วันก่อนเดินทางไปหน้าราม(1)ความร้อนขึ้นแบบตกใจ จะทำไงดีนะเราชิดซ้ายจอดรถดีไหม ก็เลยวัดใจขับไปอีกหน่อย เริ่มเห็นป้ายอู่ช่อมรถ มีคำว่าหม้อนำ้ด้วย คิดใจรอดแล้ว เข้าไปที่อู่เห็นช่างนอนกับหมาอีกหนึ่งตัว รถลูกค้าจอดไว้ประมาณ3คัน. ตอนนั้นประมาณ16.00น. ช่างคนที่หนึ่งบอกผมเลยว่าพัดลมเสีย สตาสร์รถแล้วทดสอบให้ดูเลยว่าพัดลมไม่หมุน ไม่ได้ทดสอบอะไรมากช่างคนที่1บอกราคามา1300 ชม.นั้นทำก็ทำขอให้จบ เปลี่ยนพัดลมเสร็จทดสอบพัดลมไม่หมุน คิดในใจงานเข้าแล้ว แล้วทำไหมมันไม่ทดสอบตั้งแต่แรก คุณได้ไปต่อผมเห็นช่างคนที่หนึ่ง เริ่มไม่ไหว ช่างคนที่สอบเข้ามาช่วย ทดสอบดึกปลั๊ก เทอร์โม แล้วตัดสายไฟมาหนึีงเส้นต่อกับพัดลมแอร์ พร้อมบอกว่าสายไฟช่วงหน้ารถขาดก็เลยต้องต่อ ด้วยความสงสัยก็เลยถามว่ามันไม่หมุนพร้อมกันเหรอ ช่างบอกว่าไม่ทำงานแยกกันเลย ช่างกล้าพูดพอทดสอบทำงานพร้อมกันผมก็ถามอีกมันต้องทำงานพร้อมกันเหรอเดิมทำงานแยกกันเลยนะ ช่างบอกว่าได้เหมือนกัน หมดเลย กับช่างคนนี้ ไอ้ช่างคนแรกลอยลำหายไปไหนไม่รู้ พอคิดเงินแจงผมว่า1500 เปลี่ยนพัดลมที่ยังไม่เสีย(คิดในใจ)แล้วแก้งานให้ไม่จบ ผมเลยพูดว่าพัดลมไม่เสียนะอาการก็ไม่จบเอากับผมแพงจัง ช่างเลยบอกว่าคุณกับเฮียเลย ผมก็เลยคุณกับเฮีย ผมเล่าให้ฟังทุกอย่างเฮียบอกว่าเทอร์โมเสีย ทั้งที่รู้ทำไมไม่เปลี่ยน แล้วทำไมช่างหรือเฮียไม่บอกกับผมตรงๆ หรือวืาไม่มีของ ก็น่าจะแจ้งเรานะ. พอเห็นถามเฮียเลยลอให้200พร้อมกับคำถามมากมายที่ต้องการอยากรู้
:'(ช่างบอกว่าพัดลมมันเสียเลยทำให้เทอร์โมเสียไปด้วย ผมข้องใจ เลยพูดกับช่างว่าขอพัดลมที่เสียหน่อย ทดสอบปกติโดนแล้ว ที่มาแช่ไม่ได้มีอะไรนะครับคนเราทำธุระกิจมันต้องชื้อสัตกับลูกค้า มีไอ้ไรก็แจ้วโดยตรง ให้เจ้าของรถผู้ที่จ่ายเงินให้คุณเขาเป็นคนพิจารณาว่าต้องการอย่างไง
คำถามคือ ถ้าผมใช้งานรถต่อโดยที่ช่างคนที่หนึ่งและคนที่สองทำให้จะดีไหม แล้วเปลี่ยนเทอร์โมราคาประมาณเท่าไรครับ ไม่รู้ว่าเรียกถูกหรือป่าวนะครับ ผมไม่บอกนะครับว่าร้านอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลรามคำแหง มันทำให้วงการเสี่อมเฉยๆ พิจารณาเอาเองนะครับผมเจอมากับตัวมันเสียเงินไม่ว่าเจ็บใจมากกว่า ขอบคุณที่รับฟัง