ครับUpข้อมูลเพิ่มนิดนึง(จริงๆแล้วถ่ายน้ำมันเครื่องหลายวันแล้วแต่พอดีลืมโพส ก็เลยเอามาฝากกันครับ)
ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวันที่ 12มิถุนายน2550(หน้า5) ผมได้มีการพูดถึงเรื่องของสีของน้ำมันเครื่องว่าหลังจากใช้ไปแล้วเป็นยังไงบ้าง
อันนี้คือกิโลของคราวที่แล้ว
อันนี้คือกิโลเมตรล่าสุด(ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง)
อย่างแรกที่จะดูกันก็คือเรื่องของสีน้ำมันเครื่อง
คราวที่แล้วผมใช้ PTT OW40 สีของน้ำมันเครื่องยังไงใส่อยู่ตามรูปข้างล่างนี้
อันนี้เป็นรูปตอนถ่ายน้ำมันเครื่อง สังเกตสีให้ดีๆนะครับ ว่าสีต่างกันโดยสิ้นเชิง(ทั้งๆที่ใช้ไปแค่แปดพันกว่าโล นี่ถ้าเกิดว่าไม่ได้ไปต่างจังหวัดผมคงใช้ไปจนครบอ่ะครับ)
เท่าที่ผมได้คุยกับหลายๆคน ได้คำตอบอย่างนึงว่า การใช้แก็สอย่างเดียว เวลาถ่ายน้ำมันเครื่องมันจะใส่มาก(ถึงมั๊กมาก) แต่สีที่ผมได้นี้มันไม่ใส่อย่างที่ได้ยินมา ก็ลองมานึกๆดูก็นึกได้ว่า เวลาสตาร์ทผมก็ใช้น้ำมัน บางครั้งก็วิ่งน้ำมันบ้าง และบางทีกลัวบ่าวาวล์มันจะแห้ง ผมก็สตาร์ทน้ำมันทิ้งไว้สักพักแล้วดับเครื่อง ซึ่งน้ำมันที่ผมใช้อยู่(ไม่ว่าจะสตาร์ทหรือเลี้ยงบ่าวาวล์)ตอนนี้คือน้ำมัน 95 ทำให้คราบที่เผาไหม้ไม่หมดจากน้ำมันที่เราเติมมาจมรวมอยู่ก้นแท้ง เวลาเราถ่ายมันก็เลยเป็นสีนี้ครับ แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้แก็สเพียวๆเช่นตอนสตาร์ทก็สตาร์ทด้วยแก็ส เวลาใช้แก็สก็ไม่เคยใช้น้ำมัน เวลาเกิดการเผาไหม้ของแก็สจะทำให้เผาไหม้หมดจด ไม่เหลือคราบ น้ำมันเครื่องที่ออกมาสีก็จะใกล้เคียง(น่าจะนะครับ เพราะยังไม่เคยใช้แก็สเพียวๆแบบไม่ใช้น้ำมัน และไม่กล้าด้วย กลัวไปก่อนครับ)ตอนแรก แต่ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องก็จะตามมา ซึ่งอะไรนั้นคงตอบไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้ครับป๋ม
เรื่องที่สองก็คือเรื่องเกี่ยวกับกรองอากาศ ถ้าจำได้ ผมเอาอันใหม่ใส่แทนอันเก่า(คือง่ายๆ เปลี่ยนมันทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องคือหมื่นโลเปลี่ยนที)
อันนี้คือรูปตอนที่ยังใหม่ๆครับ
รูปนี้คือรูปกรองหลังจากที่ใช้ไปเกือบหมื่นโลครับ
สังเกตสีของกรองที่เป็นสีเขียวดีๆนะครับ จะเห็นได้ว่าสีออกดำกว่าเก่าเยอะมาก คราบจับทำให้เป็นสีขนาดนี้ ผมลองเอามาเป่าดู ฝุ่นมันออกนะครับ แต่ว่าสีของคราบก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบแก็สนี้เรื่องของอากาศสำคัญมาก กรองควรจะเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง(ครั้งนี้ผมก็ได้เปลี่ยนใหม่เหมือนกัน แต่คราวนี้ลองใช้ของแท้ดู คือประมาณว่าของแท้เป็นสีขาว อยากรู้ว่าใช้ไปหมื่นโลสีจะเป็นยังไงบ้างอ่ะครับ)
เรื่องที่สามอาจจะดูไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่ว่าจากประสบการณ์จากรถคันเก่าๆของผมที่เจอมา จุดนี้เป็นที่ไม่น่าเจอ และเคยตกม้าตายแค่จุดเล็กๆแค่นี้ คือเรื่องฝาหม้อน้ำ
มาดูรูปกันก่อน อันนี้คือรูปฝาหม้อน้ำอันเก่าครับ(แท้ติดมากับรถ แต่ก็ดำเอาเรื่องอยูพอสมควร ตามการใช้งานครับ)
รูปนี้คืออันใหม่ (ของแท้เช่นกันครับ)
คราวนี้หลายๆคนคงงงๆว่ามันเกี่ยวอะไรกับแก็ส จริงๆแล้วอันนี้ไม่ใช้แค่แก็สเท่านั้น แต่ว่าวิ่งระบบน้ำมันก็อาจจะเจอได้ ผมจะเล่าให้ฟัง ก่อนหน้านี้ผมเคยใช้รถเกาหลียี่ห้อนึงซึ่งรถยี่ห้อนี้ใช้เครื่องดีเซลของเยอรมันยี่ห้อนึงอยู่(หลายๆคนคงทราบว่ายี่ห้ออะไร) ช่วงแรกๆใช้งานก็ไม่มีปัญหา แต่ตอน8หมื่นโล(ใกล้ๆกับตอนนี้) ผมอยู่วิภาวดีรังสิต อยู่ดีๆความร้อนมันก็ขึ้นสูง ประมาณว่าเกือบถึงฮีทข้างบนเอาเลยครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นอะไร ผมก็จอดข้างทางแล้วเปิดฝากระโปรง ควันขึ้นเลยครับ
แล้วอยู่ดีๆน้ำมันก็ไหลนองพื้นไปหมด
ทำไงดีอ่ะ ตอนนั้นก็ไม่ค่อยประสีประสาอะไรกับรถมัน
ผมไม่รู้ทำยังไงก็ทิ้งไว้สักพักนึง รอจนมันเย็นแล้วผมก็ขับไปให้อู่ที่ซ่อมรถรุ่นนี้เขาดูซึ่งเป็นอู่ประจำที่ผมเคยให้เขาทำ พอไปถึงเขาก็เปิดฝากระโปรงดู เชื่อไหมครับ ว่าน้ำแห้งเลยครับ
โดนค่าซ่อมไปหลายหมื่น :'( (อันนี้ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้หันมารักซีวิคก่า
) แต่ก่อนที่จะซ่อม ช่างเขาก็บอกสาเหตุว่าที่น้ำแห้งก็เพราะว่าฝาหม้อน้ำมันหมดสภาพ(เท่าที่จำได้รู้สึกว่าจะเป็นยางดำๆคล้ายๆของอันนี้แหละครับ) ทำให้แรงดันในหม้อน้ำดันออกมากขึ้น เมื่อมากขึ้นก็ดันเอาน้ำที่อยู่ในหม้อน้ำ(รวมถึงระบบเครื่องด้วย)ออกมาหมด เมื่อน้ำออกมาหมด ก็ไม่มีระบบน้ำเพื่อไปหล่อให้เครื่องมันเย็นเวลาวิ่ง เวลาวิ่งไปเครื่องมันก็ร้อนขึ้นร้อนขึ้น ถ้ามีน้ำหล่อมันก็จะเย็นในระดับของมัน แต่พอดีผมวิ่งไปที่อู่ ประมาณว่าน้ำแห้งเลยครับ มันก็ฟังอ่ะครับ
ทำให้เวลาผมใช้คันนี้ ผมนึกถึงเหตุการณ์นั้นทันที ซึ่งผมเองก็รีบเปลี่ยนอันใหม่โดยที่ไม่ต้องคิดเลยครับ
แล้วมันเกี่ยวฝาหม้อน้ำเกี่ยวอะไรกับระบบแก็สล่ะ ความร้อนไงครับ เวลาเราใช้น้ำมันเครื่องก็ทำงาน ความร้อนมันก็มีอยู่ในเครื่อง เวลาเราใช้แก็ส ถ้าเพื่อนๆจำได้ ผมเคยบอกไว้
ว่าเวลาใช้แก็สเครื่องจะร้อนกว่าตอนใช้น้ำมัน รวมไปถึงระบบต่างๆของเครื่องด้วย และเช่นเดียวกันกับหม้อน้ำและฝาหม้อน้ำ เมื่อใช้แก็สความร้อนในหม้อน้ำก็ต้องมากกว่าตอนใช้น้ำมัน ซึ่งจะทำให้แรงดันที่อยู่ในหม้อน้ำมีมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ เมื่อแรงดันมากขึ้น มันจะดันฝาหม้อน้ำนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อไรที่ยางมันเสื่อมแล้วเราไม่รู้ มันจะทำให้น้ำรั่วออกมา คราวนี้แหละครับ จะได้รู้ว่าเสียแค่ร้อยกับเสียเป็นหมื่นเป็นยังไงครับ
และอีกเรื่องนึงเครื่องเรื่องน้ำในหม้อน้ำ เมื่ออาทิตย์ก่อนผมเดินทางต่างจังหวัด ปกติผมก็มีเช็คน้ำอยู่แล้ว คราวนี้วันที่ไปถึงมันก็เย็นมากประกอบกับเครื่องยังร้อนอยู่ผมก็ไม่กล้าเปิด กลัวน้ำในหม้อน้ำจะลวกหน้าเอา
ก็เลยรอถึงตอนเช้า ผมก็ลองเช็คดู เป็นไปตามคาดครับ น้ำหายไปเหมือนกัน :'( ผมก็เลยเอาน้ำมาเติม
และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน
อย่าเติมน้ำขณะที่เครื่องร้อน ทำไมหรอครับ
ก็เพราะว่านอกจากเวลาเปิดหม้อน้ำ แรงดันน้ำฟุ่งออกมาจะทำให้เสียโฉมได้แล้วนั้น
เวลาเราเติมน้ำไปตอนร้อนๆ อย่าลืมว่าอุณหภูมิของน้ำที่เราเติมเย็นกว่าน้ำมันหม้อ เวลาเติมไปอุณหภูมิที่ต่างกันจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งหม้อน้ำและเครื่องได้ครับ
เป็นอีกเรื่องนึงที่คิดว่าไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้วเรื่องเล็กน้อยก็สามารถที่จะทำความเสียหายให้แก่เราได้ครับ ก็เอามาฝากเพื่อนกันทั้งความรู้และอุทาหรณ์เกี่ยวกับการใช้รถ เพื่อที่จะได้ไม่เจอในสิ่งที่ผมเจอครับ มาแชร์ความรู้กันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก็ส ร้านที่ติด ระบบที่ใช้ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับแก็ส ผมเชื่อว่าคงมีคนที่อยู่ในวงการแก็สเข้ามาดูเหมือนกัน อย่างน้อยๆ เขาจะได้พัฒนาระบบให้ดีกว่าตอนนี้หรือไม่ก็คนที่ใช้แก็สเจอปัญหาแล้วมีทางแก้ไข ไม่ใช้ติดแก็สจากร้าน เวลามีปัญหาแล้วให้เจ้าของรถงมหาเอาเอง อย่างนี้ใช้ไม่ได้ครับผม