การล้างลิ้นเร่ง IACV การจูนแก๊สระบบมิกเซอร์ การอ่านรหัสข้อบกพร่องของรถยนต์

[Sitti2519]

ถ้าระบบมิกเซอร์ไม่ต้องใช้โปรแกรมครับ แต่ถ้าหัวฉีดจะมีโปรแกรมจูนครับ รถผมติดมิกเซอร์ หม้อต้มโทมาเซโต้ครับ ถ้าเป็นหัวฉีดไม่ต้องมาครับ เพราะผมไม่ได้ติดหัวฉีด เลยไม่ได้ซื้อสายจูนไว้ มันมีโปรแกรมมาพร้อมเลย ใช้ร่วมกันโน๊ตบุ๊ค ไม่ได้ทำรับจ้างเป็นอาชีพเลยไม่ได้ซื้อครับ ไม่รู้จะไปจูนให้ใคร ปกติก็ทำฟรีตลอด เลยไม่คิดจะซื้อ แต่ก่อนเรียนจบใหม่ๆว่าจะอัพเป็นหัวฉีดเหมือนกัน คิดไปคิดมากินแก๊สไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ เทียบกับรถที่เขาติดหัวฉีดแล้วแทบไม่ต่างกันมาก เลยเอาเงินไว้เติมแก๊สดีกว่า การดูแลรักษาถ้าหัวฉีดพังก็ซื้อยกชุด ผมมิกเซอร์แค่หม้อต้มก็จบ จูนให้น้ำมันเดินเบาที่ 800 รอบ แก๊สก็จูนเท่ากันได้ วิ่งได้แทบไม่แตกต่างจะเอาแรงขนาดไหน

[Sitti2519]

ส่วนมีช่างบางคนบอกว่าน้ำมันกับแก๊สตั้งไฟไม่เท่ากันนั้นมั่วครับ ถ้าจะเอาแก๊สนิ่ง น้ำมันจะไม่นิ่งนะไปโน่น ไม่จริงครับอยู่ที่ผู้จูนครับ ไฟเท่ากันเป๊ะเลย รอบน้ำมันกับแก๊สเท่ากันไม่เห็นแปลก ก็พูดไปเรื่อยแบบฟังกันมาผิดๆครับ

[fisherman]

  ดมแก๊สกะไม่ดมแก๊สต่างกันตรงนี้แหละ การล้างลิ้น(ปีกผีเสื้อ)ต้องทำพร้อมๆกับการตั้งรอบเดินเบาเลย ทำอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้

เดี๋ยวมีโฮ ดูกระทู้เก่าๆครับ อ่านเยอะๆแล้วต้องทำตามอาการนั้นเลย เปิดเน็ตไว้ด้วยเดี๋ยวลืม สำหรับผมอยู่

ไกลต้องเปิดเน็ตแล้วซ่อมครับ ฟังดูขำแต่ทำได้จริงขอบอก

[Buranasak]

ดีใจด้วยครับ ไปถอด ไปปรับมัน แล้วไม่ reset กล่องมันงง การทำรถที่ดี ใช้เข้าใจในหัการทำงานของเครื่องยนต์
ให้ถ่องแท้ แล้วปฏิบัติต่อรถเรานี้หละครับ พยายามจดรายละเอียดไว้อ่านให้เข้าใจและทำ

ผมขอแจ้งไว้ก่อนนะครับ ถ้าอ่านแล้วไม่ทำ รับรองไม่สำเร็จแน่ ท.ษ. หลักการทางด้านรถยนต์ เขามีไว้ให้เข้าใจ
แต่การปฏิบัติจริงๆบางอย่างต้องพลิกแพรง การซ่อมจะต้องไล่ให้หมด ตีตื้นจนจนมุม อย่างเรื่องระบบ cooling
ของผมตีตื้นมาหละ อีกนิดเดียว ผมได้ปฏิบัติจนเข้าใจ เหนื่อยครับ แต่ผมค่อนข้างอึด ไม่ยอมมันง่ายๆ

ฉะนั้นเบื้องต้นที่รอบค้างแก้หายแล้ว เดี๋ยวไปเรื่องอื่นต่อ จำไว้ครับ ไปถอดปลั๊ก ถอดสาย Sensor ต่างๆ
ต้อง Reset มันทุกครั้ง ท.ษ บอกไว้ไหม ผมไม่แน่ใจ แต่ทำทุกครั้ง

[Ko Bangplee]

ไม่น่าเลย พลาดเต็มๆ 
แต่พูดถึงที่ B-Quik ผมก็ไม่ได้ให้เขาปรับ  เขาเห็นมันผิดปกติ เขาลุยกันเลย ไม่ถามด้วยนะ สรุปว่าเขามีเจตนาหวังดีนั่นแหละ

ก็ไหนๆ อีกนั้นแหละ ขอคำแนะนำเรื่องการปรับจานจ่ายด้วยครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะถ่ายรูปมาให้ดูว่าเขาปรับตรงไหนไปบ้าง 

[Buranasak]

อันนี้ เป็นวิธีการ Reset กล่อง ECU แตกต่างกันไป วัตถุประสงค์ คือ ให้มันลืมค่าเก่าๆ ให้มันเริ่มจำค่าให้ (ล้างสมอง)
เอามาฝากกัน วิธีต่างกัน น่ะ อย่างของผมข้างบนก็ทำอย่างนั้น ก็ Work ครับอย่างของท่าน Ko Bangplee ทำแล้วหายนั้นหละ



Reset ECU Honda Civic 92 วิธีรีเซ็ตกล่อง ECU 

01 : ดับเครื่องรถก่อนเลย
02 : ถอดขั่วแบต ขั่วลบนะครับ
03 : บิดกุญแจ On
04 : เปิดไฟหน้า ทิ้งไว้ 10 นาที [เปิดไว้แต่ไฟหน้าไม่ติดหรอกครับ ต้องการให้มันกินกระแสไฟฟ้าให้หมด        ไม่เหลือสำรองไปเลี้ยง ECU]
05 : หลังจาก 10 นาที ก็ปิดไฟหน้า
06 : บิดกุญแจ Off
07 : ใส่ขั่วแบต ขั่วลบที่ถอดมานั้นแหละกลับเข้าทีครับ
08 : บิดกุญแจ On
09 : กดคันเร่งให้สุด และ ปล่อย ทำ 2 ครั้ง
10 : กดเบรคให้สุด และ ปล่อย ทำ 2 ครั้ง
11 : บิดกุญแจ Off
12 : Start เครื่อง
13 : กดคันเร่งและเลี้ยงรอบประมาณ 2000 รอบ โดยที่ไม่เปิดแอร์ และให้สังเกตุ พัดลมหม้อน้ำทำงาน 2 รอบ
14 : ปล่อยเครื่องเดินเบา สักครู่ 2 นาที และดับเครื่อง
15 : Start เครื่อง แล้วเปิดแอร์ ปล่อยเครื่องเดินเบาไปสัก 5 นาที
16 : ดับเครื่อง ตอนนี้ ECU เรียนรู้ค่าเริ่มต้นครบหมดแล้ว
17 : สามารถใช้งานปกติได้แล้ว

[Sitti2519]

ฟังมา หรืออ่านอย่างเดียว ไม่เจ๋งจริงหรอกครับ อย่างที่พี่บูรณะศักดิ์ว่าไว้แหละครับ ชัดเจนเลยคนที่ทำงานผม พูดเรื่องอะไรมารู้หมด รู้ทุกเรื่อง ตอบได้ (แบบแถไปเรื่อยๆน่ะ) พอให้ทำจริงทำไม่เป็นครับ วิ่งไปหาช่างให้ทำให้ ผมล่ะเอือมระอาจริงๆ จริงๆแล้วผมอยากถ่ายทอดความรู้ผมให้เขานะ อยากให้เรียนรู้และคิดเป็น ซ่อมเป็น ไม่ใช่เก่งแต่โม้อย่างเดียวจะได้ไม่ต้องเอารถหลวงที่ทำงานไปให้คนอื่นทำ ผมว่าช่างพวกนี้ทำไม่ดี ถ้าไม่เสียเลยเขาก็ไม่มีงาน ผมเน้นให้ทำเองตลอด แต่ตำแหน่งหน้าที่ช่างโดยตรงไม่ใช่ผม อันนี้คือความต้องการเรียนรู้พิเศษที่พึ่งพาอาศัยตนเองได้ ผมนิยมแบบนี้ครับ มั่นใจในผลงานของตัวเองครับ

[Buranasak]

ต่อมาก็เรื่อง เปิดแอร์รอบตกเกือบดับ อันนี้เป็นตอนน้ำมันตอนสตาร์ทใหม่ๆ ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ผมอยากให้ลอง
เรื่อง สกูรปรับรอบเดินเบาก่อนหละกัน ก่อนจะไปเรื่องอื่น ช่าง(เถอะ) เขาคงหมุุนมั่วๆแน่ วิธีการ คือ ตอนสตาร์ท
น้ำมัน เมื่อเครื่องนิ่งๆ หรือไม่นิ่งก็แล้วแต่ให้ปรับสกูรตัวนี้ให้อยู่ในค่าที่ท่าน Sitti บอกไว้ให้ได้ก่อนครับ ขอให้นิ่งๆ
เมื่อนิ่งๆแล้ว ลองเปิดแอร์ตอนอยู่ในสภาวะที่ใช้น้ำมันนั้นหละ ลองดูว่ามันหวบลงเยอะไหม ถ้าเยอะให้หมุนสกูรเปิด
ช่วยมันทีละนิดนะครับ ว่าเท่าไหร่ถึงจะเอารอบตอนที่คอมเพรสเซอร์โหลด หรือทำงานอยู่

[Amic]

เรื่องทฤษฎีกับปฏิบัตินี่ต่างกันเยอะครับ  ขนาดผมตามกระทู้ ยังไม่เหมือนเลย วันนี้ก็ถอดเบรคหลัง มาตามกระทู้เก่า ๆ ล่อซะครึ่งวันเลย งงไปพักใหญ่เลย  เหนื่อยจริง ๆ   
ตอนนี้กำลังรอพี่ ๆ รีวิวิ  เปลี่ยนสายคันเร่ง , ถอดเบรคหน้า, เปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์, เบรค,เกียร์ อะไรพอทำได้ก็ทำไปก่อน

[Sitti2519]

ของผม d16y8 ล้างลิ้นแล้วปิดสกรูนี้ให้สุด แล้วหมุนเปิดไว้ก่อนเลยประมาณ 3 รอบ ทีนี้ก็อุ่นเครื่องเร่งเครื่องให้เข็มความร้อนขึ้นกึ่งกลางให้ได้ก่อนครับ จะให้ดีให้พัดลมหม้อน้ำทำงานก่อนครับแล้วค่อยลดคันเร่งให้อยู่ในสถานะเดินเบาที่ประมาณ 800 รอบ ก็ได้ครับ นี่คือจบแล้วการตั้งรอบเดินเบา ไม่ต้องเปิดแอร์นะครับ อ้อ การตั้งรอบเดินเบาที่ถูกต้องห้ามเปิดโหลดใดๆทั้งสิ้น แม้แต่ขณะที่พัดลมหม้อน้ำกำลังทำงานก็ห้ามปรับตอนนั้นนะครับ ให้พัดลมหยุดหมุนก่อนค่อยหมุนปรับหาครับ เมื่อได้ 800 รอบคือจบแล้วครับ ส่วนเวลาเปิดแอร์ ถ้ารอบมันสวิงให้ล้างตัวชดเชย IACV นั่นแหละครับ มันจะปรับอัตราการจ่ายน้ำมันให้เองอัตโนมัติ เพราะมันควบคุมด้วย ECM ไม่ต้องไปห่วงมันถ้าล้างสะอาดแล้ว คือมันจะชดเชยให้เองนะ

[Buranasak]

ทีนี้...มันยังเป็นอยู่ หันมาดูเรื่อง จานจ่าย กัน...ช่างดันทะลึ่ง ไปปรับจานจ่ายให้อ่อนหรือแก่ไม่รู้ เขาเรียก
ว่าจานจ่ายครับ ทำหน้าที่เป็นสะพานไฟ เข้าสายหัวเทียนในการจุดระเบิด ไม่รู้เรีกยถูกไหม แต่ผมเข้าใจ
ในกลศาสตร์การทำงานของมัน

ตัวนี้ใช่ไหมครับ ที่เขาไปยุ่งกับมัน Focus มาที่ประเด็นจานจ่ายกอนน่ะ เรื่องอื่นๆ เดี๋ยวมาว่ากัน

[Amic]

ของผม d16y8 ล้างลิ้นแล้วปิดสกรูนี้ให้สุด แล้วหมุนเปิดไว้ก่อนเลยประมาณ 3 รอบ ทีนี้ก็อุ่นเครื่องเร่งเครื่องให้เข็มความร้อนขึ้นกึ่งกลางให้ได้ก่อนครับ จะให้ดีให้พัดลมหม้อน้ำทำงานก่อนครับแล้วค่อยลดคันเร่งให้อยู่ในสถานะเดินเบาที่ประมาณ 800 รอบ ก็ได้ครับ นี่คือจบแล้วการตั้งรอบเดินเบา ไม่ต้องเปิดแอร์นะครับ อ้อ การตั้งรอบเดินเบาที่ถูกต้องห้ามเปิดโหลดใดๆทั้งสิ้น แม้แต่ขณะที่พัดลมหม้อน้ำกำลังทำงานก็ห้ามปรับตอนนั้นนะครับ ให้พัดลมหยุดหมุนก่อนค่อยหมุนปรับหาครับ เมื่อได้ 800 รอบคือจบแล้วครับ ส่วนเวลาเปิดแอร์ ถ้ารอบมันสวิงให้ล้างตัวชดเชย IACV นั่นแหละครับ มันจะปรับอัตราการจ่ายน้ำมันให้เองอัตโนมัติ เพราะมันควบคุมด้วย ECM ไม่ต้องไปห่วงมันถ้าล้างสะอาดแล้ว คือมันจะชดเชยให้เองนะ

ปิดนี่คือหมุนตามเข็ม  เปิดคือทวนเข็มใช่ป่าวครับพี่

[Sitti2519]

อาการเบาดับน่ะเกิดจากเขาปรับสกรูเดินเบาไม่ถูกต้อง ทำน้ำมันได้แล้วค่อยไปจูนแก๊ส แต่ครับแต่ ท่านต้องไปตั้งไฟให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกครับ ค่อยมาปรับเดินเบาอีกที การตั้งไฟที่ดีเขาจะใช้ไทมิ่งไลท์ส่องตั้งครับ ถ้าไม่มีก็ความรู้สึกล้วนๆจริงๆครับ การปรับไฟ คือ หมุนจานจ่ายตามเข็มนาฬิกา คือไฟอ่อน หมุนย้อนเข็มนาฬิกา คือ ไฟแก่ครับ ปกติเขาจะปรับไปให้ค่อนข้างแก่ครับ ถ้าจำไม่ผิดไฟอ่อนมากเครื่องจะร้อนครับ แก่มากไปเครื่องจะเขกครับ ตอนเร่งเครื่องน่ะนะ ถ้าปรับไปแก่ เร่งแล้ว บรื้นๆๆ แน่นๆน่ะ แจ่มครับ แก่เกินก็เสียงแกร๊กกกๆๆ ประมาณนั้น เร่งไม่แน่นน่ะครับ ให้มันค่อนข้างไปแก่นะ แต่อย่าแก่เกินครับ

[Sitti2519]

ปิดนี่คือหมุนตามเข็ม  เปิดคือทวนเข็มใช่ป่าวครับพี่

ถืก ๆๆๆๆ ถืกต้องแล้วคร๊าบบบบ

[Sitti2519]

ที่เหลือรอพี่บูรณะศักดิ์อธิบายต่อเลยครับ

[Buranasak]

การปรับตั้งไฟ

เมื่อเราต้องทำการปรับตั้งไฟ เพื่อให้มีกระแสไฟเพียงพอไม่อ่อน จนทำให้เครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด
หรือ ตั้งแก่ไปจนทำให้เกิดอาการเขก ของเครื่องยนต์

ตัวอย่างการปรับคล้ายๆกันนะ ของท่านเป็น EG  ของผมเป็น EK ขออธิบาย EK ที่เคยทำมาก็แล้วกัน
ใต้จานจ่ายจะมีน๊อตยึดเบอร์ 12 อยู่ 2 ตัวครับ( รถผมเป็นรุ่นโบราณ D16Y4 AT) จานจ่ายหน้าตาโบราณ
จะมีน๊อตกี่ตัวยึดอยู่ก็สังเกตุรถของตัวเองเอาน่ะครับ ...คลายน๊อตออกพอหลวมๆ ฝืดๆ คือให้มันหมุนได้
การปรับของผมจะใช้วิธีการปรับตอนสตาร์ทเครื่อง ซึ่งต้องมันใจจริงๆนะครับ อย่าสั่นหรือปล่อยจานจ่าย
ต้องอุ้มและพยายามหัวจานจ่ายให้ชิดกับขอบตรงช่อนฝาวาล์วไว้ เขี้ยวมนจะเหลื่อมกัน หักหละทีนี้ งานเข้าอีก
ต้องพยายามนะครับ

สังเกตุตรงี่เราปรับจะมีช่องที่น๊อตยึดอยู่ให้ปรับมากลางๆ เปิดแอร์ด้วยดูว่า ตอนเราปรับเสียงเครื่องเร่งมากน้อยแค่ไหน
เอาแบบเสียงนิ่มๆนะครับ แล้วสังเกตุดูว่า แอร์รอบตกไหม สู้ได้ไหมตอนที่แอร์โหลด

จำไว้ครับการตั้งไฟ จานจ่าย คือ ..ตามอ่อน  ย้อนแก่

ตามอ่อน ก็คือ การปรับหมุนจานจ่ายให้หมุนตามเข็มนาฬืิกา เมื่อเราหันหน้าเข้าไปหาจานจ่ายตามระบบเข็มนาฬิกา ไฟจะอ่อน รอบจะเงียบเกิน ไม่ดี ไม่ดี

ย้อนแก่ ก็คือ การปรับหมุนจานจ่ายให้หมุนทวนเข็มนาฬืิกา เมื่อเราหันหน้าเข้าไปหาจานจ่ายตามระบบเข็มนาฬิกา ไฟจะแก่ รอบจะแรงขึ้น ถ้าปรับแก่เกิน ไม่ดี ไม่ดี



ดูภาพเลยครับ ขอแนะนำมือต้องมั่นๆ อย่าพลาดงานจะเข้า อาจเป็นวิธีที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เขาทำกันครับ

[Buranasak]

ที่เหลือรอพี่บูรณะศักดิ์อธิบายต่อเลยครับ

ท่าน Sitti ว่าต่อเลย ผมเริ่มหิวข้าวแล้ว ขอไปกินข้าวก่อน

 

[Sitti2519]

เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดแผนจะถอด IACV ไอเดิลแอร์คอนโทรลวาล์ว ออกมาล้าง ลงให้จบๆกระทู้นี้ไปจะได้สมบูรณ์ครับ ย้ำนะครับถ้าไม่มีอะไรผิดแผน จะจัดให้ครับ

[Buranasak]

ปรับตั้งไฟ โดยมากรถเก่าๆ เขาจะเพิ่มไฟให้แก่กัน เพราะ มันเก่า เหมือนคนอายุมากๆต้องชาร์ทไฟ เห็นสาวๆไม่ได้เลย

[Buranasak]

ถ้าท่าน Ko Bangplee ลองตั้งเอง โดยมากจะมีปัญหาเรื่องการตั้งแก่ไป ก็จะเกิดอาการเขก ตามมา

อาการ"เขก" เรียกอีกอย่างว่าการชิงจุดครับ แปลว่ามันจุดระเบิดตัวเองก่อนที่หัวเทียนจะสั่งให้มันจุด
เนื่องจากมีอะไรบางอย่างไปกระตุ้นมัน หรือมันทนสภาวะนั้นๆไม่ไหว
เลยยอมระเบิดพลีชีพไปซะก่อนที่หัวเทียนจะสั่งลุย

เลยทำให้หัวลูกสูบถูกแรงระเบิดถีบลงก่อนจังหวะที่เหมาะสม
เลยจะมีเสียง แกร็กๆๆๆๆๆๆ คล้ายๆโลหะกระทบกันนั้นเอง

[Sitti2519]

ก็ตามที่พี่ได้อธิบายไว้แล้วน่ะครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละคน ประสบการณ์ล้วนๆ เพราะไม่ได้ใช้ไทมิ่งไลท์เลย แต่ละคนทำได้ไม่เท่ากันหรอกครับ จิตสัมผัสล้วนๆเลยครับ

[Ko Bangplee]

ทีนี้...มันยังเป็นอยู่ หันมาดูเรื่อง จานจ่าย กัน...ช่างดันทะลึ่ง ไปปรับจานจ่ายให้อ่อนหรือแก่ไม่รู้ เขาเรียก
ว่าจานจ่ายครับ ทำหน้าที่เป็นสะพานไฟ เข้าสายหัวเทียนในการจุดระเบิด ไม่รู้เรีกยถูกไหม แต่ผมเข้าใจ
ในกลศาสตร์การทำงานของมัน

ตัวนี้ใช่ไหมครับ ที่เขาไปยุ่งกับมัน Focus มาที่ประเด็นจานจ่ายกอนน่ะ เรื่องอื่นๆ เดี๋ยวมาว่ากัน

ใช่เลย  ตัวในวงกลมๆ นั่นแหละครับ เขาคลายน๊อตพอหลวมๆ แล้วบิดซ้าย  บิดขวา เครื่องยนต์ก็ หวื๊ด หว๊าด ๆ ๆ
แล้ว เขาก็มาหยุดหมุนตรงที่เสียงเครื่องยนต์ดังกลางๆ แล้ว lock nut 
ช่วงนั้นยังนึกขอบคุณบริการของ B-Quik ที่เอาช่างผู้เชี่ยวชาญมาประจำศูนย์และเห็นอะไรไม่ดีก็ทำแถมให้ แต่ก็ ...(อย่าดีกว่า.. เขาทำเพื่อหวังดี) 
สุดท้ายก็มาเข้าศูนย์  Welovecivic แน่นอนกว่า ขอบคุณที่เป็น Web พี่ Web น้อง ช่วยเหลือกันจริงๆ  ซาบซึ้งครับ

[Buranasak]

อื้อ ผมก็ลืมไป จุดสายยางเชื่อมต่อตัว Vaccumm เช็คด้วยนะครับ ห้ามหลุด ห้ามหลวม
ห้ามแตก  ห้ามขาด ลองดูนะครับ จุดเล็กๆ ทำให้ปวดหัวมาหลายรายแล้ว ฝากไว้ ของท่านเป็น EG ไม่แน่ใจว่าอยู่มุนไหน
ลองหาดูนะครับ แต่ละรุ่นแตกต่างกันไป

[Buranasak]

เอาแค่นี้ก่อนครับใจเย็นๆ ผมเข้าใจ ทำรถทีไร ดูเหมือนง่ายน่ะ อย่างท่าน Sitti อธิบายไว้ตอนต้น เวลาอธิบาย
ออกมาให้อ่าน มันดูง่ายครับ แต่กว่าจะแงะ แกะ ออกมันมาได้ ไม่ง่ายครับบางทีทำทั้งวัน นึกว่าสักแป๊ปก็เสร็จ
อุปสรรคมันเยอะ อยากทำเองต้องหันลงมือ ค่อยๆทำไป ภ สำคัญหลักๆ ก่อนจะเริ่ม DIY ได้คือ

1. อึดใจสู้้ เพราะ มันเหนื่อยจริงๆ
2. อุปกรณ์พร้อม
3. ศึกษา ค้นคว้า ให้เข้าใจ และมีที่ปรึกษา อันนี้สำคัญ เพราะ ทำรถโดยมากงานจะงอก ไม่หมู ผมโดนมาบ่อยหละ ไม่จบ ทำพลาดเอง ประมาณนี้ ระวัง
4. ลงมือปฏิบัติ

   ส่วนผมก็จะใช้หลักๆประมาณนี้หละ.....รับรองครับทำไปเรื่อยๆ ช่างไม่ได้กินค่าแรงเราหรอก.....และทุกครั้งเวลาผมไปหาช่าง
ผมจะรำคาญการทำงานของช่างมาก เพราะ เราทำเองได้นั้นเองครับ(ยกเว้นงานใหญ่ๆ ใช้เครื่องมือหนัก)

สุดท้ายคืนนี้ ก็หาเบียร์เย็นๆมาจิบ นั่งอ่านวิชาที่ท่าน Sitti ถ่ายทอดก่อนแล้วกันครับ ปรมาจาย์เลยคนนี้ เขาละเอียด แน่นๆเลยครับ ความรู้

[Buranasak]

เดี๋ยวช่วงไหน อารมณ์มั่นๆ นิ่งๆ จะเอาวิธีการทำสาวแบตเตอร์รี มา DIY ให้อ่านดู่ครับ มีประโยชน์มากมายเลย

[Buranasak]

เรื่องทฤษฎีกับปฏิบัตินี่ต่างกันเยอะครับ  ขนาดผมตามกระทู้ ยังไม่เหมือนเลย วันนี้ก็ถอดเบรคหลัง มาตามกระทู้เก่า ๆ ล่อซะครึ่งวันเลย งงไปพักใหญ่เลย  เหนื่อยจริง ๆ   
ตอนนี้กำลังรอพี่ ๆ รีวิวิ  เปลี่ยนสายคันเร่ง , ถอดเบรคหน้า, เปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์, เบรค,เกียร์ อะไรพอทำได้ก็ทำไปก่อน

หลายเรื่องเลยน่ะนี้ ว่าแต่อู่คงตกงานกันเป็นแถบเลย  รอครับ รอ ทำมาหมดแล้ว แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ท่าน Sitti มีวัตถุดิบก็จัดให้เพื่อนๆได้เลยครับ

[Ko Bangplee]

เอาแค่นี้ก่อนครับใจเย็นๆ ผมเข้าใจ ทำรถทีไร ดูเหมือนง่ายน่ะ อย่างท่าน Sitti อธิบายไว้ตอนต้น เวลาอธิบาย
ออกมาให้อ่าน มันดูง่ายครับ แต่กว่าจะแงะ แกะ ออกมันมาได้ ไม่ง่ายครับบางทีทำทั้งวัน นึกว่าสักแป๊ปก็เสร็จ
อุปสรรคมันเยอะ อยากทำเองต้องหันลงมือ ค่อยๆทำไป ภ สำคัญหลักๆ ก่อนจะเริ่ม DIY ได้คือ

1. อึดใจสู้้ เพราะ มันเหนื่อยจริงๆ
2. อุปกรณ์พร้อม
3. ศึกษา ค้นคว้า ให้เข้าใจ และมีที่ปรึกษา อันนี้สำคัญ เพราะ ทำรถโดยมากงานจะงอก ไม่หมู ผมโดนมาบ่อยหละ ไม่จบ ทำพลาดเอง ประมาณนี้ ระวัง
4. ลงมือปฏิบัติ

   ส่วนผมก็จะใช้หลักๆประมาณนี้หละ.....รับรองครับทำไปเรื่อยๆ ช่างไม่ได้กินค่าแรงเราหรอก.....และทุกครั้งเวลาผมไปหาช่าง
ผมจะรำคาญการทำงานของช่างมาก เพราะ เราทำเองได้นั้นเองครับ(ยกเว้นงานใหญ่ๆ ใช้เครื่องมือหนัก)

สุดท้ายคืนนี้ ก็หาเบียร์เย็นๆมาจิบ นั่งอ่านวิชาที่ท่าน Sitti ถ่ายทอดก่อนแล้วกันครับ ปรมาจาย์เลยคนนี้ เขาละเอียด แน่นๆเลยครับ ความรู้

เห็นแล้ว เปรี้ยวปาก ต้องขอพักก่อนนะครับ ออกไปจิบเบียร์วุ้นที่แคร่หน้าบ้านก่อนดีกว่า สำหรับวันนี้ขอขอบคุณมากครับ

[Sitti2519]

ผมคงไม่บังอาจรับคำชมจากพี่ได้ครับ บอกตามตรงผมไม่ได้เรียนมาด้านช่างยนต์มาก่อนในชีวิต เรียนด้านศิลปะมา แต่เมื่อมีรถต้องใช้ทุกวัน แต่ก่อนผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ เปลี่ยนผ้าเบรคก็จ้าง ถ่ายน้ำมันเครื่องก็จ้าง ฯลฯ ด้วยเหตุที่รถมันเก่า ไม่ขยันหาเงินมาประเคนให้ช่างน่ะครับ โดนทีก็หลายตังอยู่ เราไม่รู้ราคาของ เขาบอกเท่าไหร่ก็ต้องจ่าย ช่างเขาจะดูเรา ถ้าโง่ๆเซ่อๆก็เชือดเลย เลือดออกเยอะหน้ามืดไปเลย จนผมมาคิดว่าทำไมเราไม่ทำเองวะ แรกก็ยืนดูเขาทำ คิดไปคิดมาหาที่เรียนดีกว่า ไม่กล้าขอเขาเป็นลูกมือ คิดในใจมีที่ไหนสอนให้ จ้างเรียนสักสองหมื่นก็จะจ้างนะ คิดแบบนี้เลย เลยหาซื้อหนังสือมาอ่านมั่ง เข้าใจ ไม่เข้าใจบ้าง พอดีมีคนรู้จักอยู่ กทม ถามเขาๆเลยบอกมีโรงเรียนฝึกอาชีพสอนอยู่ ค่าเรียนหลักสูตรละ 105 บาท แต่ค่าแก๊สไปเรียนจนได้ปีกว่าก็น่าจะหมดค่าแก๊สไปเป็นหมื่นเหมือนกัน เรียน จ-ศ วันละสามชั่วโมง แบบนั้น จบอันนั้นไปต่ออันนี้ ตอบว่าไม่เก่งครับเพราะไม่ได้ทำทุกวัน แต่จับใจความได้ว่าการที่จะเป็นช่างซ่อมที่เก่งได้ ต้องรู้ทฤษฎี กลไก หน้าที่การทำงานของชิ้นส่วนแต่ละส่วน เราต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมเขาออกแบบๆนั้น ต้องวิเคราะห์หาครับ ถ้าเรารู้จุดมุ่งหมายของผู้ออกแบบ เราจะสามารถซ่อมได้อย่างเข้าใจอย่างถ่องแท้ครับ

[Sitti2519]

อะไรที่จัดให้ได้ก็จะจัดไปก่อนครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการผลิต(เงิน) และอายุการใช้งานของแต่ละชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ครับ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค คลัชท์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์มันก็ไม่มีอะไรยากเลย เพียงแต่มันต้องใช้คนสองคน หรือจะทำคนเดียวก็ได้ แต่มันต้องมีอุปกรณ์ช่วยนิดหน่อย แต่ก่อนก็ทำคนเดียวครับ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเอามาถ่ายทอดแบบนี้เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ต้องรอสักหน่อยครับ ช่วงนี้กำลังยุ่งๆหลายเรื่องครับ ไม่มีกะจิตกะใจทำรถเลยครับ แต่สัญญาว่าจะทำให้ ถ้าไม่มีท่านใดชิงทำตัดหน้าไปเสียก่อนครับ

[Ko Bangplee]

ฮึ้ย ..  ไม่หาย กลับมาเป็นเหมือนเดิม

สวัสดียามเช้าครับท่านอาจารย์กันต์ อาจารย์Sitti  และพี่น้อง Civic ทุกท่าน
เช้านี้ลองไปสตาร์ทรถ อาการเครื่องสวิงขึ้นลงเป็นเหมือนเดิม ท่าทางต้องเสียทรัพย์อีกแน่เรา  หรือจะไปที่ ม.เกษตรดี
สรุปว่า มันเป็นๆ หายๆ ครับ    เดี๋ยวจะลองไป Reset แบบใหม่ดูก่อนครับ  

[Sitti2519]

อย่าเพิ่งใจร้อนอยากเสียเงิน ถอดออกมาล้างตามกระทู้นี้ก่อน รอก่อน ถ้าไม่รีบจำเป็นอะไรมาก วันนี้กะจะล้างเดินเบาแอร์อัพให้อีกตัว มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ อ่านไปทำไปครับ ขออนุญาตไปอาบน้ำไปทำงานก่อนครับ แนะนำว่าอย่าใจร้อนครับ รอครับรอก่อน

[Sitti2519]

ถ้าไม่กล้าทำเองก็มาครับ จะพาทำครับ

[Sitti2519]

ลองทำตามกระทู้ไปก่อน อย่าตื่นเต้น อย่ากังวลครับ ทำไม่ได้ค่อยว่ากันใหม่ ถ้ายังไม่เคยใหม่ๆก็งี้แหละครับ ยิ่งเป็นรถตัวเองด้วยแล้ว กลัวพังสุดๆเลยล่ะ ใจเย็นๆครับ

[Buranasak]

อื้อ ผมก็ลืมไป จุดสายยางเชื่อมต่อตัว Vaccumm เช็คด้วยนะครับ ห้ามหลุด ห้ามหลวม
ห้ามแตก  ห้ามขาด ลองดูนะครับ จุดเล็กๆ ทำให้ปวดหัวมาหลายรายแล้ว ฝากไว้ ของท่านเป็น EG ไม่แน่ใจว่าอยู่มุนไหน
ลองหาดูนะครับ แต่ละรุ่นแตกต่างกันไป

ท่าน  Ko Bangplee เช็คสายแวคคั่มด่วนครับ เอามือมุดมาดูทีละเส้น อยู่หลังๆคอไอดีนั้นหละ แถวๆนั้นครับ

[Ko Bangplee]

ไป reset มาแล้ว กางตำราอาจารย์กันต์ ทำเลยครับ

สตาร์ท ช่วงแรก นิ่งดี แต่พอสักพัก ลองเหยียบคันเร่ง สวิงทันที

ช่วงที่กำลังสวิง นึกถึงอาจารย์ Sitti เขียนไว้ในรูปว่า ตัวที่ผมวงกลมไว้ถ้าล้างแล้วเครื่องจะไม่สวิง
 ผมอยากรู้ผล จึงลองถอดสายออก ทำให้เครื่องหยุดสวิง และรอบตกมาอยู่ที่ ประมาณ 500  ชักเริ่มสงสัยตัวนี้แล้วครับ
เดี๋ยวจะใจเย็นก่อน รอคำแนะนำอื่นๆ ก่อนที่จะกางตำราวิธีการถอดเอามาล้าง

เครื่องมือผมยังมีแค่พื้นๆ ประจำบ้าน งานนี้สงสัยต้องไปหาซื้อมาให้ครบ

[Ko Bangplee]

ท่าน  Ko Bangplee เช็คสายแวคคั่มด่วนครับ เอามือมุดมาดูทีละเส้น อยู่หลังๆคอไอดีนั้นหละ แถวๆนั้นครับ

หายังไม่เจอครับ ไม่เหมือนในรูป เดี๋ยวจะลองหาใหม่ให้ระเอียดอีกที

[Sitti2519]

สายแว็กคั่มเป็นท่อยางเส้นเล็ก ต่อเข้าท่อร่วมไอดี หาให้เจอครับ ถ้าหลุด ขาด แตก เครื่องจะสวิงแบบนี้แหละครับ

[Buranasak]

คือที่ผมบอกไป ให้ดูคือ VACUUM แอร์  มันจะมีสายท่ออากาศต่ออยู่ซึ่งมีส่วนสำคัญ เช่นเดียวกันสำหรับการ
รอบเดินเบา อาการนี้ ขอให้เช็คด้วยนะครับ ว่าท่อยาก แตก หลุด งอ ตัน หรืออะไรก็แล้วแต่ โดยการลอง
ถอดออกมา แล้วเอามาเป่าดู่ทุกเส้นครับ เมื่อถอดออกมาแล้ว ก็หากรรไกร เฉือนออกนิดหนึ่ง เพื่อจะให้ได้ส่วนหน้า
ยางตรงจุดที่เข้าไปเสียบใหม่ มันจะได้ฟิตๆ ไม่หลุด เมื่อมั่นใจแล้ว และเช็คแล้วไม่หาย

ทีนี้ก็ได้ลองล้างชุดลิ้นปีกฝีเสื้อ อย่างท่าน Sitti ได้เขียนไว้เลยครับ ทำเหมือนกันทุกประการ


หน้าตา VACUUM แอร์ขอรถแต่ละคันก็ต่างกัไป แล้วแต่ใครหามาใส่ เพราะ Honda Toyota
เอามาใส่ด้วยกันได้หมด ไม่ต้องไปสนใจนะครับ ทำตามที่ผมบอก ไม่เหมือนกันไม่เป็นไร

[Sitti2519]

ที่วงไว้คือตัวเดินเบาแอร์ครับ ผมกำลังจะทำอัพขึ้นครับ โหลดรูปลงเครื่องอยู่ครับ รอก่อน

[Buranasak]

ซื้อมาเลยครับ ซื้อแบบเป็นชุดเลย จะได้ไม่เสียเวลาหาซื้อทีละตัว ไม่ขาดทุนหลอกครับ
มีไว้เป็นยาสามัลประจำบ้าน เอาหลักๆก่อน ส่วนอื่นๆ ที่ต้องเป็นเครื่องมือพิเศษ หรือต้องมาดัด
แปลงค่อย มาจัดทีละอย่างตามการใช้งานไป อุปกรณ์บางตัวหายากครับ ต้องเอามา
ดัดแปลงเอา ไม่มีอะไรในโลกนี้สมบูรณ์และมีทุกอย่างในโลกนี้ ต้องดัดแปลง...คนไทยเก่งอยู่แล้ว