อีสานรับ ?เลกีมา? ฝนตกต่อเนื่อง ขอนแก่นท่วมหนัก 2 หมู่บ้าน (4/10/2007)
พายุโซนร้อนเลกีมาเริ่มส่งผลให้หลายจังหวัดภาคอีสานมีฝนตกต่อเนื่อง ล่าสุดที่ขอนแก่นน้ำท่วมตัดขาด 2 หมู่บ้าน เดือดร้อนกว่า 60 ครัวเรือน ส่วนกาฬสินธุ์น้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวมาก ย้ำราษฎรริมฝั่งให้ระวัง ขณะที่เลยฝนพร่ำตลอด ด้านจังหวัดสุราษฎร์ฯ ยันเขื่อนเชี่ยวหลานระบายน้ำปกติ อย่าเชื่อข่าวลือวิกฤติ
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศจากจังหวัดขอนแก่น ซึ่งวันนี้ (4 ต.ค.) สภาพท้องฟ้ามืดครึ้มและฝนตกต่อเนื่องเป็นบริเวณกว้างครอบคลุมทุกอำเภอ ล่าสุดมีรายงานน้ำจากจังหวัดชัยภูมิได้ไหลมาสมทบกับน้ำในแม่น้ำชีที่อำเภอแวงใหญ่ ทำให้ 2 หมู่บ้าน คือ บ้านชีวังเวิน บ้านชีท่าสง่า ตำบลโนนสะอาด ราษฎรเดือดร้อนกว่า 60 ครัวเรือน เนื่องจากถนนหมู่บ้านถูกน้ำท่วมตัดขาด ต้องใช้เรือท้องแบนสัญจร นอกจากนี้ ยังมีไร่นาจมน้ำแล้วกว่า 1,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดระดมถุงยังชีพเข้าไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว
นายสุเทพ มณีโชติ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย กล่าวว่า วันนี้ (4 ต.ค.) มีฝนตกโปรยปรายมาตลอดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย โดยก่อนหน้านี้ ได้ประกาศเตือนประชาชนบริเวณที่ราบลุ่มน้ำและลาดเชิงเขาเตรียมตัวป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน และยังกำชับให้หน่วยงานแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและดินถล่มอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง คือ อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอนาแห้ว เนื่องจากสภาพเป็นภูเขาเกือบทุกหมู่บ้าน
นายวีระศักดิ์ วิเชียรแสน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งทุกอำเภอพร้อมรับมือภัยธรรมชาติไว้แล้ว โดยเฉพาะอำเภอสมเด็จ อำเภอเขาวง อำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอนาคู อำเภอคำม่วง และอำเภอสามชัย เฝ้าระวังเป็นพิเศษเรื่องปัญหาดินถล่ม
นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้ามากถึง 31 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ที่ระดับ 1,335 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณเก็บกัก 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยประชาชนริมฝั่งลำน้ำปาวและลำน้ำชีใน 9 อำเภอ ควรเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า
นายบัณฑิต จินดารัตน์ ผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชี้แจงกรณีมีข่าวการเร่งระบายน้ำของเขื่อน หลังฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวันว่า เขื่อนรัชชประภายังสามารถรองรับน้ำได้อีก 997.98 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับกักเก็บ 5,638 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้มีน้ำอยู่ที่ 4,641 ล้านลูกบาศก์เมตร และการระบายน้ำวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นไปตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อน ประชาชนอย่าตื่นกับข่าวลือ เพราะระดับน้ำยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ
ที่มา : สำนักข่าวไทย