''เชียงใหม่'' ดีเดย์ 1 ก.ค.จับปรับรถห้อยตุ๊กตา ?
ถึงคิวตุ๊กตาห้อยท้ายรถ ขนส่งเชียงใหม่ ดีเดย์ 1 ก.ค. จับปรับรถห้อยตุ๊กตา-ดัดแปลงแผ่นป้าย เผยโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ผู้บังคับการตำรวจจราจรชี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมายอาจเข้าข่ายความผิดฐานติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเกินกำหนด ด้านรองผู้การเชียงใหม่ยังไม่รับลูก ส่วนประชาชนโวยละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โบ้ยให้ไปจับรถผิดกฎหมายอื่นดีกว่า
แฟชั่นการผูกตุ๊กตาไว้ที่ท้ายรถ บริเวณท่อไอเสียหรือใต้ท้องรถ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยระยะหลังเริ่มมีคนห้อยตุ๊กตาทั้งขนาดเล็ก-ใหญ่ บางคันมีประดับไว้หลายตัว โดยมีทั้งจากความเชื่อเรื่องการลากพาวิญญาณสิ่งชั่วร้ายให้อยู่ติดกับตุ๊กตา รวมทั้งที่ห้อยไว้เพื่อเป็นแฟชั่นนั้น
ล่าสุด ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่เดินหน้าจะเอาผิดกับรถที่ตกแต่งตุ๊กตาในลักษณะเช่นนี้แล้ว โดยนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกระแสรถยนต์ที่นิยมนำตุ๊กตามาห้อยท้ายรถอย่างแพร่หลาย อาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับผู้ขับขี่ยวดยานตามท้องถนนได้นั้น ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่จะทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ผู้ที่นำตุ๊กตามาห้อยท้ายรถออก เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่จะจัดเจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน หลังจากนั้นจะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวดเฉียบขาด โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พบว่าผู้ใดฝ่าฝืนจนถูกจับกุมจะมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท รวมทั้งรถที่นำป้ายทะเบียนญี่ปุ่นมาติดแทนป้ายทะเบียนรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก หรือนำป้ายทะเบียนดัดแปลงผิดขนาดมาใช้ ก็จะมีการจับปรับเช่นกัน
ด้าน พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) กล่าวว่า กำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบรายละเอียดในข้อกฎหมายอยู่ว่า การนำตุ๊กตาไปแขวนไว้ตามใต้ท้องรถมีความผิดตามกฎหมายข้อใดหรือไม่ เนื่องจากตุ๊กตาที่นำไปติดตั้งใต้ท้องรถถือเป็นอุปกรณ์ส่วนควบที่ไม่ได้มีบังคับไว้ในอุปกรณ์ส่วนควบของรถที่มีการจดทะเบียนไว้กับกรมขนส่งทางบก
ซึ่งในข้อกฎหมายระบุไว้ว่า หากมีอุปกรณ์ใดที่มีการติดตั้งนอกเหนือจากอุปกรณ์ที่ระบุไว้ในระเบียบการขอจดทะเบียน ก็ต้องมีการปกปิดอย่างมิดชิด ห้ามตกเรี่ยราด สร้างความสกปรกให้บ้านเมือง หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลอื่น รวมถึงต้องไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วย
พล.ต.ต.ปราโมช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การนำตุ๊กตามาแขวนไว้ใต้ท้องรถนั้น ถือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้ระบุไว้ในอุปกรณ์และส่วนควบของรถที่มีการจดทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก หากมีการติดตั้งแล้วสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับบุคคลอื่น หรืออาจหลุดตกหล่นแล้วเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เจ้าของรถจะต้องรับผิดชอบตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"กำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจทานในข้อกฎหมายอยู่ ในเบื้องต้นการแขวนตุ๊กตาใต้ท้องรถอาจเข้าข่ายความผิดฐานติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แล้วไม่มีการปกปิดให้มิดชิด มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในส่วนกองบัญชาการตำรวจนครบาล หากตรวจสอบข้อกฎหมายชัดเจนแล้วก็จะพิจารณาดำเนินการอีกครั้งว่าจะดำเนินการเข้มงวดกวดขันจับกุมผู้ที่นำตุ๊กตามาแขวนไว้ที่ใต้ท้องรถหรือไม่อย่างไร" พล.ต.ต.ปราโมช กล่าว
ผบก.จร. กล่าวด้วยว่า อยากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนให้พึงระวัง อย่านำอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นติดตั้งในตัวรถ โดยเฉพาะตุ๊กตาที่มีการนิยมนำมาแขวนไว้ใต้ท้องรถ เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น หรืออาจตกหล่นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
ส่วน พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหากประสานมาก็จะต้องศึกษาให้ชัดเจนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายในข้อใดบ้าง ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับเจ้าของรถที่นำตุ๊กตามาติด
นายสัญฉกร ตราชู อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/157 หมู่ 2 ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การดำเนินการของทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นการเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การนำตุ๊กตามาติดท้ายรถเชื่อว่าไม่ใช่สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพราะถึงแม้ไม่ติดตุ๊กตา แต่ขับขี่ยวดยานด้วยความประมาทก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
การนำสิ่งของสวยงามน่ารักมาติดไว้อาจเป็นการลดความเครียดของผู้ขับขี่ตามหลังก็ได้ ซึ่งไม่เห็นด้วยที่จะมีการจับกุม และหากดำเนินการจริง อาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ เพราะหากกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เกิดความไม่พอใจ อาจประท้วงเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้
น.ส.ณัฏฐนันท์ วงศ์ลือเกียรติ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/4 ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะการแขวนตุ๊กตาท้ายรถเป็นเสรีภาพที่จะตกแต่งรถได้ และเชื่อว่าตุ๊กตาท้ายรถไม่ใช่ต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ หน่วยงานที่คิดจะจับกุมควรเอาเวลาไปทำเรื่องอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่ามาคิดเรื่องแบบนี้ หากต้องการจับกุมรถที่ผิดกฎหมายควรไปจับรถที่แต่งเครื่องเสียงดัง คนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หรือจับรถที่ไม่เสียภาษีจะดีกว่า
ที่มาจาก คมชัดลึก