ไปหามาให้
เวบไซต์ที่เทียบกันแบบละเอียดๆ ระหว่าง 1.7 vti กับ 2.0 i-vtec ยังไม่เคยเห็นนะครับ
แต่ถ้าคร่าวก็ประมาณนี้นะครับ ลองดูไปพลางๆแก้ขัดไปก่อนละกันนะครับ
เริ่มจากเรื่องหลักคือเรื่องของเครื่องยนต์ก่อนละกันนะครับ
เครื่องยนต์ ของ 2.0 = K20A3 ของ 1.7 = D17A2
ระบบวาล์ว ของ 2.0 = DOHC 16v ของ 1.7 = SOHC 16v
ความจุ ของ 2.0 = 1,998 cc ของ 1.7 = 1,668 cc
ขนาดกระบอกสูบXช่วงชัก ของ 2.0 = 86 x 86 มม. ของ 1.7 = 75 x 94.4 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 1 ของ 2.0 = 9.8 ของ 1.7 = 9.9
แรงม้า(PS) ของ 2.0 = 155@6,500 รตน. ของ 1.7 = 130 ps@6,300 รตน.
แรงบิด(กก.-ม.) ของ 2.0 = 19.5@4,000 รตน. ของ 1.7 = 15.8@4,800 รตน.
Vtec ทำงานที่รอบเครื่องฯ ของ 2.0 = #1@2,500,#2@5,500 ของ 1.7 = 2,800
รอบเครื่องยนต์สูงสุด(ตัดการทำงาน) ของ 2.0 = 6,900 รตน. ของ 1.7 = 6,900 รตน.
ต่อมาเป็นเรื่องฟิลลิ่งเวลาสัมผัสถนน เวลาขับจะมีความรู้สึกแตกต่างกันเล็กน้อย
ระหว่าง 1.7 และ 2.0เนื่องจาก มีความต่างบางประการ เช่น พวงมาลัยพาวเวอร์
ถ้าของ 1.7 เป็นเพาเวอร์ไฮดรอลิก แต่ของ 2.0 นั้น จะเป็นเพาเวอร์ไฟฟ้า
ส่วนค่า K สปริง ของ 2.0 จะแข็งกว่า 1.7 เนื่องจากน้ำหนักตัวมากกว่าเล็กน้อย
แต่ว่าโช้คอัพเป็นตัวเดียวกัน สำหรับยางจะมีขนาดต่างกันเล็กน้อย ตัว 1.7 VTI
ใช้ยาง 185/65-15 แต่ 2.0 จะใช้ยาง 195/60-15 ล้อ Mag จะเป็นคนละลายกัน
โดยตัว 1.7 จะเป็นลายห้ากานแบนๆคล้ายปลาดาว ส่วน 2.0 เป็น 5 ก้านคู่
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาที่ตัว 2.0 มี แต่ตัว 1.7 ไม่มี คือ เหล็กค้ำตัวถังในห้องเครื่อง แต่ไม่ใช่
ค้ำโช้คนะครับ จะค้ำอยู่ระหว่างตัวถังซ้ายขวา แถวๆช่องว่างระหว่างเครื่องยนต์กับ
ผนังห้องโดยสาร ซึ่งตัว 1.7 แม้จะไม่มีติดมาให้ ก็สามารถเบิก part ของ 2.0 ไปใส่ได้ ครับ
จากที่ว่ามาทั้งหมด เวลาขับเทียบกัน แบบรถเดิมๆทั้งคู่ จะทำให้รู้สึกว่า 2.0 มั่นคงกว่า
ตัว 1.7 อยู่เล็กน้อย
สิ่งที่ต่างกันอื่นๆที่เห็นได้ชัดก็จะมีเรื่อง แผงหน้าปัทม์ คอนโซลกลาง และคิ้วประตูด้านใน
ตัว 2.0 เป็น ลายเคฟลาร์ ต่างจากตัว 1.7 นอกจากนี้ภายในเป็นสีดำ เบาะหนังรู เป็น หนังแท้
ผสมหนังเทียม มีประดับโครเมี่ยมตามแผงเกียร์คันเกียร์ ฯลฯ นอกจากนี้สีตัวถังของ 2.0 2004
จะมี 5 สี คือ น้ำเงิน วิวิดบลู, แดง มิลาโน, ดำ ไนท์ฮอว์ค,เทาอะไรสักอย่างเนี่ยแหละเรียกมะถูก
และทอง เหมือนแอคคอร์ดซึ่งต่างจากสีทองของ 1.7 ส่วนสีของ 1.7 จะให้เลือกอีก 5 สี คือ
สีขาว ทาฟเฟตต้า, สีเงิน ซิลเวอร์ , สีเทา ควันบุหรี่ , สีดำ ไนท์ฮอว์ค , และ สีทอง ครับ
ส่วนระบบแอร์ทั้ง 1.7 Vti และ 2.0 ต่างก็มีแอร์อัตโนมัติมาให้ทั้งคู่ กระจกมองข้างต่างก็ปรับและ
พับด้วยไฟฟ้าได้ด้วยกันทั้งคู่ มีกระจกไฟฟ้ามาให้ครบทั้ง 4 บานทั้ง 2 รุ่น และเป็น Auto เฉพาะ
บานคนขับเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดีตัวกระจกมองข้างนั้นของ 2.0 เดิมๆจากโรงงาน จะพิเศษกว่า
ตรงที่เป็นกระจกแบบที่ลดการหยดตัวของหยดน้ำ นอกจากนี้โคมไฟ้าหน้าของ 2.0 ก็จะพิเศษกว่า
ตรงที่เป็น Smoke chrome เพิ่มความดุดันมาจากโรงงาน และไฟท้ายของ 2.0 ก็จะพิเศษกว่าตรงที่
เป็นสีแดงเข้ม นอกจากนี้หน้าปัทม์เป็นแบบเรืองแสงทั้งคู่ และของวงของ 2.0 จะเป็นสีแดง แต่ว่า
ของ1.7 จะเป็นสีฟ้า และก็เรื่องวัสดุซับเสียงส่วนตัวผมว่าของ 2.0 มันเยอะกว่าของ 1.7 อยู่นิดนึงนะ
เกียร์ AT ของ 2.0 มี 5 จังหวะเดินหน้า แต่ของ 1.7 เป็น 4 จังหวะเดินหน้า แต่อย่างไรก็ดี
ใช้ตัว 2.0 แล้วก็จะหงุดหงิดเล็กน้อยถ้าชอบเปลี่ยนเกียร์เอง เพราะไม่สามารถ Lock เกียร์
ไว้ที่เกียร์ 4 ได้ เนื่องจากพอเลื่อนตำแหน่งคันเกียร์ไว้ที่ D ก็จะเป็น ออโต้ 5 จังหวะตามปกติ
แต่พอดึงลงมา 1 จังหวะ กลับกลายเป็น D3 ซะงั้น แต่อย่างไรก็ดี ใช้แค่เกียร์ D แล้ว สั่งงาน
ด้วยคันเร่งเอา ก็ตอบสนองความต้องการเร่งได้ดีครับ การเปลี่ยนเกียร์ลงมาทำได้เหมาะสม
ฉับไว ตรงความต้องการ นอกจากนี้ เกียร์ 5 ทดไว้ต่ำมาก จนทำให้ความเร็วสูงสุดจะทำได้
ในเกียร์ 4 เท่านั้น โดยให้กดคันเร่งจมพื้นไว้ตลอด เพื่อไม่ให้เกียร์เปลี่ยนขึ้นเป็นเกียร์ 5 จะ
ได้ความเร็วสูงสุด ที่ 212 กม./ชม. ที่ 6,100 รอบต่อนาที แต่พอผ่อนคันเร่งลงมา เกียร์จะ
เปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 ให้ แล้วความเร็วจะตกลง ตีนปลายในเกียร์ 5 ทำได้แค่ 200 กม./ชม.
(เฉพาะใส่ยางเดิมๆ)
อัตราทดเกียร์ เทียบกัน
เกียร์ 1 ของ 2.0 = 2.684 ของ 1.7 = 2.722
เีกียร์ 2 ของ 2.0 = 1.500 ของ 1.7 = 1.468
เีกียร์ 3 ของ 2.0 = 1.030 ของ 1.7 = 0.975
เีกียร์ 4 ของ 2.0 = 0.772 ของ 1.7 = 0.673
เีกียร์ 5 ของ 2.0 = 0.571 ของ 1.7 ไม่มี
เกียร์ถอยหลัง ของ 2.0 = 2.000 ของ 1.7 = 1.954
เฟืองท้าย ของ 2.0 = 4.562 ของ 1.7 = 4.066
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. จากการทดสอบ
ตัว 2.0 A/T ทำได้ 10.6 วินาที
ตัว 1.7 A/T ทำได้ 11.8 วินาที
สำหรับเรื่องอัตราการบริโภคน้ำมันโดยประมาณ เป็นอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย-ใน กทม.
ตัว 2.0 A/T ทำได้ 8-9 กม./ลิตร
ตัว 1.7 A/T ทำได้ 10-11 กม./ลิตร
เรื่องการบำรุงรักษา ก็ตัว 2.0 จะไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ เพราะเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
เมื่อครบแสนโล ก็ไม่ต้องเปลี่ยนสายพานราวลิ้น หรือ สายพานไทมมิ่งเพราะใช้ โซ่ เป็นตัวขับแทน
อะไหล่ อื่นๆ ก็ใช้ร่วมกับ 1.7 ได้ เกียร์ก็ได้รับการปรับปรุงมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000
และ ไม่เปลี่ยนจังหวะเกียร์เอง ก็ใช้งานกันได้นานจนลืมเลยครับ ตรงนี้ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายน้อยลงกว่า
ตัว 1.7 บ้างเหมือนกัน ส่วนที่ยังเหมือน 1.7 คือ เรื่องแอร์ ครับ ก็คล้ายๆกับ 1.7 ต้องใส่ใจ
ดูแลรักษาหาร้านดีๆทำก็จะลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ พวกคลัทช์ คอมฯแอร์ เสื่อม สาย Hi Pressure
ที่อยู่ด้านหลังหม้อน้ำมักจะรั่ว เพราะรับลมร้อนจากหม้อน้ำตลอด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
ลองดูครับ นึกออกแค่เนี้ยอ่าครับ ยังงัย รอพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นมาเพิ่มเติมให้อีกทีละกันนะครับ