:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: kapum ที่ 13 เมษายน 2007, 23:55:45



หัวข้อ: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kapum ที่ 13 เมษายน 2007, 23:55:45
พ่อลูกยืนสนทนา ในเรื่องเซ็กซ์

ลูก - พ่อเวลามีเซ็กซ์ แล้วรู้สึกยังไง

พ่อ -เหมือนกับการ เอานิ้วไปแคะขี้มูกในจมูกแหละ

ลูก - ทำไม ผู้หญิงถึงร้องครวญคราง เหมือนมีความรู้สึกดีกว่าผู้ชายครับ

พ่อ - อ้าว.. แล้วเวลาเอ็งแคะขี้มูก เอ็งรู้สึกว่า นิ้วของเอ็งดีขึ้น หรือว่ารูจมูกของเอ็งดีขึ้น...

ลูก - ในเมื่อผู้หญิงรู้สึกดีขึ้น แล้วทำไมผู้หญิงถึงเกลียดการข่มขืนล่ะ

พ่อ - มันไม่เหมือนกันแล้วถ้าเอ็งเดินอยูบน ถนนแล้วมีคนวิ่งมาเอานิ้วมาทิ่มจมูกเอ็งนะ เอ็งจะชกเขามั้ย

ลูก -แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบมีเซ็กซ์ในระหว่างมีประจำเดือน

พ่อ - แล้วถ้าจมูกของเอ็งเลือดไหลอยู่ เอ็งจะแคะขี้มูกมั้ย..

ลูก - ทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเซ็กซ์

พ่อ - แล้วถ้าพ่อบังคับเอ็งใส่ถุงมือแคะขี้มูกเอ็งจะรู้สึกยังไง

ลูก - มีอีกคำถามครับพ่อ ผู้หญิงทำไมชอบบรรยากาศเงียบ ๆขณะที่เธอมีเซ็กซ์

พ่อ - อ้าว..แล้วพ่อใช้ให้เอ็งแคะขี้มูก หน้าชั้นเรียนเอ็งจะทำได้มั้ย.. โธ่ลูกพ่อเอ๊ย......

ลูก - "พ่อครับ พ่อเก่งจังเลย"



_____________________________________________________

น้องนกเป็นเด็กน่ารัก มีอยู่วันนึงขณะที่นั่งทำการบ้าน ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น น้องนกก็รีบไปเปิดประตู เห็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู ขณะที่ยืนสงสัยอยู่นั้น แม่ก็เดินออกมาจากครัว ยิ้มให้ชายคนนั้นแล้วพูดว่า
“มาแล้วเหรอ”จากนั้นหันมาพูดกับน้องนกว่า “เรียกพ่อสิ”
น้องนกยืนอึ้ง และถามตัวเองว่า ชายคนนี้ เป็นใคร? ทำไมแม่บอกให้เรียกพ่อ? หรือว่า........................
แม่เห็นน้องนกยืนนิ่ง ก็บอกซํ้าว่า “เรียกพ่อสิ” น้องนกก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม
จนแม่ต้องเอ็ดซํ้า “เรียกพ่อ เร็วสิ”เมื่อเห็นน้องนกยังนิ่งเฉย
คราวนี้ แม่ฟาดฝ่ามือเปรี้ยงไปที่กลางหลังพร้อมกับเอ็ดว่า “ใบ้กินรึไง? เรียกพ่อสิ”
น้องนกยืนนํ้าตาไหล นึกไม่ถึงว่าจะถูก แม่ตีเพราะคนแปลกหน้า พร้อมกับพูดอย่างไม่เต็มเสียงว่า “ พะ พะ พ่อ”จาก นั้น.............................................. แม่ก็ส่ายหัวพร้อมกับเอ็ดน้องนกด้วยความโมโหว่า “พ่อแกอยู่ในห้องเรียกยังงี้จะได้ยินได้ไง รีบไป เรียกพ่อเร็วเข้า ช่างเค้าจะไปซ่อมแอร์ที่อื่นอีก”


_______________________________________________________________

    
เศรษฐีเฒ่าเพิ่งจะมีเมียเมื่ออายุมากแล้ว ต่อมาเมียก็ได้ให้กำเนิดลูกชายให้หนึ่งคน แต่ด้วยความที่อายุห่างกันมากจึงทำให้เข้ากันไม่ได้ เมียสาวขอหย่าพร้อมกับแบ่งสมบัติซึ่งตาเฒ่าก็ตกลงด้วยดี แต่เหลืออย่างเดียวที่แบ่งกันไม่ได้คือ ลูก ที่ตาเฒ่ารักนักหนา เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็เลยต้องไปพึ่งศาล ท่านผู้พิพากษาถามถึงเหตุผลและความสามารถ ว่าใครจะเลี้ยงลูกได้ดีแค่ไหน ฝ่ายหญิงลุกขึ้นตอบสไตล์สาวมั่นว่า ดิฉันเป็นผู้ทนอุ้มท้องและเป็นผู้ให้กำเนิด ดังนั้นดิฉันควรได้รับสิทธิ์เลี้ยงบุตร ผู้พิพากษา : ฝ่ายชายมีคำอะไรจะแก้ฝ่ายหญิงไหม ฝ่ายชาย : ท่านครับถ้าท่านหยอดเหรียญลงไปในเครื่องขายน้ำอัตโนมัติ โค้กที่หล่นลงมาควรเป็นของท่านหรือของเครื่องขายนั้นครับ ผู้พิพากษา : ?????

___________________________________________________________________

    
ตามตำราโหงวเฮ้งโบราณอายุพันปี เรามาพิจารณานิสัยใจคอของคนจากการผายลมได้ดังน
ี้ คนใจเย็น...คนที่กลั้นผายลมจนถึงจุดระเบิด
คนไม่จริงใจ...คนที่ผายลมแล้วหันไปจ้องหน้าเด็กคนข้าง ๆ
คนงก...คนที่ชอบยืนดมกลิ่นผายลมของตัวเอง
 คนขี้โอ่...คนที่ผายลมเสียงดังสนั่นแล้วยืนหัวเราะชอบใจ
คนโชคร้าย...คนที่พยายามผายลมขณะเอามือตบโต๊ะไปด้วย แต่พลาดจังหวะ
นักวิทยาศาสตร์...คนที่สามารถวิเคราะห์ได้หลังจากสูดกลิ่นผายลมเข้าไปว่า อาหารก่อนหน้านั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์
ซาดิสต์...คนที่ผายลมในผ้าห่มแล้วกดหัวคู่นอนให้เข้าไปดม
คนเจ้าเล่ห์...คนที่ผายลมพร้อมกับไอกระแอมเบาๆ
คนสุภาพ...คนที่กล่าวขอโทษก่อนและหลังการผายลมแม้จะอยู่เพียงคนเดียว
ผู้ดี...คนที่กลั้นผายลมไว้หลายชั่วโมงจนท้องอืด เพื่อเก็บไว้กลับไปผายลมที่บ้าน
คนมั่นคง...คนที่ผายลมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และยาวนาน
คนอำมหิต...คนที่ผายลมไร้เสียง แต่กลิ่นเหม็นร้ายกาจ
คนดีแต่พูด...คนที่ผายลมดังปัง แต่ไร้กลิ่น
คนหลายใจ...คนที่ผายลม ปัสสาวะ และอุจจาระในเวลาเดียวกัน
แพทย์...คนที่ล้างมือก่อยผายลม
คนใจบุญ...คนที่ยืนผายลมเหนือลม ให้ทุกคนรับอานิสงค์โดยทั่วกัน
;D ;D

______________________________________________________________

The eye.....คนเห็นผี เป็นที่ลือกันทั่วไปในหมู่ของคนขับรถ แท็กซี่ว่า บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสิน ค้าเดอะมอลล์(งามวงศ์วาน) ตอนกลางดึก หลังห้างปิด) แล้วเนี่ย ผีดุเป็นบ้า ลือกันเป็นตุเป็นตะว่า เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาว เรียกจากหน้าห้างฯ ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฏิ ถ.รัตนาธิเบศร์) พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้าวัดปรากฏว่าผู้โดยสารผู้หญิงผมยาวคนนั้นก็หายตัวไป เป็นที่เลื่องลือกันว่าผีที่หน้าห้างเดอะ มอลล์ งามวงศ์วาน)นี้คือหญิงสาวที่เคยใช้ ที่จอดรถของห้างฯ เป็นที่ฆ่าตัวตาย จนปัจจุบันนี้ห้างฯ ได้ทำลวดตาข่ายมาอ๊อกปิดไว้หมด ทุกด้านเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมา ใช้เป็นสุสานอีก แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ เรื่องข่าวลือนี้นายกล้าโชเฟอร์แท็กซี่ (มือใหม่) ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็ได้ ยินมาเหมือนกัน แต่ความที่แกเป็นคนกล้าสมชื่อ แกจึง ไม่เชื่อ แล้วแกยังคงวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วานและใกล้เคียงเป็นประจำ เพราะรายได้ดีเนื่องจากแถวนี้ตอน ดึก ๆ ไม่ค่อยมีแท็กซี่กล้าขับผ่านมา เรื่องของเรื่องคือมีอยู่ว่า.....วันหนึ่ง ดึกมากแล้ว นายกล้าขับรถผ่านหน้าห้างเดอะ มอลล์ (งามวงษ์วาน) ก็ปรากฏว่ามีผู้หญิงสาวสวยไว้ผม ยาวสยาย ยืนโบกรถอยู่หน้าห้างฯ ฉับพลันที่เห็น นายกล้าก็นึกไปถึง เรื่องที่เพื่อน ๆ ชาวแท็กซี่โจษขานถึงเรื่องผีดุกันขึ้น มาทันที แต่ความที่แกเป็นคนกล้าประกอบกับ ผู้หญิงคนนั้นก็ดูว่าเป็นคนชัดๆ แกจึงจอดรถเข้าไปรับ พอหญิงสาว เปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกก็ปะทะจมูกของ นายกล้าทันที โชเฟอร์ ไปแถววัดธาตุทองนะ จะ ไปมั้ย?" หญิงสาวถาม "ไปครับผม" นายกล้าตอบ ในใจคิด ว่า ไม่ใช่วัดสมรโกฏิแบบที่ลือกันนี่หว่า หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลังพร้อม กับบอกนายกล้าว่า ไปทางด่วนนะ" นายกล้ากดมิเตอร์แล้วออกรถขับตรง ไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน กลางดึกเช่นนั้นทางด่วนเงียบสนิท นาน ๆ ถึงจะมีรถขับมาสักคัน กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยังเตะจมูก อยู่ บรรยากาศเงียบเชียบชวนอึดอัด ถึงนายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตามแต่แกก็อดชำเลืองมองกระจกส่องหลังไม่ได้ เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แกก็เลยชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศ อันอึดอัดนี้"รอรถนานมั้ยครับ" นายกล้าถาม หญิงสาว "นานสิ แท็กซี่หายไปไหนหมดไม่รู้" หญิงสาวพูดเรื่อย ๆ "ก็มีข่าวลือเรื่อง...เอ้อ....เรื่องผีแถวนี้ ดุสิครับ เลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถว นี้" นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่า ทีหญิงสาว หญิงสาวหันขวับมามองนายกล้า ทันที "มิน่าล่ะ เมื่อกี้ฉันเรียกตั้งหลายคันไม่ มีใครจอดเลย แล้วนายไม่กลัวเหรอ?" หญิงสาว ถาม นายกล้ากลืนน้ำลาย "เอ้อ...ไม่กลัว ครับ" ก็ดี" หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไป มองที่หน้าต่างนายกล้าขับรถต่อไปเรื่อย ๆ บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้ง เงียบจนนายกล้าได้ยินเสียงลมหายใจ ของตัวเองเพียงคนเดียว! นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่อง หลังเมื่อนึกขึ้นได้ ทันใดนั้น! หัวใจของแกแทบจะหยุด เต้น เมื่อเห็นภาพในกระจกเบาะหลังว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่ง คุยมาด้วยกันเมื่อกี้นี้เลย! 'ship หายแล้ว ku เนี่ยเขาว่าไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ โดนดีเข้าแล้วมั้ยล่ะ' นายกล้าคิดขณะที่กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ของผู้หญิงสาวยังคงคลุ้งอยู่ในรถ มือ ที่กำพวงมาลัยสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่แอร์ในรถเย็น เฉียบ ขาของนายกล้าที่เหยียบคันเร่งชาจน แทบจะไม่รู้สึกแล้ว บทสวดมนต์กี่บท ๆที่นึกได้ นายกล้า ท่องจนหมด ทว่า กลิ่นน้ำหอมก็ไม่หายไปไหน ยัง ลอยอบอวลคลุ้งอยู่ในรถ แถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำไป มนต์บทแล้วบทเล่าที่นายกล้าท่อง ไม่ ได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย นายกล้าแหงนขึ้นมองกระจกอีกครั้ง เบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่ มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่านั้นที่บอกให้รู้ ว่า "เธอ" ยังไม่ไปไหน นายกล้าเหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต ในใจก็อาราธนาพระดัง ๆ ทั่วเมือง ไทยให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา ใจอยากบึ่งไปให้ถึงวัดธาตุทองเร็วๆ เผื่อว่ากลิ่นน้ำหอมจะหายไป เพราะ "เธอ"คงต้องการไปลงที่นั่น จริง ๆ 'โอ๊ย มาไกลเหลือเกินนะแม่คุณ' นายกล้าคิดในใจ ขณะที่ยังคงเหยียบคันเร่งมิด นายกล้ามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมาติด ไฟแดงตรงเชิงทางด่วน นายกล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ 3 ครั้ง ก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไป มองกระจกส่องหลัง และแล้วนายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุด เต้นอีกครั้ง มือเท้าเย็นวาบแทบจะหมดแรง ขนลุกซู่ทั้งตัว เหมือนใครเอาน้ำแข็ง มาโปะต้นคอ ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อกก็คือ หญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะ เหลังอีกครั้ง แต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป! ใบหน้าของเธอมีเลือดไหลออกทาง จมูก และปาก นายกล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้า อีกครั้ง 'เป็นไงเป็นกันวะ ไหน ๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะถามให้รู้เรื่องกันไปว่า "เธอ" ต้องการอะไรกันแน่' พอคิดได้ดังนั้นนายกล้าก็หันกลับไป เผชิญหน้ากับ "เธอ"ผู้นั้น ก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า "คุณ เป็นอะไรตาย?" ตายพี่อา ตายพี่น้าเอ็งสิ" เสียงหญิงสาว คนนั้นตอบดังลั่นรถ ไอ้เวร!ฉันก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว ล่อ เหยียบซะหน้าตาฉันแหกหมด แล้วยังเสือกมาถามอีกว่าเป็นอะไร ตาย".........

 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D :D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nenemon ที่ 13 เมษายน 2007, 23:58:36
กรั๊ก ๆ ๆ ชอบทุกเรื่องเลย 
คืนนี้ไม่มีอะไรทำ เลยนั่งเฝ้าบอร์ดครับ อิอิ
   ;D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: es-love ที่ 14 เมษายน 2007, 00:19:02
 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhan ที่ 14 เมษายน 2007, 00:48:50
;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kapum ที่ 14 เมษายน 2007, 01:26:31
กรั๊ก ๆ ๆ ชอบทุกเรื่องเลย 
คืนนี้ไม่มีอะไรทำ เลยนั่งเฝ้าบอร์ดครับ อิอิ
   ;D

วันนี้เงียบมากจริง ๆ กลับกันหมดเลย


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jojo-civic 96 ที่ 14 เมษายน 2007, 05:36:06
ขำดีครับ    ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jojo-civic 96 ที่ 18 เมษายน 2007, 08:00:33
แบ่งคนที่เพิ่งกลับมาดูมั่ง วันหยุดคนที่เฝ้าบอร์ด หนุกกันขนาดไหน กับกระทู้เนี่ย


 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: daido_s ที่ 18 เมษายน 2007, 10:07:49
 ;D ;D ฮาดีครับ   :D


หัวข้อ: Re: ขำ ๆ ตอนดึก ๆ วันสงกานต์ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: civicrx_nfs ที่ 18 เมษายน 2007, 10:18:01
hihihi  ;D