|
หัวข้อ: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: dwd ที่ 08 พฤศจิกายน 2010, 10:24:29 รถผมตอนนี้เพิ่งไปซ่อมไดร์ชาร์จมาเพิ่งจอดได้วันเดียวแบตหมดเกลี้ยงสตาร์ทไม่ติด เอาแบตไปให้ร้านดูเขาบอกว่าแบตมันซ๊อตไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แบตเพิ่งเปลี่ยนมาได้ประมาณเดือนกว่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับระบบไฟหรือป่าว ถ้าให้ช่างเขาเช็คระบบไฟใหม่หมดจะหายมั๊ย รบกวนผู้รู้ตอบหน่ยคับ ขอบคุณมากคับ
หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: beer4353 ที่ 08 พฤศจิกายน 2010, 10:29:13 รถผมตอนนี้เพิ่งไปซ่อมไดร์ชาร์จมาเพิ่งจอดได้วันเดียวแบตหมดเกลี้ยงสตาร์ทไม่ติด เอาแบตไปให้ร้านดูเขาบอกว่าแบตมันซ๊อตไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แบตเพิ่งเปลี่ยนมาได้ประมาณเดือนกว่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับระบบไฟหรือป่าว ถ้าให้ช่างเขาเช็คระบบไฟใหม่หมดจะหายมั๊ย รบกวนผู้รู้ตอบหน่ยคับ ขอบคุณมากคับ ถ้าไดชาจ เพิ่งเสียมา ไฟมักจะหมด แบตเป็นธรรมดาครับ แล้วแบตเตอร์รี่ ถ้าปล่อยให้ไฟหมดหม้อเมื่อไหร่ โอกาสที่จะเสีย มีสูงครับ แต่ก็ไม่ 100% ไปซะทีเดียวหรอกครับ ที่มันจะพัง (ของผม หมดมาสองรอบ ตอนนี้ยังใช้ได้อยู่ ) :-[ ถ้าไดชาจทำงานปกติแล้ว ให้สตาร์ ลองใช้งานดู เมื่อวิ่งไปซักระยะนึง ไฟมันก็จะเริ่มชาจเข้า แบตไปเรื่อยๆ จนเต็มเอง แล้วค่อยมาดูว่า แบตเตอร์รี่ มีอาการเก็บไฟอยู่หรือไม่ ถ้าไม่อยู่ ก็เตรียมตัวเสียเงินได้เลยครับ :-* หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: pheeratl ที่ 09 พฤศจิกายน 2010, 11:27:31 เช็คง่ายๆ ครับ ถ้ามีมิเตอร์วัดแรงดันไฟที่ขั้วแบตฯ หลีงจากสตาร์ทติดแล้ว ถ้าไดร์ชาร์จทำงานปกติ จะมีไฟไปชาร์จแบตฯ ประมาณ 14 โวลท์ แต่ไม่ควรเกิน 15 โวลท์
ถือว่าไดร์ชาร์จปกติ แต่ถ้าต่ำเกินไป โดยอาจจะต่ำกว่า 13.5 โวลท์แสดงว่าไดร์ชาร์จอาจจะมีปัญหา ต้องแก้ไข ส่วนเรื่องชาร์จเข้าแบตฯ ลองวิ่งรถดูครับ หลังจากวิ่งรถแล้ว ลองดับเครื่อง ทิ้งไว้ 1 คืน เช้ามาลองมาวัดไฟดูครับ ควรจะสูงกว่า 12 โวลท์ และขณะบิดกุญแจแต่ยังไม่สตาร์ทแรงดันอาจจะตกเล็กน้อย ถ้าแบตฯเริ่มเสื่อม ขณะสตาร์ท แรงดันจะตกลงอย่างมาก บางครั้งอาจจะเหลือต่ำกว่า 5 โวลท์ แสดงว่าแบตฯ เก็บไฟไม่อยู่แล้วควรเปลี่ยนใหม่ครับ หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: dwd ที่ 10 พฤศจิกายน 2010, 11:26:41 แบตเพิ่งเปลี่ยนมาคับ แล้วไดร์ชาร์จก็เพิ่งซ่อมมา แล้วลองวิ่งดูแล้วด้วย พอจอดข้ามคืนก็สตาร์ทไม่ติดแล้วคับ ช่างบอกว่าน้ำกรดจืดเลยชาร์จทิ้งไว้ 2 วัน เอามาใส่ตอนกลางคืนลองสตาร์ทดูก็ติดแต่มาเมื่อเช้าสตาร์ทไม่ติดเลยคับ
หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 12 พฤศจิกายน 2010, 19:40:04 อาการนี้ ก่อนอื่นอยากให้ทำการตรวจเช็คกระแสไฟของแบ็ตเตอรี่ที่ถูกจ่ายให้กับอุปกรณ์เครื่องยนต์ โดยรวมทั้งหมด กล่าวคือในขณะที่เราดับเครื่องยนต์ ปิดอุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงหรืออื่นๆ จากนั้นให้นำแอมป์มิเตอร์ ต่ออันดับกับขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ คือให้ถอดสายไฟจากขั่วบวกแบ็ตเตอรี่ออก แล้วนำมาต่อที่ขั่วลบของแอมป์มิเตอร์ และที่ขั่วบวกของแอมป์มิเตอร์ต่อเข้ากับขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ แอมป์มิเตอร์ที่ใช้วัดกระแสช่วงนี้ควรจะใช้ประมาณ 10 แอมป์ เพื่อให้อ่านค่าแอมป์ได้ละเอียดกว่า คือเห็นค่ากระแสที่อ่านได้กลางๆสเกล หากทำการวัดแล้วอ่านค่ากระแสไฟได้ตั้งแต่ 2-5 Amp แสดงว่า มีระบบของอุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟ เช่นเครื่องเสียง วิทยุ และอื่นๆ มีกระแสไฟรั่วลงกราวด์ แต่ถ้าหากอ่านได้ไม่เกิน 100 มิลลิแอมป์ ถือว่าระบบกระแสไฟปกติ หากวัดกระแสไฟได้ตั้งแต่ 2-5 Amp ให้ทำการปลดสายไฟที่ไปใช้กับเครื่องเสียงและวิทยุ ออกทีละชุด แล้วคอยดูที่แอมป์มิเตอร์ว่าหลังจากปลดสายไฟที่ไปเลี้ยงชุดเครื่องเสียงหรือวิทยุ แล้วกระแสไฟที่อ่านได้ลดลงมาอยู่ที่ปกติหรือไม่
แต่ก่อนอื่นอยากจะให้ถอดสายไฟที่มาจากตัวไดน์ชาร์จออกก่อนเป็นอันดับแรก เพราะว่าบางครั้งที่ตัวไดน์ชาร์ทจะมีตัว ซิลิคอนไดโอดตัวที่ทำหน้าที่เร็คติไฟร์ชอร์ทลงกราวด์ ทำให้ กระแสไฟจากหม้อแบ็ตเตอรี่ไหลสู่กราวด์ ไม่เกิน 12 ชั่วโมงก็หมด ไม่มีไฟ ลองเช็คตามที่ผมแนะนำก่อนนครับ เพราะสามารถหาจุดเสียได้ทันที่ ว่าเป็นที่แบ็ตเตอรี่หรือ ตัวไดน์ชาร์จครับ ....srithanon หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: 97civic ที่ 15 พฤศจิกายน 2010, 02:49:05 ความรู้ๆๆๆๆๆๆ :) :) :)
หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: phechy ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 21:21:48 รบกวนดูอาการของผมหน่อยครับ ตอนเช้าสตาร์ทติดง่าย จอดมาตั้งแต่สองทุ่ม แต่เลิกงานตอนเย็นสตาร์ทยากครับ สามที ถึงติด
1.ไดสตาร์ทเช็คแปรงถ่านแล้วปกติ 2.เปลี่ยนปั้มติ๊กเป็น 2j bo มาครับ ก่อนเปลี่ยนก็เป็น 3.แบทเพิ่งเปลี่ยนมาครับ ก็ยังไม่หาย 4. ตอนเช้า ก่อนสตาร์ท ลองใช้แอมมิเตอร์ วัดไฟ ได้ ประมาณ 13 .5v (ก็เป็นเวลาติดง่าย) 5.บริเวณ หัวฉีด ไม่มีรอยน้ำมันรั่วครับ เวลาเหยียบก็ไม่สดุดลื่นดี ควันขาว ไม่มี ชักหงุดหงิด และ เริ่ม งง งง หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: pheeratl ที่ 17 ธันวาคม 2010, 12:47:33 รบกวนดูอาการของผมหน่อยครับ ตอนเช้าสตาร์ทติดง่าย จอดมาตั้งแต่สองทุ่ม แต่เลิกงานตอนเย็นสตาร์ทยากครับ สามที ถึงติด 1.ไดสตาร์ทเช็คแปรงถ่านแล้วปกติ 2.เปลี่ยนปั้มติ๊กเป็น 2j bo มาครับ ก่อนเปลี่ยนก็เป็น 3.แบทเพิ่งเปลี่ยนมาครับ ก็ยังไม่หาย 4. ตอนเช้า ก่อนสตาร์ท ลองใช้แอมมิเตอร์ วัดไฟ ได้ ประมาณ 13 .5v (ก็เป็นเวลาติดง่าย) 5.บริเวณ หัวฉีด ไม่มีรอยน้ำมันรั่วครับ เวลาเหยียบก็ไม่สดุดลื่นดี ควันขาว ไม่มี ชักหงุดหงิด และ เริ่ม งง งง รถติดแก๊สหรือเปล่าครับ ถ้าติดเป็นไปได้ว่าหม้อต้มรั่ว ถ้าไม่ติดแก๊ส เช็คหัวเทียน ,สายหัวเทียน, คอยล์จุดระเบิด,กรองเบนซิน หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 17 ธันวาคม 2010, 15:41:46 รถผมตอนนี้เพิ่งไปซ่อมไดร์ชาร์จมาเพิ่งจอดได้วันเดียวแบตหมดเกลี้ยงสตาร์ทไม่ติด เอาแบตไปให้ร้านดูเขาบอกว่าแบตมันซ๊อตไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แบตเพิ่งเปลี่ยนมาได้ประมาณเดือนกว่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับระบบไฟหรือป่าว ถ้าให้ช่างเขาเช็คระบบไฟใหม่หมดจะหายมั๊ย รบกวนผู้รู้ตอบหน่ยคับ ขอบคุณมากคับ 8)เช็คแบบพื้นๆก่อนเลยครับ เอาแบตฯไปชาร์ทไฟให้เต็ม แล้วเอามาใส่ ใส่ขั้ว-ก่อน แล้วค่อยใส่ขั้ว+ทีละชุด(ถ้ามีหลายชุด) สังเกตุดูว่า ชุดไหนมีประกายไฟสปาร์กผิดสังเกตุ(เผลอๆมีเสียง แป๊ะๆ)ก็ เล็งไว้เลย แต่ชุดเครื่องเสียงจะสปาร์กแรงกว่าใครเพื่อน...แต่แค่ครั้งเดียว......ตอนเช็ค สวิทช์ทุกอย่างต้อง off ก่อนด้วยนะครับ... (แบตฯเสื่อมสภาพ ก็ มีส่วน มีแต่โวลท์ จ่ายกระแสไม่ได้) ;) หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: phechy ที่ 17 ธันวาคม 2010, 20:27:34 รถติดแก๊สหรือเปล่าครับ ถ้าติดเป็นไปได้ว่าหม้อต้มรั่ว ถ้าไม่ติดแก๊ส เช็คหัวเทียน ,สายหัวเทียน, คอยล์จุดระเบิด,กรองเบนซิน ไม่ติดครับแก๊ส ทำร้ายรถเกินไป รู้ปัญหาแล้วครับเป็นที่เมนรีเลย์ แก้ไขตามผู้แนะนำหายแล้ว ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: RG ที่ 13 กันยายน 2011, 19:55:27 ปัญหานี้ถ้าแก้ที่เมนรีเลย์จบจริงมัยครับเคียดจริงๆ
หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: phechy ที่ 13 กันยายน 2011, 21:10:26 ปัญหานี้ถ้าแก้ที่เมนรีเลย์จบจริงมัยครับเคียดจริงๆ หายครับ หลังจากแก้แล้ว ใช้มาจนทุกวันนี้ ยังปกติ ข้อสังเกตุอีกอย่าง ถ้ารอบเดินเบาต่ำไปแบบพอแอร์ทำงานแล้วรอบตก(รอบจะต้องขึ้นนิดหนึ่งแล้วลงมา) ก็ทำให้สต๊าทติดอยากครับหัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 14 กันยายน 2011, 14:17:01 ปัญหานี้ถ้าแก้ที่เมนรีเลย์จบจริงมัยครับเคียดจริงๆ ถ้า ทำถูกที่มันก็ต้องจบครับ ต้องใล่ให้ถูกหัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: RG ที่ 26 ตุลาคม 2011, 19:18:48 ลองเปลี่ยนรีเลย์คอมแอร์ครับ
หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: phechy ที่ 26 ตุลาคม 2011, 21:24:01 ลองเปลี่ยนรีเลย์คอมแอร์ครับ มันเกี่ยวกันอย่างรัย อ่ะครับ เพราะเวลาสต๊าทรถส่วนใหญ่จะต้องปิดแอร์ก่อนอะครับ ...งง ::) ::) ::) หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: RG ที่ 29 ตุลาคม 2011, 14:37:49 ขอบรรยายยาวสักหน่อยครับ
เริ่มแรกขับไปมาดับเครื่องเพื่อไปซื้อของมาสตาร์ทไม่ติดอาการเหมือนแบตอ่อนคือรกไม่มีเสียงเงียบสนิดช่างบอกว่าไดร์สตาร์ทshortเปลี่ยนใหม่ไม่หายผมก็ลองหมดทุกอย่างทั้งขยับขั้วที่ไดร์สตาร์ททั้งเคาะเปลี่ยนแบตใหม่มา2ลูกไม่ดีขึ้นเปลี่ยนเมนรีเลย์ไม่หายไปเจอกะทู้หนึ่งให้ลองเปลี่ยนรีเลย์คอมแอร์ดูตอนแรกก็ไม่เชื่อลองเปลี่ยนดูไม่น่าเชื่อตอนนี้จอดรถไว้3วันยังสตาร์ทติดอยู่เขาบอกว่ารีเลย์หน้าสัมผัสshortถึงกันตลาดเวลาเลยทำให้ดึงไฟจากแบตลงกราด์ทำให้ไฟไม่พอตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ผิดถูกอย่างได้ขอเป็นหนึ่งทางเลือกแล้วกันครับ หัวข้อ: Re: รถสตาร์ทไม่ติด เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 29 ตุลาคม 2011, 15:30:57 ขอบรรยายยาวสักหน่อยครับ ตอนเปลี่ยนแบตอ่ะ ตอนเอาแบตใส่ ถ้าไฟรั่ว มันจะมีประกายไฟที่ขั้วแบตเลย อันนี้คนใส่คงลืมดู :-X :-X :-Xเริ่มแรกขับไปมาดับเครื่องเพื่อไปซื้อของมาสตาร์ทไม่ติดอาการเหมือนแบตอ่อนคือรกไม่มีเสียงเงียบสนิดช่างบอกว่าไดร์สตาร์ทshortเปลี่ยนใหม่ไม่หายผมก็ลองหมดทุกอย่างทั้งขยับขั้วที่ไดร์สตาร์ททั้งเคาะเปลี่ยนแบตใหม่มา2ลูกไม่ดีขึ้นเปลี่ยนเมนรีเลย์ไม่หายไปเจอกะทู้หนึ่งให้ลองเปลี่ยนรีเลย์คอมแอร์ดูตอนแรกก็ไม่เชื่อลองเปลี่ยนดูไม่น่าเชื่อตอนนี้จอดรถไว้3วันยังสตาร์ทติดอยู่เขาบอกว่ารีเลย์หน้าสัมผัสshortถึงกันตลาดเวลาเลยทำให้ดึงไฟจากแบตลงกราด์ทำให้ไฟไม่พอตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ผิดถูกอย่างได้ขอเป็นหนึ่งทางเลือกแล้วกันครับ |