เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยคิดที่จะเอารถไปขัดสีกันใช่มั้ยครับ? ผมเองก็เคยจะเอารถที่ผมใช้เองไปขัดสีตามร้านคาร์แคร์ ( เป็นร้านคนรู้จักที่เอารถที่ซื้อมาขายไปล้างบ่อยๆ ) แต่พอถามราคาแล้วผมถึงกับสะดุ้ง ( ย้ำว่าอันนี้ราคาคนรู้จักกันนะครับ ) ก็เลยไม่ได้ให้เค้าขัด คิดว่าล้างอย่างเดียวก็น่าจะพอ แต่ล้างอย่างเดียวแล้วสีมันไม่ใส เอามือลูบๆตามตัวรถดูแล้วจะรู้สึกสากๆ ผมก็เลยลงทุนไปซื้อเครื่องขัดมาขัดเองเลย ( ที่เค้าขายกันตาม โลตัส บิ๊กซี เครื่องละพันกว่าบาทอ่ะครับ )
เป็นเรื่องเลยครับ พอใช้เครื่องขัดลงไปแล้ว น้ำยาที่ขัดลงไปติดกับสีรถเป็นปื้นๆ ขัดยังไงก็ขัดไม่ออก ต้องเอาน้ำยาล้างรถมาล้างออก แต่ล้างยังไงก็ไม่หมด คือมันจะทิ้งฝ้าขาวๆบางๆไว้บนสีรถ พอโดนแดดกลับกลายเป็นว่าทำให้สีรถด่างซะอีก เซ็งสิครับงานนี้ T_T
พอไปถามพี่ที่เปิดร้านคาร์แคร์ ( เจ้าเดิมนั่นแหละ ) ว่าทำไงดี เค้าบอกต้องใช้ต้องซื้อเครื่องขัดที่รอบสูงกว่านี้มาขัด ( เครื่องนึงประมาณ 6-7 พันบาท ) แต่ถ้าใช้ไม่เป็นรับรอง สีรถถลอกแน่ หรือไม่ก็ใช้"ดินน้ำมัน"ลูบตามตัวรถก่อน เพิ่อเอาคราบไคลออกก่อนเป็นการเตรียมผิว ( ผมงงสิครับใช้"ดินน้ำมัน"มาล้างรถเนี่ยนะ O_o ) แต่ด้วยความขี้เหนียวครับ ผมก็เลยลองเอาดินน้ำมันที่เด็กๆเอามาปั้นเล่นกันเนี่ยแหละครับมาลองล้างดู ( อันนี้ลองมาจริงๆนะไม่ได้เล่นมุข) สรุป ไม่ได้ผลครับ *_* ( แอบรู้สึกว่าตัวเองโง่ๆยังไงไม่รู้สิผม )
สุดท้ายก็เลยลองไปหาซื้อ"ดินน้ำมันล้างรถ"ตามร้านที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ดู หายากเหมือนกันนะ ไอ้ดินน้ำมันล้างรถเนี่ย แถมแพงอีกต่างหาก ก้อนนิดเดียวราคาร่วมๆพัน เลยฝากน้องๆซื้อมาจากญี่ปุ่นเลยครับ ( เค้าไปประจำเพราะเค้าเปิดร้านที่เซียงกง )ไม่แพงก้อนนึงประมาณ 380 บาทใช้ได้กับรถทุกสี
พอได้ไอ้เจ้าดินน้ำมันที่ว่านี่มาแล้ว ทีนี้ก็มาพูดถึงวิธีการใช้กันเลยดีกว่าครับ ก่อนอื่นก็ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องใช้กันก่อน
1.ดินน้ำมันล้างรถ ( Clay cleaner )
2.ขวดสเปรย์ ( ผมใช้ขวดน้ำยาเช็ดกระจกที่หมดแล้ว )
3.น้ำยาล้างรถ ( บางคนบอกว่าต้องใช้น้ำยาที่ใช้กับดินน้ำมันโดยเฉพาะ แต่พี่ที่ร้านคาร์แคร์บอกใช้แชมพูล้างรถแทนได้ ผมเลยใช้น้ำยา car wash ของ amway ที่ผมใช้อยู่ตามปกติ )
4.กล่องพลาสติกเอาไว้เก็บดินน้ำมัน ( เป็นแบบมีฝาปิดที่มีล็อกด้วยก็จะดี สำหรับผมใช้กล่องอาหารเสริมที่กินหมดแล้วมาใช้ ประหยัดไป ^^)
ต่อไปก็ผสมน้ำยาล้างรถลงไปในขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้ แล้วก็ใช้มีดคัตเตอร์ตัดดินน้ำมันออกมาประมาณซัก 1 ใน 3 แล้ววางไว้ในกล่องพลาสติกที่เตรียมไว้ พยายามระวังไม่ให้ดินน้ำมันตกพื้นนะครับ เพราะถ้าตกแล้วอาจจะมีทรายเม็ดเล็กๆติดขึ้นมากับดินน้ำมัน แล้วถ้าเอาไปขัดบนตัวรถแล้วจะทำให้สีรถเป็นรอย
ผสมน้ำยาล้างรถลงไปในขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้ น้ำยาที่ผมใช้ก็ง่ายๆครับ ใส่น้ำเปล่าไปซักคอของขวดสเปรย์ แล้วกดน้ำยาล้างรถผสมลงไปซัก 4-5 กด
ใช้มีดคัตเตอร์ตัดดินน้ำมันออกมาประมาณซัก 1 ใน 3 แล้วใส่ไว้ในกล่องพลาสติกที่เตรียมไว้ พยายามระวังไม่ให้ดินน้ำมันตกพื้น
มาถึงขั้นตอนแรกกันเลยครับ ต้องล้างรถด้วยน้ำยาล้างรถ เพื่อเอาฝุ่นที่สามารถล้างออกด้วยวิธิปกติได้ออกไปก่อน ( ขั้นตอนนี้จะช่วยยืนอายุของดินน้ำมันได้ เพราะถ้าไม่เอาฝุ่นพวกนี้ออกก่อนจะทำให้ดินน้ำมันอมฝุ่นไว้มากเกินไป จะทำให้หมดคุณสมบัติในการขัดคราบไคลต่างๆเร็วขึ้น )
ฝุ่นต่างๆที่ล้างออกได้
ขั้นตอนต่อไปก็เอาน้ำยาล้างรถที่ผสมไว้ในขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้ฉีดลงไปบนตัวรถในจุดที่เราจะขัด แล้วก็ใช้ดินน้ำมันที่ตัดเตรียมไว้บี้เป็นแผ่นแล้วขัดลงไปเลยครับ
ตอนแรกที่ใช้ดินน้ำมันขัดลงไปจะรู้สึกว่ามันจะสากๆเหมือนเอากระดาษทรายไปขัดบนตัวรถ ไม่ต้องตกใจครับขัดไปเรื่อยๆจนมันรู้สึกลื่นขึ้น ให้ลื่นจนรู้สึกว่าไม่มีคราบไคลติดบนสีรถอีกเป็นอันว่าใช้ได้ แล้วค่อยๆขยับไปขัดที่จุดอื่นจนทั่วทั้งคัน รวมทั้งกระจกทุกๆบาน ไฟฟ้าหน้าด้วยนะครับ
ถ้ารู้สึกว่าดินน้ำมันที่ขัดอยู่เริ่มแบนมากไปก็ให้เอามาปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วบี้ออกอีกที แล้วก็ใช้ขัดต่อได้เลย
มีเทคนิคนิดนึงนะครับว่าระหว่างที่ขัดให้หงายเอาดินน้ำมันด้านที่ขัดกับตัวรถขึ้นมาดูบ่อยๆว่ามีก้อนกรวดหรือเม็ดทรายเล็กๆติดอยู่บ้างหรือเปล่า ถ้ามีให้รีบเอาออก หรือถ้าเผลอทำดินน้ำมันหลุดมือตกพื้นก็ให้ใช้มีดตัดส่วนที่โดนพื้นทิ้งไปไม่ต้องเสียดายเพราะอาจจะมีอะไรติดดินน้ำมันขึ้นมาทำให้สีรถเป็นรอยได้
ดินน้ำมันด้านที่ขัดกับตัวรถ จะมีคราบสีเหลืองๆติดออกมา คราบพวกนี้แหละครับคราบไคลที่ทำให้สีรถเราดูสีหมองๆ ยิ่งถ้าเป็นรถสีขาวจะเห็นชัด เพราะจะทำให้สีรถดูออกเหลืองๆ คราบพวกนี้ใช้วิธีล้างแบบปกติไม่ออก เพราะเป็นออกไซด์ของมลพิษในอากาศที่ทำปฏิกิริยากับสีรถ ถ้าไม่ขัดออกก่อนจะทำให้ขัดสีรถยากหรือถ้าคราบหนามากๆก็ขัดไม่ออกกันเลยทีเดียว T_T
ด้านที่ไม่ได้ขัดกับตัวรถ ดินน้ำมันใสกิ๊งเลย
หลังจากขัดจนรู้สึกว่าสีรถลื่นดีแล้วก็ให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกทีนึง แล้วก็เช็ดรถให้แห้ง ถ้าจะขัดสีด้วยเครื่องก็สามารถทำต่อได้เลย แต่ถ้าไม่มีเครื่อง จะลงน้ำยาขัดเคลือบธรรมดาก็ได้ครับ เพราะตอนนี้น้ำยาขัดเคลือบจงลงไปเคลือบสีรถตรงๆเลย ไม่มีคราบไคลต่างๆมากั้นแล้ว ทำให้ได้ประสิทธิภาพของน้ำยาขัดเคลือบผิวเต็มที่
ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนในการดูแลสีรถให้สวยใสเหมือนรถใหม่แล้ว เป็นไงบ้างครับไม่ยุ่งยากใช่มั้ยครับ ^^
หลังจากขัดจนรู้สึกว่าสีรถลื่นแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
พอล้างด้วยน้ำเปล่าเสร็จแล้วก็เช็ดให้แห้ง ถ้าจะขัดสีด้วยเครื่องก็สามารถทำต่อได้เลย แต่ถ้าไม่มีเครื่อง จะลงน้ำยาขัดเคลือบธรรมดาก็ได้ครับ
ส่วนดินน้ำมันที่ใช้แล้วก็เก็บใส่กล่องที่เตรียมไว้ ส่วนตัวผมจะแยกดินน้ำมันไว้ 3 ส่วน คือ
1.ยังไม่ได้ใช้
2.ใช้มาน้อยๆไม่เกิน 5 ครั้ง ส่วนนี้เอาไว้ใช้กับส่วนด้านบนของรถ
3.ใช้มาบ่อยแล้วมีสิ่งสกปรกติดอยู่มาก อันนี้จะเอาไว้ใช้กับส่วนล่างของรถ พวกชายด้านล่าง กันชนหลัง กันชนหน้า เพราะส่วนด้านล่างอาจจะมียางมะตอย เม็ดทราย ฯลฯ ที่อาจจะให้รถเป็นรอยได้ เลยไม่ค่อยอยากจะเอาไปใช้กับส่วนบนของรถ
อายุการใช้งานของดินน้ำมันก็สามารถใช้ได้ครั้ง แต่จะให้บอกจำนวนครั้งเป็นตัวเลขเลยคงบอกไม่ได้ ให้สังเกตุง่ายๆว่าถ้าดินน้ำมันขัดลงไปบนตัวรถแล้วมีขุยๆละลายออกมา และก็ไม่ค่อยดูดคราบสกปรกออกมาก็เป็นอันว่าต้องทิ้งแล้วกันครับ
ว่าแล้วก็ขอโชว์หน่อยก็แล้วกันนะครับว่ารถที่ใช้ดินน้ำมันขัด ( ขัดด้วยดินน้ำมันอย่างเดียวนะครับ ยังไม่ลงน้ำยาขัดเคลือบหรือขัดด้วยเครื่อง ) แล้วสีจะดูลื่นๆ ใสๆยังไงกันบ้าง
คันนี้รถสีขาวเดิมออกห้างนะครับ ใช้มาสิบกว่าปีไม่เคยขัดสีเลย ตอนมานี่เหลืองเลยครับ พอขัดแล้ว ใสเลย
คันนี้ก็เหมือนกันครับ เจ้าของดูแลรักษาดีนะ ล้างดูฝุ่นตลอด แต่ไม่เคยขัดสี เลยหมองๆหน่อย พอขัดด้วยดินน้ำมันแล้วใสสุดๆ
คันนี้เหมือนกันครับ รถใช้มือเดียว เจ้าของเป็นอาม่า เรื่องเอารถไปขัดสีนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ไม่มีแน่นอน ตอนมานี่สีหมองสุดๆ พอทำแล้ว ใสเลย
ธนกฤต
https://www.107motor.com/17008194/มาทำให้สีรถเงางามเหมือนใหม่กันดีกว่า