ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
17 พฤศจิกายน 2024, 13:21:14
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ถามเรื่องยางครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องยางครับ  (อ่าน 2279 ครั้ง)
pop_cs
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 61


« เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2010, 12:01:24 »



civic 03 ใช้ยาง Dunlop Lm 703 195-55-15 วิ่งมา 40000 โล 1 ปี ครึ่ง ดอกเริ่มหมดล่ะครับ เวลาวิ่งเสียงดังหอนมาก
เลยว่าจะปลี่ยนยาง แต่เห็นยี่ห้อ Deestone 195-65-15 ราคาไม่แพงมากครับ
เลยขอสอบถาม ดังนี้ครับ
1. คุณภาพดีไหมครับ
2. วิ่งแล้วจะดังมากไหมครับ
3. ดอกสึกไวไหมครับ
4. มีอะไรอื่นๆ ที่จะแนะนำบ้างไหมครับ

ขอบคุณมากนะครับ ว่าจะเปลี่ยนยางก่อนไปเที่ยวปาย
บันทึกการเข้า
Aod61 : มิสซิสซิปปี้
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,391


รับแก้ทอม ซ่อมดี้


« ตอบ #1 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2010, 13:46:54 »

อ่านนี่ครับ

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=60553.0
บันทึกการเข้า

golfdunlop
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 44



« ตอบ #2 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2010, 09:40:57 »

สัญลักษณ์ทางการค้า
 
Michelin  ชื่อผู้ผลิต 
Energy  ชื่อรุ่นยาง 

 Logo (Energy) 

 
   สัญลักษณ์ขนาดยาง 
 
195  ความกว้างหน้าตัดสมมุติของยาง (SW = 195 มม.) 
 
65  อัตราส่วนหน้าตัดของยาง หรือ ซีรี่ส์ (สูง / กว้าง = 0.65) 
 
R  โครงสร้างยางแบบเรเดียล 
 
15  เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อเป็นนิ้ว 
 
91  ดัชนีน้ำหนักบรรทุก (91 = 615 กก.) 
 
V  สัญลักษณ์ความเร็ว (V = 240 กม. / ชม.) 
 
XH1  ลายดอกยาง 
 
TL  Tubeless ไม่ต้องใช้ยางใน 
 
X ?  เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนเทคโนโลยีเรเดียล ?X? ของมิชลิน 
 
E2  อยู่ในข้อบังคับที่ 30 ของมาตรฐานยุโรป (ECE) หรือข้อ 54 สำหรับรถแวน 
 
e2  อยู่ในระเบียบที่ 92/23/ECE 
 


 สัญลักษณ์ของขนาดยางรถยนต์นั่ง

ในปัจจุบันยางมิชลิน ใช้สัญลักษณ์แสดงขนาดยางรถยนต์นั่งอยู่ 3 ระบบ คือ European Metric, Metric, P-Metric และ Millimetric ทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาจากระบบดั้งเดิมคือ Numeric ซึ่งเลิกใช้ไปแล้ว

ก. European Metric
ใช้กันทั่วโลก แสดงอัตราส่วนหน้าตัด (Aspect Ratio) ไว้ให้เห็นด้วย

 
   185/65 R14 86H 
 
185  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
65  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
14  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
86H  = ขอบเขตการใช้งาน (Service Description ) ดัชนีน้ำหนักบรรทุก และสัญลักษณ์ความเร็ว 
 
 

ข. P-Metric
ใช้ในทวีปอเมริกาเ?นือ ตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 70

 
   P215/65 R15 95S 
 
P  = ยางรถยนต์นั่ง (Passenger Car Type) 
 
215  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
65  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
95S  = ขอบเขตการใช้งาน (Service Description ) ดัชนีน้ำหนักบรรทุก และสัญลักษณ์ความเร็ว 
 

ค. Millimetric
ระบบนี้ใช้สำหรับยาง TRX / TDX ของมิชลินเท่านั้น

 
   240/55VR390 
 
240  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
55  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
V  = สัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
390  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 

ระบบ PAX ของมิชลิน

 
   225 - 690 R 460 A PAX 
 
225  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
690  = เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอก หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
460  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
A  = กระทะล้อแบบ Asymmetric 
PAX  = ระบบ PAX SYSTEM 
 


 สัญลักษณ์ของขนาดยางรถตู้ รถปิคอัพ และรถขับเคลื่อน 4 ล้อ

สัญลักษณ์บอกขนาดยางประเภทนี้จะมีเรื่องของสมรรถนะและยางเข้ามาเกี่ยวข้อง การนำไปใช้งานจะรวมถึงแบบอเนกประสงค์ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีใช้อยู่ 4 ระบบ คือ European Metric, Light Truck Metric, Light Truck Flotation และ Light Truck Numeric

ก. European Metric

 
   195 R 14 C 106/104 P XCD 
 
195  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
14  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
C  = แสดงกลุ่มพิกัดน้ำหนักบรรทุก (Load Range) 
106/104  = ดัชนีน้ำหนักบรรทุก ล้อเดี่ยวและล้อคู่ 
P  = สัญลักษณ์ความเร็ว 
XCD  = ลายดอกยาง 
 

ข. Light Truck Metric
คล้ายกับระบบ P ? Metric ของยางรถยนต์นั่ง

 
   LT 255/70 R 15 C 102 S 
 
LT  = ยางรถบรรทุกเล็ก / ปิคอัพ / รถตู้ 
 
255  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
70  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกะทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
C  = แสดงกลุ่มพิกัดน้ำหนักบรรทุก (Load Range) 
102 S  = ขอบเขตการใช้งาน (Service Description ) ดัชนีน้ำหนักบรรทุก และสัญลักษณ์ความเร็ว 
 

ค. Light Truck High Flotation
เริ่มใช้กลางทศวรรษที่ 70 เมื่อยา??รถปิคอัพซีรี่ส์ต่ำลงกับรูปทรงที่ลอยตัวได้ดี เหมาะสำหรับนำไปใช้นอกทางหลวงบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม เช่น ทราย หรือดิน

 
   31X10.50R15LT/C 
 
31  = เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอก หน่วยเป็นนิ้ว 
 
10.50  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นนิ้ว 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
LT  = ยางรถบรรทุกเล็ก / รถปิคอัพ / รถตู้ 
 
C  = แสดงกลุ่มพิกัดน้ำหนักบรรทุก (Load Range) 
 

ง. Light Truck Numeric
ระบบนี้ใช้มานานแล้ว ส่วนใหญ่เป็นระบบรถบรรทุกเล็กที่ใช้ในงานพาณิชย์

 
   7.50R16C 
 
7.50  == ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นนิ้ว 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
16  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
C  = รถบรรทุกเล็ก 
 


 ดัชนีน้ำหนัก และสัญลักษณ์ความเร็ว (Load Index and speed symbol)

ดัชนีน้ำหนัก (Load Index) คือตัวเลขที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 0 ถึง 279 เพื่อใช้แทนความสามารถในการรับน้ำหนักสูงสุดของยางเส้นหนึ่ง ๆ สำหรับยางรถยนต์นั่ง ใช้ตัวเลขระหว่าง 62 ถึง 126 ดังตารางที่แสดงไว้

สัญลักษณ์ความเร็ว (Speed Symbol) คือตัวอักษรตั้งแต่ A ถึง Z ใช้แทนความเร็วสูงสุดของยางเส้นหนึ่ง ๆ โดยสอดคล้องกับความสามารถ ในการรับน้ำหนักของยางเส้นนั้น ๆ ด้วย สำหรับยางรถยนต์นั่งจะใช้อักษรระหว่าง J ถึง Z

ตารางแสดงดัชนีน้ำหนักและสัญลักษณ์ความเร็ว

ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น) 
62  265  75  387  88  560  101  825  114  1180 
63  272  76  400  89  580  102  850  115  1215 
64  280  77  412  90  600  103  875  116  1250 
65  290  78  425  91  615  104  900  117  1285 
66  300  79  437  92  630  105  925  118  1320 
67  307  80  450  93  650  106  950  119  1360 
68  315  81  462  94  670  107  975  120  1400 
69  325  82  475  95  690  108  1000  121  1450 
70  335  83  487  96  710  109  1030  122  1500 
71  345  84  500  97  730  110  1060  123  1550 
72  355  85  515  98  750  111  1090  124  1600 
73  365  86  530  99  775  112  1120  125  1650 
74  375  87  545  100  800  113  1150  126  1700 

สัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด  ความเร็วสูงสุด
(กม. / ชม.) 
J  100 
K  110 
L  120 
M  130 
N  140 
O  150 
P  160 
Q  170 
R  180 
S  190 
T  210 
H  240 
V  270 
W  300 
VR  >210 
ZR  >240 


ระบบเรียกชื่อยางแบบเก่า / ใหม่

สัญลักษณ์ความเร็วของยางสูงสุด (Speed Rating หรือ Speed Symbol) อาจแสดงไว้ในขนาดยางหรือแยกมาแสดงไว้ในขอบเขตการใช้งาน (Service Description) ก็ได้

ระบบเก่า
 
   205/60VR15 
 
205  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
60  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
V  = สัญลักษณ์ความเร็ว V (ไม่จำกัดขีดสูงสุด) 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 
 

ต่อมาถึงปัจจุบันก็ได้มีการรวมสัญลักษณ์ชื่อยางแบบใหม่โดยแยก VR กับ ZR ออก ที่เหลือนำเอาดัชนีการรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด (Load Index) กับสัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด (Speed Symbol) เข้าไว้ด้วยกันเรียกว่าขอบเขตการใช้งานของยาง (Service Description)

ระบบใหม่
 
   205/60R15 91 V 
 
205  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
60  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 
 
91  = ดัชนีน้ำหนักบรร?ุก (Load Index) 
 
V  = สัญลักษณ์ความเร็ว 
 

หมายเหตุ : เมื่อจะใช้ยาง VR และ ZR ที่ความเร็วเกินกว่า 240 กม. ต่อ ชม. ต้องปรึกษาบริษัทผู้ผลิตเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับอัตราการสูบลม และน้ำหนักบรรทุก


ยางพิกัดความเร็ว ZR

เมื่อพบคำว่า ZR อยู่ในสัญลักษณ์ชื่อยาง และมีขอบเขตการใช้งาน (Service Description) บ่งบอกไว้ด้วยให้ถือว่ายางเส้นนั้นใช้ความเร็วได้สูงสุด ตามที่ระบุไว้ตามขอบเขตการใช้งานนั้น

ตัวอย่าง :  275/40 ZR 17 93W  = ความเร็วสูงสุดเท่ากับ 270 กม. ต่อ ชม. 
   275/40 ZR 17 93Y  = ความเร็วสูงสุดเท่ากับ 300 กม. ต่อ ชม. 

อย่าลืมถ้าคุณจะใช้ยางพิกัด ZR โดยยางเส้นนั้นไม่มีขอบเขตใช้งานระบุไว้จะต้องปรึกษาบริษัทผู้ผลิตยางด้วยเสมอ


ตารางการเทียบขนาดยางสำหรับรถยนต์นั่ง

ตารางเทียบขนาดยางที่แสดงไว้นี้ ได้จากการคำนวณตามหลักทฤษฎีโดยใช้ค่าเส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกสูงสุดของยางตามมาตรฐาน E.T.R.T.O. และเปรียบเทียบกับขนาดยางมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ การคำนวณดังกล่าวได้รวมค่าความต่างรวม (TOLERANCE) ระหว่าง +1.5% ถึง -2.0% ไว้ด้วย และให้ถือว่ายางซีรี่ส์ 80 และซีรี่ส์ 82 เหมือนกัน

วิธีการอ่านขนาดยางในตาราง ส่วนใหญ่ให้เริ่มจากด้านซ้ายไปขวา แต่ในบางกรณีอาจเริ่มอ่านจากขวาไปซ้ายได้โดยใช้ขนาดยางมาตรฐาน (ตัวหนังสือ สีดำเข้ม) ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เป็นจุดเริ่มต้น

ตัวอย่าง

165 / 70 R 13  175/65 R 13  165/60 R 14  195/55 R 15  195/45 R 15 
   165/65 R 14  175/60 R 14       


เริ่มต้นจากขนาดยางมาตรฐานติดรถขนาด 165/70 R 13 ขนาดยางอื่น ๆ ที่สามารถใช้ทดแทนได้ถูกระบุอยู่ทางด้านขวามือ โดยเริ่มจากซีรี่ส์ 65 จนถึงซีรี่ส์ 45 ซึ่งขนาดทดแทนเหล่านี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางรอบนอกอยู่ในขอบเขตระหว่าง +1.5% ถึง -2.0% และมีดัชนีการรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดเทียบเท่า หรือมากกว่าของขนาดยางมาตรฐานติดรถ

ข้อแนะนำ :

ตรวจสอบยางที่ใช้ทดแทนว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาติดบังโคลน หรือ เสียดสีกับสิ่งอื่นใด และกลไกต่าง ๆ ของรถยนต์รวมถึงปัญหาการรับน้ำหนักบรรทุกด้วย
เลือกขนาดยางที่ใช้ทดแทนซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ
ตรวจสอบความกว้างและเส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อว่าเหมาะสมกับยางที่ใช้ทดแทน
หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรือบริษัท สยามมิชลินมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยางมิชลิน

ตารางการเทียบขนาดยางสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ

ตารางเทียบขนาดยางที่แสดงไว้นี้ ได้จากการคำนวณตามหลักทฤษฎีโดยใช้ค่าเส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกสูงสุดของยางตามมาตรฐาน E.T.R.T.O. และเปรียบเทียบกับขนาดยางมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ การคำนวณดังกล่าวได้รวมค่าความต่างรวม (TOLERANCE) ระหว่าง +1.5% ถึง -2.0% ไว้ด้วย

โดยส่วนใหญ่การเปลี่ยนขนาดยางทดแทนสามารถกระทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ๆ ของตัวรถยนต์
หลักปฏิบัติโดยทั่วไป เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกของขนาดยางทดแทนไม่สมควรเกิน 5% เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดยางมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์
วิธีการอ่านขนาดยางในตาราง เริ่มต้นจากขนาดยางมาตรฐานติดรถซึ่งถูกระบุด้วยตัวหนังสือสีดำเข้ม และพื้นสีขาวขนาดยางทดแทนอื่นที่สามารถใช้ได้ถูกระบุอยู่ทางด้านขวา หรือซ้ายมือ

ข้อควรระวัง :
การใช้งานลักษณะเฉพาะพิเศษ เช่น การวิ่งบนทางที่ทุรกันดาร (OFF ROAD) ขนาดยางที่มีเส้นศูนย์กลางรอบนอกนอกเหนือจาก +1.5% ถึง -2.0% สามารถใช้ทดแทนได้ หากแต่ว่าอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสภาพรถยนต์

ข้อแนะนำ :

-ตรวจสอบยางที่ใช้ทดแทนว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาติดบังโคลน หรือ เสียดสีกับสิ่งอื่นใด และกลไกต่าง ๆ ของรถยนต์รวมถึงปัญหาการรับน้ำหนักบรรทุกด้วย
เลือกขนาดยางที่ใช้ทดแทนซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ
ตรวจสอบความกว้างและเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อว่าเหมาะสมกับยางที่ใช้ทดแทน
หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรือบริษัท สยามมิชลินมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยางมิชลิน


 ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งานของยาง

ปัจจัยที่หลีก?ลี่ยงไม่ได้

ภูมิอากาศและฤดูกาล
ภูมิอากาศและฤดูกาลไม่มีผลต่อการกระจายความร้อนที่เกิดขึ้นภายในตัวยาง แต่จะมีผลต่อการกระจายความร้อนออกไปจากตัวยาง ดังนั้นเมื่ออุณหภูมิของยางขึ้นถึงจุดสูงสุดอาจกระจายออกไปไม่ทัน ด้วยเหตุนี้เองที่ต้องพึ่งพาส่วนผสมเนื้อยางที่ทำให้เกิดความร้อนน้อยและกระจายความร้อนได้ดี

สภาพถนน
สภาพถนนที่คดเคี้ยวไปมา ขึ้นลงเขาหรือแม้แต่ถนนดีมากๆ ทำให้มีการเร่ง ห้ามล้อ หรือการเข้าโค้งมากกว่าปกต? ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ยางสึกเร็วขึ้น แม้กระทั่งถนนแคบก็อาจทำให้แก้มยางเบียดหรือกระแทกฟุตบาทเสียหายได้ สภาพพื้นผิวชนิดต่างๆ เช่น ยางมะตอย คอนกรีต ถนนโรยกรวด ถนนลูกรัง ฯลฯ ล้วนแต่มีผลต่อการใช้ยาง ถนนที่มีสภาพดีจะช่วยเรื่องเบรกหยุด เพราะมีความหยาบของพื้นผิว แต่หากถนนเสียหายหรือชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่ออาจทำให้มีปัญหาหน้ายางกระแทกเสียหาย ถนนโค้งและถนนหลังเต่ามีผลต่ออัตราการสึกและรูปแบบการสึกของยาง

ประเภทการใช้งานหรือการเดินทาง
การวิ่งทางไกลด้วยความเร็วสูง วิ่งหยุดบ่อยๆ จะทำให้ยางสึกเร็วกว่าปกติ และงานบางประเภท ?ช่น งานเหมือง งานก่อสร้าง หรืองานอื่นๆ ที่สภาพทางวิ่งไม่ปกติ จะทำให้ยางถูกบาดตำหรือกระแทกเสียหาย


ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้

การบำรุงรักษา
ควรหมั่นตรวจสภาพยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในบริเวณดังนี้:

บริเวณหน้ายาง: ตรวจดูการสึกหรอ รอยบาด การบวมบริเวณหน้ายางที่เกิดจากการโดนน้ำมัน และควรตรวจดูวัสดุแปลกปลอมที่บริเวณหน้ายาง เช่น เศษหิน เศษตะปู เป็นต้น
บริเวณแก้มยาง: ตรวจดูว่ามีรอยบาดตำ รอยปริแตก อาการบวมที่เกิดจากการกระแทก (จากขอบถนนหรือตกหลุม) และอาการบวมผิดปกติอื่นๆ ปรากฏให้เห็นบ้างหรือไม่
อาการรถวิ่งผิดปกติ: เช่น อาการสั่นอย่างรุนแรง อาการรถดึงไปทางซ้ายหรือขวา ควรมีการตรวจสอบโดยทันที โดยเฉพาะในกรณียางสูญเสียความดันลม ควรหยุดรถมิฉะนั้นจะให้ยางเกิดความเสียหายและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้
ควรตรวจดูว่ายางสูญเสียความดันลมเนื่องจากอะไร อาการผิดปกติต่างๆเหล่านี้ ควรนำมาให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบสาเหตุและวินิจฉัยว่าสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ การซ่อมควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ในกรณีการซ่อมยางแบบที่ไม่ใช้ยางใน (Tubeless) ควรตรวจสอบความเสียหายบริเวณท้องยางเสียก่อน นอกจากเรื่องของยางแล้วยังมีศูนย์ล้อ ช่วงล่างระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก ซึ่งมีผลต่อการสึกของหน้ายางด้วย หากพบว่าหลวมหรือขยับตัวมากผิดปกติควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเปลี่ยนหรือปรับแต่งให้ถูกต้องต่อไป

วิธีการขับขี่รถยนต์
การขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วสูง เร่งความเร็ว เบรกกระทันหัน หรือเข้าโค้งรุนแรง ทำให้สิ้นเปลืองเนื้อดอกยางและมีโอกาสที่จะเกิดการกระแทกเสียหายมากกว่าการขับขี่ด้วยความเร็วปกติ

อัตราการสูบลมและน้ำหนักบรรทุก
ความดันลมยางที่ใช้ต้องสัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุก ความเร็วรถ และสภาพของงาน ความดันลมยางน้อยหรือมากเกินไปและน้ำหนักบรรทุกมากเกินไป ทำให้อายุการใช้วานของยางลดลง ความดันลมยางที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้การใช้ยางมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การตรวจวัดลมยางจะต้องทำเมื่อยางเย็นแล้วเท่านั้น อัตราสูบลมที่ถูกต้องควรเป็นไปตามมาตรฐานที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้ผลิตยางกำหนด สามารถตรวจสอบจากตารางแสดงอัตราลมยางได้

บันทึกการเข้า
Ton_Dezember
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,194


เพชฌฆาตหน้าตัวเมีย No.323


« ตอบ #3 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2010, 09:46:55 »

สัญลักษณ์ทางการค้า
 
Michelin  ชื่อผู้ผลิต 
Energy  ชื่อรุ่นยาง 

 Logo (Energy) 

 
   สัญลักษณ์ขนาดยาง 
 
195  ความกว้างหน้าตัดสมมุติของยาง (SW = 195 มม.) 
 
65  อัตราส่วนหน้าตัดของยาง หรือ ซีรี่ส์ (สูง / กว้าง = 0.65) 
 
R  โครงสร้างยางแบบเรเดียล 
 
15  เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อเป็นนิ้ว 
 
91  ดัชนีน้ำหนักบรรทุก (91 = 615 กก.) 
 
V  สัญลักษณ์ความเร็ว (V = 240 กม. / ชม.) 
 
XH1  ลายดอกยาง 
 
TL  Tubeless ไม่ต้องใช้ยางใน 
 
X ?  เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนเทคโนโลยีเรเดียล ?X? ของมิชลิน 
 
E2  อยู่ในข้อบังคับที่ 30 ของมาตรฐานยุโรป (ECE) หรือข้อ 54 สำหรับรถแวน 
 
e2  อยู่ในระเบียบที่ 92/23/ECE 
 


 สัญลักษณ์ของขนาดยางรถยนต์นั่ง

ในปัจจุบันยางมิชลิน ใช้สัญลักษณ์แสดงขนาดยางรถยนต์นั่งอยู่ 3 ระบบ คือ European Metric, Metric, P-Metric และ Millimetric ทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาจากระบบดั้งเดิมคือ Numeric ซึ่งเลิกใช้ไปแล้ว

ก. European Metric
ใช้กันทั่วโลก แสดงอัตราส่วนหน้าตัด (Aspect Ratio) ไว้ให้เห็นด้วย

 
   185/65 R14 86H 
 
185  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
65  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
14  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
86H  = ขอบเขตการใช้งาน (Service Description ) ดัชนีน้ำหนักบรรทุก และสัญลักษณ์ความเร็ว 
 
 

ข. P-Metric
ใช้ในทวีปอเมริกาเ?นือ ตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 70

 
   P215/65 R15 95S 
 
P  = ยางรถยนต์นั่ง (Passenger Car Type) 
 
215  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
65  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
95S  = ขอบเขตการใช้งาน (Service Description ) ดัชนีน้ำหนักบรรทุก และสัญลักษณ์ความเร็ว 
 

ค. Millimetric
ระบบนี้ใช้สำหรับยาง TRX / TDX ของมิชลินเท่านั้น

 
   240/55VR390 
 
240  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
55  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
V  = สัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
390  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 

ระบบ PAX ของมิชลิน

 
   225 - 690 R 460 A PAX 
 
225  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
690  = เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอก หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
460  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
A  = กระทะล้อแบบ Asymmetric 
PAX  = ระบบ PAX SYSTEM 
 


 สัญลักษณ์ของขนาดยางรถตู้ รถปิคอัพ และรถขับเคลื่อน 4 ล้อ

สัญลักษณ์บอกขนาดยางประเภทนี้จะมีเรื่องของสมรรถนะและยางเข้ามาเกี่ยวข้อง การนำไปใช้งานจะรวมถึงแบบอเนกประสงค์ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีใช้อยู่ 4 ระบบ คือ European Metric, Light Truck Metric, Light Truck Flotation และ Light Truck Numeric

ก. European Metric

 
   195 R 14 C 106/104 P XCD 
 
195  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
14  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
C  = แสดงกลุ่มพิกัดน้ำหนักบรรทุก (Load Range) 
106/104  = ดัชนีน้ำหนักบรรทุก ล้อเดี่ยวและล้อคู่ 
P  = สัญลักษณ์ความเร็ว 
XCD  = ลายดอกยาง 
 

ข. Light Truck Metric
คล้ายกับระบบ P ? Metric ของยางรถยนต์นั่ง

 
   LT 255/70 R 15 C 102 S 
 
LT  = ยางรถบรรทุกเล็ก / ปิคอัพ / รถตู้ 
 
255  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
70  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกะทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
C  = แสดงกลุ่มพิกัดน้ำหนักบรรทุก (Load Range) 
102 S  = ขอบเขตการใช้งาน (Service Description ) ดัชนีน้ำหนักบรรทุก และสัญลักษณ์ความเร็ว 
 

ค. Light Truck High Flotation
เริ่มใช้กลางทศวรรษที่ 70 เมื่อยา??รถปิคอัพซีรี่ส์ต่ำลงกับรูปทรงที่ลอยตัวได้ดี เหมาะสำหรับนำไปใช้นอกทางหลวงบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม เช่น ทราย หรือดิน

 
   31X10.50R15LT/C 
 
31  = เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอก หน่วยเป็นนิ้ว 
 
10.50  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นนิ้ว 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
LT  = ยางรถบรรทุกเล็ก / รถปิคอัพ / รถตู้ 
 
C  = แสดงกลุ่มพิกัดน้ำหนักบรรทุก (Load Range) 
 

ง. Light Truck Numeric
ระบบนี้ใช้มานานแล้ว ส่วนใหญ่เป็นระบบรถบรรทุกเล็กที่ใช้ในงานพาณิชย์

 
   7.50R16C 
 
7.50  == ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นนิ้ว 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
16  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ หน่วยเป็นนิ้ว 
 
C  = รถบรรทุกเล็ก 
 


 ดัชนีน้ำหนัก และสัญลักษณ์ความเร็ว (Load Index and speed symbol)

ดัชนีน้ำหนัก (Load Index) คือตัวเลขที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 0 ถึง 279 เพื่อใช้แทนความสามารถในการรับน้ำหนักสูงสุดของยางเส้นหนึ่ง ๆ สำหรับยางรถยนต์นั่ง ใช้ตัวเลขระหว่าง 62 ถึง 126 ดังตารางที่แสดงไว้

สัญลักษณ์ความเร็ว (Speed Symbol) คือตัวอักษรตั้งแต่ A ถึง Z ใช้แทนความเร็วสูงสุดของยางเส้นหนึ่ง ๆ โดยสอดคล้องกับความสามารถ ในการรับน้ำหนักของยางเส้นนั้น ๆ ด้วย สำหรับยางรถยนต์นั่งจะใช้อักษรระหว่าง J ถึง Z

ตารางแสดงดัชนีน้ำหนักและสัญลักษณ์ความเร็ว

ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น)  ดัชนี
การรับ
น้ำหนัก
บรรทุก
สูงสุด  น้ำหนัก
บรรทุก
(กก. / เส้น) 
62  265  75  387  88  560  101  825  114  1180 
63  272  76  400  89  580  102  850  115  1215 
64  280  77  412  90  600  103  875  116  1250 
65  290  78  425  91  615  104  900  117  1285 
66  300  79  437  92  630  105  925  118  1320 
67  307  80  450  93  650  106  950  119  1360 
68  315  81  462  94  670  107  975  120  1400 
69  325  82  475  95  690  108  1000  121  1450 
70  335  83  487  96  710  109  1030  122  1500 
71  345  84  500  97  730  110  1060  123  1550 
72  355  85  515  98  750  111  1090  124  1600 
73  365  86  530  99  775  112  1120  125  1650 
74  375  87  545  100  800  113  1150  126  1700 

สัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด  ความเร็วสูงสุด
(กม. / ชม.) 
J  100 
K  110 
L  120 
M  130 
N  140 
O  150 
P  160 
Q  170 
R  180 
S  190 
T  210 
H  240 
V  270 
W  300 
VR  >210 
ZR  >240 


ระบบเรียกชื่อยางแบบเก่า / ใหม่

สัญลักษณ์ความเร็วของยางสูงสุด (Speed Rating หรือ Speed Symbol) อาจแสดงไว้ในขนาดยางหรือแยกมาแสดงไว้ในขอบเขตการใช้งาน (Service Description) ก็ได้

ระบบเก่า
 
   205/60VR15 
 
205  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
60  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
V  = สัญลักษณ์ความเร็ว V (ไม่จำกัดขีดสูงสุด) 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 
 

ต่อมาถึงปัจจุบันก็ได้มีการรวมสัญลักษณ์ชื่อยางแบบใหม่โดยแยก VR กับ ZR ออก ที่เหลือนำเอาดัชนีการรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด (Load Index) กับสัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด (Speed Symbol) เข้าไว้ด้วยกันเรียกว่าขอบเขตการใช้งานของยาง (Service Description)

ระบบใหม่
 
   205/60R15 91 V 
 
205  = ความกว้างหน้าตัด หน่วยเป็นมิลลิเมตร 
 
60  = Aspect Ratio หรือ ซีรี่ส์ 
 
R  = โครงสร้างเรเดียล 
 
15  = เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 
 
91  = ดัชนีน้ำหนักบรร?ุก (Load Index) 
 
V  = สัญลักษณ์ความเร็ว 
 

หมายเหตุ : เมื่อจะใช้ยาง VR และ ZR ที่ความเร็วเกินกว่า 240 กม. ต่อ ชม. ต้องปรึกษาบริษัทผู้ผลิตเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับอัตราการสูบลม และน้ำหนักบรรทุก


ยางพิกัดความเร็ว ZR

เมื่อพบคำว่า ZR อยู่ในสัญลักษณ์ชื่อยาง และมีขอบเขตการใช้งาน (Service Description) บ่งบอกไว้ด้วยให้ถือว่ายางเส้นนั้นใช้ความเร็วได้สูงสุด ตามที่ระบุไว้ตามขอบเขตการใช้งานนั้น

ตัวอย่าง :  275/40 ZR 17 93W  = ความเร็วสูงสุดเท่ากับ 270 กม. ต่อ ชม. 
   275/40 ZR 17 93Y  = ความเร็วสูงสุดเท่ากับ 300 กม. ต่อ ชม. 

อย่าลืมถ้าคุณจะใช้ยางพิกัด ZR โดยยางเส้นนั้นไม่มีขอบเขตใช้งานระบุไว้จะต้องปรึกษาบริษัทผู้ผลิตยางด้วยเสมอ


ตารางการเทียบขนาดยางสำหรับรถยนต์นั่ง

ตารางเทียบขนาดยางที่แสดงไว้นี้ ได้จากการคำนวณตามหลักทฤษฎีโดยใช้ค่าเส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกสูงสุดของยางตามมาตรฐาน E.T.R.T.O. และเปรียบเทียบกับขนาดยางมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ การคำนวณดังกล่าวได้รวมค่าความต่างรวม (TOLERANCE) ระหว่าง +1.5% ถึง -2.0% ไว้ด้วย และให้ถือว่ายางซีรี่ส์ 80 และซีรี่ส์ 82 เหมือนกัน

วิธีการอ่านขนาดยางในตาราง ส่วนใหญ่ให้เริ่มจากด้านซ้ายไปขวา แต่ในบางกรณีอาจเริ่มอ่านจากขวาไปซ้ายได้โดยใช้ขนาดยางมาตรฐาน (ตัวหนังสือ สีดำเข้ม) ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เป็นจุดเริ่มต้น

ตัวอย่าง

165 / 70 R 13  175/65 R 13  165/60 R 14  195/55 R 15  195/45 R 15 
   165/65 R 14  175/60 R 14       


เริ่มต้นจากขนาดยางมาตรฐานติดรถขนาด 165/70 R 13 ขนาดยางอื่น ๆ ที่สามารถใช้ทดแทนได้ถูกระบุอยู่ทางด้านขวามือ โดยเริ่มจากซีรี่ส์ 65 จนถึงซีรี่ส์ 45 ซึ่งขนาดทดแทนเหล่านี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางรอบนอกอยู่ในขอบเขตระหว่าง +1.5% ถึง -2.0% และมีดัชนีการรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดเทียบเท่า หรือมากกว่าของขนาดยางมาตรฐานติดรถ

ข้อแนะนำ :

ตรวจสอบยางที่ใช้ทดแทนว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาติดบังโคลน หรือ เสียดสีกับสิ่งอื่นใด และกลไกต่าง ๆ ของรถยนต์รวมถึงปัญหาการรับน้ำหนักบรรทุกด้วย
เลือกขนาดยางที่ใช้ทดแทนซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ
ตรวจสอบความกว้างและเส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อว่าเหมาะสมกับยางที่ใช้ทดแทน
หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรือบริษัท สยามมิชลินมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยางมิชลิน

ตารางการเทียบขนาดยางสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ

ตารางเทียบขนาดยางที่แสดงไว้นี้ ได้จากการคำนวณตามหลักทฤษฎีโดยใช้ค่าเส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกสูงสุดของยางตามมาตรฐาน E.T.R.T.O. และเปรียบเทียบกับขนาดยางมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ การคำนวณดังกล่าวได้รวมค่าความต่างรวม (TOLERANCE) ระหว่าง +1.5% ถึง -2.0% ไว้ด้วย

โดยส่วนใหญ่การเปลี่ยนขนาดยางทดแทนสามารถกระทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ๆ ของตัวรถยนต์
หลักปฏิบัติโดยทั่วไป เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกของขนาดยางทดแทนไม่สมควรเกิน 5% เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดยางมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์
วิธีการอ่านขนาดยางในตาราง เริ่มต้นจากขนาดยางมาตรฐานติดรถซึ่งถูกระบุด้วยตัวหนังสือสีดำเข้ม และพื้นสีขาวขนาดยางทดแทนอื่นที่สามารถใช้ได้ถูกระบุอยู่ทางด้านขวา หรือซ้ายมือ

ข้อควรระวัง :
การใช้งานลักษณะเฉพาะพิเศษ เช่น การวิ่งบนทางที่ทุรกันดาร (OFF ROAD) ขนาดยางที่มีเส้นศูนย์กลางรอบนอกนอกเหนือจาก +1.5% ถึง -2.0% สามารถใช้ทดแทนได้ หากแต่ว่าอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสภาพรถยนต์

ข้อแนะนำ :

-ตรวจสอบยางที่ใช้ทดแทนว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาติดบังโคลน หรือ เสียดสีกับสิ่งอื่นใด และกลไกต่าง ๆ ของรถยนต์รวมถึงปัญหาการรับน้ำหนักบรรทุกด้วย
เลือกขนาดยางที่ใช้ทดแทนซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ
ตรวจสอบความกว้างและเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อว่าเหมาะสมกับยางที่ใช้ทดแทน
หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรือบริษัท สยามมิชลินมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยางมิชลิน


 ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งานของยาง

ปัจจัยที่หลีก?ลี่ยงไม่ได้

ภูมิอากาศและฤดูกาล
ภูมิอากาศและฤดูกาลไม่มีผลต่อการกระจายความร้อนที่เกิดขึ้นภายในตัวยาง แต่จะมีผลต่อการกระจายความร้อนออกไปจากตัวยาง ดังนั้นเมื่ออุณหภูมิของยางขึ้นถึงจุดสูงสุดอาจกระจายออกไปไม่ทัน ด้วยเหตุนี้เองที่ต้องพึ่งพาส่วนผสมเนื้อยางที่ทำให้เกิดความร้อนน้อยและกระจายความร้อนได้ดี

สภาพถนน
สภาพถนนที่คดเคี้ยวไปมา ขึ้นลงเขาหรือแม้แต่ถนนดีมากๆ ทำให้มีการเร่ง ห้ามล้อ หรือการเข้าโค้งมากกว่าปกต? ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ยางสึกเร็วขึ้น แม้กระทั่งถนนแคบก็อาจทำให้แก้มยางเบียดหรือกระแทกฟุตบาทเสียหายได้ สภาพพื้นผิวชนิดต่างๆ เช่น ยางมะตอย คอนกรีต ถนนโรยกรวด ถนนลูกรัง ฯลฯ ล้วนแต่มีผลต่อการใช้ยาง ถนนที่มีสภาพดีจะช่วยเรื่องเบรกหยุด เพราะมีความหยาบของพื้นผิว แต่หากถนนเสียหายหรือชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่ออาจทำให้มีปัญหาหน้ายางกระแทกเสียหาย ถนนโค้งและถนนหลังเต่ามีผลต่ออัตราการสึกและรูปแบบการสึกของยาง

ประเภทการใช้งานหรือการเดินทาง
การวิ่งทางไกลด้วยความเร็วสูง วิ่งหยุดบ่อยๆ จะทำให้ยางสึกเร็วกว่าปกติ และงานบางประเภท ?ช่น งานเหมือง งานก่อสร้าง หรืองานอื่นๆ ที่สภาพทางวิ่งไม่ปกติ จะทำให้ยางถูกบาดตำหรือกระแทกเสียหาย


ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้

การบำรุงรักษา
ควรหมั่นตรวจสภาพยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในบริเวณดังนี้:

บริเวณหน้ายาง: ตรวจดูการสึกหรอ รอยบาด การบวมบริเวณหน้ายางที่เกิดจากการโดนน้ำมัน และควรตรวจดูวัสดุแปลกปลอมที่บริเวณหน้ายาง เช่น เศษหิน เศษตะปู เป็นต้น
บริเวณแก้มยาง: ตรวจดูว่ามีรอยบาดตำ รอยปริแตก อาการบวมที่เกิดจากการกระแทก (จากขอบถนนหรือตกหลุม) และอาการบวมผิดปกติอื่นๆ ปรากฏให้เห็นบ้างหรือไม่
อาการรถวิ่งผิดปกติ: เช่น อาการสั่นอย่างรุนแรง อาการรถดึงไปทางซ้ายหรือขวา ควรมีการตรวจสอบโดยทันที โดยเฉพาะในกรณียางสูญเสียความดันลม ควรหยุดรถมิฉะนั้นจะให้ยางเกิดความเสียหายและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้
ควรตรวจดูว่ายางสูญเสียความดันลมเนื่องจากอะไร อาการผิดปกติต่างๆเหล่านี้ ควรนำมาให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบสาเหตุและวินิจฉัยว่าสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ การซ่อมควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ในกรณีการซ่อมยางแบบที่ไม่ใช้ยางใน (Tubeless) ควรตรวจสอบความเสียหายบริเวณท้องยางเสียก่อน นอกจากเรื่องของยางแล้วยังมีศูนย์ล้อ ช่วงล่างระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก ซึ่งมีผลต่อการสึกของหน้ายางด้วย หากพบว่าหลวมหรือขยับตัวมากผิดปกติควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเปลี่ยนหรือปรับแต่งให้ถูกต้องต่อไป

วิธีการขับขี่รถยนต์
การขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วสูง เร่งความเร็ว เบรกกระทันหัน หรือเข้าโค้งรุนแรง ทำให้สิ้นเปลืองเนื้อดอกยางและมีโอกาสที่จะเกิดการกระแทกเสียหายมากกว่าการขับขี่ด้วยความเร็วปกติ

อัตราการสูบลมและน้ำหนักบรรทุก
ความดันลมยางที่ใช้ต้องสัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุก ความเร็วรถ และสภาพของงาน ความดันลมยางน้อยหรือมากเกินไปและน้ำหนักบรรทุกมากเกินไป ทำให้อายุการใช้วานของยางลดลง ความดันลมยางที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้การใช้ยางมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การตรวจวัดลมยางจะต้องทำเมื่อยางเย็นแล้วเท่านั้น อัตราสูบลมที่ถูกต้องควรเป็นไปตามมาตรฐานที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้ผลิตยางกำหนด สามารถตรวจสอบจากตารางแสดงอัตราลมยางได้



แอบงงครับ
บันทึกการเข้า

     



 
   
พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์

 
golfdunlop
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 44



« ตอบ #4 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2010, 10:15:09 »

 ยิ้มเท่ห์   เอามาให้อ่านเล่นๆๆเผื่อจะเป็นความรู้กับเพื่อนๆๆ....จะเอาตารางของ LM 703 มาให้ดูแต่หาไม่เจอ

ผมก็ใช้ LM 703  215/45/R17 อยู่ครับ ยางตัวนี้ดอกยางจะสึกไวนิดนึง  ของผมใช้ 1 ปีเปลียนยางที...แต่วิ่งรถทุกวันไปกลับ
ประมาณ 120 กม.ต่อวัน แต่รถโหลดก็เลยกินหน้ายางไว  อาศัยซื้อยางถูกใช้สิทธพนักงานเลยเปลียนทุกปี อายจัง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ถามเรื่องยางครับ
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |