สืบเนื่องจากประเด็นฮอต "กะเทยที่แปลงเพศแล้ว สามารถใช้คำนำหน้าเป็นนางสาวได้ในเร็วๆ นี้" กำลังกลายเป็นที่ถกเถียงในสังคมโดยเฉพาะทางสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ดูเหมือนว่าผู้คนไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการเตรียมเสนอร่างพรบ.ดังกล่าว หลังจากที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จุรี วิจิตรวาทการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า ทางสนช.เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ. เกี่ยวกับคำนำหน้านาม เพื่อให้สิทธิกับผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว มีทางเลือกใช้คำนำหน้าว่า "นางสาว" ได้
เพราะคนแปลงเพศน่าเห็นใจ
จะให้ใช้คำนำหน้า "นาย" อย่างเดิมก็มีความลำบากทุกข์ร้อนในการดำรงชีวิต อีกทั้งในระดับสากลก็
ให้สิทธิกับคนเหล่านี้ในการเลือกใช้คำนำหน้าเป็น "นางสาว" ได้ เมื่อยอมรับการแปลงเพศก็ให้สิทธิได้เปลี่ยนคำนำหน้า โดยจะขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นฝ่ายร่วมสนับสนุนในการเสนอร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ขึ้นมา
ทั้งนี้ทาง "สยามดารา" ได้สืบเสาะความคิดเห็นของเหล่าศิลปินคนดังในแวดวงการบันเทิง รวมทั้งประชาชนทั่วไปว่าในที่สุดแล้ว ผลที่ได้ออกมาจะเซย์เยส หรือเซย์โนกับประเด็นสุดฮอตขณะนี้มากกว่ากัน
สมศักดิ์ ชลาชล (ช่างผมชื่อดัง)"พวกเธอไม่มีความสุขกันเหรอไง เธอจะไปเรียกร้องอะไรมากมายอีก เมืองไทยเนี่ยถือว่าเป็นพาราไดซ์ของกลุ่มพวกเธอที่ดีที่สุดเลยนะ อย่างพวกเพศที่สามตามประเทศอื่นๆ ทั้งสิงคโปร์, เวียดนาม, ไต้หวัน, เกาหลี, กัมพูชา เค้ายังอยากเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยกันเลย แล้วเราอยู่ในดินแดนที่เค้าให้อิสระขนาดนี้แล้ว ยังต้องการอะไรอีกเหรอ ขอบอกเลยนะว่าคนที่เค้ามีการศึกษาที่ดีเค้าไม่มาคิดอะไรกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้หรอก ขอร้องหยุดเถอะ แล้วเอาหัวสมองไปคิดทำอะไรที่มันมีประโยชน์มากกว่านี้จะดีกว่า และพี่ก็เชื่อนะว่าเรื่องนี้ไม่มีทางผ่านร่างเป็นกฎหมายได้หรอก"
"บิ๊ก-ภุชิสสะ" (นักแสดง-ดีเจ)"สำหรับผมส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยนะ เพราะว่ามันควรเป็นสิทธิที่เค้าควรได้รับ เพราะอย่างน้อยใจเค้า กายเค้า เป็นหญิงไปหมดแล้ว แต่ติดปัญหาตรงเอกสารราชการที่มีคำนำหน้าชื่อเป็น นาย เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นผมว่าควรให้สิทธินี้เค้านะ ส่วนเรื่องผลกระทบเรื่องที่ว่าผู้ชายจะถูกหลอกหรือเปล่านั้นผมว่าคนเราจะคบกันรักกันมันต้องมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว และด้วยความเป็นจริงผู้หญิงแท้ๆ กับเทียมมันต่างกัน ฉะนั้นผมคิดว่าผมอยากให้พวกเค้าได้สมหวังนะ จะได้มีความสุขกันถ้วนหน้า"
ซันนี่ ยูโฟร์ (อดีตนักร้องวงบอยแบนด์)"มันน่าจะดีนะ แต่คนที่เป็นสาวประเภทสองอาจไม่คุ้นกับคำนำหน้าก็ได้ ซึ่งซันนี่มองอีกมุมหนึ่งเราควรพิจารณาในการอ่านวิเคราะห์ก่อน คือ ก่อนที่จะออกกฎหมายก็ศึกษาถึงความถูกต้องให้ดี ซึ่งซันนี่ว่าไม่สำคัญถ้าให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วเค้าทำอะไรให้สังคมบ้าง ยังไงคุณก็ไม่ใช่ผู้หญิงอยู่ดี มีลูกไม่ได้ น่าจะภูมิใจในความเป็นกะเทยมากกว่า มันอยู่ที่คุณค่าของคนมากกว่า มันก็เป็นนายมาตั้งนานแล้ว เปลี่ยนไปเพื่อะไรกัน แต่ถ้าเปลี่ยนจริงซันนี่อยากให้กะเทยมีบทบาทในสังคมมากกว่า เพราะกะเทยก็มีความสามารถ คือคนในสังคมไม่ค่อยยอมรับกะเทย พวกกะเทยเลยไม่มีทางเลือก ทำอาชีพได้ไม่กี่อย่าง ซึ่งจริงๆ แล้วกะเทยมีความสามารถ ทำงานได้หลายอย่าง ตรงนี้ซันนี่ว่ากฎหมายน่าจะรองรับให้มากขึ้นนะ อยากให้กะเทยมีสิทธิเท่าเทียมกับคนธรรมดา อย่างซันนี่ไปต่างประเทศวีซ่าไม่ค่อยผ่าน เค้าหาว่าเราไปขายตัว กะเทยไม่อยากขายตัวทุกคนหรอกนะ ตรงนี้มองถึงสิทธิมากกว่า แต่ซันนี่ก็เห็นด้วยนะ ถ้าให้เปลี่ยน ก็ไชโยได้สักพัก เราควรช่วยกันรณรงค์ ถึงคุณค่า แล้วให้ใช้คำนำหน้าไปในทางที่ถูกมากกว่า คือได้มาแล้วควรทำดีให้สังคม"
"โก้" ธีรศักดิ์ พันธุจริยา (ดารา-พิธีกร)"ก็คิดว่ามันก็แล้วแต่สถานที่ แล้วแต่การยอมรับในสังคม ซึ่งไม่ได้เหมือนกับว่าเปลี่ยนแล้วถูก เปลี่ยนแล้วไม่ถูก โดยส่วนตัวก็ไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร ถ้าเกิดเปลี่ยนได้ก็ดีใจแทนน้องๆ สาวประเภทสองด้วย สุดท้ายก็แล้วแต่ความถูกด้องความเหมาะสม เพราะทุกอย่างมันก็มีทั้งได้ เสีย อยู่ที่ตัวสังคมมากกว่าว่าจะมองยังไง เปลี่ยนแล้วสังคมยอมรับมั้ย เปลี่ยนแล้วเค้าทำตัวดีมั้ย โก้ว่าตอนนี้ประเทศเรามีปัญหาเยอะ เราน่าจะช่วยกันดูแลประเทศมากขึ้นดีกว่าครับ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่แปลกเพราะปกติไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว"
"โหน่ง" วสันต์ อุตตมะโยธิน (ดารา-นักแสดง)"ต้องรอดูกฎหมาย เพราะเรามีความเชื่อมั่นในกฎหมายอยู่แล้วถ้าดีเค้าก็ให้ ถ้าไม่ดีเค้าก็ไม่ให้ อันนี้โหน่งก็บอกไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ของอย่างนี้มันต้องขึ้นอยู่กับทางกฎหมาย คือเราเคารพในตัวกฎหมาย และสิทธิของตัวบุคคลดีกว่าครับ ซึ่งถ้าเปลี่ยนแล้วมันต้องมีกฎหมายมารองรับอะไรอีกที"
เคลลี่ ธนะพัฒน์ (ดารา-นักแสดง)"เรื่องนี้มันตอบยากนะครับ ผมเชื่อว่าเค้าเกิดมาใจเค้าเป็นหญิง เราก็เห็นใจ แต่เรื่องที่จะเปลี่ยนผมตอบไม่ได้ คือเข้าใจเค้าครับผลกระทบตอสังคมผมว่าไม่มี ถ้าคิดอีกมุม เปลี่ยนเพื่อจะหนีคดีรึเปล่า เรื่องหลอกลวงรึเปล่า อาจเป็นปัญหาได้ แต่คงไม่กระทบมากนัก เราต้องชั่งน้ำหนักว่าดีกับไม่ดี ไม่ดีมีผลกระทบอะไรบ้าง เคลลี่ว่ายากที่กฎหมายจะเปลี่ยนบัตรประชาชน มันเป็นตัวรับรองว่าเราเป็นใคร ถ้าเราเปลี่ยนแล้วมันจะตามไม่ได้ว่าใครเป็นใคร มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เรื่องของกฎหมาย คือมองอีกทางอาจหลอกลวงได้ ผมจะศึกษาเรื่องนี้มาขึ้น ผมก็เห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ นี่มันคือหลักฐาน ถ้าคุณเปลี่ยน ID มันอาจเป็นปัญหาคนหาย หรือคนทำผิดก็มาเปลี่ยนเพื่อหลบหนี"
ชลิต เฟื่องอารมย์ (ดารา-นักแสดง-พิธีกร)"เฉยๆ เพราะว่ามันไม่รู้จะทำไปทำไม สังคมเราปัจจุบันมันก็เละอยู่แล้ว อะไรเกิดก็เกิดกับคนกลุ่มเล็กเท่านั้นมันเป็นส่วนน้อย ล้านคนมีร้อยคนที่อยากเปลี่ยน แต่มันได้ทางใจมากกว่า ภูมใจมากกว่า ผมก็ไม่เข้าใจ ไม่ได้ศึกษากฎหมายฝรั่ง ว่าขึ้นต้นผู้ชายแต่งกับผู้ชายจะเป็นยังไง คือมันเป็นกลุ่มน้อยถ้าส่งผลกระทบก็คงน้อย"
พจน์ อานนท์ (ผู้กำกับฯ ชื่อดัง)"ก็เปลี่ยนให้เค้าไปเถอะ เพราะเค้าไม่ได้ทำให้สังคมเสียหาย เพราะเค้าเปลี่ยนทุกอย่างทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่เหลือความเป็นชายอยู่แล้ว เมืองนอกเค้ายังยอมรับได้ มันคงไม่ทำให้สังคมเราเสื่อมหรอกครับ"
กนกรส พงศทัต (พิธีกร-ไฮโซชื่อดัง)"อันนี้ก็ไม่แน่ใจ ถ้าเปลี่ยนมาใช้นางสาว ต้องขึ้นกับผู้ใหญ่ ดูวัฒนธรรมเรา เพราะถ้าเมืองนอกเค้าไม่เป็นไร แต่ประเทศเรามีวัฒนธรรม ต้องลองดูความเห็นจากผู้ใหญ่ เพราะสังคมไทยต่างจากสังคมฝรั่ง เรามีวัฒนธรรม ไม่รู้ว่าจะกระทบกับใครบ้าง ลองดูทางด้านกฎหมายดูว่าเหมาะสมรึเปล่า ยังไงต้องดูกฎหมายเป็นหลัก และสังคมวัฒนธรรมด้วย คือขอตอบกลางๆ ที่สุดค่ะ"
"น้ำผึ้ง" ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ (ดารา-นักแสดง)"เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เพราะรู้สึกว่าเค้าเกิดมาร่างกายไม่เป็นหญิง แต่ใจเป็นหญิง ถ้าเปลี่ยนคำนำหน้าให้เค้าเป็นหญิง เค้าก็จะได้แสดงศักยภาพความเป็นมนุษย์มากขึ้น ทำอะไรอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกดดัน ไม่ต้องถูกรังเกียจ เพราะเค้าก็เป็นคนมีความสามารถมากด้วย ซึ่งตรงนี้น้ำผึ้งว่าน่าจะมีแนวโน้มไปในทางที่ดี เพราะเพศในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ 2 เพศ มีความหลากหลายทางเพศมาก วิทยาศาสตร์ไม่ได้เปลี่ยนแต่ฮอร์โมนเปลี่ยน ทำให้สังคมเปิดกว้างมากขึ้น เกิดการคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งต่างประเทศตอนนี้เค้าก็มีกฎหมายข้อนี้มารองรับอยู่ ไม่ได้ส่งผลเสียใดๆ แถมยังมีกฎหมายมารองรับ ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ส่งผลเสีย แล้วเค้ามั่นใจได้ว่าออกงานแล้วไม่มีใครว่ามีศักยภาพมากขึ้นด้วยซ้ำไป"
เจนนิเฟอร์ คิ้ม (นักร้องชื่อดัง)"ของพวกนี้เป็นนามธรรมจริงๆ กฎหมายต่างๆ ถูกทำเพื่อความสุขของสังคม ถ้าใจกว้างนิดนึงก็โอเค ถ้าเมืองที่พัฒนาเค้าก็มีการรองรับตรงนี้ ซึ่งมันไม่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่มีผลต่อสังคม วัฒนธรรมของเราเท่าไหร่ ถ้าจะบอกว่าเรามองว่าเป็นการช่วยลดประชากรมากกว่า เค้าสร้างประโยชน์ให้ประเทศเรามากมาย การได้ตอบแทนให้เค้าเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มตัวหนังสืออีก 6 ตัว จากนาย เป็นนางสาว แต่ทำให้เค้าได้รับการยอมรับ มันจะดีมากกว่า ไม่กระทบกับสังคม การเมือง การปกครอง มันไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับการยอมรับของสังคมในปัจจุบันมากกว่า แสดงว่าคนไทยได้หมุนไปตามโลกมากขึ้น"
ที่มา : สยามดารา