|
|
|
|
|
|
|
BEER_CIVIC ES
เจ้าสำนัก
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 718
|
|
« ตอบ #407 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2007, 17:51:37 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 902
I love my CIVIC.
|
|
« ตอบ #411 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2007, 00:16:48 » |
|
ครับวันนี้เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ พอดีว่าผมไปติดค้ำให้ลูกค้าเจ้านึง ซึ่งพอดีเขาติดแก็สมา ซึ่งงานเขาค่อนข้างดี ผมก็เลยขออนุญาตเจ้าของรถเพื่อทำการถ่ายเก็บข้อมูลมาฝากกัน โดยเจ้าของรถก็อนุญาตและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีครับ(ต้องขอขอบคุณไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ) ผมก็เลยเอางานมาฝากกันครับ รุ่นรถ - ES01-02 เกียร์ออโต้ เครื่องไม่มีวีเทค ระบบแก็สที่ใช้ - หัวฉีด Autronic Jet เบอร์ 15 ถังขนาด 58 ลิตร เจ้าของงานติดตั้งแก็ส -ร้าน YutCopter & HighWay Motorcar มาดูกันครับ รูปแรกเป็นรูปห้องเครื่องเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ถ้าดูจากสภาพแล้ว จะสังเกตได้ว่าแทบจะไม่เห็นความแตกต่างจากเดิมสักเท่าไรครับ อันนี้เป็นหัวฉีดยอดนิยมครับ Autronic มองจากด้านข้าง เบอร์หัวฉีดที่ใช้สำหรับคันนี้คือ เบอร์ 15 ครับ อันนี้ผมเรียกไม่ถูก เข้าใจว่าเป็นก่อนท่อส่งเข้าหัวฉีดครับ แล้วผมก็เพิ่งได้ทราบความจริงอยู่อีกเรื่องนึง รถที่ผมใช้เป็นระบบ Mixer + Lamda ซึ่งเวลาจะใช้แก็ส แก็สต้องถูกทำให้อุ่นโดยใช้หม้อต้ม โดยแก็สส่งผ่านมาจากถังสู่หม้อต้มแล้วจึงเข้าสู่เครื่องเพื่อให้เกิดพลังงาน แต่สำหรับระบบหัวฉีดรุ่นนี้ ไม่มีหม้อต้มแก็สครับ ซึ่งความร้อนนี้ได้มาจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมตามที่ตั้งไว้ ผมเข้าใจว่านี้ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ระบบหัวฉีดตัวนี้ เวลาตอนเช้าเครื่องมันเย็น ต้องรอให้เครื่องเกิดความร้อนก่อน ระบบแก็สจึงทำงาน ซึ่งเมื่อความร้อนเกิดขึ้น แก็สก็ถูกทำให้อุ่นโดยอุณหภูมิที่เหมาะสมผ่านหัวฉีดแล้วส่งเข้าสู่เครื่อง ซึ่งบางคนจะเจอปัญหาว่าตอนเช้าจะเกิดอาการสะอึกตอนเข้าแก็ส เพราะว่าเครื่องมันเย็น เวลาระบบเข้าสู้แก็สจะเกิดความเปลี่ยนแปลงระหว่างความร้อนกับความเย็นที่ตัวหัวฉีด(เมื่อตัด) จึงทำให้เกิดอาการสะอึกหรือกระตุกนิดๆหน่อย ซึ่งอันนั้นเป็นอาการปกติไม่มีอะไร ซึ่งเมื่อร้อนแล้วอาการนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกครับ จากรูปมีท่อน้ำสองชุดครับ ตัวบนกับล่าง แต่ไม่แน่ใจว่าเข้ายังไง พอดีอันนึ้ลืมถามอะคับ คราวนี้มาถึงเรื่องถัง เท่าที่จำได้เป็นถังขนาด 58 ลิตร มีการเก็บงานเรียบร้อย รูปนี้เป็นรูปเมื่อถ่ายจากในรถครับ พื้นที่ใช้สอยก็เหลือพอที่จะใช้งานได้ครับ ก็เอามาฝากกันสำหรับคนที่สนใจติดแก็ส และต้องขอขอบคุณเจ้าของรถที่อนุญาตให้ผมนำรูปและข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธันวาคม 2007, 00:21:01 โดย anodite_studbar »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
asdf
ศิษย์พี่
ออฟไลน์
กระทู้: 245
|
|
« ตอบ #430 เมื่อ: 14 มกราคม 2008, 05:21:42 » |
|
หุหุ มารายงาน 2 ถัง ผ่านไป ... ถังแรก 400 - 38 ลิตร ใช้ให้เหลือ ไฟ 1 ดวง แล้วเติม ....ถังแรก วัดอะไรไม่ได้ครับ เพราะ ทั้งจูน ทั้งปรับไปมา จนถังแรก เหลือ ไฟดวงเดียว จึงเติมถังที่ สอง ครับ 300 - 28 ลิตร วิ่งทั้งในเมือง รถติดมั่ง ไม่ติดมั่ง ตอนนี้ เหลือดวงเดียวเหมือนก่อนเติม วิ่งไป 269 กิโลเมตร ครับ ก็ตก โลละ บาท กว่า ๆ ก็ พอใจอ่ะครับ ของผม AG ครับ จูนได้ค่อนข้างลงตัว - ควรตั้งแก๊สหนากว่าน้ำมันนิดนึงนะครับ ( off set = 1.8 ร้านจะตั้งให้เรา 1.6 ครับ ) เท่าที่ ลองวิ่งดู จะไม่ต่างจากน้ำมันมากนัก แต่ก็มีอืดๆ ในบางช่วง (ช่วง ที่รอบเกิน 3000 ขึ้นไป จะมีหน่วงเล็กน้อย) - จากนั้นก็จะปกติ แต่ยังไม่เคยวิ่งถึง 4000 รอบซักที - ก่อน ถึงบ้าน อย่างน้อย 2-3 กิโล ก็อย่าลืมสับกลับไปน้ำมันนะครับ - - อย่าลืมดูน้ำหม้อน้ำนะครับ -
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
wirot
เข้าวงการ
ออฟไลน์
กระทู้: 23
|
|
« ตอบ #431 เมื่อ: 14 มกราคม 2008, 12:51:56 » |
|
หุหุ มารายงาน 2 ถัง ผ่านไป ... ถังแรก 400 - 38 ลิตร ใช้ให้เหลือ ไฟ 1 ดวง แล้วเติม ....ถังแรก วัดอะไรไม่ได้ครับ เพราะ ทั้งจูน ทั้งปรับไปมา จนถังแรก เหลือ ไฟดวงเดียว จึงเติมถังที่ สอง ครับ 300 - 28 ลิตร วิ่งทั้งในเมือง รถติดมั่ง ไม่ติดมั่ง ตอนนี้ เหลือดวงเดียวเหมือนก่อนเติม วิ่งไป 269 กิโลเมตร ครับ ก็ตก โลละ บาท กว่า ๆ ก็ พอใจอ่ะครับ ของผม AG ครับ จูนได้ค่อนข้างลงตัว - ควรตั้งแก๊สหนากว่าน้ำมันนิดนึงนะครับ ( off set = 1.8 ร้านจะตั้งให้เรา 1.6 ครับ ) เท่าที่ ลองวิ่งดู จะไม่ต่างจากน้ำมันมากนัก แต่ก็มีอืดๆ ในบางช่วง (ช่วง ที่รอบเกิน 3000 ขึ้นไป จะมีหน่วงเล็กน้อย) - จากนั้นก็จะปกติ แต่ยังไม่เคยวิ่งถึง 4000 รอบซักที - ก่อน ถึงบ้าน อย่างน้อย 2-3 กิโล ก็อย่าลืมสับกลับไปน้ำมันนะครับ - - อย่าลืมดูน้ำหม้อน้ำนะครับ - ทำไมต้องตัดกลับมาน้ำมันก่อนจอดรถล่ะครับ ผมเพื่งติดมา Autronic มาครับ ยังไม่หมดถังแรกเลย ใช้ เจ็ท 15 ถัง metal 68 ลิตร ตอนแรกตั้งความร้อนไว้ที่ 45 องศา แล้วมันขับไปหลายโลกว่าจะเป็นแก็ส เลยให้เขาตั้งใหม่เป็น 35 องศา ดีหน่อยเปลี่ยนเป็นแก็สเร็วขึ้น ยังไม่มีปัญหาครับ ไม่งั้นขับไปหลาย กิโล กว่าจะเป็นแก็ส ต้องใฃ้น้ำมันวันละลิตรกว่าจะเปลี่ยนเป็นแก็ส ( ต้อนเช้า และ กลับบ้านตอนเย็น ต้องสตาร์ทเป็นน้ำมัน) ขับเดือน ละ 30 วัน วันละลิตร ลิตรละ30 บ.ก็ปาเข้าไป 900 บ.แล้วไม่รู้จะติดแก็สไม่ทำไม ผมเข้าใจแบบนี้ ผิดป่าว คับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 902
I love my CIVIC.
|
|
« ตอบ #434 เมื่อ: 14 มกราคม 2008, 22:32:38 » |
|
ช่วยแนะนำเรื่องการ ติดแก็ส Honda Civic Dimension 2003 ผมใช้ Honda Civic Dimension 2003 เกียร์ ธรรมดา ตอนนี้ลูกจะเข้าโรงเรียน เลยอยากประหยัดจะติดแก็ส ขอถามเป็นข้อๆนะครับ 1. จะติด LPG หรือ NGV 2.แก็ส 2 แบบนี้ ในอนาคต อันไหนมันจะลอยตัวแพงกว่ากัน 3.จะติดแบบไหนดี แบบ ดูด หรือ หัวฉีด ติดแบบไหนดีครับ 4.แนะนำร้านเก่งๆหน่อยครับ 5.ติด LPG หัวฉีดแบบไหนดีกว่ากันครับ ระหว่าง AG Centrum กับ Autrinic ปล.ผมมือใหม่อยากติดแก็สครับ
ตอบข้อ1และ2แบบรวมๆแล้วกันนะครับ - เท่าที่ผ่านมา แม้ว่า NGV จะมีราคา8.50บาท ซึ่งถูกกว่าตั้งสองบาทเมื่อเทียบกับ LPG ซึ่งตอนนี้ราคาอยู่ที่ 10.50 บาทโดยประมาณ แต่ใช่ว่าผมจะตั้งข้อกังขากับNGV แต่เท่าที่เพื่อนๆผมประสบมาและเท่าที่ทั้งได้เห็นและได้ยินจากปากของคนขับแท็กซี่ NGV ราคาถูกจริงแต่ว่าหาปั้มเติมยาก บางทีแก็สหมด ปั้มปิดเอาดื้อๆก็มี แถวบ้านผมมีสองปั้ม(เพิ่งจะเปิดได้ไม่ถึงปีหลังจากที่ผมติดแก็สLPGจนคุ้มทุนไปแล้ว)ก็ปรากฎให้เห็นชัดๆคือคนเติมเยอะ รอคิวนาน บางครั้งหมดทีต้องรอ บางทีเห็นแท็กซี่จอดยาวเป็นแถวเกือบหลายสิบคัน ผมนั่งแท็กซี่ที่ติดNGV เขาก็บอกว่าคุ้มถ้าเทียบกับน้ำมัน แต่ว่าหาเติมยาก รอคิวนาน ต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง หาเติมยากกว่า LPG เยอะ และอย่างล่าสุดผมไปจังหวัดเพชรบูรณ์ ปั้ม LPG มีสองปั้ม ปั้มแรกอยู่ที่ ลำนารายณ์ อีกปั้มอยู่ที่ก่อนขึ้นเขาค้อ NGVไม่มีสักปั้มเลยครับ ซึ่งถ้าตอนแรกผมติดNGVไปคงเศร้าพอดู สำหรับเรื่องราคาลอยตัวของแก็ส ผมว่าค่าของมันคงไม่น่าเกิน 15 บาทต่อลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับน้ำมันตอนนั้นก็คงเกือบ 40 บาทไปแล้ว ถ้าใช้ทุกวัน LPG ติดคุ้มครับ แม้ว่าจะแพงกว่าNGVก็ตาม คงต้องดูว่าวิ่งวันละกี่กิโล แล้วราคาติดเท่าไร ตกลิตรละเท่าไร ประหยัดเท่าไร แล้วค่าความประหยัดใช้เวลากี่เดือนคุ้มทุน ก็คงต้องลองชั่งใจดู และอีกอย่างนึงที่อยากจะติเรื่องNGVก็คือเรื่องค่าติดตั้ง แพงมากเมื่อเทียบกับLPG ค่าความคุ้มทุนก็นานกว่า อันนี้ก็แล้วนะครับ ถ้ามีงบก็จัดไปครับ ข้อ3และ5 - สำหรับ Civic Dimension ตั้งแต่ปี 01-05 เครื่องเป็นระบบหัวฉีด และมีระบบวีเทคด้วย ซึ่งตัววีเทคนี้ถ้าติดเป็นระบบดูดแบบธรรมดา ก็จะทำให้เครื่องรวน(อันนี้เจอมากับตัว) ผมแนะนำจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ ติดหัวฉีดไปเลยดีกว่าครับ แพงหน่อยแต่คุ้ม การบำรุงรักษาก็ง่ายกว่าแบบดูด ไม่จุกจิก ราคาอยู่ 30000กว่าถึง40000ต้นๆ(ณ.ตอนนี้) ผมว่าราคาไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ แต่สิ่งสำคัญก็คือระบบที่ติดและบริการหลังการติด ทำไมหรอครับ ถ้าติดระบบไม่ดี มันก็รวนได้เช่นกัน และถ้าเกิดติดร้านที่ไม่ชำนาญ หรือความรับผิดชอบ เกิดว่าร้านปิดกิจการขึ้นมา เราจะไปให้ร้านอื่นดู เขาก็ไม่ค่อยอยากดูให้เรา ก็ต้องคิดให้ดีๆ สำหรับระบบหัวฉีดที่เหมาะกับ Civic Dimension ก็เท่าที่นิ่งที่สุดคือ Autronic ครับ ข้อ4 - สำหรับร้านก็มีอยู่หลายร้าน ก็คงต้องเลือกดูนะครับ ถ้าผมแนะนำก็คงเป็นร้าน YutCopter & HighWay Motorcar Link เวปเขาครับ http://www.gasthai.com/boardshop/Weblist.asp?shopname=highway อันนี้บอกก่อนนะครับว่าผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านเขา ที่แนะนำเพราะว่าทั้งผมเอง และเพื่อนๆอีกหลายๆคนที่ผมแนะนำไปติดก็บอกว่าติดมาดี ไม่ค่อยมีปัญหาครับ ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการใช้แก็สนะครับป๋ม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|