หัวข้อ: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 18 กันยายน 2009, 14:35:00 ถ้าไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ อ่านแค่ตัวหนาก็พอจะจับใจความเนื้อหาในแต่ละข้อได้ครับ
:-\ คนรวย VS คนชั้นกลาง ความแตกต่างข้อแรกก็คือ เศรษฐีนั้นคิดยาวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจน พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน นั่นคือคิดถึงวันเงินเดือนออก แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจนนั้น เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่วนคนรวยนั้น เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาวซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็นเวลานาน และนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ ?ซุบซิบนินทา? เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น ข้อสาม คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนรวยนั้นคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้นมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้ เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวยมีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลางที่มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้ ข้อสี่ คนรวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง นี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็นของผม คนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ นั้นจะมีน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราสารการเงินที่มีความผันผวนของราคาโดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้วมันอาจจะมีความคุ้มค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมาก ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง ?บ้าบิ่น? เช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย คนรวยนั้นจะต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ข้อห้า คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ ผมคิดว่าเป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆ เพราะในความรู้สึกของผมเอง การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐานที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้ และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นยาวมากเป็นหลายสิบปี ดังนั้น ความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน โดยนัยของข้อนี้ คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่คนชั้นกลางนั้น พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียนก็คือ ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำไปสู่ความร่ำรวยได้ ข้อหก คนรวยทำงานเพื่อหากำไร คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง คนรวยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยง ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ยงและอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้ ข้อเจ็ด คนรวยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อยบอกหรือรู้กันยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ อย่างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต ข้อแปด คนรวยมีแหล่งรายได้หลากหลาย คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง ข้อนี้ก็เช่นกัน ผมเองไม่แน่ใจว่าคนรวยมีรายได้จากหลายแหล่งเพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนในทรัพย์สินหลาย ๆ อย่าง หรือมีทรัพย์สินหลายอย่างจึงทำให้รวย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ คนชั้นกลางนั้น มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็นหลัก ข้อเก้า คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่าตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนโดยมองที่ภาพรวม ดังนั้น ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่ต้องเสียภาษี แต่คนชั้นกลางพยายามทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขาจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย สรุปก็คือ คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง สุดท้าย ข้อสิบ คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวกและสร้างกำลังใจ เช่น ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่างไร? ในขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบและเสียกำลังใจเช่น จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าบัตรเครดิตเดือนนี้ได้อย่างไร ? เขียนโดย : Keith Cameron Smith แปลโดย : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 18 กันยายน 2009, 14:40:10 ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ ?ซุบซิบนินทา? เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น (http://img295.imageshack.us/img295/8177/bunny003hi5.gif) หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: Ton_Dezember ที่ 18 กันยายน 2009, 15:02:15 โอ้ย ถ้าไม่มีอะไรทำแล้วจะมาอ่านนะตาแก่ ;) ;) ;) ;) ;)
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: pat_meaw ที่ 18 กันยายน 2009, 15:05:03 เน้นไม่เป็นหนี้ มีความสุขกับชีวิต ก็พอแล้ว
คนรวยใช่ว่าจะมีความสุขนะ หมุนเงินกันเข้าไป หาเข้าทางโน้น ยักออกทางนี้ สุดท้ายก็ ชีวิตใคร ชีวิตมัน บริหารตามสภาพของตัวเอง อย่าเงยสูงมากมันเมื่อย อย่ามองต่ำมากเดี๋ยวขี้เกียจ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 18 กันยายน 2009, 15:18:33 โอ้ย ถ้าไม่มีอะไรทำแล้วจะมาอ่านนะตาแก่ ;) ;) ;) ;) ;) ตาหนุ่มแสดงว่าตาแต่งงานตั้งแต่ตาอายุยังไม่ถึง20 พอแต่งปุ๊บ เมียของตาก็มีลูกสาว ยังไม่ทันอึ๋ม ลูกสาวของตาก็หนีไปแต่งผัว ยังไม่ทันไรอีก ลูกสาวก็คลอดหลานมาให้ตาที่ยังเป็นหนุ่มเลี๊ยง โถ ชีวิตของตา ! หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 18 กันยายน 2009, 15:58:49 ไม่หล่อแต่จน ก็ต้องทนๆกันไป
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: อี๊ดซ่าส์ ที่ 18 กันยายน 2009, 16:01:39 ไม่หล่อแต่จน ก็ต้องทนๆกันไป ถึงไม่หล่อแล้วพี่ก็จน แต่นู๋ก็ร๊ากกกกกกกกกกกกกนะ / น้องส้มเช้ง หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 18 กันยายน 2009, 16:06:26 ไม่หล่อแต่จน ก็ต้องทนๆกันไป สีจะทนพี่แจ๊ค 3.7 ได้กี่น้ำ / สีทนได้ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: Ton_Dezember ที่ 18 กันยายน 2009, 16:31:12 สีจะทนพี่แจ๊ค 3.7 ได้กี่น้ำ / สีทนได้ ยังไม่ทันถอดกางเกงในเลยนะนั้น หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: PowwanaNK ที่ 18 กันยายน 2009, 16:41:09 ขอเป็นคนธรรมดาคนนึงของประชากรโลก.. แค่นี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ ไม่รวยไม่จนแต่มีกิน! :D
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างของคนรวย VS คนชั้นกลาง (' ' )( ' ' )( ' ') ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เริ่มหัวข้อโดย: s_kungten ที่ 19 กันยายน 2009, 11:16:06 :-X :-X
|