:::CIVIC CLUB THAILAND:::

เป็นเรื่องปกติอีกประการ สำหรับผมกับครอบครัวข้างบ้าน ที่ส่วนใหญ่เขาจะได้หยุดแค่ปีใหม่ แต่ผมไปมันได้ทุกเดือน

พอเขาจะไปเที่ยวกัน ทุกปีใหม่ เขาจึงชวนผมไปด้วย ทุกปี

ตีหนึ่งของวันที่ 1 มกราคม 52 ผมพร้อมกับครอบครัวข้างบ้านอีก 3 คนพ่อแม่ลูก (อ๊อด,อ๋อยและดิจิต) ออกจากรังสิตด้วย

Izusu รวดเดียวถึงเชียงใหม่ แวะเข้าไปแช่น้ำร้อนที่สันกำแพง คนมากน่าดู

ตอนแรกว่าจะไปน้ำพุร้อนสันกำแพง ปรากฏคนมากจนไม่มีที่จอดรถ ต้องเข้ามาที่รุ่งอรุณน้ำพุร้อนแทน เขาเก็บค่าเข้าคนละ 30 บาท

กว่าจะออกจากสันกำแพงก็บ่ายสองกว่า ตอนแรกว่าจะนอนในตัวเมือง แต่อ๊อดบอกว่าขับไหว ไม่อยากนอนในเมือง

เลยขับไปจนถึงดอยอ่างขางเกือบทุ่ม เข้าไปกางเต๊นท์นอนที่ บ้านหลวงรีสอร์ท  เราคำนวณแล้วว่าเย็นค่ำแล้ว

ลานกางเต๊นท์อื่นคงเต็มหมดแล้ว ฟ้าเริ่มมืดแล้วรีบผมกับอ๊อดกางเต๊นท์  อ๋อยทำอาหารเย็น  ดิจิต ช่วยบ้าง

รีสอร์ทเขาคิดค่าที่กาง 300 บาท แต่คนอื่นคิด 500 เพราะเป็นลูกค้าเก่า มีห้องน้ำและน้ำอุ่นให้บริการ

ตื่นเช้ามา เริ่มมีเมฆ เหมือนฝนจะตก ล้างหน้าล้างตา เก็บเต๊นท์ ขึ้นไปจุดชมวิวที่บ้านขอบด้ง

ดอกบ๊วยขาว และนางพญาเสือโคร่งระหว่างทาง  เราขับรถผ่านจุดกางเต๊นท์ตรงทางลงไปสวน 80 ปี ทั้งรถทั้งคน+เต๊นท์แน่นยิ่งกว่าตลาดนัด

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่จุดชมวิวขอบด้ง ฟ้าก็ไม่เปิดเหมือนเดิม ลมแรงพอสมควร หนาวได้ใจเลยละ

ตกลงอาหารเช้าได้แก่โจ๊กเห็ดหอมและซาลาเปายูนนาน จากร้านอาหารบนจุดชมวิวนี่แหละ

อาหารเช้าเรียบร้อย ขับรถต่อขึ้นไปบนฐานปฏิบัติการบ้านนอแล เลยรั้วลวดหนามออกไปก็เป็นเขตพม่า

บนนี้เป็นยอดดอยสูงกว่าจุดชมวิวขอบด้ง ลมก็แรงกว่า อากาศเย็นมาก แต่ก็ยังมีคนมากางเต๊นท์นอน

สายหน่อย ก็ขับรถลงทาง อ.ไชยปราการ เส้นทางค่อนข้างชัน เมื่อวานขาขึ้นมาทางเวียงแหง ไม่ชันเท่าไหร่ แต่ระยะทางไกลกว่า

ถึง อ.ฝาง แวะห้างโลตัสฝาง จัดการอาหารกลางวัน และซื้อเสบียงเพิ่มเติม

จากตัวอำเภอฝาง เราต้องวิ่งรถเข้าไปที่บ่อน้ำพุร้อนฝาง ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกก่อน

อาบน้ำร้อน แล้วไปจองที่กางเต๊นท์บนดอยผ้าห่มปก ณ.ที่ทำการอุทยาน ปรากฏว่าเต็ม แต่มีเต๊นท์ที่กางแล้วให้เช่า

เจ๋งมั๊ยครับ (กรมอุทยานฯ)

เราจึงต้องเช่าเต๊นท์ของอุทยาน เป็นเต๊นท์ 8 คน 600 บาท(มันเหลือขนาดเดียว)  แต่เรานอนแค่ 4 คน สบายไป

ขับรถออกจากบ่อน้ำพุร้อนฝางออกมาที่ถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายไปทางแม่อายประมาณ 8 กม.จะมีทางแยกขึ้นดอยผ้าห่มปกอีก 23 กม.

ทางลูกรังเกือบตลอด แคบและชันพอสมควร

ทางชันบางช่วงที่มีรถสวนลงมา พอเบรคก็ไม่มีแรงส่ง ผมต้องกระโดดลงจากรถเอาไม้หมอนที่เตรียมมาหนุนรองที่ล้อหลัง

อ๊อดก็เข้าเกียร์ 1 เร่งขึ้นไปใหม่ ถึงจุดพักครึ่งทางเป็นลานพอจอดรถได้ ก็พักรถได้เห็นวิวแบบนี้แหละ

ในที่สุดก็มาถึง camp ground ความสูงระดับ 1,924 เมตรจากน้ำทะเล แต่ยังไม่ถึงยอดดอยผ้าห่มปก ต้องเดินขึ้นไปอีก 3 กม.

ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เต๊นท์ที่เช่าไว้ถูกกางไว้เรียบร้อย เราต้องไปเช่าเตาถ่าน ถ่านไม้ 1 ถุง และถุงนอนเพิ่ม

เนื่องจากถุงนอนที่ผมเตรียมมา รับได้ต่ำสุดแค่ 15 องศา แต่คาดว่าวันนี้ต่ำกว่า 10 องศาแน่ (ค่าเช่าอย่างละ 30 บาท)

ในภาพเป็นโซนสำหรับกางเต๊นท์ที่เอามาเอง อยู่ต่ำถัดลงมา ไม่ทันหกโมงเย็น หมอกเริ่มปกคลุมทั้งดอย

อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วเหลือประมาณ 9 องศา เราไม่อาบน้ำกันอีก อาหารเย็นจากฝีมือของอ๋อย อร่อยมากที่สุดในละแวกนี้

อ้อ..บนนี้มีร้านค้าของอุทยานขายของกินใช้ที่จำเป็นอยู่ 1 ร้าน เช่นปลากระป๋อง มาม่า เทียนไข เป็นต้น

เมื่อคืนอากาศเย็นมาก ๆ น้ำค้างลงหนัก ฟลายชีทเปียกโชกเลย ผมตื่นตั้งแต่ตี 3 เพราะคนนำทางมาปลุกเต๊นท์ข้าง ๆ

เพื่อจะเดินขึ้นยอดดอย แต่ผมรู้สังขารตัวเองดี จึงไม่ไป (ต้องจ่ายค่าคนนำทาง)  ผมจึงนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ต่อ

พอฟ้าเริ่มสางก็มาตั้งกล้องรอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น แต่วันนี้ฟ้าไม่เป็นใจอย่างที่เห็น

ซูมเข้าไปใกล้ ๆ แสงสีดูแปลกตาดี

หันกลับมาทางตะวันตก ฟ้ากลับเปิด จึงย้ายกล้องมาถ่ายด้านนี้แทน

เหมือนเราอยู่สูงกว่ายอดดอยอื่น ๆ

ก็คงจะจริง เพราะดอยผ้าห่มปก สูงเป็นอันดับสองของประเทศไทย รองจากดอยอินทนนท์

อาหารเช้าจากแม่ครัวอ๋อย บรรจุลงกระเพาะเรียบร้อย เก็บของขึ้นรถอำลาดอยผ้าห่มปก

 ขาลงพอมีเวลาจับกล้องถ่ายสภาพผิวทาง  เพราะตอนขาขึ้นต้องลุ้นเกือบตลอดทาง ไม่มีเวลาถ่าย

แล้วก็มาถึงจุดพักรถครึ่งทาง วันนี้ฟ้าเปิดมากกว่าเมื่อวาน ถึงพื้นล่างแวะเติมเสบียงที่โลตัสฝางอีกครั้ง แล้วใช้ทาง ฝาง - เวียงป่าเป้า

ตัดทะลุออกไปแม่สรวย เชียงราย ออกจาฝางมาไม่เท่าไรมีด่านตรวจยาเสพติด  ผ่านเข้าเขตเวียงป่าเป้ามีแต่ภูเขาหัวโล้นสุดสายตา

ผ่านแม่สรวย เลี้ยวซ้ายทางขึ้นดอยวาวี แต่คราวนี้เราจะไปดอยช้าง เพราะคราวที่แล้วรถขึ้นไม่ได้ ผ่านเขื่อนแม่สรวยไป ถึงบ้านห้วยไคร้

ทางแยกขึ้นดอยช้าง

เลี้ยวขวาขึ้นดอยช้าง ทางเป็นคอนกรีตตลอดสายแล้ว แต่ทั้งแคบและชัน รถเก๋งหมดสิทธิ์

แวะถ่ายรูประหว่างทาง มองสูงขึ้นไปบนดอย จะเห็นเนินดอยรูปร่างเหมือนหัวช้างหันหลังให้

ถึงบ้านดอยช้าง เราขับผ่านหมู่บ้านไป อีก 3 กม. ถึงสถานีเกษตรพื้นที่สูงวาวี (ดอยช้าง) เขาเพิ่งจัดงานชิมชาไปเมื่อวันปีใหม่

เราเลือกเอาสนามหญ้าตรงนี้กางเต๊นท์นอน

กางเต๊นท์จองที่ไว้ก่อน แล้วค่อยขับรถขึ้นไปยังพุทธอุทยาน น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้เคยนำไปใช้ในงานพระราชพิธีที่กรุงเทพ

เป็นบ่อเล็ก ๆ ข้างบึงน้ำในรูป บรรยากาศโดยรวมมีป่าไผ่ และบึงน้ำเสียงกบภูเขาร้องเป็นจังหวะ

ทางเดินโรยกรวดทอดเข้าสู่อาศรมที่มีพระภิกษุจำวัดอยู่เพียง 2 รูป สถานที่อันแสนสงบ

ต่อจากพุทธอุทยาน ขับรถสูงขึ้นไปอีก มีทุ่งดอกไม้ข้างทาง สามารถมองเห็นวิวด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของดอยช้างได้ไกลสุดตา

ตรงระเบียงจุดชมวิว มองเห็นหมู่บ้านดอยช้างเบื้องล่าง เป็นหมู่บ้านลีซอ กระเหรี่ยงและชนเผ่าอื่นปนอยู่ ชุมชนค่อนข้างใหญ่

จุดสูงสุดของจุดชมวิวด้านใต้ สวยงามสุด ๆ แต่ถนนแคบมากวิ่งได้คันเดียว มีช่วงหนึ่งที่รถสวนลงมา

เราใช้เวลาในการหลีกกันเกือบครึ่งชั่วโมง ผิวทางหรือครับ ลูกรัง+หินลอย ตลอด

วนกลับลงมาที่สถานีเกษตร ก่อนถึงมองเห็นป่านางพญาเสือโคร่ง หรือชมพูภูพิงค์ เบื้องล่าง

เย็นแล้ว อ๋อยเริ่มประกอบอาหาร เราอาศัยห้องน้ำของอาคารเอนกประสงค์ของสถานี มีกาแฟดอยช้างชงให้ชิมฟรีด้วย

ส่วนน้ำตาลและครีมแล้วแต่จะบริจาค กาแฟหอมอร่อยมาก สมชื่อ"กาแฟดอยช้าง"  อากาศหนาวไม่แพ้ดอยผ้าห่มปก

เช้านี้ตื่นตั้งแต่ฟ้าสาง จะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ที่จุดชมวิวด้านเหนือ ปรากฏว่าทั้งหนาวและน้ำค้างแรงมาก ใบปัดน้ำฝนของรถไม่ค่อยดี

เราปัดแล้วก็ยังเป็นฝ้า เช็ดกระจกแก้อย่างไรก็ไม่หาย เพื่อความปลอดภัยจึงงดไม่ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

8 โมงหลังอาหารเช้า ก็เก็บเต๊นท์ อำลาดอยช้าง

วิว ขาลงประกอบกับแสงอ่อน ๆ ของแดดยามเช้าให้อารมณ์อีกแบบหนึ่ง ข้างล่างมีทะเลหมอกหนาทึบ ก่อนถึงบ้านห้วยไคร้ ต้องผ่านทะเลหมอกลงไป

ถึงจุดชมวิวเหืออ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่สรวย เราแวะเก็บภาพยามเช้า อีกรอบหลังจากได้แต่ภาพยามบ่ายมา หมอกไหลคลุมยอดเขาเป็นระยะ

ลงจากดอย ผ่าน อ.แม่สรวย หมอกหนามากมองแทบไม่เห็นทางเลย พอรถวิ่งถึงตลาดใหม่เวียงป่าเป้า ฟ้าใสแจ๋วเลย

ผมไม่แน่ใจว่า น้ำพุร้อนตรงนี้เรียกว่า แม่ขะจานหรือเปล่า แวะดูน้ำพุร้อน มีหลายบ่อมากทั้งสองฝั่งถนน

จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่เชียงใหม่

ผ่านทุ่งเกวียน ลำปาง แวะซื้อของฝากนิดหน่อย แล้วตีรถรวดเดียวถึงกรุงเทพเลย

คุยกับอ๊อดไว้ว่าปีใหม่นี้จะไปน่านกัน......หวัดดีครับ

สุด สุด ไปเลยครับ ลุงที  ภาพและคำบรรยายเหมือนได้ไปเที่ยวเองเลย  อยากไปบ้างแต่ไม่มี 4X4  อดเลย  :-[

 :-* :-* :-* :-*

ใจคอป้ากุ้งจะไม่ เม้นท์ อะไรบ้างเลยหรือครับ    :-* :-* :-* :-* :-* :-*

วิวสวยดีครับ ดูแล้วได้บรรยากาศอยากไปสัมผัสบ้างจัง เที่ยวให้สนุกทุกทริป เอารูปมาให้ชมบ่อยๆ และดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับคุณลุงที

สุดยอดคับ อยากเที่ยวแบบนี้บ้างจัง :)