ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
23 พฤศจิกายน 2024, 17:11:45
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club DIY => คุณทำได้  |  หัวข้อ: ปัญหาความร้อนระบบหล่อเย็น ECT switch ECT sensor ECT gauge sending unit วาล์วน้ำ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาความร้อนระบบหล่อเย็น ECT switch ECT sensor ECT gauge sending unit วาล์วน้ำ  (อ่าน 154795 ครั้ง)
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #200 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2013, 11:48:15 »

เพราะถ้าไล่ลมไม่หมด น้ำไม่เต็มท่อ แทนที่น้ำจะได้สัมผัสกับสวิตซ์ความร้อนเต็มๆ แทบไม่มีโอกาสเลย สวิตซ์มันจึงทำงานมั่ง ไม่ทำงานมั่ง ค่าความแน่นอนไม่มี ถ้าน้ำเต็มระบบ แล้วไหลผ่านสวิตซ์ที่แช่อยู่ในน้ำ ความแม่นยำย่อมมีสูงกว่าแน่นอน อย่างนี้ระบบระบายความร้อนจึงจะสมบูรณ์ได้ครับ จบนะครับกระทู้นี้ ผมว่าชัดเจนที่สุดแล้วครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #201 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2013, 18:10:41 »

แถมให้อีกนิดนึง ถ้าของใครแก้ไม่หายจริงๆ พัดลมทำงานมั่งไม่ทำงานมั่ง ทั้งที่ตรวจเช็คตามวิธีที่ได้กล่าวมาทั้งหมดแล้วยังไม่หายร้อน ต้องใช้วิชามารแล้ว คือให้ทำการเอาสายไฟมาสองเส้น ต่อเส้นที่หนึ่งเข้ากับสายของ ECT Switch สีเขียว อีกเส้นต่อเข้าสายสีดำ แล้วเอาปลายสายทั้งสองเส้นมาต่อสวิทซ์โยก ปิด-เปิด เพื่อใช้เปิดพัดลมด้วยมือเราเอง ต่อเข้ามาในรถ ให้เปิดได้สะดวกที่สุดน่ะแหละ ในขณะที่เข็มความร้อนมันขึ้นมาเกินปกติ เมื่อมันหยุดร้อนก็สับสวิทซ์ปิดไป ให้มันทำงานอัตโนมัติ นี่คือวิธีสุดท้ายแล้ว ที่หาทางออกไม่เจอจริงๆ ดีกว่าปล่อยให้เครื่องร้อนจนฝาสูบโก่งนะครับ ตกใจ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #202 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 09:52:09 »

ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหาครับ
บันทึกการเข้า
Ko Bangplee
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329



« ตอบ #203 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2013, 10:39:39 »

ใช่เลยครับ  การตั้งชื่อกระทู้แบบนี้ ดูแล้วรู้เลยว่าข้างในเนื้อหามีอะไรบ้าง  เปรียบเหมือนเป็นสารบัญน่ะครับ  ยิ้ม 




บันทึกการเข้า
Jak_ek
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12



« ตอบ #204 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2013, 09:51:38 »

สุดยอดเลยครับ ความรู้ล้วนๆๆ ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #205 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2013, 19:19:58 »

สุดยอดเลยครับ ความรู้ล้วนๆๆ ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ
ขอบคุณครับ อายจัง
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #206 เมื่อ: 03 มกราคม 2014, 23:57:08 »

อันนี้ ควรที่จะมาอ่านต่อเรื่องนี้ได้นะ
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=190218.0
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #207 เมื่อ: 16 มกราคม 2014, 15:27:41 »

การไล่ลมสูตรของผม ผมใช้วิธีดังนี้ครับ

ไล่ขันข้อต่อต่างๆให้แน่น แล้วลองไล่ลมใหม่ดังนี้
คลายที่รัดท่อน้ำตรงวาล์วน้ำออกถอดท่อน้ำออกมา(ส่วนอื่นขันให้แน่น)
 เปิดฝาหม้อน้ำออก เอาสายยางยัดเข้าตรงฝาหม้อน้ำเลย เปิดน้ำเข้าไปแล้วดูว่าน้ำไหลมาถึงวาล์วน้ำที่มีรูเล็กๆระบายแรงดันน้ำหรือยัง
                 อีกด้านปลายท่อยกไว้ให้สูง อย่าให้น้ำไหลออก กรอกน้ำใส่ท่อนี้ให้มาถึงปลายๆสายเลย แล้วเอาไปเตรียมสวมตรงท่อวาล์วน้ำ เมื่อน้ำได้ระดับที่วาล์วน้ำจนเต็มและไหลออกมาจากรูเล็กๆ
    รีบสวมท่อเข้าไปดันให้ได้ระดับที่จะล็อค แต่อย่าเพิ่งขันรัดสาย ให้เอาสายยางไปเสียบลงที่คอหม้อน้ำเหมือนเดิม เปิดน้ำให้แรง ให้น้ำดันลมในระบบออกจนน้ำดันลอดช่องของปลายท่อน้ำที่เราสวมเข้าตรงวาล์วน้ำ เมื่อเห็นน้ำดันออกมาจากท่อ ให้ทำการเริ่มขันสายรัดท่อให้แน่นไปพร้อมกับการปล่อยน้ำเข้าไปด้วย และขันจนแน่น
    ที่เหลือก็เติมให้เต็มคอหม้อน้ำ ถังพักน้ำสำรอง ปิดฝาหม้อน้ำ ลองติดเครื่องยนต์ รันระบบดู ช่วงที่วาล์วยังไม่เปิด ท่อน้ำล่างต้องกดดูแล้วต้องแข็งๆต้านนิ้ว ถ้าบีบแล้วไม่ต้านนิ้ว แสดวงว่ายังมีลม แต่ถ้าไล่วิธีนี้ลมออกได้เกือบหมด ของผมไล่แบบนี้จึงหมดครับ
    ลองดูตามนี้ครับ แต่ถ้ามันเดี๋ยวร้อนบ่อยๆ นะ ถ้าในระบบมีลม ถ้าเติมน้ำยาหม้อน้ำไปด้วยล่ะก็ หม้อน้ำต่อให้ใหม่แค่ไหนก็ตันครับ แนะนำให้ถ้าไล่ลมแล้วไม่หายเอาไปล้างหม้อน้ำครับ ค่อยมาเติมน้ำไล่ลมใหม่ครับ
    ผมต้องล้างหม้อน้ำถึงสองครั้งในรอบ 1 เดือน เพราะหม้อน้ำตันจากน้ำยาหม้อน้ำแข็งตัว เมื่อน้ำไม่เต็มระบบ มันจะกลายเป็นผงสีขาวๆอุดท่อน้ำครับ ใหม่แค่ไหนก็ตันได้ครับถ้าเครื่องร้อนขนาดนั้น
                 สรุป ใครเจอปัญหาความร้อน ให้ไปต่อสายตรงพัดลมหม้อน้ำดูว่าพัดลมทำงานได้ไหม ถ้าพัดลมทำงาน  ให้หาที่รั่วก่อนเลย ทุกจุด ข้อต่อต่างๆ ถอดท่อน้ำออกมาทำความสะอาดหน้าสัมผัสงานได้ยิ่งดี ต้องมีที่รั่วแน่ หาที่รั่วเสร็จถ้ายังไม่หาย ไปล้างหม้อน้ำให้สะอาด ดูวาล์วน้ำด้วย ถอดไปต้มดูว่าเปิดไหม เบื้องต้นดูเท่านี้ก่อน
บันทึกการเข้า
Ko Bangplee
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329



« ตอบ #208 เมื่อ: 17 มกราคม 2014, 06:11:27 »

ว่าถามนานแล้ว ว่า จารบีที่ใช้ทา  เป็นจารบีสีอะไรก็ได้ใช่ไหม

ช่วงนี้หาเวลานั้งไล่อ่านทบทวนเรื่องต่างๆอยู่ครับท่าน  สงสัยเลยขอถามซะหน่อย


* 003_1_~1.JPG (39.41 KB, 512x769 - ดู 1762 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #209 เมื่อ: 17 มกราคม 2014, 08:00:54 »

จารบีใส อะเนกประสงค์ ยี่ห้อ เทรน รุ่น Super HT เน้นสีใสๆน่ะ
บันทึกการเข้า
Buranasak
Verified
อาจารย์ปู่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,761


กันต์@ท่าอิฐ นนทบุรี 081-4340153


« ตอบ #210 เมื่อ: 18 มกราคม 2014, 07:14:56 »

การไล่ลมสูตรของผม ผมใช้วิธีดังนี้ครับ

ไล่ขันข้อต่อต่างๆให้แน่น แล้วลองไล่ลมใหม่ดังนี้
คลายที่รัดท่อน้ำตรงวาล์วน้ำออกถอดท่อน้ำออกมา(ส่วนอื่นขันให้แน่น)
 เปิดฝาหม้อน้ำออก เอาสายยางยัดเข้าตรงฝาหม้อน้ำเลย เปิดน้ำเข้าไปแล้วดูว่าน้ำไหลมาถึงวาล์วน้ำที่มีรูเล็กๆระบายแรงดันน้ำหรือยัง
                 อีกด้านปลายท่อยกไว้ให้สูง อย่าให้น้ำไหลออก กรอกน้ำใส่ท่อนี้ให้มาถึงปลายๆสายเลย แล้วเอาไปเตรียมสวมตรงท่อวาล์วน้ำ เมื่อน้ำได้ระดับที่วาล์วน้ำจนเต็มและไหลออกมาจากรูเล็กๆ
    รีบสวมท่อเข้าไปดันให้ได้ระดับที่จะล็อค แต่อย่าเพิ่งขันรัดสาย ให้เอาสายยางไปเสียบลงที่คอหม้อน้ำเหมือนเดิม เปิดน้ำให้แรง ให้น้ำดันลมในระบบออกจนน้ำดันลอดช่องของปลายท่อน้ำที่เราสวมเข้าตรงวาล์วน้ำ เมื่อเห็นน้ำดันออกมาจากท่อ ให้ทำการเริ่มขันสายรัดท่อให้แน่นไปพร้อมกับการปล่อยน้ำเข้าไปด้วย และขันจนแน่น
    ที่เหลือก็เติมให้เต็มคอหม้อน้ำ ถังพักน้ำสำรอง ปิดฝาหม้อน้ำ ลองติดเครื่องยนต์ รันระบบดู ช่วงที่วาล์วยังไม่เปิด ท่อน้ำล่างต้องกดดูแล้วต้องแข็งๆต้านนิ้ว ถ้าบีบแล้วไม่ต้านนิ้ว แสดวงว่ายังมีลม แต่ถ้าไล่วิธีนี้ลมออกได้เกือบหมด ของผมไล่แบบนี้จึงหมดครับ
    ลองดูตามนี้ครับ แต่ถ้ามันเดี๋ยวร้อนบ่อยๆ นะ ถ้าในระบบมีลม ถ้าเติมน้ำยาหม้อน้ำไปด้วยล่ะก็ หม้อน้ำต่อให้ใหม่แค่ไหนก็ตันครับ แนะนำให้ถ้าไล่ลมแล้วไม่หายเอาไปล้างหม้อน้ำครับ ค่อยมาเติมน้ำไล่ลมใหม่ครับ
    ผมต้องล้างหม้อน้ำถึงสองครั้งในรอบ 1 เดือน เพราะหม้อน้ำตันจากน้ำยาหม้อน้ำแข็งตัว เมื่อน้ำไม่เต็มระบบ มันจะกลายเป็นผงสีขาวๆอุดท่อน้ำครับ ใหม่แค่ไหนก็ตันได้ครับถ้าเครื่องร้อนขนาดนั้น
                 สรุป ใครเจอปัญหาความร้อน ให้ไปต่อสายตรงพัดลมหม้อน้ำดูว่าพัดลมทำงานได้ไหม ถ้าพัดลมทำงาน  ให้หาที่รั่วก่อนเลย ทุกจุด ข้อต่อต่างๆ ถอดท่อน้ำออกมาทำความสะอาดหน้าสัมผัสงานได้ยิ่งดี ต้องมีที่รั่วแน่ หาที่รั่วเสร็จถ้ายังไม่หาย ไปล้างหม้อน้ำให้สะอาด ดูวาล์วน้ำด้วย ถอดไปต้มดูว่าเปิดไหม เบื้องต้นดูเท่านี้ก่อน

ใส่ภาพด้วยได้จะดีมากครับ คนไม่เคยทำ ทำเป็นเบย ไล่ลมสูตรท่าน Sitti
บันทึกการเข้า

เอาน่า...ทนๆไปก่อน...รถมันเก่าแล้ว
Honda Civic EK 96-D16Y4 AT
โทรศัพท์  081-4340153
**********************************************************
กระทู้แอร์ครับ....ลองไปอ่านดู
★★ระบบแอร์รถยนต์ Honda Civic -- คลังความรู้เรื่องแอร์รถยนต์ Civic EG,EK,Si ★★
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=169234.0
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #211 เมื่อ: 18 มกราคม 2014, 10:21:50 »

ถ้ามีโอกาส จะใส่ให้ครับ
บันทึกการเข้า
Ko Bangplee
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329



« ตอบ #212 เมื่อ: 25 มกราคม 2014, 12:19:04 »

up  จุมพิต
บันทึกการเข้า
rutputin
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 344



« ตอบ #213 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 16:21:42 »

พี่ครับรบกวนนิดครับ ถ้าปั๊มน้ำรั่ว วิธีซ่อมนี้เปลี่ยนใหม่ยกลูกหรือมีวิธีที่ประหยัดกว่านี้ครับ ขอบคุณครับ

 จุมพิต จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

Whatapp : 0814277718 กรุณาโทร12.00-04.00
Line : my_name_is_bank หรือ http://i.imgur.com/Mh8qBHS.jpg
แบงค์ครับ
Buranasak
Verified
อาจารย์ปู่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,761


กันต์@ท่าอิฐ นนทบุรี 081-4340153


« ตอบ #214 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 16:51:14 »

พี่ครับรบกวนนิดครับ ถ้าปั๊มน้ำรั่ว วิธีซ่อมนี้เปลี่ยนใหม่ยกลูกหรือมีวิธีที่ประหยัดกว่านี้ครับ ขอบคุณครับ

 จุมพิต จุมพิต จุมพิต จุมพิต

มันรั่วหรือครับ ใช้มานานกี่ปีแล้วครับ ปั๊มน้ำตัวนี้
บันทึกการเข้า

เอาน่า...ทนๆไปก่อน...รถมันเก่าแล้ว
Honda Civic EK 96-D16Y4 AT
โทรศัพท์  081-4340153
**********************************************************
กระทู้แอร์ครับ....ลองไปอ่านดู
★★ระบบแอร์รถยนต์ Honda Civic -- คลังความรู้เรื่องแอร์รถยนต์ Civic EG,EK,Si ★★
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=169234.0
rutputin
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 344



« ตอบ #215 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 17:04:41 »

มันรั่วหรือครับ ใช้มานานกี่ปีแล้วครับ ปั๊มน้ำตัวนี้

ไม่แน่ใจจริงๆครับพี่ น่าจะตอนซ่อมใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อนครับ รถไม่ค่อยได้ใช่เกี่ยวด้วยป่ะครับ
บันทึกการเข้า

Whatapp : 0814277718 กรุณาโทร12.00-04.00
Line : my_name_is_bank หรือ http://i.imgur.com/Mh8qBHS.jpg
แบงค์ครับ
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #216 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 17:13:07 »

ส่วนใหญ่ถ้ารั่วอาจมีสาเหตุมาจากการรั่วที่ซีลยาง เนื่องจากยางโดนความร้อนมานานหมดสภาพ หรือการรั่วจากการที่ไม่เติมน้ำยาหล่อเย็น คือมันเป็นสนิม รั่วแบบตามดบ้างตามขอบๆซีล ถ้ารั่วแบบนี้มักเปลี่ยนใหม่ การที่ถ้าไม่รั่วที่ตัวโลหะอาจเปลี่ยนแค่ยางโอริงมัน ในกรณีที่ลูกปืนมันยังดีอยู่นะ ไม่หลวมไม่คลอน ถ้าหายางใหม่ใส่แทนได้ก็จะประหยัด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ว่าใบพัดปั้มน้ำต้องไม่บิ่น ไม่หัก ก็ควรเปลี่ยนแค่ยางโอริง แต่ปกติแล้วการรื้อมันรื้อยาก เขาจึงตัดปัญหาจุกจิกที่จะตามมาหากทำไม่ดีโดยการเปลี่ยนของใหม่ครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #217 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 17:18:15 »

แนะนำว่าถ้ามีการเปลี่ยนสายพานราวลิ้น ควรเปลี่ยนปั้มน้ำด้วยทุก 100,000 กม ครับ
บันทึกการเข้า
rutputin
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 344



« ตอบ #218 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 17:48:54 »

แนะนำว่าถ้ามีการเปลี่ยนสายพานราวลิ้น ควรเปลี่ยนปั้มน้ำด้วยทุก 100,000 กม ครับ
ส่วนใหญ่ถ้ารั่วอาจมีสาเหตุมาจากการรั่วที่ซีลยาง เนื่องจากยางโดนความร้อนมานานหมดสภาพ หรือการรั่วจากการที่ไม่เติมน้ำยาหล่อเย็น คือมันเป็นสนิม รั่วแบบตามดบ้างตามขอบๆซีล ถ้ารั่วแบบนี้มักเปลี่ยนใหม่ การที่ถ้าไม่รั่วที่ตัวโลหะอาจเปลี่ยนแค่ยางโอริงมัน ในกรณีที่ลูกปืนมันยังดีอยู่นะ ไม่หลวมไม่คลอน ถ้าหายางใหม่ใส่แทนได้ก็จะประหยัด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ว่าใบพัดปั้มน้ำต้องไม่บิ่น ไม่หัก ก็ควรเปลี่ยนแค่ยางโอริง แต่ปกติแล้วการรื้อมันรื้อยาก เขาจึงตัดปัญหาจุกจิกที่จะตามมาหากทำไม่ดีโดยการเปลี่ยนของใหม่ครับ

ขอบคุณครับ  จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

Whatapp : 0814277718 กรุณาโทร12.00-04.00
Line : my_name_is_bank หรือ http://i.imgur.com/Mh8qBHS.jpg
แบงค์ครับ
Buranasak
Verified
อาจารย์ปู่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,761


กันต์@ท่าอิฐ นนทบุรี 081-4340153


« ตอบ #219 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 20:50:01 »

up  จุมพิต

ท่านโก เปลี่ยนรูปใหม่ หล่อเฟี้ยวเลย จุมพิต
บันทึกการเข้า

เอาน่า...ทนๆไปก่อน...รถมันเก่าแล้ว
Honda Civic EK 96-D16Y4 AT
โทรศัพท์  081-4340153
**********************************************************
กระทู้แอร์ครับ....ลองไปอ่านดู
★★ระบบแอร์รถยนต์ Honda Civic -- คลังความรู้เรื่องแอร์รถยนต์ Civic EG,EK,Si ★★
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=169234.0
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #220 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 21:07:03 »

ท่านโก เปลี่ยนรูปใหม่ หล่อเฟี้ยวเลย จุมพิต
น่าจะเปลี่ยนตั้งนานแล้ว  โกรธ
บันทึกการเข้า
Buranasak
Verified
อาจารย์ปู่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,761


กันต์@ท่าอิฐ นนทบุรี 081-4340153


« ตอบ #221 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 22:03:22 »

เสริมนิดหนึ่ง แนวทางเดียวกันโดยมาก การั่วของปั๊มน้ำส่วนใหญ่จะเกิดจากยางโอริงตรงบริเวณขอบของปั๊มน้ำมีอาการตาย
ไม่ยืดหยุ่น หดว่างั้น ฉะนั้นน้ำในระบบสามารถรั่วออกมาได้ เนื่องจากระบบหล่อเย็นของรถยนต์จะมีแรงดันของระบบอยู่

แต่ที่สำคัญกว่านั้น ปั๊มน้ำที่ผ่านการใช้งานมาระดับหนึ่ง มักจะเกิดปัญหาตามมาในแง่ของ เป็นสนิม ใบพัดปั๊มหัก เพราะเป็นสนิม
ลูกปืนเสีย ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่  การประหยัดสุดๆ คือ การเปลี่ยนโอริงอย่างเดียวโดยสภาพของตัวปั๊มยังใช้ได้อยู่นะครับ ถึงน่าจะเปลี่ยน
โอริง ถ้าจบได้ก็ดีไป

ตัวอย่างภาพเป็นรถของผมเอง อาการเดียวกับท่านยางโอริงมันตาย เลยเกิดอาการรั่วขึ้นมา ใช้ได้ประมาณ 2-3 ปีนี้หละผมจำเดือนไม่ได้
ครับ ถ้าคนใช้มานานเกินห้าปีก็สภาพคงแย่กว่าผมอีก ใส่น้ำยาหม้อน้ำนะครับ ยังขนาดนี้(ตามรูป)

ฉะนั้น ถึงแม้ว่าสภาพยังดีอยู่แนะนำให้เปลี่ยนเลย ซึ่งการเปลี่ยนในชุดนี้จะเปลี่ยนไปพร้อมกันเลย คือ ปั๊มน้ำ สายพานราวลิ้น และลูกรอกตั้งสายพาน
ครบชุดจบทุกอย่าง เพราะค่ารื้อจะเท่านั้น สมุติไล่เปลี่ยนทีละอย่างก็ต้องเสียค่าแรง 3 รอบ ครับ

ลองพิจารณาดูครับ


* IMG_.jpg (137.29 KB, 600x450 - ดู 1473 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

เอาน่า...ทนๆไปก่อน...รถมันเก่าแล้ว
Honda Civic EK 96-D16Y4 AT
โทรศัพท์  081-4340153
**********************************************************
กระทู้แอร์ครับ....ลองไปอ่านดู
★★ระบบแอร์รถยนต์ Honda Civic -- คลังความรู้เรื่องแอร์รถยนต์ Civic EG,EK,Si ★★
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=169234.0
Buranasak
Verified
อาจารย์ปู่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,761


กันต์@ท่าอิฐ นนทบุรี 081-4340153


« ตอบ #222 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 22:05:28 »

จัดตัวใหม่ น่าจะสบายใจกว่าครับ ผมว่า


* 12.jpg (113.84 KB, 600x450 - ดู 1473 ครั้ง.)

* 13.jpg (101.41 KB, 600x450 - ดู 1466 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

เอาน่า...ทนๆไปก่อน...รถมันเก่าแล้ว
Honda Civic EK 96-D16Y4 AT
โทรศัพท์  081-4340153
**********************************************************
กระทู้แอร์ครับ....ลองไปอ่านดู
★★ระบบแอร์รถยนต์ Honda Civic -- คลังความรู้เรื่องแอร์รถยนต์ Civic EG,EK,Si ★★
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=169234.0
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #223 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 23:36:51 »

ตัวนี้ของแท้ ตัวเท่าไหร่ครับอาจารย์
บันทึกการเข้า
Bas Na Korat
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #224 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 09:59:05 »


คุณ Sitti2519

ขอปรึกษาหน่อยครับ ตัวประเก็นเหลวสีดำ มันเป็นหลอดใช่ไหม ยี่ห้ออะไร พอจะมีรูปให้ดูไหมครับ  ขยิบตา

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #225 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:15:30 »

คุณ Sitti2519

ขอปรึกษาหน่อยครับ ตัวประเก็นเหลวสีดำ มันเป็นหลอดใช่ไหม ยี่ห้ออะไร พอจะมีรูปให้ดูไหมครับ  ขยิบตา

ขอบคุณครับ
ใช่ครับ บอกเอาของโตโยต้าครับ ผมก็ไม่เคยอ่านยี่ห้อมันนะ บอกเขาแค่ว่าเอากาวดำของโตโยต้าครับ เดี๋ยวเขาจัดให้เลยตามร้านขายอะไหล่ครับ ราคาราวๆ 120 บาท ใน กทม. ครับ แต่ยังไงก็ไม่เกิน 150 ครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #226 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:19:37 »

ถ้าจำไม่ผิดมันน่าจะเขียนว่า DAITEN หรือ อะไรประมาณนี้ ผมก็ไม่ค่อยได้สนใจจำเท่าไหร่ครับ พอดีมันอยู่ท้ายรถครับ ซึ่งมันจอดอยู่ไกลที่ทำงานครับ เอาแค่ไปบอกเขาว่ากาวดำ 1 หลอด ของโตโยต้าครับ แค่นั้น เดี๋ยวได้มาครับ อย่าไปใช้พวกกาวสีขาวนะ มันไม่ค่อยอยู่ครับ เคยลองใช้แล้ว ไม่ได้เรื่อง กาวดำดีที่สุดครับ
บันทึกการเข้า
Bas Na Korat
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #227 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:19:49 »

ใช่ครับ บอกเอาของโตโยต้าครับ ผมก็ไม่เคยอ่านยี่ห้อมันนะ บอกเขาแค่ว่าเอากาวดำของโตโยต้าครับ เดี๋ยวเขาจัดให้เลยตามร้านขายอะไหล่ครับ ราคาราวๆ 120 บาท ใน กทม. ครับ แต่ยังไงก็ไม่เกิน 150 ครับ

ขอบคุณมากครับ จะลองไปหามาเก็บไว้ครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #228 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:22:42 »

อ้อ อย่าไปเถียงเขานะ ถ้าเขาหยิบมาให้ แล้วไม่เขียนว่าโตโยต้าน่ะ เพราะมันไม่ได้เขียนว่า TOYOTA หรอกครับ แต่เขาเรียกกาวดำของโตโยต้า ผมก็งงเหมือนกัน ขยิบตา
บันทึกการเข้า
Ko Bangplee
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329



« ตอบ #229 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 12:01:49 »

ท่านโก เปลี่ยนรูปใหม่ หล่อเฟี้ยวเลย จุมพิต

เห็นหน้าตัวเองแล้วมันยังงัยไม่รุ๊    ขอเปลี่ยนเป็นเขื่อนห้วยหลวง ที่ผมชอบไปนั่งจิบเบียร์แบบเดิมดีกว่า   ยิ้มเท่ห์
 
 
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #230 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 12:05:38 »

รูปเมื่อกี้แหละดีแล้ว เจอตัวจริงยังจะแทบจำไม่ได้เลย อย่าไปคิดมากดิ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #231 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2014, 11:04:22 »

มาต่อกันอีกนิดหน่อย ว่าด้วยวิธีการถ่ายน้ำหม้อน้ำ และไล่ลมวิธีของผมนะ ส่วนท่านอื่นจะทำแบบไหนก็แล้วแต่ครับ ผมทำสูตรนี้แล้วมันไล่ได้หมดเกลี้ยงเลย ยิงฟันยิ้ม


* 0018.jpg (111.84 KB, 936x526 - ดู 3264 ครั้ง.)

* 0019.jpg (101.53 KB, 936x526 - ดู 1490 ครั้ง.)

* 0020.jpg (100.21 KB, 936x526 - ดู 1537 ครั้ง.)

* 0021.jpg (91.06 KB, 936x526 - ดู 2183 ครั้ง.)

* 0022.jpg (115.46 KB, 936x526 - ดู 1615 ครั้ง.)

* 0023.jpg (111.71 KB, 910x511 - ดู 1448 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Bas Na Korat
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #232 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:33:41 »


ขอปรึกษาคุณ Sitti2519 หน่อยครับ

ในการถ่ายน้ำออกจากระบบ โดยดันให้น้ำไหลออกทางท่อที่อยู่ใกล้จานจ่ายน่ะครับ

เราสามารถทำตอนเครื่องเย็นๆได้ไหมครับ หรือว่าเราต้องทำตอนเครื่องร้อนเพื่อให้วาล์วน้ำเปิดก่อนครับ  ขยิบตา
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #233 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:44:23 »

ขอปรึกษาคุณ Sitti2519 หน่อยครับ

ในการถ่ายน้ำออกจากระบบ โดยดันให้น้ำไหลออกทางท่อที่อยู่ใกล้จานจ่ายน่ะครับ

เราสามารถทำตอนเครื่องเย็นๆได้ไหมครับ หรือว่าเราต้องทำตอนเครื่องร้อนเพื่อให้วาล์วน้ำเปิดก่อนครับ  ขยิบตา
ทำตอนเครื่องเย็นได้เลยครับ เพราะมันมีรูเล็กๆระบายแรงดันอยู่แล้ว น้ำมันจะไหลออกมาจากรูระบายเล็กๆนั้นเลย  อีกอย่างถ้าวาล์วน้ำเปิดมันจะไม่เต็มสักที เพราะน้ำมันจะไหลออกมาตรงวาล์วน้ำจนเติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม และไม่ควรทำตอนวาล์วเปิด เพราะเครื่องมันร้อนเอาน้ำเย็นเข้าไปไม่ได้ครับ ทำบ่อยๆฝาสูบจะโก่งเอาได้ ร้อนจัดมาเจอเย็น  ผมก็ทำตอนเครื่องมันเย็นแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:50:32 โดย Sitti2519 » บันทึกการเข้า
Bas Na Korat
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #234 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 11:50:44 »

ทำตอนเครื่องเย็นได้เลยครับ เพราะมันมีรูเล็กๆระบายแรงดันอยู่แล้ว น้ำมันจะไหลออกมาจากรูระบายเล็กๆนั้นเลย  อีกอย่างถ้าวาล์วน้ำเปิดมันจะไม่เต็มสักที เพราะน้ำมันจะไหลออกมาตรงวาล์วน้ำจนเติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม และไม่ควรทำตอนวาล์วเปิด เพราะเครื่องมันร้อนเอาน้ำเย็นเข้าไปไม่ได้ครับ ทำบ่อยๆฝาสูบจะโก่งเอาได้ ร้อนจัดมาเจอเย็น  ผมก็ทำตอนเครื่องมันเย็นแล้วครับ

ขอบคุณครับ  จุมพิต
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #235 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 12:50:16 »

อ้างจากกระทู้ของท่าน nuttapong  http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=191876.0

รถผมเป็นตาโต 97 ความร้อนมักจะขึ้นตอนเช้าหรือเวลามีอากาศเย็นๆ
มันขึ้นไปถึงตรงกลางค่อนไปข้างบน ขับไปซักพักมันจะลงมาปกติ
แล้วก็ขึ้นอีกแบบว่าขึ้นๆลงๆครับ อยากรบกวนทุกท่านครับช่วยวิเคราะห์ทีครับ
ลืมบอกไป รถผมติดแก๊ส LPG ดูดครับ
เบื้องต้นระบบแก๊สผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาครับ


อยากจะต่อให้อีกสักนิดสำหรับท่านที่มีปัญหาความร้อนแบบนี้      
ตามกระทู้ข้างบนเลยครับ ลองแก้แบบนี้ดูนะครับ


* 0003_1~1.jpg (130.22 KB, 1080x607 - ดู 1505 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 15:33:07 โดย Sitti2519 » บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #236 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 15:37:50 »

หากทำตามที่ผมได้อธิบายไว้แล้วความร้อนไม่ขึ้นแบบที่เคยขึ้น แสดงว่าเกิดจากระบบน้ำเดินไม่สะดวก ให้ลองรื้อชุดหม้อต้มแก๊สออกมาล้างทำความสะอาด เอาให้ดีถ้าเป็นผม ผมจะเอาน้ำยาล้างแอร์เทเข้าไปล้างในหม้อต้มเลย เอาให้มันกัดสุดๆไปเลย ดูสิว่ามันจะหายไหม ลองดูครับ
บันทึกการเข้า
Ko Bangplee
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329



« ตอบ #237 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2014, 09:14:33 »

ถึงเวลา ได้ใช้กระทู้นี้แล้ว 

พัดลมหม้อน้ำไม่หมุน    เดี๋ยวขออ่านทบทวนรอบนึงก่อน
บันทึกการเข้า
pimarn
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 333



« ตอบ #238 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2014, 09:42:15 »

ถึงเวลา ได้ใช้กระทู้นี้แล้ว 

พัดลมหม้อน้ำไม่หมุน    เดี๋ยวขออ่านทบทวนรอบนึงก่อน

+1 แหม อาการเดียวกันเลย
รถผมพึ่งวางเครื่อง D15B tec มาใหม่ แต่ผมสงสัยว่าทำไมความร้อนมันขึ้นน้อยมากวิ่งได้ 10 กิโลเมตร ความร้อนเข็มขึ้นประมาน 20เปอเซน ของไมล์
แต่ตอนจอดอยู่กลับที่ กลับขึ้นประมาณครึ้งเกจ์ความร้อน แล้วดูเหมือนว่าความร้อน จะลดตอนที่วิ่งอยู่เท่านั้น เพราะอะไรหรอกครับ ช่างวายสายไฟปิดเปล่าไม่รู้ คอมแอร์ยังไม่ได้ใส่นท่อคอมแอร์ แต่มันโทรมาบอกผมว่ารถเสร็จแล้ว - -
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #239 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2014, 10:19:42 »

+1 แหม อาการเดียวกันเลย
รถผมพึ่งวางเครื่อง D15B tec มาใหม่ แต่ผมสงสัยว่าทำไมความร้อนมันขึ้นน้อยมากวิ่งได้ 10 กิโลเมตร ความร้อนเข็มขึ้นประมาน 20เปอเซน ของไมล์
แต่ตอนจอดอยู่กลับที่ กลับขึ้นประมาณครึ้งเกจ์ความร้อน แล้วดูเหมือนว่าความร้อน จะลดตอนที่วิ่งอยู่เท่านั้น เพราะอะไรหรอกครับ ช่างวายสายไฟปิดเปล่าไม่รู้ คอมแอร์ยังไม่ได้ใส่นท่อคอมแอร์ แต่มันโทรมาบอกผมว่ารถเสร็จแล้ว - -

อาการนี้ไม่ใช่เขาถอดวาล์วน้ำออกไปแล้วเหรอ ดูด้วยว่ายังอยู่ไหม ถอดออกดูได้เลย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club DIY => คุณทำได้  |  หัวข้อ: ปัญหาความร้อนระบบหล่อเย็น ECT switch ECT sensor ECT gauge sending unit วาล์วน้ำ
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |