ฝรั่งทึ่ง 3 ทีมเด็กไทยทำคะแนนสูงสุดแข่ง ?หุ่นยนต์กู้ภัย? ? สจพ.ส่อแววแชมป์ 2 สมัยทีมจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (สจพ.) ฉายแววคว้าแชมป์ 2 สมัยซ้อนจากการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก (Robocup Rescue) ทำคะแนนสูงสุดเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว ด้านทีมจากม.หอการค้าไทยทำคะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ด้านทีมจากประเทศเจ้าเทคโนโลยีอยู่อันดับ 4 และ 5เมื่อปีก่อนทีม Independent จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คว้ารางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน Robocup Rescue 2006 มาครองได้สำเร็จโดยมีเครือซิเมนต์ไทยให้การสนับสนุน
ในปี 2550 นี้ ผู้สนับสนุนรายเดิมได้ทำการคัดเลือกหาตัวแทนไปเข้าร่วมการแข่งขันและผลปรากฏว่าทีม Idel เพื่อนร่วมสจพ. ได้รับการคัดเลือกเป็นทีมเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก 2007 ที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา คู่กับทีม Independent
นอกจาก 2 ทีมจากสจพ.แล้วยังมีทีม CEO Mission II ซึ่งเป็นทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเข้าร่วมการแข่งขันด้วย สำหรับผลการคัดเลือกรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 6 - 7 กรกฎาคม และจะประกาศผลในช่วงเย็นของวันที่ 7 กรกฎาคม หรือ ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ที่ 8 กรกฎาคม ตามเวลาในประเทศไทย
ปรากฏว่า 3 ทีมนักศึกษาจากประเทศไทยสามารถทำคะแนนได้สูงสุดจูงมือกันเข้าสู่รอบตัดเชือก 3 อันดับแรก ส่วนทีมที่มีเทคโนโลยีทันสมัยอย่างเยอรมณีและญี่ปุ่นนั้นตามมาเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ผลคะแนนจากการแข่งขันมีดังนี้ ดังนี้ ทีม Ideal (สจพ.) ได้ 1,025 คะแนน / ทีม Independent (สจพ.) ได้ 717 คะแนน / ทีม CEO Mission II (ม.หอการค้าไทย) ได้ 648 คะแนน / ทีมจากเยอรมนี ได้ 549 คะแนน / ทีมจากญี่ปุ่น ได้คะแนน 512 คะแนน
?มัทนา เหลืองนาคทองดี? ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารองค์กร เครือซิเมนต์ไทย (SCG) ในฐานะผู้สนับสนุนทีม Ideal และ ทีม Independent ร่วมแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก (Robocup Rescue 2007) กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่เด็กไทย มีพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อปีที่แล้วทีม Independent สามารถ คว้าแชมป์โลกได้
?ปีนี้ ทั้งทีม Independent และ Ideal ก็สามารถสร้างผลงานในรอบก่อนชิงชนะเลิศได้ดีมาก ทำคะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่งจากประเทศผู้ที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยี อย่างเยอรมนี และญี่ปุ่น อย่างน่าชื่นชม ผลงานที่โดดเด่นในรอบนี้ ทำให้มีความหวังว่า เด็กไทย จะมีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้อีกครั้ง?
...ผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม...
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์
6 กรกฎาคม 2550 14:48 น.