สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 3 City Tour 11 เมสา 2009)

[Uncle_T]

ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพคืนวันที่ 8 เมษายน 52 และเริ่มรีวิว ในวันที่ 9 จนถึงวันที่ 18 ครับ เชิญชมแต่ละวันได้ตาม URL ข้างล่างนะครับ

วันที่  9 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55189.0.html
วันที่ 10 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55625.0.html

[Uncle_T]

11 เมษายน 2552  เฮือนพักสักกะลิน หลวงพระบาง

เมื่อคืนนอนเกือบตี 2 เพราะมัวแต่นั่งดู TV ความไม่สงบที่กรุงเทพ  วันนี้กว่าจะตื่นก็ปาไป 9 โมงเช้า

เช้าแรกในหลวงพระบาง หน้าที่พักบนภนนศรีสว่างวงศ์ ถนนสายหลักย่านมรดกโลกของหลวงพระบาง

[Uncle_T]

ข้อเท้าขวายังเจ็บไม่หาย จะไปหาอาหารเช้าที่ตลาดสด แต่เงินกีบที่แลกมาเริ่มร่อยหรอ เราจึงแวะแลกเงินที่ ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว(BCEL) วันนี้ rate 241กีบ/บาท และไปคนละ 2,000 บาท ถูกปัดเศษ ขาดทุนไป 2,000กีบ พอโวยเข้า แกก็หยิบแบงค์ 2,000 กีบให้เพิ่มโดยไม่เถียงซักคำ

[Uncle_T]

ตรงข้ามกับธนาคารก็มีร้านอาหาร แต่อยากจะลอง กาแฟประชานิยมต้องไปตลาดสดเช้า

[Uncle_T]

มองเห็นรถสามล้อ Sky Lab แต่ความที่ตลาดห่างจากตรงนี้ไม่เกิน 300 เมตรเลยแข็งใจเดินไป ประหยัดดีกว่า

รถสามล้อมี 2 ขนาด รถเล็กเรียกว่าตุ๊ก ๆ ห้ามวิ่งในเขตมรดกโลก

[Uncle_T]

ผ่านซอยที่เดินขึ้นมาจากท่าเรือเมื่อวาน มองเห็นป้ายแปลกตา ถ่ายไว้เป็นที่ระลึก ตัวบนอ่านง่ายเพราะมีภาษาปะกิตกำกับอยู่ แต่แถวล่างซิ กว่าจะอ่านออก ท่านผู้ชมลองช่วยอ่านดูหน่อยซิครับ

[Uncle_T]

พอเห็นสาว ๆ นำหน้า ตาไก่เลยเดินไปเหล่นิดหน่อย  ทางที่เดินด้านซ้ายเป็นเนิน "วัดพระธาตุพูสี" ส่วนขวาเป็น "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหลวงพระบาง"

[Uncle_T]

ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์ ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย มาคราวนี้คงไม่เข้าไปอีก เพราะต้องเสียค่าเข้าชม 20,000 กีบ ไว้ให้ตาไก่หาเวลามาเองทีหลัง

[Uncle_T]

พ้นจากพิพิธภัณฑ์ ก็เลี้ยวขวาเข้าหลังตลาดเลย แต่ก่อนถึงตลาดมี บูติคโฮเต็ลราคาแพงอยู่แห่งหนึ่ง สวยดี ชื่อ รามายานา

[Uncle_T]

ถึงตลาดเช้า เป็นสเน่ห์และสีสันของหลวงพระบางอีกแห่งเพราะความที่เหมือนกับตลาดสดของไทยที่ย้อนเวลากลับไปนับสิบปี ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ละก็ ทัวร์ไทยตรึมเลย

[Uncle_T]

คงไม่นำเสนอรูปในตลาดมากนัก เพราะมีหลายแห่งรีวิวไว้เพียบ โดยเฉพาะใน "ลุงหลานลุยลาว"  นะครับ

[Uncle_T]

ดึกแล้วคุณขา หมดเวลา ขอลาก่อน.........พรุ่งนีมาต่อนะครับ ถ้าไม่เผาเมืองกันซะก่อน

[punkskate208]

ผมกลัวจะเผากันซะก่อนอะดิคับ  มากันเยอะเหลือเกิน

[Uncle_T]

เดินในตลาดเช้า มีของแปลก ๆ เยอะที่ไม่เห็นในบ้านเรา ตาไก่เขาเลยสนใจขึ้นมากับ งูเห่าเป็น ๆ ครับ

[Uncle_T]

อีกความแปลกในตลาดเช้าที่บ้านเราไม่มี  "ร้านทำเล็บเท้าเคลื่อนที่"  ท่าทางลูกค้าจะสบายมากนะ

[Uncle_T]

เดินทะลุตลาดเช้า เลี้ยวขวามาทางแม่น้ำโขง ก็จะมองเห็น "ร้านกาแฟประชานิยม" ที่เลื่องชื่อนักหนาสำหรับนักท่องเที่ยวจากสยามประเทศ รสชาติผมว่าสู้กาแฟที่ตรังไม่ได้ครับ

กาแฟกับปาท่องโก๋ ยังไม่อิ่มผมสั่ง "ข้าวเปียก" จากร้านข้าง ๆ มาเพิ่ม  หน้าตาเป็นอย่างไรลองดูรูปเอาครับ

ส่วนตาไก่สั่งผัดกระเพราะเนื้อจากอีกร้านหนึ่ง แต่ ของที่ได้มามันกลับเป็นผัดเนื้อราดข้าว

ถามไปมาได้ความว่า ที่ลาวไม่นิยมใบกระเพราะ หรือ โหระพา (ทั้งกินและปลูก) จะชอบใบสะระแหน่ มากกว่า

[Uncle_T]

เสร็จจากอาหารเช้าเราเริ่มออกสำรวจเมืองกัน จุดแรกที่ไปคือ "วัดเชียงทองวรวิหาร"  สัญญลักษณ์แห่งหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก อยู่ที่ปลายเขตเมืองด้านทิศเหนือใกล้กับ "ปากคาน"

ค่าเข้าชมวัด 20,000 กีบ ที่นี่เก็บค่าเข้าชมวัด พิพิธภัณฑ์ น้ำตก ฯลฯ เกือบทุกแห่งราคาขึ้นกับความสำคัญ+สวยงามมั้ง

[Uncle_T]

ซุ้มประตูพระอุโบสถและพระประธาน รายละเอียด ความสำคัญและความเป็นมา หาได้ทั่ว ๆ ไปจากในเว็บทัวร์ทั้งหลายนะครับ คงจะไม่เอามากล่าวซ้ำ

[Uncle_T]

ภายในตัวพระอุโบสถ เป็นที่เก็บของสำคัญหลายอย่างเอาไว้ รวมทั้งภาพฝาผนังแบบลงรักปิดทองสวยงาม 

[Uncle_T]

ด้านนอกของตัวพระอุโบสถ ประดับโมเสคกระจก ศิลปล้านช้างที่งดงาม ไม่ค่อยพบจากที่อื่นมากนัก

[Uncle_T]

วิหารพระม่าน อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ผนังวิหารด้านนอกมีลักษณะคล้ายกับวิหารองค์แรก ภายในวิหารนี้ประดิษฐาน พระม่าน ในช่วงวันขึ้นปีใหม่จะมีการอันเชิญมาให้ประชาชนสรงน้ำและกราบไหว้เป็นประจำทุกปี

วิหารน้อย สองหลังอยู่ด้านข้างและด้านหลังของพระอุโบสถ จุดเด่นของวิหารนี้คือผนังด้านนอกมีการตกแต่งด้วยกระจกสี ตัดเป็นชิ้นเล็กๆและนำมาต่อเป็นรูปต่างๆเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน บนพื้นสีชมพู ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์

โรงเมี้ยนโกศ หรือโรงเก็บราชรถพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา

[Uncle_T]

มาหลวงพระบางเมื่อครั้งที่แล้ว ตรงนี้ที่หน้าวิหารพระม่าน ไกด์สาวชาวลาวผู้น่ารักนาม "ตุ๊กตา" เป็นคนพาคณะทัวร์เราชมวัดนี้ ถ้าจะไม่ให้ผมคิดถึงก็คงประหลาดแล้วละ

[Uncle_T]

เกือบเที่ยงวันเราออกจากวัดเชียงทอง ด้านหน้าวัดหันสู่แม่น้ำโขงเป็นท่าเรือ ที่เคยใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายหนังเรื่อง "สะบายดีหลวงพระบาง" เดินย้อนมานิดก็จะถึง"ปากคาน" จุดที่แม่น้ำคานไหลลงสู่แม่น้ำโขง

[@GuY]

มาหลวงพระบางเมื่อครั้งที่แล้ว ตรงนี้ที่หน้าวิหารพระม่าน ไกด์สาวชาวลาวผู้น่ารักนาม "ตุ๊กตา" เป็นคนพาคณะทัวร์เราชมวัดนี้ ถ้าจะไม่ให้ผมคิดถึงก็คงประหลาดแล้วละ

โห  เก็บดูคนเดียวเลยลุง  ผ่านมาเป็นปี  ไม่เห็นบอก   

[Uncle_T]

"ภายใต้การสนับสนุนจากองค์การ UNESCO 1996 - 2007
12 ปี ว่าด้วยการร่วมมือฝรั่ง-ลาว การปกปักรักษา หลวงพระบาง
เมืองมรดกโลก และส่งเสริมให้มีคุณค่า"

นั่นคืออักษรที่จารึกไว้บนหลักประกาศความร่วมมือระหว่างประเทศฝรั่งเศสและลาว ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำคาน ไม่ห่างจากวัดเชียงทอง

ฝรั่งเศสยังคงมีอิทธิพลหลงเหลืออยู่ในลาว เช่นขนมปังบาแก็ต, ภาษาราชการที่ 2,  บริษัทประกันภัย, ศิลปวัฒนธรรมบางประการที่แสดงบนสิ่งก่อสร้างที่ยังคงอยู่

[Uncle_T]

เกือบเที่ยง อาการเจ็บที่ข้อเท้าเริ่มมากขึ้น จนไม่อยากฝืน ผมขอตัวนั่งสี่ล้อเล็กกลับที่พักก่อน พอรถส่งลงหน้าร้าน "พิซซ่าหลวงพระบาง" ตรงข้ามกับที่พัก ผมเปลี่ยนใจไม่เข้าที่พักเพราะ

ร้านนี้อีกห้องเปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณ โดยมีครูฝึกจากไทย และใช้ห้องนวดบนชั้นสองของร้านพิซซ่า เลยเข้าไปให้นวดชั่วโมงครึ่งพอบรรเทาปวดข้อไปได้บ้าง ในขณะที่หน้าร้านเริ่มเล่นน้ำสงกรานต์กันประปราย

[Uncle_T]

นวดเสร็จบ่ายโมงกว่า ตาไก่กลับมาแล้ว เลยหาข้าวเปียกทานเป็นอาหารกลางวันแถวนั้น แล้วเดินไปดูโรงเรียนอนุบาลหลวงพระบาง ซึ่งอยู่ห่างไปไม่เกิน 50 เมตร ซึ่งตอนเช้าพระจะบิณฑบาตรผ่านตรงนี้ และทัวร์ก็นิยมพาลูกทัวร์มาตรงนี้ที่สุด แต่บ่ายนี้ดูเด็กอนุบาลหลวงพระบาง เฮ้ว นิดหน่อย

[Uncle_T]

เบื่อดูเด็ก ก็เดินตรงตัดไปด้านแม่น้ำคาน ริมน้ำจะมีเฮือนพักสวย ๆ อยู่ที่หนึ่งคือ "เฮือนพักสายน้ำคาน / Sainamkhan River View" ราคาแพงพอควรแต่เงียบดี

[Uncle_T]

จากหน้าโรงแรม ข้ามถนนไปก็เป็นแม่น้ำคาน บรรยากาศรื่นรมย์และน่าลงเล่น ด้านซ้าย-ด้านขวา และตรงที่เรายืนมีทางลงไปที่ตีนท่า มองเห็น "ขัว" ซึ่งสร้างด้วยไม้ไผ่ทอดข้ามลำน้ำไปฝั่งโน้น ใครจะข้าม "ขัว" นี้ต้องจ่ายตังค์คนละ 2,000 กีบนะครับ

[Uncle_T]

ขึ้นจากริมน้ำ ก็กลับมานั่งร้านพิซซ่าหลวงพระบาง ร้านนี้เกือบจะเป็นที่สิงสถิตย์ของเราตลอด 1 สัปดาห์ที่อยู่ที่นี่ สั่งกาแฟแก้วแล้วนั่งมองผู้คนเล่นสงกรานต์กันจนเย็น ไปเดิน shop ที่ตลาดคนเดินอีก ซึ่งก็ห่างจากร้านประมาณ 50 เมตร

[Uncle_T]

วันนี้เราวนเวียนอยู่แต่ในเมืองไม่ไกลจากที่พัก ข้าวของที่ขายในตลาดคนเดินยังเป็นที่แปลกตากับเรา ตาไก่เล่นเสื้อที่เห็นไปหลายตัว

[Uncle_T]

ก่อนกลับที่พัก แวะร้านเน็ท ในหลวงพระบางมีอยู่หลายร้าน ส่งข่าวกลับมา WLC ซักสามทุ่มผมกลับมานอน ส่วนตาไก่ไปเต้น "บัดสะหลบ" ต่อที่ "ดาวฟ้าบันเทิง" เต้นอีท่าไหนก็ไม่รู้กลับถึงห้องเช้าเลย.....อิอิ

เป็นอันว่าจบวันที่ 3 ของทริปนี้นะครับ

[@GuY]

ก่อนกลับที่พัก แวะร้านเน็ท ในหลวงพระบางมีอยู่หลายร้าน ส่งข่าวกลับมา WLC ซักสามทุ่มผมกลับมานอน ส่วนตาไก่ไปเต้น "บัดสะหลบ" ต่อที่ "ดาวฟ้าบันเทิง" เต้นอีท่าไหนก็ไม่รู้กลับถึงห้องเช้าเลย.....อิอิ

เป็นอันว่าจบวันที่ 3 ของทริปนี้นะครับ

ไม่เช้านะ 

 แค่ตี 5 ครึ่ง   

[SAKURA]

น่าไปเที่ยวจังค่ะ