|
|
|
ham_ter
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9,223
|
|
« ตอบ #3803 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2012, 22:12:46 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
ham_ter
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9,223
|
|
« ตอบ #3806 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2012, 21:28:01 » |
|
แล้วมันแตกต่างจากยี่ห้ออื่นยังไงเหรอครับ...
สมัยนี้เทคโนโลยีหัวฉีดนั้น เกือบจะเท่ากันทั้งหมดทุกยี่ห้อแล้ว ต่างกันที่ช่างที่คิดมากกว่า แต่ ATIKER นี้เป็นโรงงานที่ผลิตของเองทุกอย่าง ENERGY ก็มาซื้อของที่นี่มาติดตราตัวเอง ยี่ห้ออื่นๆนั้นผลิตแค่ ECU แก๊ส แต่หม้อต้มและอุปกรณ์นั้น เอาหลายๆยี่ห้อมารวมๆกัน แต่ ยี่ห้อนี้ ผลิตเองทุกอย่าง ดังนั้นจึงพูดได้เลยว่า ยี่ห้อไหนไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่างที่ติดมากกว่า แต่ช่วงนี้ พอดีได้ราคาโปร ยี่ห้อนี้มาพอดี เลยเลือกยี่ห้อนี้แค่นั้นเอง ส่วน OBDII นั้น มาจากคำว่า On-board Diagnostic เป็นมาตรฐานที่กำหนดขี้นร่วมกันโดย SAE และ ISO โดยกำหนดมาตรฐานวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอลระ หว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยไอเสีย (Emission) กับเครื่องสแกนข้อมูล ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ตำแหน่งการติดตั้ง รหัสบันทึกความบกพร่องที่ตรวจพบ (Malfunction Indicator Light : MIL) แล้วแสดงออกมาให้คนขับหรือช่างได้รู้ถึงปัญหานั้น ส่วนแก๊ส ที่มีระบบ OBD นี้จะต่อเข้ากับกล่อง ECU รถ และเอาค่า สัญญาณ Term/Tirm ที่อยู่ใน "ระบบ"นั้นมาอ้างอิงในการ จ่ายแก๊ส เป็นการพยามที่จะจ่าย แก๊ส ให้ได้เมือนน้ำมันให้มากที่สุด โดยจะอิงข้อมูลการจ่ายจากกล่อง ECU รถนั่นเอง ซึ่งแก๊สที่ไม่มี OBD นั้นจะจูนตอนแรกแบบไหนก็จะจ่ายแก๊สแบบนั้นตลอด ไม่ละเอียดเหมือนการที่ ECU แก๊ส จ่ายตาม ECU รถไง ส่วนรถที่สามารถติดแก๊สที่มีระบบ OBD ได้ก็ดูตามนี้ได้เลย http://www.energy-reform.com/webboard/index.php?topic=2308.0
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hs2cbp
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,198
ตู่ @ ระยอง 0634659653
|
|
« ตอบ #3807 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2012, 21:54:27 » |
|
สมัยนี้เทคโนโลยีหัวฉีดนั้น เกือบจะเท่ากันทั้งหมดทุกยี่ห้อแล้ว ต่างกันที่ช่างที่คิดมากกว่า แต่ ATIKER นี้เป็นโรงงานที่ผลิตของเองทุกอย่าง ENERGY ก็มาซื้อของที่นี่มาติดตราตัวเอง ยี่ห้ออื่นๆนั้นผลิตแค่ ECU แก๊ส แต่หม้อต้มและอุปกรณ์นั้น เอาหลายๆยี่ห้อมารวมๆกัน แต่ ยี่ห้อนี้ ผลิตเองทุกอย่าง ดังนั้นจึงพูดได้เลยว่า ยี่ห้อไหนไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่างที่ติดมากกว่า แต่ช่วงนี้ พอดีได้ราคาโปร ยี่ห้อนี้มาพอดี เลยเลือกยี่ห้อนี้แค่นั้นเอง ส่วน OBDII นั้น มาจากคำว่า On-board Diagnostic เป็นมาตรฐานที่กำหนดขี้นร่วมกันโดย SAE และ ISO โดยกำหนดมาตรฐานวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอลระ หว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยไอเสีย (Emission) กับเครื่องสแกนข้อมูล ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ตำแหน่งการติดตั้ง รหัสบันทึกความบกพร่องที่ตรวจพบ (Malfunction Indicator Light : MIL) แล้วแสดงออกมาให้คนขับหรือช่างได้รู้ถึงปัญหานั้น ส่วนแก๊ส ที่มีระบบ OBD นี้จะต่อเข้ากับกล่อง ECU รถ และเอาค่า สัญญาณ Term/Tirm ที่อยู่ใน "ระบบ"นั้นมาอ้างอิงในการ จ่ายแก๊ส เป็นการพยามที่จะจ่าย แก๊ส ให้ได้เมือนน้ำมันให้มากที่สุด โดยจะอิงข้อมูลการจ่ายจากกล่อง ECU รถนั่นเอง ซึ่งแก๊สที่ไม่มี OBD นั้นจะจูนตอนแรกแบบไหนก็จะจ่ายแก๊สแบบนั้นตลอด ไม่ละเอียดเหมือนการที่ ECU แก๊ส จ่ายตาม ECU รถไง ส่วนรถที่สามารถติดแก๊สที่มีระบบ OBD ได้ก็ดูตามนี้ได้เลย http://www.energy-reform.com/webboard/index.php?topic=2308.0 สรุปยอดใช้จ่าย เท่าไหร่อ่ะ เจ๊ ทำไมใช้ถังแค่ 48 lite ไม่ลง 52 lite
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
zoku8
จอมยุทธ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 465
WLC...ไม่รักไม่ได้แล้ว...
|
|
« ตอบ #3810 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2012, 22:25:28 » |
|
สมัยนี้เทคโนโลยีหัวฉีดนั้น เกือบจะเท่ากันทั้งหมดทุกยี่ห้อแล้ว ต่างกันที่ช่างที่คิดมากกว่า แต่ ATIKER นี้เป็นโรงงานที่ผลิตของเองทุกอย่าง ENERGY ก็มาซื้อของที่นี่มาติดตราตัวเอง ยี่ห้ออื่นๆนั้นผลิตแค่ ECU แก๊ส แต่หม้อต้มและอุปกรณ์นั้น เอาหลายๆยี่ห้อมารวมๆกัน แต่ ยี่ห้อนี้ ผลิตเองทุกอย่าง ดังนั้นจึงพูดได้เลยว่า ยี่ห้อไหนไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่างที่ติดมากกว่า แต่ช่วงนี้ พอดีได้ราคาโปร ยี่ห้อนี้มาพอดี เลยเลือกยี่ห้อนี้แค่นั้นเอง ส่วน OBDII นั้น มาจากคำว่า On-board Diagnostic เป็นมาตรฐานที่กำหนดขี้นร่วมกันโดย SAE และ ISO โดยกำหนดมาตรฐานวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอลระ หว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยไอเสีย (Emission) กับเครื่องสแกนข้อมูล ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ตำแหน่งการติดตั้ง รหัสบันทึกความบกพร่องที่ตรวจพบ (Malfunction Indicator Light : MIL) แล้วแสดงออกมาให้คนขับหรือช่างได้รู้ถึงปัญหานั้น ส่วนแก๊ส ที่มีระบบ OBD นี้จะต่อเข้ากับกล่อง ECU รถ และเอาค่า สัญญาณ Term/Tirm ที่อยู่ใน "ระบบ"นั้นมาอ้างอิงในการ จ่ายแก๊ส เป็นการพยามที่จะจ่าย แก๊ส ให้ได้เมือนน้ำมันให้มากที่สุด โดยจะอิงข้อมูลการจ่ายจากกล่อง ECU รถนั่นเอง ซึ่งแก๊สที่ไม่มี OBD นั้นจะจูนตอนแรกแบบไหนก็จะจ่ายแก๊สแบบนั้นตลอด ไม่ละเอียดเหมือนการที่ ECU แก๊ส จ่ายตาม ECU รถไง ส่วนรถที่สามารถติดแก๊สที่มีระบบ OBD ได้ก็ดูตามนี้ได้เลย http://www.energy-reform.com/webboard/index.php?topic=2308.0 ลึกซึ่งขนาด...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Ek จงเจริญ....ก็แค่อยากทำรถให้สวยและแรงส์...
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
cyu
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 5,713
|
|
« ตอบ #3830 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2012, 09:25:36 » |
|
|
|
|
|
|
cyu
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 5,713
|
|
« ตอบ #3832 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2012, 13:22:15 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
cyu
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 5,713
|
|
« ตอบ #3836 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2012, 13:41:32 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
cyu
อาจารย์ปู่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 5,713
|
|
« ตอบ #3838 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2012, 13:45:16 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|