สมมุติฐานการวิจัย
1.   ผู้ใช้รถยนต์ที่มีเพศที่แตกต่างกันจะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีส่วนประสมทางการตลาดที่แตกต่างกัน
2.   ผู้ใช้รถยนต์ที่มีอายุที่แตกต่างกันจะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีส่วนประสมทางการตลาดที่แตกต่างกัน
3.   ผู้ใช้รถยนต์ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันจะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีส่วนประสมทางการตลาดที่แตกต่างกัน
4.   ผู้ใช้รถยนต์ที่มีอาชีพที่แตกต่างกันจะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีส่วนประสมทางการตลาดที่แตกต่างกัน
5.   ผู้ใช้รถยนต์ที่มีระดับการศึกษาที่แตกต่างกันจะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีส่วนประสมทางการตลาดที่แตกต่างกัน


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: YUYU ที่ 19 เมษายน 2009, 17:24:53
 ^
^
^
:o :o :o :o   วิชา จริงๆๆๆ    :o :o 

แต่สมาชิกน่ารักน่ะครับ   :-* :-*


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: kapum ที่ 20 เมษายน 2009, 01:29:17
 :-[ มาไม่ทัน 

แต่ยืนยันอีกคนครับ ว่า สมาชิก+สต๊าฟ ที่นี้ อบอุ่นน่ารัก ทุกๆ คนครับ  :-*


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: fomote ที่ 20 เมษายน 2009, 01:43:20
 :) เกิดไรขึ้น


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: @GuY ที่ 20 เมษายน 2009, 01:58:49
1.หลักการและเหตุผล
รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนในยุคนึ้ จึงมีผู้ใช้รถยนต์ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป  ประกอบกับการแข่งขันของผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หลายรายที่ใช้กลยุทธ์ต่างๆต่อสู้กันอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้ส่งผลดีให้รถยนต์ออกสู่ท้องถนนจำนวนมาก จากรายงานสถิติการจดทะเบียนรถยนต์พบว่ามีรถยนต์จดทะเบียน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 จำนวน 2,350,482 คัน   คิดเป็นจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2550 เป็นจำนวน 375,731 คัน (ฝ่ายสถิติ สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก พ.ศ.2552) หรือร้อยละ 16 จากข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการบริโภคน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพราะสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลรักษารถยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ คือการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ซึ่งจะต้องเปลี่ยนถ่ายตามที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด 
น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เป็นผลิตภัณฑ์สำคัญชนิดหนึ่งที่ใช้กับรถยนต์ นอกเหนือจากการใช้น้ำมันใส เนื่องจากน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีคุณสมบัติช่วยให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์หล่อลื่นขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการระบายความร้อน และช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น โดยหน้าที่ของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์พอสรุปได้ดังนี้
                  1.   ทำให้การหล่อลื่นและผนึกแหวนลูกสูบ เพื่อป้องกันกำลังอัดรั่ว
                  2.   การระบายความร้อน ซึ่งต้องการน้ำมันที่ทนความร้อนได้สูง โดยไม่เสื่อมสลายเร็ว
                  3.   ลดการสึกหรอ ของเครื่องยนต์ที่มีอุณหภูมิสูงและรับภาระการใช้งานที่รุนแรง
                  4.   รักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ โดยอาจจะผสมสารชะล้างทำความสะอาด(Detergent) และสารช่วยกระจายเขม่าตะกอน (Dispersant) เพื่อขจัดเขม่าคาร์บอนออกจากผิวโลหะ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีมาตรฐานสูง ปริมาณสารชะล้างทำความสะอาดและการกระจายเขม่าตะกอนก็ยิ่งจะมีมากขึ้น
                  5.   ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน การเพิ่มคุณภาพสารประเภทป้องกันสนิม(Rust Inhibitor) ให้คุณสมบัติในการยึดเกาะติดผิวโลหะ ทำให้น้ำหรือความชื้นไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปถึงพื้นผิวได้
       ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากบริษัทผู้ ผลิตซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยผลิตทั้งน้ำมันใส น้ำมันหล่อ ลื่นยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่น ๆ ในจำนวนนี้มีทั้งบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันที่เป็นบริษัทข้ามชาติ เช่น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์(ไทย) จำกัด , บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)   และบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันสัญชาติไทย อย่างเช่น บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
        การเติบโตขึ้นของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเติบโตขึ้นอย่างมาก  ประกอบกับการแข่งขันในตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันใสทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จากการเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดของบรรดาผู้ค้าน้ำมันรายย่อย ประกอบกับต้นทุนดำเนินการที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนมีแนวโน้มลดลง บริษัทผู้ค้าน้ำมันจึงต้องหารายได้ทางอื่นเข้ามาชดเชย  ทำให้บรรดาผู้ค้าน้ำมันโดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่คือ เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ และปตท. ต่างมุ่งขยายตลาดในส่วนของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันในอัตราสูง
การแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างพยายามลดต้นทุนการผลิต ด้วยการพัฒนาการผลิตในขั้นตอนต่างๆขึ้นในประเทศ จากเดิมที่นำเข้าเป็นน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูป มาเป็นการนำเข้าน้ำมัน หล่อลื่นพื้นฐานเพื่อมาผสมเป็นน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์สำเร็จรูป และที่สุดก็ได้มีการผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานขึ้นในประเทศ เพื่อสนองความต้องการของโรงงานผสมน้ำมันหล่อลื่นที่ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศไทยสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศลงได้ตามลำดับ และคาดว่าในอนาคตอันใกล้ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของไทยก็จะพัฒนาไปจนถึงขั้นส่งออก เป็นการช่วยเพิ่มพูนรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ตลาดน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์จะไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ผู้ประกอบ การทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่ไว้และขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่าน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์  แต่ละยี่ห้อมีคุณภาพทัดเทียมกันจะต่างกันก็ที่ราคา ผู้ประกอบการรายใหญ่จึงต้องพัฒนาสินค้าตัวใหม่ๆออกมาเป็นระยะๆ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ทั้งลด แลก แจก แถม และชิงโชค เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองไว้
ขอบเขตการวิจัย
ขอบเขตเนื้อหา
การศึกษาวิจัยครั้งนี้  ทำการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย ปัจจัยทางด้านผลิตภัณฑ์  ราคา   ช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการตลาด และการตลาดทางตรง
ขอบเขตประชากร
ในการศึกษาเรื่องการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ของผู้ใช้รถยนต์ ในเขตกรุงเทพมหานคร  ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ในเขตกรุงเทพมหานคร  จากสถิติรถยนต์ที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ของ ฝ่ายสถิติ สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก รายงานจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ณ สิ้นปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,350,482 คัน (ฝ่ายสถิติ สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก) 
ดังนั้น ประชากรที่นำมาศึกษาในครั้งนี้ คือ 2,350,482 คน  กำหนดค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ เท่ากับร้อยละ 5 หรือที่ระดับความเชื่อมั่น 95%  โดยใช้กฎของ Taro Yamane คำนวณการสุ่มตัวอย่างประชากร ได้ตัวอย่างที่จะทำการศึกษา 400 คน
                                                 
  เมื่อ    n    =    ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง   
             N    =    ขนาดของกลุ่มประชากรทั้งหมดจำนวน 2,350,482 คน
           e    =    ความคลาดเคลื่อนจากการสุ่มตัวอย่างที่ระดับ 0.05
แทนค่า
      n     =                2,350,482
                                            1 + (2,350,482)(0.05) 2
         =   399.93 หรือ ประมาณ 400 คน





ยาว ไม่เว้นบรรทัด  ขี้เกียจอ่าน  จบ

ตกลงมันเรื่องอิหยั๋งกันหรือ


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: ITc@t ที่ 20 เมษายน 2009, 03:03:55
ขอโทษด้วยครับ

ที่ผมต้องระมัดระวัง เพราะมีแบบสอบถามทำนองนี้บน internet แล้วเข้ามาเพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ internet เช่น email และข้อมูลอื่นๆ เยอะมากครับ บางทีฝัง cookies ลงในเครื่องคนตอบแบบสอบถาม คือ ถ้าเป็น independent study (IS) จริงๆ ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ยินดีให้ความสะดวกเต็มที่ เพราะผมก็เป็นคนที่อยู่ในแวดวงการศึกษา  ที่ผมต้องขอ proposal ก็เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นงานวิจัยจริงเท่านั้น (จริงๆ ส่งมาที่ mail ผมไม่ต้อง post ก็ได้ครับ)


หัวข้อ: Re: ขอชี้แจง
เริ่มหัวข้อโดย: Add View ที่ 20 เมษายน 2009, 06:38:12
 :'( :'( :'(........................... :-* :-* :-*