ที่เกิดเหตุพบ
รถประจำทางร่วมบริการ สีขาว-น้ำเงิน สาย 52 วิ่งระหว่างปากเกร็ด-บางซื่อ บริษัทสหายยนต์ จำกัด เลขข้างรถ 52-25 ทะเบียน 12-5617 กทม.จอดอยู่ริมทาง สภาพรถพบบริเวณกระจกบนด้านซ้ายบานที่ 8 แตกละเอียด เศษกระจกแตกละเอียดอยู่ในรถ โดยมีนายสบาย นามนาค อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.6 ต.โนนตาล อ.เมืองร้อยเอ็ด คนขับรถ พร้อม น.ส.สาระดา มาสกุล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.4 ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา กระเป๋ารถเมล์ ยืนถือหินรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสบาย ให้การว่า ขับรถออกมาจากอู่ปากเกร็ด เวลา 15.00 น. และขับรถส่งผู้โดยสารมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงถนนวิภาวดีฯ ขาเข้า ช่องคู่ขนานซึ่งขณะนั้นมีผู้โดยสารนั่งอยู่บนรถประมาณ 20 คน เมื่อขับเลยสน.วิภาวดี ก่อนจะถึงทางเบี่ยงเข้าถนนรัชวิภา สังเกตเห็นชายสวมเสื้อยืดสีขาว ลายขวางสีเทา กางเกงขาสั้นสีแดง สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผมสั้น ผิวสีดำแดง แต่งตัวมอมแมม ไม่สวมรองเท้า ทำท่าทางแบบก้มๆ เงยๆ คล้ายคนหยิบของที่พื้น
"
พอรถแล่นผ่านคนร้ายไปเล็กน้อย สังเกตเห็นกระจกข้างรถ พบว่าคนร้ายกำลังเงื้อมือปาหินใส่รถ ด้วยความตกใจจึงร้องตะโกนบอกผู้โดยสารให้ระวัง สิ้นเสียงร้องก็ได้ยินเสียงหินกระทบกระจกรถเสียงดังสนั่น ผมจึงรีบจอดรถเข้าข้างทาง และเข้าดูแลผู้โดยสาร โชคดีที่หินของคนร้ายไม่กระเด็นเข้ามาในรถ และฝั่งที่คนร้ายปาหินใส่นั้นไม่มีผู้โดยสารนั่งอยู่เลย หลังตั้งสติได้ก็วิ่งลงมาดูด้านล่างพบเพียงหินที่คนร้ายใช้ปาใส่รถเท่านั้น แต่คนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยริมถนนวิภาวดีหายไปอย่างรวดเร็ว" นายสบาย กล่าว
พ.ต.ท.สุรจิต กล่าวว่า น่าจะเป็นคนวิกลจริต เนื่องจากการสอบถามจากโชเฟอร์เห็นรูปร่างลักษณะของคนร้าย สวมเสื้อแบบมอมแมม ไม่สวมรองเท้า และเห็นพฤติกรรมของคนร้ายทุกขั้นตอน แต่ไม่นึกว่าจะปาหินใส่รถ และไม่น่าที่จะเป็นแก๊งปาหินที่ระบาดอยู่ในตอนนี้ เพราะคนร้ายลงมือในช่วงเย็น ขณะมีรถวิ่งสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก และหลังได้รับแจ้งเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ทุกซอยในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามคนร้ายที่คาดว่าน่าจะหลบหนีอยู่ในละแวกถนนวิภาวดีฯ มาดำเนินคดีต่อไป
by
www.kapook.com