ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
04 ธันวาคม 2024, 00:32:39
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Alternative Energy => พลังงานทางเลือก  |  หัวข้อ: มาแชร์เรื่องการติดแก็สซีวิคทุกๆรุ่นกัน(ยินดีต้อนรับสู่Civic Gas Gang Clubครับ) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 27 ลงล่าง พิมพ์
โพลล์
คำถาม: ถ้าคุณจะติดGas คุณจะเลือกระบบไหน
LPG Mixer   -34 (13.4%)
LPG Mixer + Stepping Motor   -20 (7.9%)
LPG Variable   -5 (2%)
LPG Injection   -131 (51.6%)
LPG Not change ,use Gasohol only   -8 (3.1%)
NGV Injection   -55 (21.7%)
Change from LPG Mixer to LPG Injection   -1 (0.4%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 246

ผู้เขียน หัวข้อ: มาแชร์เรื่องการติดแก็สซีวิคทุกๆรุ่นกัน(ยินดีต้อนรับสู่Civic Gas Gang Clubครับ)  (อ่าน 502891 ครั้ง)
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #40 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2006, 23:09:45 »

หายไปนานเลยครับ พอดีไม่ค่อยว่างติดงานอ่ะคับ เลยมะได้อัพ วันนี้มาUpกันหน่อยครับ

เรื่องการสตาร์ท
ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้วครับ สตาร์ทน้ำมันแล้วswitchเป็นแก็ส หรือสตาร์ทด้วยแก็สเลย ติดดีครับ อาจจะมีบางครั้งที่ยาก แต่รวมๆสตาร์ทง่ายครับ

อัตราสิ้นเปลืองกับความเร็วสูงสุดที่ทำได้
หลังจากรายงานไปล่าสุดได้ที 1.47 ก็ได้มีการจดมาเรื่อยๆ มากบ้างน้อยบ้างอยู่ที่การจราจร ที่ได้ก็มี 1.66,1.73,1.59 บาทต่อโล

พอดีวันนี้มีโอกาสได้เดินทางไปต่างจังหวัดก็เลยลองดูสักกะหน่อย ความเร็วสูงสุดที่ได้คือ 150 กม/ชม แต่ช่วง 140-150 จะอืดหน่อย แต่150ก็อั้นแล้ว แต่คิดว่าน่าจะกดได้แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเป็นไรขึ้นมาแย่เลย
ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 130-150 กม/ชม  คราวนี้ผลที่ได้ว่าโลนึงใช้กี่บาท ผลจากการคำนวนออกมาคือ 1.37 บาทต่อโล ซึ่งสำหรับผม ผมคิดว่าพอใจนะครับ เพราะว่าในเมืองกินกว่านี้และความเร็วที่ทำก็ได้อย่างที่หวัง (จริงถ้าขับแบบ 90-110น่าจะได้มากกว่านี้ แต่ผมอัดดูอ่ะคับ) และเทียบกับตอนใช้น้ำมัน น้ำมันแพงกว่าเยอะครับ คิดเป็นสามบาทกว่าต่อโล ยังไงก็คุ้มครับ

สำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะติดแต่กลัวว่าเครื่องจะเสีย ถ้าคุณประหยัดจากน้ำมันแล้วเอาเงินนั้นมาบำรุงดีๆก็น่าจะใช้งานได้อีกนาน รถเราไม่ได้ใช้แบบแท็กซี่ เพราะว่าแท็กซี่วิ่ง24ชม และที่สำคัญ น้ำมันเครื่องต้องเป็นสังเคราะห์ ถึงจะทำให้เครื่องลื่นขึ้นและรักษาเครื่องไปในตัว ส่วนอื่นๆ คงไม่มีอะไรครับ

ติดก่อนคุ้มก่อนนะครับ รอไปติดตอนแก็สลอยตัว คราวนี้จะเสียใจว่าทำไมไม่รีบติดตั้งแต่ตอนแรกครับ ยิ้มกว้างๆ
 
บันทึกการเข้า

morning
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11


« ตอบ #41 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2006, 19:55:24 »

Civic 1.7 Exi ปี 2005 ติดแบบ Fix Mixer มาได้ 2 เดือนครับ

อัตราสิ้นเปลือง : ในเมือง 1.10 บาท/กม.
                       : นอกเมือง 0.85 บาท/กม.

อัตราเร่ง          : ต้นอืดกว่าน้ำมัน เล็กน้อย ขอย้ำว่าเล็กน้อย แต่ปลาย 160-170 สบายๆ

อุปกรณ์            : หม้อต้ม Hana ของเกาหลี แต่เอา Solenoid ตัดแก็สของอิตาลีมาต่อผสม, ถัง 58 ลิตร ของ Metal Mate,สวิทช์แบบ Manual สับไปสับมาได้ตามต้องการ ถ้านึกอยากจะอัดก็สับน้ำมันแล้ว Kick down เลย, หัวเทียนเปลี่ยนเป็นแบบ 3 เขี้ยวทั้งสี่หัว

การใช้งาน       : - ไม่มีกลิ่น
                         - สตาร์ทด้วยน้ำมันได้ปกติ
                         - เครื่องร้อนสตาร์ทแก็สได้ปกติ (ทีเดียวติด แต่เวลาบิดกุญแจเปิดแล้วต้องหมุนสตาร์ทเลย) แต่การสตาร์ทและก่อนดับทุกครั้ง สับไปใช้ระบบน้ำมันดีกว่า
                         - เวลาขับไม่ควร kick down แบบโหดๆเพราะอาจทำให้ Back fire แล้วท่อไอดี รวมถึงกรองอากาศกระจุยได้.....ลดความเสียหายได้โดยการเปลี่ยนท่อไอดีเป็นเสตนเลส แต่จะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการรอบเดินเบาไม่นิ่ง หรือ มีอาการรวนอื่นๆ เมื่อใช้ระบบน้ำมัน
                         - ข้อสุดท้ายถือเป็นข้อเสีย เพราะคุณจะไปโน่น ไปนี่โดยไม่ค่อยไตร่ตรองอะไรมากอีกต่อไป..... LPG เป็นคำตอบของผม
บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #42 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2006, 20:14:01 »

ครับ แชร์ประสบการณ์กัน จะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่สนใจติดแก็สครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

morning
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11


« ตอบ #43 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2006, 08:46:53 »

 ;Dรีบติดดีกว่าครับ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #44 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2006, 23:11:12 »

;Dรีบติดดีกว่าครับ ยิงฟันยิ้ม

ความสามารถยังไม่ถึงครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #45 เมื่อ: 06 กันยายน 2006, 23:09:38 »

วันนี้เพิ่มเติมครับ หลังจากที่ทดลองใช้ไปได้สักพัก ก็มีการจูนอย่างที่เล่าให้ฟังในตอนแรก และอาการEngineโชว์ในตอนแรกก็ยังปรากฎอยู่

ซึ่งเมื่อวานมีเหตุ ปรากฎว่าไปธุระกับที่บ้าน ลงทางด่วนอยู่ดีๆเบาดับไปเฉยๆ(โชคดีที่ว่าไม่มีรถจี้ตูดมา ไม่งั้นตูมแน่) ก็สตาร์ทน้ำมันไปต่อ แต่จริงๆอาการนี้มันไม่ได้เกิดมาก่อนหน้านี้(คือช่วงที่รายงาน) แต่มันเกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อน คืออาการของมันคือเบาสั่นแต่ไม่ดับในตอนแรก ซึ่งรอบที่เข้าเกียร์(อัตโนมัติ) ต่ำกว่าห้าพันรอบ สะท้านไปทั้งคัน

เมื่อเช้านึกว่าอาการจะหาย พอดีมีธุระตอนเช้าก็เลยสตาร์ทจากน้ำมันแล้วสับไปเป็นแก็ส ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีปัญหา แต่พอวันนี้ดับเลยครับ(ขนาดเลี้ยงรอบไว้ก็ไม่อยู่) งุงิมาก เลยเอาเข้าไปที่อู่(ซึ่งอยู่แถวบ้านพอดี) แล้วบอกอาการกับช่างว่าเบาสั่น แล้วมีเบาดับด้วยเมื่อวาน ช่างก็ดู ตอนแรกก็ตั้งที่หม้อต้ม เสร็จก็ตั้งที่วาวล์ส่งเข้าMixer(Power Value) ก็ยังมีอาการเบาดับ สักพักช่างก็เดินไปหยิบอุปกรณ์มาซึ่งเท่าที่เห็นมีไขขวงตัวเล็กกับประแจเบอร์(ประมาณ)10-11 แล้วเอาไปไขที่ใต้กรองอากาศ ปรากฎว่าอยู่ดีๆเครื่องก็เร่งดังขึ้นมา เขาให้ผมดูว่ากี่รอบ ตอนแรกอยู่เกือบสองพัน เขาก็ตั้งไปตั้งมาอยู่ที่พันรอบพอดี คราวนี้ลองเข้าเกียร์ ปรากฎว่ารอบตกลงเยอะมาก ผมก็เลยบอกช่างว่าเอารอบสูงกว่านี้นิดนึง เขาก็ตั้งอยู่ที่ประมาณพันสองร้อยรอบ ปรากฎว่ารอบเครื่องดังแต่เวลาเข้าเกียร์smoothมาก ไม่กระชากเหมือนตอนแรก(ตอนแรกรอบต่ำมาก) หลังจากนั้นก็ลองใช้งานจริง ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจเรื่องแรก คื่อเรื่องไฟเอ็นจิ้น ปรากฎว่าวันนี้วิ่งทั้งวัน ไม่โชว์เลยครับ ปกติแค่เหยียบแซง ไฟเอ็นจิ้นจะโชว์ทันที ไม่ว่ารอบเครื่องเร็วหรือช้า สิ่งที่ได้ต่อมาคืออัตราเร่ง เหมือนตอนขับน้ำมันเลยครับ แค่แตะเบาๆวิ่งฉิ่วเลย วันนี้มีโอกาสไปหาลูกค้า ขากลับลองบนโทล์เวล์ ปรากฎว่าวิ่งมันมาก เหมือนน้ำมัน เร่งแซงไฟก็ไม่โชว์ และที่สังเกตุอีกอย่างนึงคือ แก็สกินไม่เหมือนตอนแรก นึกว่าจะกินกว่าเก่าแต่ดูที่เกย์ถังแก็ส เมื่อเทียบกับก่อนจูนรู้สึกว่าประหยัดกว่า(อันนี้ผมคงต้องลองเรื่องอัตราการกินน้ำมันอีกที) และตอนสุดท้ายดับเครื่อง จะมีอาการสะท้านนิดๆ ซึ่งอาการนี้เป็นอาการของการตั้งไฟแก่(รอบเครื่องสูง) ครับอย่างที่หลายๆคนเคยโพสไว้(บางเวปเกี่ยวกับแก็ส) ว่าการจูนแก็สที่ทำให้ไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์ ไม่จำเป็นต้องใส่กล่องหลอก แต่ถ้าส่วนผสมทุกอย่างเช่น ปริมาณแก็ส ปริมาณอากาศ (และอันนี้ส่วนตัวผม การตั้งไฟ(รอบเครื่อง) ) ที่สมดุลกัน ทำให้อาการไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์ และแถมยังวิ่งได้เหมือนตอนขับน้ำมัน

ช่วงนี้โชคดีที่ราคาน้ำมันลง แต่สำหรับผมลงขึ้นตอนนี้ก็ไม่สนใจแล้ว เพราะว่าตัดสินใจที่จะมาใช้แก็ส ซึ่งก็ยืนยันเหมือนคนอื่นๆว่ารู้ยังงี้ติดไปตั้งนานแล้ว

และเพิ่มเติมอีกเรื่องนึงคือเรื่องนี้สำคัญมากคือ เวลาสตาร์ทควรสตาร์ทด้วยน้ำมันแล้วค่อยสับไปเป็นแก็ส ถ้าเป็นไปได้รอสักพักเพื่อให้น้ำมันไปเลี้ยงที่วาวล์ก่อน และเวลากลับถึงบ้านไม่ได้ไปไหน ดับแก็สและรอสักแป๊บแล้วสตาร์ทน้ำมันไว้สักห้านาทีเป็นอย่างน้อยเพื่อให้น้ำมันไปเลี้ยงวาวล์ไม่ให้เสียเร็วครับ(แต่จริงๆมันก็กร่อนตอนเราใช้แก็สแล้ว ยังไงก็ต้องทำใจครับ) ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

sarunyu
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #46 เมื่อ: 07 กันยายน 2006, 09:45:18 »

สุดยอกมากเลยครับ ขอขอบคุณคนตั้งกระทู้นี้ และคนตอบกระทู้นี้ มีความรู้เรื่องแก๊สเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ แต่ขอถามอีกอย่างหนึ่งครับว่า การติดแก๊สแบบดูด กับแบบหัวฉีดแบบไหนจะดีกว่ากันทั้งเรื่องการจูน ปัญหาต่างๆ และแบบไหนที่เครื่องจะอืดมากกว่ากัน ขอบคุณครับ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #47 เมื่อ: 07 กันยายน 2006, 20:26:22 »

สุดยอกมากเลยครับ ขอขอบคุณคนตั้งกระทู้นี้ และคนตอบกระทู้นี้ มีความรู้เรื่องแก๊สเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ แต่ขอถามอีกอย่างหนึ่งครับว่า การติดแก๊สแบบดูด กับแบบหัวฉีดแบบไหนจะดีกว่ากันทั้งเรื่องการจูน ปัญหาต่างๆ และแบบไหนที่เครื่องจะอืดมากกว่ากัน ขอบคุณครับ ยิ้มเท่ห์

จริงๆเท่าที่มีคนบอกและคุยหลายๆคน เขาบอกว่าระบบหัวฉีดดีกว่า เนื่องจากใช้คอมฯในการจูนซึ่งความเที่ยงตรงแน่นอน ประหยัดกว่าแบบดูด วิ่งกว่า แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อเสีย ระบบหัวฉีดถ้าเกิดรวนเกี่ยวกับระบบไฟขึ้นมาก็มีปัญหาเหมือน ค่าติดตั้งแพง(จริงๆจะว่าแพงก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าการคุ้มทุนมันใช้เวลานานกว่าติดแบบดูด)

สำหรับระบบดูด (ซึ่งผมใช้ระบบนี้อยู่) ข้อดีคือค่าติดตั้งไม่แพง ไม่จุกจิกในเรื่องระบบไฟ และคุ้มทุนเร็ว ข้อเสียก็มีเช่นกัน เท่าที่ประสบมาก็คือการจูนที่ไม่เที่ยง ทำให้รถอืดบ้าง กินแก็สบ้าง ไฟเอ็นจิ้นโชว์บ้าง อะไรประมาณนี้

เท่าที่ตอนนี้ลองใช้มาได้เดือนกว่าๆ ก็กว่าจูนได้ที่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าผมติดแบบดูดแล้วคุ้มไหม ผมว่าถ้าเอาค่าน้ำมันมาเทียบค่าแก็สยังไงก็คุ้ม(ให้กินโลละสองบาทยังประหยัดกว่าเยอะ) ที่สำคัญเวลาติดตั้งดูอู่ดีๆ สอบถามหลายๆร้าน อย่าเอาแต่ถูกเข้าว่า ถามหลายๆคนว่าที่ไหนดี จะได้ไม่เสียใจกับปัญหาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2006, 00:07:07 โดย anodite_studbar » บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #48 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 00:00:45 »

ครับหายไปนานทีเดียว รายงานผลต่อดีกว่าครับ หลังจากใช้ไปได้สักพักนึงก็เริ่มเกิดปัญหาครับ คือรอบเดินเบาไม่นิ่ง บทรอบจะสูงก็สูงซะเลย บทจะต่ำก็ต่ำซะเกือบดับ ตอนแรกที่เกิดปัญหาก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าขับได้ก็ขับ แต่ว่าคราวนี้ไม่ไหว ก็เลยให้อู่เก่าจูน คราวนี้อย่างที่เคยบอกไปคือการจูนรอบให้สูงขึ้นโดยยกปีกฝีเสื้อ(อยู่ที่ก่อนไอดี) ขอบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง สาเหตว่าทำไมไว้เดี่ยวจะเล่าให้ทีหลัง คราวนี้ก็เล่าต่อ ก็เริ่มงุงิว่าทำดีหว่า เริ่มรวนไปกันใหญ่ กินแก็สก็เริ่มแปลกๆ การวิ่งก็แปลกๆ เคลียดมาก คราวนี้ไม่เอาเข้าไปอู่เก่าแล้วครับ ผมก็เลยลองไปศึกษาที่ www.gasthai.com เสร็จแล้วก็ลองอ่านๆกระทู้ที่เกี่ยวกับซีวิคที่ติดแก็ส ก็อ่านไปเรื่อยๆแบบเจาะลึกกว่าเก่า ปัญหาที่เจอ(ระบบมิกเซอร์แบบของผม)คือ รอบเดินเบาไม่นิ่ง ไฟเอ็นจิ้นโชว์ Backfire คราวนี้ก็เริ่มเจาะลึกไปเรื่อยๆก็เจอว่า มีอุปกรณ์อยู่ตัวนึงที่ทำหน้าที่เหมือนพาวเวอร์วาวล์(ปรับทางเดินแก็สเข้าเครื่อง)แต่มีกล่องคุมซื่งชื่อเรียกคือ Stepping Motor หรือ Lamda มาคราวนี้ก็เลยอ่านว่าจริงๆแล้วมันทำหน้าที่อย่างไร เท่าที่ได้จากในเวปคือ

เหตุและผลที่มีการติดตั้ง Lambda & Stepping motor พอกล่าวได้ดังนี้
การติด Mixer ในระบบดูด ธรรมดา
1. มีการจูนหลายครั้ง เพื่อปรับแต่งส่วนผสมอากาศ+แก๊ส
2. อาจมีการเกิด Backfire ได้
การติด.ในระบบ Lambda & Stepping motor
1.ไม่ต้องมีการจูนบ่อย (ครั้งเดียวจบ) เพราะ Program computor จูน
2.อัตราส่วนผสมที่ดี เพราะ Copy กล่อง ECU น้ำมันมาใช้กับ ECU แก๊ส ทำให้การจ่ายแก๊สแม่นยำ
โดยเจ้า Stepping motor เป็นตัว Control อัตราส่วนผสม Gas + O2
3.การเกิด Backfire น้อยมากๆๆๆ

บางเหตุผลก็เพื่อ เลียนแบบวิธีการผสมไอดีแบบตอนเป็นโหมดน้ำมันครับ

บางเหตุผลก็แบบนี้คือ  อัตราเร่งดีขึ้น อัตราสิ้นเปลือง ประหยัดขึ้น

(ซึ่งต้องขอขอบคุณสำหรับข้อมูลตรงนี้มากๆเลยครับ)

คราวนี้ก็ว่ากันต่อ ก็เลยลองหาไปเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็มีหลายคนในเวปที่ติดตัวนี้ แต่ผมต้องการช่างที่เกี่ยวกับซีวิคโดยตรง ก็ไปเจออยู่ในกระทู้นึง (ซึ่งจะบอกชื่อตอนสุดท้ายอีกทีครับ) ผมก็เลยโทรไปคุยกับเขาและเล่าอาการที่รถผมเป็นให้เขาพัง ซึ่งตอนแรกเขาก็บอกผมว่าทำไมไม่ติดหัวฉีดไปเลย ผมเองก็ตอบไปตรงๆว่าเราอยากที่จะประหยัดและก่อนหน้านี้ผมก็เอารถไปติดอู่เดิมก็ไม่มีปัญหาอะไรก็เลยเอารถผมไปติด และเขาก็ได้เล่าต่อมาว่าซีวิครุ่นนี้ต้องยอมรับว่าจูนยาก รอบเครื่องไม่นิ่ง เกือบทุกคัน ที่ไม่ได้ติดหัวฉีดมา ก็ควรใส่Stepping Motor ผมก็ตัดสินใจได้สักวันสองวัน คิดว่าดีกว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่น ผมก็เลยโทรไปนัดเขาโชคดีที่ร้านเขาวันนั้นว่างพอดี

ต้องบอกเลยครับว่าไกลจากบ้านผมพอสมควร แต่เมื่อเราต้องหามืออาชีพในรุ่นนี้ ผมก็ต้องไปครับ พอไปถึงร้าน สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ รถฮอนด้าเต็มไปหมด(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาคลุกคลีฮอนด้ามาพอสมควร เรียกว่าช่างซ่อมเฉพาะทางก็ได้)  นี่ก็เป็นรูปร้านที่ผมไปมา













หลังจากนั้นผมก็คุยกับเขาแล้วให้เขาใส่stepping motor ซึ่งผลที่ออกมาคือหม้อต้มผมมีปัญหา หม้อต้มผมเป็นของเกาหลี(ไม่รู้ยี่ห้อ) ปัญหาคือเวลาจูนบางก็บางไป หนาก็หนาไป เวลาใส่stepping motorแล้วจูนที่notebookมันฟ้องเลยครับ ก็จูนได้สักพักจนนิ่ง เขาก็ลองบอกว่าให้เอาไปใช้ก่อน แต่ว่าหม้อต้มนี้คิดว่าไม่เหมาะกับรถรุ่นนี้(ซึ่งผมก็เห็นด้วย) ผมก็ลองดูได้สักวันสองวัน ปรากฎว่ารอบเดินเบายังมีอยู่และอยู่ดีๆดับไปเฉยๆ ผมก็เลยกลับเข้าไปให้เขาจูนอีกรอบ ซึ่งเขาก็จูนจนเครียดพอสมควรแต่ผมก็บอกว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วเปลี่ยนหม้อต้มใหม่แล้วกันจะได้จบๆไปเพราะเบื่อกับปัญหาเดินเบาไม่นิ่ง แต่เขาบอกว่าเขาอยากลองก่อนถ้าได้ก็ดีไปจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ลองไปเกือบสองชั่วโมง ปรากฎว่าเป็นอย่างที่ผมคาดไว้คือต้องเปลี่ยนหม้อต้ม ซึ่งหม้อต้มใหม่ชองผม ผมเลือกของโตมาโซโต๊ หลังจากที่เปลียนเสร็จผมก็ให้เขาดูที่มิกเซอร์ของผม ว่ามิกซ์เท่าไร ซึ่งอู่เก่าเขาใส่ให้ผม 22 มิลฯ เขาก็เลยเปลี่ยนให้เป็น 26 มิล และก็ลองจูนไปจูนมาก็นิ่งได้ในระดับนึง เขาก็บอกว่าให้ผมลองกลับไปใช้ดูอีกที เพราะว่าจูนบางทีไม่ใช่ครั้งเดียวจะได้ที่ อาจจต้องมีอีกสักครั้งสองครั้ง ผมก็ลองกลับไปใช้ดู แต่เท่าที่สังเกตคือมีปัญหาเรื่องรอบนิดหน่อย ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่เบาดับไม่เป็น ก็ลองไปได้อีกสักพักก็กลับไปให้เขาดูอีกรอบ ซึ่งผมลืมบอกเขาไปว่าผมได้มีการยกปีกผีเสื้อก่อนที่จะมาทำที่นี้เพี่อให้รอบสูงขึ้นจะได้ไม่ดับ ซึ่งเขาก็ตกใจและบอกว่าการทำแบบนี้นไม่ดี เพราะปีกผีเสื้อรุ่นนี้ใช้กล่องคุม เมื่อตำแหน่งของมันเปลี่ยนจากเดิมค่าก็เปลี่ยน กล่องมันก็พยามให้ได้ค่าเดิมที่มาจากโรงงาน เมื่อไม่ได้มันก็พารวน เผลอๆจะเข้าsafe modeเอาดื้อๆ หลังจากนั้นเขาเองก็เลยเอาปีกผีเสื้อออกมาล้างทำความสะอาดและตั้งให้ได้ค่าปกติ(ที่ใกล้เคียงกับโรงงานที่สุด) และก็ใส่ลงไป คราวนี้เมื่อปีกผีเสื้อกลับสู่ตำแหน่งเดิม การจูนใหม่ก็ต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากค่ามันต้องเปลี่ยน ซึ่งเขาใช้เวลาจูนไปพอสมควร เพื่อให้แน่ใจว่ารอบเดินเบานิ่ง ไม่ดับกลางทาง ไม่Backfire ไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์ แล้วเขาก็จูนให้ผมจนสำเร็จ ผมก็ลองกลับเอามาใช้งานอีกครั้งนึง ผลที่ได้คืออาการเบาดับ ดับกลางทาง ไฟเอ็นจิ้นโชว์ Backfire ไม่เกิดขึ้นครับ และผลที่น่าดีใจอีกสองอย่างคืออัตราเร่งและการกินแก็ส เอาเรื่องอัตราเร่งก่อน หน้านี้ต้องค่อยพะวงว่าจะเร่งแซงไหวหรือเปล่า ตอนนี้ไม่เป็นแล้วครับ นิ่มขึ้น รอบนิ่งขึ้น(อาจจะมีหนืดๆหน่อยในตอนแรกๆที่ออกตัว) แต่ถ้าปลายแล้ววิ่งเหมือนน้ำมันเลยครับ คราวนี้ก็มาเรื่องอัตราการกินแก็ส(แก็สยังไม่หมดถัง คำนวนที่วิ่งไป 202กิโลเมตร) กินอยู่ที่ 1.28 บาท/กม (ซึ่งการวิ่งของผมมีทั้งวิ่งเร็วบ้าง ช้าบ้าง รถติดบาง ทางยาวบ้าง ทางสั้นบ้าง ) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เต็มที่ก็แค่ 1.40 กว่าแค่นั้นเองแถมยังไม่ค่อยวิ่งด้วย(ซึ่งก่อนหน้านี้ระยะทางเท่าๆกัน)

คราวนี้ก็มาถึงตำแหน่งการติดหม้อต้มใหม่กับStepping Motor ถ้าได้ดูจากรูปในตอนแรกๆ(ประมาณหน้า1)ให้สังเกตมุมขวาใกล้กับกระบุกน้ำมันพาวเวอร์ให้ดีเดิมจะอยู่ดำแหน่งตรงนั้นซึ่งการว่างก็อยู่ตำแหน่งที่ออกเฉียงๆหน่อย และนี่ก็อีกความรู้นึงที่ผมได้คือ การวางหม้อต้ม ต้องว่าขนาดกับรถไม่ควรวางควางหรือทะแยง ทำไมหรอ ก็เพราะว่าในหม้อต้มจะมีแผ่นไดอะเพรมซึ่งกั้นอยู่เป็นห้องๆ เมื่อรถวิ่งก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าเราเบรกและต่ำแหน่งการวางแบบควางหรือทะแยงจะทำให้แผ่นไดอะเพรมนี้เคลื่อน ทำให้หม้อต้มไม่นิ่ง ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ก็ตอนเปลี่ยนหม้อต้มและก็เลยย้ายตำแหน่งให้มาอยู่ที่ใต้ท่อแอร์ และอีกความรู้นึงคือหม้อต้มยิ่งใกล้stepping motorหรือpower valveและใกล้มิกเซอร์ยิ่งดี ทำไมหรือครับ ก็ระยะทางของแก็สที่วิ่งไปจากหม้อต้มน้อยลงทำให้แก็สผ่านใกล้stepping motorหรือpower valveและเข้าไปสู่มิกเซอร์อย่างเร็วทำให้ต่อเนื่องไม่เกิดการสะอึกขึ้นครับ และนี่คือรูปหลังเปลี่ยน



อันนี้คือตัว Stepping Motor (หรือเรียกง่ายๆว่าพาวเวอร์จูนด้วยกล่องจากคอม)



อันนี้คือหม้อต้มใกล้ๆStepping Motor อยู่ใต้ท่อแอร์



ครับที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผมต้องออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอู่เขา ผมเพียงแค่อยากเอาความรู้ที่เกียวกับการติดแก็ส ปัญหาหลังจากติด วิธีแก้ ที่ผมเจอและแนวทางต่างๆมาให้เพื่อนๆที่อยู่ในซีวิคคลับด้วยกับเพื่อไปแนวทางศึกษาว่าควรติดหรือไม่อย่างไรคุ้มไหม ต้องยอมรับว่าสมัยนี้เล่นรถค่อนข้างดีกว่าสมัยก่อน เมื่อก่อนผมเล่นรถ ไม่มีเวปไม่มีคลับ กว่าจะคลำทาง หาของแต่ง ก็โดนพวกเอาแต่กำไรขายของซะแพง เข็ดจนไม่อยากแต่งไปเลย และเดี๋ยวนี้ทางเลือกค่อนข้างกว้างและราคาไม่แพงเหมือนก่อน ที่สำคัญคือการบริการและคุณภาพของสินค้าว่าเป็นอย่างไร ขอให้ดีใช้ได้ไม่แพง รับรองรุ่งครับ

สำหรับคนที่จะติดต่อหรือให้เขาแก้ไขก็โทรไปได้ตามเบอร์ที่อยู่ในรูปนะครับ สำหรับชื่อ คุณพากษ์ หรือ คุณยุทธ ก็ได้ทั้งสองคนครับ ลองโทรไปคุยกับเขาถ้ารถมีปัญหา จะทำหรือไม่อยู่ที่คุณตัดสินใจเองครับ  ยิ้มกว้างๆ


บันทึกการเข้า

daido_s
ข้าน้อยรอการลงทัณฑ์จากท่าน
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,447


.............


« ตอบ #49 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 08:46:18 »

 ยิงฟันยิ้ม น่าสนใจนะครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
e22bkw
$[^_^ ]$ ต้นครับ! $[ ^_^]$
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,175


CIVIC ALUMNI


« ตอบ #50 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 09:17:37 »

อยากติดบ้างจัง  ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า

teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,191


« ตอบ #51 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 10:03:06 »

ผมเป็น นึ่ง คนที่เคยใช้แก๊ส ขอบอกว่า แรกๆ(ต้อนที่เริ่มติดใหม่ๆ) อยากจะถอดออกครับ มีปัญหา จุกจิกมาก เครื่องสั่นเวลาเบา สตาร์ต้องใช้น้ำมัน มี  อาการ แบคไฟร์ (หมายถึงระเบิดในห้องเผาไหม้) จนกรองกระดาษ ทะลุ !!!  แต่พอใช้ไป 2-3 ถัง ไม่เคยคิดว่าจะกลับมาใช้ น้ำมันอีกเลยครับ ผิดกันเลยครับ แก๊ส ทั้งเหยีบ ทั้งกระทืบ ยังไง ก็ไม่เคยรู้สึกว่าเปลื้องแก๊สครับ เจอทางโล่งๆๆ เป็นต้อง 140-150 ตลอดทางครับ CITY ปี 98 วิ่งได้เท่านี้ล่ะครับ ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องพูดถึง ครับ ผมว่าไม่ต่างกันครับ เพราะถ้าชนท้ายจริงๆ ผมว่ามันถึงถังน้ำมันก่อนครับ แถมถังน้ำมันบางกว่าถังแก๊สซะอีก
ตอนนี้หันมาใช้ civic 2.0 el ตอนเติมน้ำมันถังแรก เริ่มรู้ว่า นรกมีจริง ครับ  1200 แก๊ส เติม 350 เต็มที่ วิ่งได้ 450 โล พอๆกับน้ำมัน ตัว 2.0 el  เลยครับ
(ที่เปลี่ยนรถนี้เพราะว่า คันเก่าซ่อม ทุกเดือนครับ ก็เลยเปลี่ยนครับ ) ผมว่า ถ้าวิ่งได้ ซัก 1-2 หมื่อนโลกะว่าจะไปติดแก๊สอยู่เหมือนกัน เพราะว่าวันหนึ่งวิ่ง 2-3 ร้อยโล/วัน เริ่มรู้สึกว่า เงินหายไปเยอะเหมือนกัน ครับ
แต่แนะนำนะครับ ผมติดร้านแรก แต่แก้ 6-7 ร้านครับ เพราะคนรู้เรื่องแก๊สนี่ผมว่าน้อยมากครับ ถ้าจะติด แนะนำ ให้ลองไปดูรถที่ติดแล้วจริง แล้วลองถามเจ้าของดูรถดูว่า ร้านที่ไปดูติดแล้วเป็นไงบ้าง มีปัญหาจุกจิกเยอะไหม ถ้าเขาบอกมี เปลี่ยนครับ อย่าได้เสี่ยงไปลองติดนะครับ


ข้อความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
บันทึกการเข้า

   
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #52 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 12:56:21 »

ผมเป็น นึ่ง คนที่เคยใช้แก๊ส ขอบอกว่า แรกๆ(ต้อนที่เริ่มติดใหม่ๆ) อยากจะถอดออกครับ มีปัญหา จุกจิกมาก เครื่องสั่นเวลาเบา สตาร์ต้องใช้น้ำมัน มี  อาการ แบคไฟร์ (หมายถึงระเบิดในห้องเผาไหม้) จนกรองกระดาษ ทะลุ !!!  แต่พอใช้ไป 2-3 ถัง ไม่เคยคิดว่าจะกลับมาใช้ น้ำมันอีกเลยครับ ผิดกันเลยครับ แก๊ส ทั้งเหยีบ ทั้งกระทืบ ยังไง ก็ไม่เคยรู้สึกว่าเปลื้องแก๊สครับ เจอทางโล่งๆๆ เป็นต้อง 140-150 ตลอดทางครับ CITY ปี 98 วิ่งได้เท่านี้ล่ะครับ ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องพูดถึง ครับ ผมว่าไม่ต่างกันครับ เพราะถ้าชนท้ายจริงๆ ผมว่ามันถึงถังน้ำมันก่อนครับ แถมถังน้ำมันบางกว่าถังแก๊สซะอีก
ตอนนี้หันมาใช้ civic 2.0 el ตอนเติมน้ำมันถังแรก เริ่มรู้ว่า นรกมีจริง ครับ  1200 แก๊ส เติม 350 เต็มที่ วิ่งได้ 450 โล พอๆกับน้ำมัน ตัว 2.0 el  เลยครับ
(ที่เปลี่ยนรถนี้เพราะว่า คันเก่าซ่อม ทุกเดือนครับ ก็เลยเปลี่ยนครับ ) ผมว่า ถ้าวิ่งได้ ซัก 1-2 หมื่อนโลกะว่าจะไปติดแก๊สอยู่เหมือนกัน เพราะว่าวันหนึ่งวิ่ง 2-3 ร้อยโล/วัน เริ่มรู้สึกว่า เงินหายไปเยอะเหมือนกัน ครับ
แต่แนะนำนะครับ ผมติดร้านแรก แต่แก้ 6-7 ร้านครับ เพราะคนรู้เรื่องแก๊สนี่ผมว่าน้อยมากครับ ถ้าจะติด แนะนำ ให้ลองไปดูรถที่ติดแล้วจริง แล้วลองถามเจ้าของดูรถดูว่า ร้านที่ไปดูติดแล้วเป็นไงบ้าง มีปัญหาจุกจิกเยอะไหม ถ้าเขาบอกมี เปลี่ยนครับ อย่าได้เสี่ยงไปลองติดนะครับ


ข้อความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

ครับ ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้อย่างนึงคือเรื่องการแก้ปัญหาไม่รู้จบอันเนื่องจากอู่ขาดประสบการณ์ในการติดตั้งแก๊ส รู้แบบงูๆปลาๆแล้วมาติดให้ลูกค้า อันนี้ผมเจอมากับตัวถึงได้รู้ซึ้งถึงคำว่าการเลือกร้านที่มีฝีมือหน่อยหรือชำนาญเฉพาะรุ่นนี้ แต่ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของผมที่เจอร้านใหม่แล้วปัญหาจบ(กว่าจะจบเล่นเอาเครียดไปเลย) และอีกปัญหานึงที่ลืมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการติดแก๊ส(พอดีเมื่อคืนพิมพ์นานเลยลืมข้อนี้ไป)คือความสะเพร้าของอู่ที่ไม่ได้มาตราฐาน ผมเจออะไร กิ๊บล็อกเบาะหลัง(มันจะอยู่ตรงเบาะหลังด้านบนเวลาเรายกออก) เล่นทำผมฟังหมดไปทั้งสามตัว ต้องซื้อใหม่เกือบสามร้อยกว่าบาท(รวมvat) ไม่เพียงแค่นั้น กิ๊บต่างๆที่มีก็หายจนหมด ผมต้องไปหาซื้อมาใส่ใหม่ น็อตที่ล็อกเบาะสี่ชุดเหลือแค่สอง และเอาน็อตไม่ได้เรื่องมาใส่ ที่รู้เพราะว่าผมลองเอาค้ำหลังใส่รถผมก่อนที่จะขายให้ลูกค้าว่าใส่ได้ทั้งรถที่ติดแก๊สกับไม่ติดแก๊ส รื้อดูถึงได้รู้ และอีกปัญหาที่ตามมาอีกอย่างนึงคือ ตัวกรองอากาศ ที่ผมพูดนี่นะไมใช่ไส้กรอง อันนี้ไม่เป็นไร แต่ตัวพลาสติกด้านบนและล่างที่ครอบไว้บนปีกผีเสื้อ เป็นรอยไม่มีชิ้นดี เจาะไม่ได้เรื่อง รูน็อตยึดก็แตกหมด จนไม่สามารถถอดหรือใส่ได้เวลาจะเอากรองอากาศมาเบา ผมจึงต้องให้ร้านที่ไปแก้งานเบิกออกมาราคา1,500บาท และรอยต่างๆภายในรถที่ไม่ได้เกิดจากการติดแก็สอู่เก่า ทุกวันนี้ผมเจ็บใจตัวเองทื่ไม่ได้ศึกษาให้แน่ก่อนหรือไม่ก็หาร้านมือฉมัง แพงหน่อยแต่ปัญหาจบ ทำไปทำมา ติดแก็สมาเป็นมิกเซอร์ แก้งานไปมา ทั้งเสียเวลา  ทั้งค่าน้ำมัน  ค่าของ เผลอๆได้แก็สระบบหัวฉีดพอดี

ครับสำหรับคนที่คิดจะติด ก็ต้องศึกษาให้แน่ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ดูร้านมีcomplainหรือไม่ สำหรับคนที่ติดแล้วมีปัญหา ก็ต้องพยายามหาร้านที่แก้งานให้จบเพราะว่าเสียเงินไปไม่ใช่น้อยในการติดแก็สแล้วยังใช้ไม่คุ้มทุนที่ติดไปเลย ผมโชคดีที่แก้งานจบ ตอนนี้สบายใจแล้วครับ และบอกตรงๆว่าโค-ตะ-ระคุ้ม ไม่งั้นรู้งี้ ติดมันตั้งนานแล้วครับ  ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ตุลาคม 2006, 13:03:37 โดย anodite_studbar » บันทึกการเข้า

teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,191


« ตอบ #53 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 13:46:38 »

ผมมีเรื่องที่น่ากลัวกว่านี้อีกนะครับ เดี๋ยวคืนนี้ จะมาเล่าให้ฟังนะครับ ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวไม่มีเงินซื้อ ม่าม่า กิน อ่ะ
บันทึกการเข้า

   
khanittha
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 179


« ตอบ #54 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 15:00:18 »

แก๊ซนี้ถือเป็นวัตถุไวไฟรึป่าวคะ
บันทึกการเข้า

สาวกฮอนด้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #55 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 20:01:26 »

แก๊ซนี้ถือเป็นวัตถุไวไฟรึป่าวคะ

ใช่ครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,191


« ตอบ #56 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 21:05:04 »

มาตามสัญญา ครับ เรื่องที่จะเล่านี้เกิดกับรถผมเองครับ ผมติดแก๊สมา 1 ปี กับ 6 เดือน  ขับไปเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาแต่ประการใดครับ แต่มีอยู่วันหนึ่ง ตอนเช้าลงจากบ้านมา สตาร์รถ ได้ยินเสียงระเบิดเบาๆ ครับ ที่ห้องเครื่อง จากนั้นก็ใช้งานเป็นปกติ ธรรมดา อกีประมาณ 1-2 สัปดาห์ เกิดอาการเบาแล้วสั่น เอาไปจูนหลายครั้งก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนร้านใหม่ ครับ พอไปถึง ก็บอกว่า พี่ครับ พี่ช่วยดูรถผมหน่อยสิ ครับ  รถผมเบาสั่น แก้ที่อื่นแล้วไม่หาย พี่ช่วยดูให้หน่อยได้ไหม ครับ พอเปิดฝากระโปงออกมา ช่างเห็นเครื่องกับการติดตั้ง ช่าง ร้อง จ๊าก ไปติดที่ไหนมา ผม งง กับเสียงร้อง ช่างที่นี้ สงสัยได้เปลี่ยนร้านใหม่อีกแล้วเรา(คิดในใจ)  พี่ช่างบอกว่า สายน้ำมันรั่วอยู่หรือป่าว ติดมานานแค่ไหนแล้ว ผม งง เลยถามว่าที่ไหนหรือครับ พี่ไม่เห็นเลย เขา ชี้ลงไปที่สายน้ำมัน ระหว่างสายช่างที่ติดตั้งที่แรก เขาตัดหัวฉีดไม่เป็น เลยใช้วิธีตัดปั๊มติ๊ก กับตัดสายน้ำมันแล้วใส่วาวล์คั่นระหว่างสายให้ ช่างที่ใหม่นี่บอกว่า ขับมาได้ไง อันตรายมากๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ ดีที่ไฟไม่ไหม้รถ ตาย น้ำมัน มันรั่วอยู่ คุณ รู้หรือป่าว 
คุณคิดว่าผมจะรู้ไหมครับ เพราะสายมันอยู่หลังฝาสูบอ่ะ ครับ กำ
เล่าให้ฟังนี้ให้ เพื่อนๆ พี่ๆ ดูให้ดีก่อนติดตั้งนะครับ ร้านไหนช่างน้อยๆ รถน้อยๆ ยิงต้องดูให้ดี ครับ
บันทึกการเข้า

   
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #57 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2006, 22:39:38 »

มาตามสัญญา ครับ เรื่องที่จะเล่านี้เกิดกับรถผมเองครับ ผมติดแก๊สมา 1 ปี กับ 6 เดือน  ขับไปเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาแต่ประการใดครับ แต่มีอยู่วันหนึ่ง ตอนเช้าลงจากบ้านมา สตาร์รถ ได้ยินเสียงระเบิดเบาๆ ครับ ที่ห้องเครื่อง จากนั้นก็ใช้งานเป็นปกติ ธรรมดา อกีประมาณ 1-2 สัปดาห์ เกิดอาการเบาแล้วสั่น เอาไปจูนหลายครั้งก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนร้านใหม่ ครับ พอไปถึง ก็บอกว่า พี่ครับ พี่ช่วยดูรถผมหน่อยสิ ครับ  รถผมเบาสั่น แก้ที่อื่นแล้วไม่หาย พี่ช่วยดูให้หน่อยได้ไหม ครับ พอเปิดฝากระโปงออกมา ช่างเห็นเครื่องกับการติดตั้ง ช่าง ร้อง จ๊าก ไปติดที่ไหนมา ผม งง กับเสียงร้อง ช่างที่นี้ สงสัยได้เปลี่ยนร้านใหม่อีกแล้วเรา(คิดในใจ)  พี่ช่างบอกว่า สายน้ำมันรั่วอยู่หรือป่าว ติดมานานแค่ไหนแล้ว ผม งง เลยถามว่าที่ไหนหรือครับ พี่ไม่เห็นเลย เขา ชี้ลงไปที่สายน้ำมัน ระหว่างสายช่างที่ติดตั้งที่แรก เขาตัดหัวฉีดไม่เป็น เลยใช้วิธีตัดปั๊มติ๊ก กับตัดสายน้ำมันแล้วใส่วาวล์คั่นระหว่างสายให้ ช่างที่ใหม่นี่บอกว่า ขับมาได้ไง อันตรายมากๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ ดีที่ไฟไม่ไหม้รถ ตาย น้ำมัน มันรั่วอยู่ คุณ รู้หรือป่าว 
คุณคิดว่าผมจะรู้ไหมครับ เพราะสายมันอยู่หลังฝาสูบอ่ะ ครับ กำ
เล่าให้ฟังนี้ให้ เพื่อนๆ พี่ๆ ดูให้ดีก่อนติดตั้งนะครับ ร้านไหนช่างน้อยๆ รถน้อยๆ ยิงต้องดูให้ดี ครับ

ฟังดูแล้วน่ากัวเหมือนกันอ่ะ(รถเราจะเจอบ้างป่าวหว่า เดี่ยวว่างๆต้องเอาไปเช็คสักหน่อยและ) ก็ยังดีที่คนปลอดภัย รถไม่เสียหาย ก็ถือว่าเป็นความโชคดีแล้วครับผม ยังไงก็อย่างที่เขาบอก จะติดก็ดูร้านให้ดีๆ เป็นดีที่สุดครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

khanittha
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 179


« ตอบ #58 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2006, 08:48:22 »

แก๊ซนี้ถือเป็นวัตถุไวไฟรึป่าวคะ

ใช่ครับ  ยิ้ม

ถ้ารถคันไหนติดแก๊ซ น่าจะมีข้อความไว้ที่ข้างรถว่า "วัตถุไวไฟ" ใครที่ได้เห็นและอ่านข้อความที่รถจะได้ระมัดระวัง
บันทึกการเข้า

สาวกฮอนด้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #59 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2006, 12:54:01 »

แก๊ซนี้ถือเป็นวัตถุไวไฟรึป่าวคะ

ใช่ครับ  ยิ้ม

ถ้ารถคันไหนติดแก๊ซ น่าจะมีข้อความไว้ที่ข้างรถว่า "วัตถุไวไฟ" ใครที่ได้เห็นและอ่านข้อความที่รถจะได้ระมัดระวัง

จริงๆไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ส่วนมากที่เขาติดแบบนั้นเป็นรถประเภทส่งแก็สตามปั้มหรือส่งรถส่งแก็สตามสถานที่ที่บริษัทจัดส่ง รถบ้านแค่ติดสติกเกอร์LPGเขาก็รู้แล้วครับ ยิ้ม

บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #60 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2006, 01:45:27 »

กระทู้นี้ไม่จำกัดCIVICรุ่นไหนนะครับ

ทั้ง EF,EG,EK,ES,FD

สามารถเล่าสู่กันฟังได้ จะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆคนอื่นๆที่คิดจะติดแก็สด้วยครับ
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #61 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2006, 22:45:52 »

หลังจากครั้งที่แล้วทำได้อยู่ที่ 1.28 บาท/กม หลังจากนั้นผมก็เติมเต็มอีกคราวนี้จับใหม่ ได้อยู่ที่ 1.19 บาท/กม(คราวนี้จับกีโลอยู่ที่ 249.10 กม และแก็สยังเหลืออยู่อีกประมาณ 20 กว่าๆจากเกย์วัดแก็สที่ถังหลังรถ) ก็รู้สึกว่าดีกว่าตอนแรก วิ่งไปทั่ว ทั้งในเมืองและนอกเมืองครับ ก็เลยเอามาฝากกันครับ
บันทึกการเข้า

YO_SHENA
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 233


« ตอบ #62 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2006, 16:42:25 »

ผมติด NGV ครับ รุ่นเตารีด 93 ก็ OK นะครับ 200 กม./1 ถัง (120 บาท)
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #63 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2006, 22:32:18 »

ผมติด NGV ครับ รุ่นเตารีด 93 ก็ OK นะครับ 200 กม./1 ถัง (120 บาท)


ดีครับ แชร์กัน เป็นคันแรกที่commentที่ติด NGV ยังไงๆก็ประหยัดครับ(แต่ว่าอาจจะต้องเติมบ่อยหน่อยเนื่องจากถังจุได้ไม่ค่อยเยอะและไม่เหมาะกับเดินทางต่างจังหวัดเนื่องจากหาที่เติมยาก)
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #64 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2006, 18:21:14 »

วันนี้เพิ่มเติมเกี่ยวอัตราการกินแก็ส

พอดีมีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด โดยก่อนไปเติมเต็มถังแก็สแล้ววิ่งไปพัทยา และวิ่งไปในรอบๆเมือง แล้วกลับมา

กรุงเทพปรากฎว่าอัตราการกินแก็สอยู่ที่ 1.20 บาทกมต่อลิตร (วิ่งไป 302.40โล เติมแก็สหลังกลับมาจาก 363.20 บาท)

ความเร็วที่ใช้อยู่ที่ 140-160 กมต่อชั่วโมงครับ
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #65 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2006, 20:58:22 »

วันนี้เพิ่มเติมสำหรับคนที่ใช้Stepping Motor

บังเอิญว่าแบตเตอรี่รถผมมันเสื่อม ผมเลยเปลี่ยนลูกใหม่ คราวนี้อาการเดิมที่บอกว่าสั่นก็กลับมา ตอนแรกก็ตกใจมาก ว่าทำไมแค่เปลี่ยนแบตฯแค่นี้ก็เป็นอาการเดิม และด้วยความที่ไม่ว่าง ผมก็ทนใช้ไปวันกว่าๆ  พอดีวันนี้ช่วงเช้าว่างก็เลยเอารถไปให้เขาดู ขณะที่ขับอาการที่บอกว่าสั่นมันก็หาย วิ่งปกติเหมือนเดิม ผมก็ยังงงๆว่าจะเป็นอีกหรือเปล่า ปรากฎว่ามันก็ไม่เป็น พอดีถึงร้านผมก็เล่าให้เขาฟังว่าอาการสั่นเกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านั้นไม่เป็น ผมมีการเปลี่ยนแบตฯลูกใหม่ เขาบอกว่าขณะที่เราเอาขั่วแบตฯออกหรือเปลี่ยนแบตฯใหม่ อาการนี้จะเกิดขึ้นสักพัก(แต่ไม่นาน)เนื่องจากกล่องที่คุมStepping Motorมันresetเมื่อเอาขั่วแบตฯออกหรือเปลี่ยนแบตฯใหม่ และอาการก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนกับตอนที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ครับ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้นเพราะหลังออกจากร้านมาก็ไม่มีอะไรปกติดี

ที่เล่ามาก็เพราะว่าผมไม่รู้(เพราะร้านเขาไม่ได้บอก)และเพื่อคนที่ใช้ตัวนี้จะได้ไม่ต้องตกใจเหมือนผมครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

Akerat
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 579


« ตอบ #66 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2006, 16:43:27 »

ผมติด LPG มาได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้วครับ ของผมเป็น 1.7 ปี2004 ครับ ติดแบบหัวฉีดของ Autronic ซึ่งผลออกมาดีมากครับ แทบไม่ต่างจากน้ำมันเลย อัตราการกินแก๊สเฉลี่ยอยู่ที่ กิโลละ1บาทใน กทม ครับ และ กิโลละ60ตัง ในตจว ครับ ใน 1 เดือน ผมลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 3500-4000 บาทครับ ปัญหาไม่พบครับ มีตอนวันแรกเท่านั้นครับที่มีเบาดับบ้าง ก็เข้าไปเช็คด้วยคอมแป๊ปเดียวครับ หลังจากนั้นก็ไม่เกิดปัญหาอีกเลยครับ เผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับ เพื่อน พี่ น้อง ได้ครับ
บันทึกการเข้า



E-mail akeratsu@ais.co.th  &  akerat2008@hotmail.com  Tel.Mobile 081-9157722
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #67 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2006, 00:07:37 »

ผมติด LPG มาได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้วครับ ของผมเป็น 1.7 ปี2004 ครับ ติดแบบหัวฉีดของ Autronic ซึ่งผลออกมาดีมากครับ แทบไม่ต่างจากน้ำมันเลย อัตราการกินแก๊สเฉลี่ยอยู่ที่ กิโลละ1บาทใน กทม ครับ และ กิโลละ60ตัง ในตจว ครับ ใน 1 เดือน ผมลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 3500-4000 บาทครับ ปัญหาไม่พบครับ มีตอนวันแรกเท่านั้นครับที่มีเบาดับบ้าง ก็เข้าไปเช็คด้วยคอมแป๊ปเดียวครับ หลังจากนั้นก็ไม่เกิดปัญหาอีกเลยครับ เผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับ เพื่อน พี่ น้อง ได้ครับ

ข้อมูลอันนี้ดีมากเลยครับ เท่าที่ผมคุยมา หัวฉีดของ Autronic ค่อนข้างใช้ดีกับฮอนด้ามากที่สุด รวนน้อยที่สุดเท่าที่เขาเจอกันครับ

ติดแล้วจบอย่างงี้น่าดีใจแทนครับ(บางคนติดมา แก้แล้วแก้อีก)  ยิ้มกว้างๆ
 
ปล. อยากติดหัวฉีดเหมือนกัน แต่งบหมดและ  :'( คงต้องทนใช้ หม้อต้ม+Stepping ต่อไปครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #68 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2006, 00:31:01 »

วันนี้ผมมาเพิ่มเติมสองเรื่อง

เรื่องแรกเรื่องSwitch Gas จากเดิมที่เป็น Mannual (ถ้าอ่านมาแต่ต้นจะรู้ว่ากว่าจะเปลี่ยนก็เอาเรื่องเหมือนกัน)ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้แบบ Auto แล้วนะครับ เป็นของ Hana และก็ได้ความรู้มาอีกอย่างนึงคือ ไม่ใช่ว่าจะเอา Switch Auto มาติดกันง่ายๆ ต้องดูด้วยว่าถังแก็สใช้แบบไหน เพราะถ้าไม่ยังงั้นระดับเกย์แก็สจะไม่ตรงกับถังครับ และงานติดตั้งที่ออกมา ถือว่าน่าพอใจพอสมควรครับ (ร้านนี้เป็นร้านเดิมที่ผมเอามาแก้งานกับเขาครับ)



เรื่องที่สองคือเรื่องGround Wire ถ้าคุณดูตั้งแต่แรกๆ คุณจะสังเกตเห็นผมติดGround Wireมาก่อนซึ่งไม่เหมือนกับรูปที่ผมจะเอามาให้เพื่อนๆดูกัน เรื่องมีอยู่ว่าพอดีช่วงที่แก็สมันรวน ผมให้ร้านใหม่เขาแก้งาน ตอนนั้นงุงิ แก็สก็มีปัญหา Ground Wire ก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ผมก็เลยถอดออกยกชุด (อันนี้ต้องบอกก่อนว่าแบบเก่าติดมา5จุดแบบไม่มีความรู้เรื่องนี้)
พอดีเมื่อวานผมไปหาลูกค้าและผมได้รู้จักคนในViosคลับว่าคนนี้ติดGround Wireดีและเห็นผล ผมเองก็นึกอยากจะลอง (เพราะก่อนหน้านี้ติดมาไม่เห็นผลอะไรเลย)ก็เอาน่า เงินก็ไม่เท่าไร อยากลองดูว่าจริงอย่างที่ลูกค้าผมบอกหรือเปล่า ผมก็ลองไปให้เขาติด Ground WireของCivic ESนี้เขาจะไม่มีสำเร็จ เขาต้องวัดรถนะตอนที่ติดตั้งเลย ซึ่งใช้เวลาพอสมควร(ประมาณช่วงกว่าๆ พอดีบ้านเขาอยู่ใกล้ๆCentral รัตนาธิเบต ผมก็เลยถือโอกาสไปเดินเล่นซะเลย อิอิ)  ซึ่งผมให้เขาติดGround Wire พร้อมด้วย Volt Stabilizer ซึ่งตัว Volt นี้เขาทำเองนะครับ(เก่งจริงๆ) 

ซึ่งจุดที่เขาติดมีทั้งหมดแปดจุดได้แก่

1. ลิ้นปีกผีเสื้อ (อันนี้ผมให้ร้านแก็สใส่วันนี้เพราะว่าพอดีจะใส่Swith Auto ต้องรื้อยาว เขาเลยให้สายมาด้วย ถ้าไม่งั้นเขาก็ติดให้ได้ครับ)
2. เสื้อสูบ
3. ฝาสูบ
4. Firewall
5. คานหน้า
6. ไดชาร์จ
7. คอมแอร์
8. รางหัวฉีด (จุดต่ออันนี้จะต่อไปถึงจุดลิ้นปีกฝีเสื้ออีกเส้นนึงจั้มกันครับ)

หลังจากติดเสร็จก็Startเครื่องดู(เขาบอกว่าบางคนติดแก็สมา จะรวนตอนแรก ต้องเอาไปที่ร้านจูนหลังติดGround Wire แต่ของผมไม่เป็นครับ และจุดรางหัวฉีดกับจุดปีกฝีเสื้อผมมาใส่ทีหลัง) ผลที่ได้วิ่งดีขึ้นครับ  ตกใจ ปกติมันจะออกนืดๆหน่อยเวลาใช้แก็ส แต่ก็เห็นทันตาจริงๆครับ และพอดีวันนี้เอาไปทำSwitchแล้วก็เลยเอาสายที่บอกไปให้เขาใส่ให้ หลังจากทำเสร็จก็กลับ ลองวิ่งดู ต้องบอกว่าเหมือนน้ำมัน เผลอๆดีกว่าน้ำมันครับ  ขยิบตา ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจ นึกว่าผมอาจจะเหยียบหนักไปป่าว แต่ดูความเร็วก็เป็นปกติที่เคยวิ่ง แต่ทำไมมันแรงขึ้น และผมก็ได้มีโอกาสลองบนทางด่วน ซึ่งก่อนหน้าใส่ตัวนี้จะทำความเร็วให้ถึง 100 กม/ชม นี่ยากมาก แต่วันนี้งงเลยครับ แป็บเดียว แล้วความเร็วก็เร่งขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ พอดีจังหวะรถเยอะเลยไม่ได้ลองความเร็วสูงสุด ไว้มีโอกาสมาโพสบอกกันอีกทีนะครับ





ก็ไม่มีอะไร แค่อยากเอาความรู้ ประสบการณ์ที่เจอมาแชร์เพื่อนๆก็เท่านั้น

สำหรับเรื่องที่สอง บางคนอาจจะเห็นผล บางคนอาจจะไม่เห็นผล ก็ขึ้นอยู่ที่วิจารณญานในการตัดสินใจนะครับ

เดี๋ยวจะหาว่าผมมาโปรโมทให้เขา ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขา แค่อยากเอาสิ่งดีๆมาให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ

 ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

4490
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 225



« ตอบ #69 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2006, 11:36:35 »


รถes 02 Vtec /MT ติดแบบมิกเซอร์ธรรมดามากๆ หม้อฮานา ถังเขียวแดง58ลิตร สวิทปรับแก๊สคันโยกธรรมดา
เวลาสับ รถกระตุกๆหน่อย เกจ์แก๊สใช้ตัวเดียวกันกับเกจ์น้ำมัน ติดมาได้3วันกำลังหาค่าเฉลี่ย ตีนปลาย160ยังไปได้อีกเยอะ แต่ตอนจอดนิ่งรอบกระตุกบ้างบางครั้งที่แอร์ทำงาน ปิดแอร์เครื่องเดินนิ่งมากกกก อัตราเร่งไม่ต่างจากน้ำมัน
ใช้มิกขนาด 26 มิมฝังในท่อรอยต่อระหวางกลองอากาศสองลูก บอกช่างจูนตามที่เครื่องต้องการ ไม่เอาบางมาก ขอให้เติมถูกกว่าน้ำมันพอในระยะทางเท่าๆกัน
วันหน้าจะถ่ายรูปแบบละเอียดๆมาให้ชมครับ
บันทึกการเข้า
4490
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 225



« ตอบ #70 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2006, 11:45:50 »


กำลังจะหุ้มถังแบบนี้ครับ
อยากถามอีกว่า พี่ๆที่ติดมาแล้วใช้น้ำมันกันบ้างหรือเปล่าครับ รถติดมา3วันใช้แก๊สตลอดไม่ได้ใช้น้ำมันเลยจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า สตาทแก๊ส ขับแก๊ส ดับแก๊ส
บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #71 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2006, 22:00:51 »

อยากถามอีกว่า พี่ๆที่ติดมาแล้วใช้น้ำมันกันบ้างหรือเปล่าครับ รถติดมา3วันใช้แก๊สตลอดไม่ได้ใช้น้ำมันเลยจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า สตาทแก๊ส ขับแก๊ส ดับแก๊ส

จริงๆแล้วควรที่จะสตาร์ทน้ำมันแล้วswitchเป็นแก็สจะได้มีน้ำมันเลี้ยงไว้หน่อยนะครับ

และอีกอย่างนึง ถ้าโช้คดีก็ไม่เป็นไร ถ้าโชคไม่ดี เวลาstart(ด้วยแก็ส)จะเกิดBackfireได้ ทำให้กรองอากาศแตกหรือไม่ก็ไอดีฟังได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤศจิกายน 2006, 21:59:35 โดย anodite_studbar » บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #72 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2006, 21:55:28 »

รถes 02 Vtec /MT ติดแบบมิกเซอร์ธรรมดามากๆ หม้อฮานา ถังเขียวแดง58ลิตร สวิทปรับแก๊สคันโยกธรรมดา
เวลาสับ รถกระตุกๆหน่อย เกจ์แก๊สใช้ตัวเดียวกันกับเกจ์น้ำมัน ติดมาได้3วันกำลังหาค่าเฉลี่ย ตีนปลาย160ยังไปได้อีกเยอะ แต่ตอนจอดนิ่งรอบกระตุกบ้างบางครั้งที่แอร์ทำงาน ปิดแอร์เครื่องเดินนิ่งมากกกก อัตราเร่งไม่ต่างจากน้ำมัน
ใช้มิกขนาด 26 มิมฝังในท่อรอยต่อระหวางกลองอากาศสองลูก บอกช่างจูนตามที่เครื่องต้องการ ไม่เอาบางมาก ขอให้เติมถูกกว่าน้ำมันพอในระยะทางเท่าๆกัน
วันหน้าจะถ่ายรูปแบบละเอียดๆมาให้ชมครับ

เกียร์ธรรมดานี้จะวิ่งกว่าเกียว์ออโต้มากครับ เวลาเร่งแซงก็มันกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า

ปัญหาเรื่องจอดนิ่งรอบกระตุก เกิดมาจากช่วงจังหวะแก็สส่งไปไม่ทัน ทำให้เกิดอาการเหมือนกับสะอึกไปสักนิดนึงแล้วก็กลับมาครับ
บางครั้งจะรู้สึกว่าเวลาวิ่งเร็วๆไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าเมื่อไรที่ลดความเร็ว(เบรกแบบกระทันหัน หรือเบรกแบบสุดๆ)แล้วจะให้วิ่งต่อมันก็จะสะอึกนิดนึง จริงๆแล้วระบบมิกซ์นี้น่าจะติดStepping Motorจะช่วยอาการกระตุกดีขึ้น(เคยเจอมาแล้วกะตัว ตอนแรกมะเชื่อ ตอนนี้อาการพวกนี้ไม่มีให้เห็นแล้วครับ) ตัวStepping Motorมันจะช่วยจ่ายแก็สเพิ่มขึ้นในขณะที่รอบต่ำ ทำให้ไม่เกิดอาการกระตุก แต่ระบบพาวเวอร์วาวล์มือหมุนนี้ต้องช่างมีประสบการณ์เพื่อปรับให้มันดีขึ้น แต่อย่าลืมอย่างนึงนะครับ รถสมัยนี้กล่องมันฉลาด โดยเฉพาะCivic Dimension นี้มันฉลาดมาก ลองสังเกตุรถคุณดีๆนะครับ บางทีจูนแรกๆอาการก็ดีขึ้น แต่ใช้ไปนานๆก็จะเกิดอาการแบบนี้คือกระตุกเมื่อรอบต่ำบ้าง แอร์ตัดบ้าง (รถผมเป็นรถปี 03 เคยเป็นอาการนี้ แก้ไม่ตกจริงๆ จูนให้ดีได้ไม่ถึงอาทิตย์ เดี๋ยวก็กลับอาการเดิม และเท่าที่คุยกับเพื่อนๆที่ใช้รุ่นนี้ ก็เป็นอาการเดียวกัน) ถ้าอาการจูนแล้วจบก็ไม่มีปัญหา แต่มิกซ์เปล่าๆไม่Stepจะมีปัญหาอีกอย่างนึง(ไม่รู้คนอื่นเป็นป่าว) ของผมแค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รถรวนไปทั้งคัน(ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีเลย) งุงิมาก

ยังไงก็ตามถ้าอาการที่ผมพูดมาทั้งหมดไม่เกิดขึ้นก็จะดีมาก เพราะถ้าเกิดขึ้น นั้นจะทำความรำคาญให้คุณ หลังจากนั้นก็จะเกิดความเครียดในการใช้ และถ้าแก้ไม่ตกก็ต้องถอดออก หรือบางทีต้องรื้อระบบเพื่อทำใหม่ สำหรับคนที่ติดแล้วไม่มีปัญหาก็ดีไป ถ้าใครคิดจะติดหรือมีปัญหา ต้องศึกษาให้มากๆ ไม่งั้นไม่ใช่แค่รำคาญอย่างเดียว เครื่องจะพาพังก่อนเวลาอันควรครับ  ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤศจิกายน 2006, 21:58:35 โดย anodite_studbar » บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #73 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2006, 23:49:34 »

วันนี้มีเพิ่มเติมหลายเรื่องเลยครับ หลังจากที่หายไปหลายวัน

เนื่องจากถังแก็สเป็นระบบวาวล์แยกซ้ายขวา ไม่ใช่ระบบมัลติวาวล์(ระบบนี้จะมีตัวตัดแก็สในตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ) เราก็ได้ความรู้จากคนรู้จักกันว่าใครจะใส่นะ จริงๆผมเองก็ยังลังเลอยู่ แต่ก็เพื่อความปลอดภัย ผมก็เลยใส่เพิ่มไป

อันนี้เป็นรูปก่อนใส่ซีลินอยตัดแก็ส



รูปนี้หลังใส่แล้ว



อันนี้ซูมใกล้ๆให้เห็น(ตัวที่เป็นสีทองอยู่บนเกย์วัดแก็ส)



(วันที่ถ่ายเป็นวันนี้ แต่ติดมาหลายวันก่อนครับ รู้สีกว่าหลังติดauto switchแก็สได้สักอาทิตย์มั้งครับ)

หลังจากติดเสร็จก็มาดูเรื่องตัววัดแก็สที่ถังแก็สครับ มันไม่ตรงกับ auto switch ก็ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็กลับไปใช้งานปกติ ปรากฎว่าวิ่งไปหลายวัน วิ่งไปสองร้อยกว่าโล auto switch ไม่ตรง กำเลยครับ ติดมาตั้งหลายตัง ดันไม่ตรง ก็เลยกลับไปให้ที่ร้านเขาดู เปลี่ยนชุดใหม่ก็แล้วก็ไม่ตรง คราวนี้สงสัยก็เลยเปลี่ยนเกย์วัดแก็สที่ถังปรากฎว่าใช้ได้ เสร็จก็ลองติดลงไปใหม่ ใช้ไปอีกทีคราวนี้หมดเกือบหมดถังแต่ที่เกย์วัดแก็สที่ถังและauto switch มันอยู่ที่ 40% (ทั้งที่ก่อนหน้านี้กิโลที่เคยจับไว้ ถ้าในเมืองต้องประมาณไหน ผมจะจำได้) ผมก็เลยกลับไปที่ร้านอีกทีนึง ปรากฎเช็คอีกที(ที่ร้านยังงงเลยครับบอกว่ามะค่อยเจอ) เช็คไปเช็คมาบอกว่าลูกลอยถังแก็สค้าง  ฮืม กำเลยคราวนี้  :'( อะไรกันหว่า ไม่เคยเจอเหมือนกัน ก็เลยถามว่าพอจะมีวิธีแก้ได้ไหม วิธีคือต้องถอดลูกลอยออกมาแล้วเช็คดูถ้าเสียหรือค้างต้องเปลี่ยนตัวใหม่ แต่ใช้ว่าจะถอดออกมาง่ายๆนะครับ ต้องรอแก็สหมดถังก่อนถังจะถอดออกมาได้ ทำไงละ เพิ่งเติมมาเต็มถัง ผมก็เลยกลับมาใช้หลายวัน ยังหงุดหงิดมากที่อะไรก็ดีวิ่งก็ดี แต่ดันมาเจออะไรแบบนี้ ผมก็เลยใช้ไปอีกหลายวัน และเมื่อสองวันก่อน ได้มีโอกาสไปแถวปทุมวัน(เป็นแหล่งขายอุปกรณ์เกี่ยวกับแก็ส) ผมก็เลยกะว่าจะไปจอดที่ลานจอดแล้วเดินหาดู แต่ก็กลัวบอกถังเขาไม่ถูกว่าเป็นยังไง(ซื้อมาผิดรุ่นใส่ไม่ได้คราวนี้กำเลย) จังหวะพอดีผ่านอยู่ร้านนึงเขาขายอุปกรณ์และหน้าร้านมีที่จอด ผมก็เลยจอดแล้วเปิดถังให้เขาดูว่าต้องการลูกลอยของถังรุ่นนี้ เขาก็ดู(และถาม)ว่ากี่ลิตร แล้วเขาก็ไปหยิบลูกลอยมา ผมเองถามเขาว่าถ้าใส่ไม่ได้เปลียนไดหรือเปล่า เขาบอกว่าเปลี่ยนได้ ผมก็จ่ายเงินไป (ลูกลอยตัวนึง 550 บาท จริงๆราคามันน่าจะถูกกว่านี้ แต่เห็นเราขับรถมา เห็นเป็นฮอนด้าด้วย มันเลยโคกเต็มที่ แต่ว่าคิดไปคิดมา หาที่จอด เดินก็ร้อน ยังต้องเสียค่าที่จอดอีก คิดไปคิดมาซื้อเสร็จได้ของแพงหน่อย(มะมาก)แล้วไปเลยจะดีกว่า หลังจากวันที่ไปซื้อก็ยังไม่มีเวลา ไปหาลูกค้าบ้างอะไรบ้าง พอมาถึงวันนี้ กะว่ายังไงๆต้องไปที่อู่แก็สให้ได้ ดูจากกิโลที่วิ่งก็คิดว่าอีกไม่นานน่าจะหมด ก็ตอนเช้าไปหากลูกค้า เกิดอาการครับ ขับไม่ออก ปกติขับแก็สวิ่ง140-160 นี่ยังสบาย อยู่ดีๆวิ่ง80แล้วเร่งไม่ขึ้น จังหวะแซงบนทางด่วน(ดีนะรถหลังไม่เร็ว) ผมเลยswitchเป็นน้ำมัน คราวนี้วิ่งฉิวเลยครับ(แต่ก็ยังต้องยอมรับว่าแก็สวิ่งสู้น้ำมันไม่ได้จริงๆ)ก็วิ่งมาถึงลูกค้า พอเสร็จก็โทรไปที่ร้านแก็สบอกว่าอาการเป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าแก็สใกล้หมดถังแล้ว ผมก็เลยนัดพี่เขาเข้าไปเปลี่ยนลูกลอยพอดี มีอยู่จังหวะนึงพอดีถึงซอยที่ติดอู่ พอดีผมอยากกินกาแฟ ผมเลยสตารท์น้ำมันแล้วสับเป็นแก็สอีกทีเพื่อความแน่ใจว่ามันจะหมดจริง(เพื่อเวลาเปิดลูกลอยออกมามัน แก็สจะได้ไม่ฟุ่งออกจากถังมาเลอะท้ายรถ) ทิ้งไว้แป๊บเดียวเองครับ คราวนี้สะอึกเหมือนเจ้าเข้าครับ ได้ผล ยิงฟันยิ้ม ผมก็เลยขับไปที่ร้านแก็สให้เขาเปลี่ยน

นี่เป็นรูปลูกลอยแก็สครับ(ตัวที่เสีย ตัวที่ดีใส่ไปถ่ายไม่ทัน)



มันจะประกอบไปด้วยสามส่วนคือ
เบอร์ 1 น่าจะเป็นแม่เหล็กซึ่งทำหน้าที่บอกเกย์แก็ส
เบอร์ 2 เป็นเฝืองระหว่างแกนลูกลอยกับแกนที่บอกเกย์แก็ส
เบอร์ 3 เป็นลูกลอยที่ใช้บอกระดับ

การทำงานมันเป็นแบบนี้ เมื่อเวลาแก็สหมด(แรงดันของแก็ส) ลูกลอยจะตกลงมา เมื่อเวลาเติมแก็สเติม มันก็จะลอยขึ้นมาขณะเติม โดยแรงดันของแก็สไปดันลูกลอยซึ่งมีแกนเหล็กที่มีเฝืองอยู่กับเฝืองของแกนแม่เหล็ก เมื่อลูกลอยขึ้นมันจะดันเฝืองให้หมุนทำให้แม่เหล็กในเบอร์1ทำงานแล้วมันจะทำให้เกย์วัดแก็ส(ในตัววัดก็มีแม่เหล็กเช่นกัน)ขึ้น(เวลาหมดก็สลับกัน) คราวนี้ก็ลองเอาออกมาลองดูด้วยตัวเอง(เทสสักหน่อยจะได้รู้ว่าอะไรเสีย) คราวนี้ลองดูกลับหัวแม่เหล็กมันก็ขึ้นลงดี แต่กลับไปอีกด้านนึง(ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกต้องเมื่อตอนถอดออกมา) ปรากฎว่าผิดจริงๆ ซึ่งลองเอามาเทสกับอันใหม่ ตัวใหม่ไม่มีปัญหา ซึ่งก็ทำให้สบายใจหลังจากนั้นก็ให้เขาใส่

อันนี้คือรูที่ใส่ลูกลอย(เกย์วัดแก็ส)



แล้วก็ใส่ไป(แต่กว่าจะส่ได้ก็เล่นซะแย่) แต่ก็ใส่ได้ด้วยดีครับ คราวนี้ก็มีอย่างนึงที่สงสัยคือตรงแกนที่มีลูกลอย ของผมมันตรง แต่ตัวที่เสียมันหยัก ซึ่งได้คำตอบจากช่างว่า ที่ตรงหรือหยักมันขึ้นอยู่กับถังแก็ส ซึ่งของผมซื้อมาตรงรุ่นแล้ว ก็เลยสบายใจใส่แล้วให้เขาเช้คเรื่องรั่วให้เรียบร้อย กันปัญหาที่จะเกิดขึ้นดีกว่าให้มันเกิด แล้วก็ลองเติมดู ปรากฎว่าจากที่เกย์เสีย(อันเก่า) ใช้ได้เป็นปกติ  ยิงฟันยิ้ม ดีใจมากๆ จะได้ใช้งานสักทีต้องกังวล คราวนี้ก็ยังมีอีกนิดว่าถ้าใช้ไปมันจะลดหรือเปล่า ปรากฎว่ามันลด(ซึ่งเกย์ที่เสียวิ่งไปเป็นร้อยกว่าโล ลดไปนิดเดียว) ซึ่งเมื่อเทียบก่อนเสียและระยะที่วิ่งไป(จำเอาครับ)ถือว่าถูกต้อง คราวนี้มาดูที่auto switchก็ลดเหมือนกัน ก็โล่งอกไป ถือว่าแก้หาย แต่เล่นเอาซะเหนื่อยเลยครับ แค่ลูกลอยแก็ส นึกว่าจะใส่ง่ายๆ แต่ใส่ยากโครต

ครับก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอ(ซึ่งในเวปเกี่ยวกับแก็ส บางคนเจอเหมือนกัน)ก็ต้องว่ากันไป แก้ได้ก็ดีไปก็ไม่ได้ก็ว่ากันอีกทีนึง ซึ่งวันนี้ผมก็ได้ความรู้เพิ่มเติมและเอามาฝากเพื่อนในเวปกันด้วยครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

O hai Yo
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #74 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2006, 06:35:21 »

ร้านที่ไปแก้ร้านสุดท้ายที่บอกใช่ร้านของคุณยุทธ คอปเตอร์ หรือป่าวครับ พอดีผมก็กะว่าจะไปติดเหมือนกันแต่ของผมเป็นตัว 2.0 กำลังหาข้อมูลร้านที่ชำนาญๆ อยู่เหมือนกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ธันวาคม 2006, 06:38:46 โดย O hai Yo » บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #75 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2006, 10:34:42 »

ร้านที่ไปแก้ร้านสุดท้ายที่บอกใช่ร้านของคุณยุทธ คอปเตอร์ หรือป่าวครับ พอดีผมก็กะว่าจะไปติดเหมือนกันแต่ของผมเป็นตัว 2.0 กำลังหาข้อมูลร้านที่ชำนาญๆ อยู่เหมือนกันครับ

ใช่ครับผม  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #76 เมื่อ: 23 มกราคม 2007, 23:56:13 »

หลังจากที่หายไปนาน มาUpนิดนึง

พอดีช่วงปีใหม่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปทางภาคเหนือ โดยจุดมุ่งหมายคือที่เชียงใหม่

ก่อนเดินทางได้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง(ใช้แบบสังเคราะห์) เปลี่ยนกรองอากาศ เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง และเช็คความพร้อมของรถเพื่อที่จะเดินทาง

ก่อนเดินทางก็เติมน้ำมันเต็มถัง(กันเต้น) และก็เติมแก็สเต็มถัง น้ำมันอยู่ที่ประมาณ800-900 บาท แก็สอยู่ที่ 400 กว่าบาท

เดินทางช่วงเช้า ก็สะดวกดีไม่ค่อยมีรถ ความเร็วที่ทำได้อยู่ที่ 140-160 Km/hr (บางช่วงก็เหลือแค่120 Km/hr)

เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหมดที่จังหวัดตาก ระยะทางประมาณสี่ร้อยกว่าโล (เกือบเกลี่ยงถัง) ก็กะว่าจะเติมที่จังหวัดตาก

หาข้อมูลอย่างดี ปรากฎว่าไปรอ เขาบอกว่าต้องรอถึง20คิว ไม่ไหว ขับน้ำมันวิ่งไปถึงลำปาง แล้วเติมเต็มถัง ปรากฎว่าเติม

แก็สเต็มอยู่ที่ 500 นิดๆ ก็วิ่งขึ้นเชียงใหม่ ขณะที่อยู่ที่นั้นก็ได้มีการใช้แก็สสลับน้ำมันเพื่อให้เครื่องไม่แห้ง

ขากลับก็เติมจากเชียงใหม่เต็มถังอยู่ที่ 400 กว่าบาท คราวนี้ก็วิ่งด้วยแก็สยาวถึงจังหวัดชัยนาทเข้านครสวรรค์(ไม่รู้จำสลับ

กันหรือเปล่า) เติมใช้เวลาเกือบ40นาที (หัวจ่ายมีสองหัว รอคิวเป็นยี่สิบคัน) ครั้นจะไม่เติมก็ไม่ไหวแล้ว และเห็นว่าเป็น

ขากลับก็เอาสักหน่อย รอจนเติมเต็มถัง ก็อยู่ที่ 400 กว่าๆเช่นกัน ก็วิ่งกลับกรุงเทพฯด้วยแก็สหลังเติม ก็มาถึงกรุงเทพฯ

ปรากฎว่าน้ำมันเหลือครึ่งถังแก็สเหลือครึ่งถัง  น้ำมันใช้ไป900กว่า(เหลือครึ่งถัง)  แก็สเติมไป 1,700 บาท(เหลือครึ่งถังเช่น

กัน) น้ำมันพร้อมแก็สอยู่ที่ 2,600 บาท คำนวนได้คือ 1 บาทต่อกิโลเมตร สำหรับถามผมว่าประหยัดหรือเปล่า ถ้าเป็นน้ำมัน

ด้วยความเร็วที่ผมขับ รับรองว่าคงมากกว่านี้แน่นอน อย่างน้อยๆต้องมี 3,000-4,000 บาท ซึ่งจริงๆถ้าความเร็วไม่เกิน120

km/hr ผมคิดว่าน่าจะประหยัดกว่านี้ แต่อย่างว่าครับบางช่วงบางทีต้องทำเวลาหน่อย ก็ได้ผลออกมาแบบนี้ครับ สำหรับผลที่

ได้สำหรับผมคิดว่าน่าพอใจเลยทีเดียวครับ
บันทึกการเข้า

4490
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 225



« ตอบ #77 เมื่อ: 30 มกราคม 2007, 21:31:18 »

รถผมขับรถใช้งานปกติ ไม่เกิน120/km นอกเมืองตลอด จะเติมแก๊สเต็มถังตลอดเวลา

การกินแก๊สถือว่าประหยัดมาก es02 
เติมแก็สเต็มถัง 58ลิตร 
แก็สลิตรละ  10.50 บาท/ลิตร (ตจว)
เป็นเงิน 609บาท วิ่งได้ 580 กิโลเมตร (บวกลบ10กิโล) ไม่เกิน600กิโล แก็สหมดถังดับต้องสับเป็นน้ำมัน
เฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 609บาท หาร 58ลิตร เท่ากับ 10.5 กิโล/ต่อแก็ส 1ลิตร
เฉลี่ยเป็นเงิน  580กิโล หาร 609บาท เท่ากับ 0.95 บาท/ต่อ 1กิโลเมตร

ใช้งานมาได้3เดือนกว่าๆแล้วครับ ประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะจะเติมแบบนี้ตลอดและได้ตัวเลขกิโลอย่างนี้ทุกครั้ง
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันกับหม้อต้มหรือเปล่า เพราะรถคันเก่าวีออสก็อัตตราการกินแก็สก็เท่าๆกัน วีออสจะประหยัดกว่านี้หน่อย

และรถพี่ชายผม ซีวิคตาโต ปี96 ติดแก็สมาเหมือนกันร้านเขาใส่หม้อยี่ห้ออะไรไม่รู้ใบใหญ่ๆ กินแก็สอยู่ที่ 1.4-1.5บาทต่อลิตร ยังกินแก็สมากกว่า es ผมอีกเลยอยากให้ลองเปลื่ยนแค่หม้อต้มดูว่ามันจะต่างกันมั้ย ก็เลยหาซื้อหม้อ"ฮานา"ที่ผมใช้อยู่ แต่หาไม่ได้ร้านบอกของขาดเลยได้หม้อของ "เมจิก" ใบเล็กๆมาใช้ดู ติดตั้งเปลื่ยนหม้อเสร็จให้ช่างจูนอย่างละเอียดใช้งานไป1เดือนให้ผ้าหม้อต้มเข้าที่แล้วมาจูนอีก ตอนนี้ใช้งานมาได้2เดือนกว่า อัตตราการกินแก็สประหยัดมากขึ้น
อยู่ที่ 0.9-1.0 บาท/ต่อกิโลเมตร ถือว่าประหยัดจริงๆครับ
อย่างที่เล่ามาจากประสบการณ์จริง เพื่อนที่ไปติดแก็สผมก็เลยแนะนำหม้อ ฮานาและเมจิก อย่างเดียวเลย แต่ไม่รู้ร้านเข้าจะใส่ให้หรือเปล่า เพราะจะเพิ่มราคาต้นทุนให้ทางร้าน
อย่างไรก็ขอแนะนำนะครับสำหรับคนรักการอยากลอง 2ยี่ห่อนี้ใบนึงราคาประมาณ3พันบาท
แต่ผมอยู่นี้จะหายากหน่อย(ตจว)
  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #78 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2007, 22:10:14 »

ขอบคุณสำหรับทุกๆข้อมูลที่แชร์กันนะครับ จะได้เป็นความรู้คู่ Welovecivic ต่อไปด้วยครับ

วันนี้มาเพิ่มเติม พอดีเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาต้องเดินทางไปต่างจังหวัด เป้าหมายคือจังหวัดขอนแก่น

ปกติผมจะเอารถ 4WD ดีเซลอีกคันไป จำนวนกีโลที่วิ่ง ประมาณ 900 กว่าโล ค่าน้ำมันไปกลับเจอไป 3,300 บาท(ความเร็วที่วิ่งอยู่ที่ 140 กม/ชม)

คราวนี้ลองเอารถผมไปเอง โดยจำนวนโลใกล้เคียงกันครับ(ประมาณ 991.6 กม) ความเร็วก็อยู่ที่ 120-140 กม/ชม เช่นเดียวกับคัน 4WD ผลที่ได้คือแก็สเติมไปทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 1,100 บาท(ยังเหลือแก็สให้วิ่งอีกสองสามวันนะครับ) คำนวนออกมาตกอยู่ที่ 1,15 บาท/กม บางคนอาจจะบอกว่าไม่ประหยัด(สำหรับคนที่ติดแก็สแล้วประหยัดกว่า)แต่สำหรับผมถ้าเทียบกับ 4WD อีกคันแล้วถือว่าคุ้มมาก และที่สำคัญวิ่งด้วย ไม่ต้องกลัวเวลาแซงครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #79 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2007, 22:28:36 »

เรื่องก็มีอยู่ว่าพอดีจำได้ว่าครบ10000โลพอดี ก็กะว่าจะเอาเข้าไปที่อู่ที่เขาทำแก็สเพื่อที่จะไขขี้แก็ส(น้ำเหลวๆดำๆอยู่ที่หม้อต้ม) เพื่อที่จะทำให้ขึ้แก็สไม่ตันที่หม้อต้ม หลังจากถ่ายเสร็จ(ใช่เวลาไม่นาน) ก็นึกขึ้นได้ว่ารถใช้ไปหกหมื่นกว่าโลแล้วผมเองก็คิดว่าสมควรเวลากับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์(ออโต้)สักที เพื่อที่จะได้ยืดอายุของมันออกไปให้เสียช้าลง ซึ่งตอนแรกก็กะว่าจำแค่ถ่ายแล้วเปลี่ยนเท่านั้น แต่ว่าพอดีร้านเขาบอกว่าที่ร้านมีเครื่องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์(ออโต้)พอดีและราคาอยู่ที่พันกว่าบาท(ซึ่งข้างนอกทั่วๆไปต่ำๆก็อยู่ที่สองพันขึน) เห็นแล้วก็สมควรล้างพร้อมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์(ออโต้)ซะเลย มาดูกันว่าเขาทำกันยังไง

หน้าตาของเจ้าเครื่องทำความสะอาดเกียร์อัตโนมัติครับ



รูปนี้เขากำลังจะยกเพื่อสอดสายเข้าไปในระบบเกียร์



ก่อนอื่นเขาจะต้องยกรถแล้วเอาสายใส่ต่อเข้าไปกับระบบเกียร์(สายน้ำมัน)เพื่อให้การถ่ายได้ประสิทธิภาพ



โดยเบอร์ 1 สีแดงเป็นน้ำมันเข้า

เบอร์สองเป็นสีดำ ซึ่งเป็นน้ำมันที่เสียออกมา

จากนั้นเขาก็เริ่มทำการสตาร์ทเครื่อง



ซึ่งถ้าสังเกตจากเบอร์สามน้ำมันเกียร์ยังใสอยู่ครับ



หลังจากนั้นได้ทำการเข้าเกียร์เพื่อให้น้ำมันวนเข้าเครื่องและกลับไปเข้าเกียร์ สีที่ได้เป็นสีดำที่เบอร์สี่ ซึ่งหมายความว่ามีความสกปรกของเกียร์เกิดขึ้น ซึ่งอันนี้ถ้าแค่ถ่ายออกเฉยๆก็จะไม่สามารถทำความสะอาดออกได้ขนาดนี้

ซึ่งเขาก็ได้เข้าทั้งเกียร์ถอย เกียร์เดินหน้าทุกๆเกียร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง(ช่างเขาบอกว่ายิ่งนานยิ่งดี จะได้สะอาดครับ)  หลังจากล้างเสร็จผมก็ไปทำธุระต่อ ซึ่งผลออกมาตกใจเลยครับ วิ่งดีกว่าตอนแรก เกียร์เปลี่ยนนิ่มกว่าเดิม กดKick Downเบาๆ แซงได้สบาย(กว่าตอนแรกที่ไม่ได้ทำความสะอาด) 

ก็ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจครับ สำหรับใครที่ต้องการทำความสะอาดเกียร์ ก็ติดต่อไปที่ร้านเขาได้เลยนะครับ ช่างที่นี้เขาฝีมือทั้งนั้นครับ  ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กุมภาพันธ์ 2007, 22:32:59 โดย anodite_studbar » บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 27 ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Alternative Energy => พลังงานทางเลือก  |  หัวข้อ: มาแชร์เรื่องการติดแก็สซีวิคทุกๆรุ่นกัน(ยินดีต้อนรับสู่Civic Gas Gang Clubครับ)
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |