?เปมิกา? ปัดใช้จิตวิทยาหมู่หลอก ?หมอเผ่า? ซื้อบ้าน-ซื้อรถ[/size]
?เปมิกา? พร้อมพวกรวม 4 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ?หมอเผ่า? ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบ ?เปมิกา? ปฏิเสธใช้จิตวิทยาหมู่เพื่อหลอกลวงให้ซื้อบ้าน ซื้อรถ และคงอยู่ในสังคมไม่ได้ ยันการคบหากับหมอเผ่าเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ วันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราม น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต อายุ 24 ปี พร้อมด้วย นายณัฐพล พรมประไพ อายุ 28 ปี น.ส.ฤทัย รุ่งสิริเมธากุล อายุ 23 ปี นายวฑัญญู ตันจีรพงศ์ อายุ 26 ปี และทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ ศรีวิจิตร พ.ต.ท.สุรชัย จันทรมณี พงส.สบ.3 กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันฉ้อโกง ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม
โดยก่อนเข้ารับทราบข้อหา น.ส.เปมิกา เผยกับผู้สื่อข่าววว่า เรื่องคดีตนขอให้การปฏิเสธ และขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนเรื่อง นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ (หมอเผ่า) นั้นก็รู้สึกเสียเสียใจที่หมอเผ่าให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าพวกตนใช้จิตวิทยาหมู่เพื่อหลอกลวงให้หมอซื้อทรัพย์สิน ซื้อบ้าน ซื้อรถและทรัพย์สินอื่นๆ ให้นับล้านบาทให้
?ประเด็นนี้ไม่อยากพูดถึงในตอนนี้ เพราะข้อมูลที่ตนมีคงต้องใช้เป็นข้อต่อสู้ในศาล หมอให้สัมภาษณ์แบบนี้หมอก็อยู่ในสังคมได้ ส่วนตนคงอยู่ในสังคมไม่ได้ เรื่องนี้พร้อมที่จะให้การต่อสู้ในชั้นศาล เพราะที่ผ่านมาการคบหากับหมอเผ่าเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ?
หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้เชิญผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าไปห้องสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ระหว่างนั้นพนักงานสอบสวนเรียกเสมียนเวรนำอุปกรณ์พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาเข้าไปพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเพื่อทำประวัติด้วย หลังจากนั้นปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือการสอบสวนพยานอีกเพียง 4 ปาก หลังจากนั้นจะสรุปสำนวนการสอบสวนให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา นายทองหลาง แพงศรีละคร ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก รศ.เพลินจิต ทมทิตชงค์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ มารดาและภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต หรือ น.ส.ศิวพร เหลืองเรณูกูล ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยอาศัยความอ่อนแอทางจิตของเจ้าของทรัพย์สิน
โดยระบุว่าจากเหตุการณ์ที่ น.ส.เปมิกา ทำกับ นพ.ประกิตเผ่า ระหว่างเดือน ต.ค.2549 ? 19 ก.พ.2550 น.ส.เปมิกา กับพวกอีก 5 คน ได้สมคบกันใช้อุบายหลอกลวง นพ.ประกิตเผ่า ให้หลงเชื่อว่าพวกตนสามารถนั่งสมาธิจนเข้าฌานชั้นสูงจนสามารถระลึกชาติได้ จนทำให้มีอาการจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แล้วหลอกลวงทรัพย์สินของ นพ.ประกิตเผ่าไปหลายรายการรวมมูลค่านับสิบล้านบาท โดยมีการกล่าวอ้างว่าเมื่อชาติที่แล้ว นพ.ประกิตเผ่า เคยเป็นสามีภรรยากับ น.ส.เปมิกา มาแต่ชาติปางก่อนย้อนหลังไป 99 ภพชาติ โดยสิ่งใดที่ไม่เคยทำให้กับ น.ส.เปมิกา ในชาติก่อนหรือเคยรับปากไว้แล้วไม่ได้ทำก็ขอให้มาทำในชาตินี้
นอกจากนี้ ตามคำให้การของนายทองหลางยังระบุด้วยว่า น.ส.เปมิกา ยังใช้อุบายล่อลวงให้ นพ.ประกิตเผ่า ซื้อรถเก๋งคัมรี่สีดำ ให้กับ น.ส.เปมิกา ด้วยการอ้างว่าชาติที่แล้ว นพ.ประกิตเผ่าเป็นขุนศึกใช้ม้านิลพยัคฆ์เป็นพาหนะในการรบ ส่วน น.ส.เปมิกา ใช้ม้านิลมังกร หลังจากนั้น นพ.ประกิตเผ่า จึงซื้อรถเก๋งให้กับ น.ส.เปมิกา นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการที่ น.ส.เปมิกา ได้ใช้กลอุบายลักษณะเดียวกันหลอกลวงให้ นพ.ประกิตเผ่า ซื้อหรือหามาให้ ซึ่งพฤติการณ์ต่างๆ เหล่านี้เป็นการฉ้อโกงทรัพย์สิน จึงต้องเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีดังกล่าว
ต่อมาหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และมีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วกว่า 10 ปาก ที่สำคัญก็คือการสอบปากคำ นพ.ประกิตเผ่า ที่ถือว่าเป็นผู้เสียหายโดยตรง ภายหลังที่หายจากอาการป่วยทางจิตแล้ว ซึ่งก็ได้ให้การชัดเจนไปตามคำให้การของนายทองหลางว่าถูกกระทำอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังได้หลักฐานเป็นเอกสารการซื้อบ้าน รถ และเอกสารการถอนเงินจากธนาคารไทยพานิช สาขาศาลายา จ.นครปฐม อีกจำนวนหนึ่งจึงได้ออกหมายเรียกตัวเพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวตามที่มีผู้เสียหายร้องเรียนไว้ดังกล่าวต่อไป
ที่มา: ทีมข่าวอาชญากรรม
ผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2550 13:46 น.
ผู้เขียน
